เป็นเรื่องของคุณแม่กับพี่สาวค่ะ คือจริงๆเราก็ไม่ค่อยจะอยากเข้าไปยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของท่านค่ะ
แต่บางทีได้เห็น ได้ฟังแล้วมันก็เกินไปค่ะ -*- ไม่อยากเห็นท่านเครียดค่ะ
แม่มีเพื่อนอยู่คนหนึ่งคนค่ะ เขาติดหนี้พี่สาวของเราอยู่ และเหมือนมีทีท่าว่าจะหนีหนี้ค่ะ ผลัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อย
(เกิดจากการเล่นแชร์ค่ะ แต่เขาโกง โดนให้เหตุผลว่า มันเป็นเหตุสุวิสัยจริงๆเขาลำบากมากและจนตรอกจริงๆ แม่ก็ใจอ่อนค่ะบอกไม่ให้พี่สาวยังไม่เอาความ ให้รอดูไปก่อน) - -*
ซึ่งก็ยังพอเคลีย แต่ทางเราเองก็เดือดร้อนค่ะ(พี่สาวก็ต้องการใช้เงินค่ะ ส่วนแม่ก็ทวงเงินมาให้ไม่ได้) แต่ทางแม่เราไม่ได้ใจดำขนาดที่ว่าคุณต้องจ่ายมาทั้งหมดนะ คุณต้องเอามาคืนภายในวันนี้นะ แต่คือ ให้มีการทำเอกสารสัญญาและมีการผ่อนชำระค่ะ ซึ่งในวันทำสัญญาเขาก็ได้สาธยายถึงชีวิตอันรันทดของเขาให้แม่และพี่สาวของเราฟัง #ซึ่งแม่ก็เชื่อและสงสารค่ะ (แต่เราไม่ค่อยเชื่อค่ะ เรานั่งทำนู้นนี่ไปเรื่อย แอบฟังอย่างเนียนๆ- -*ได้แต่เก็บไว้ในใจ)
นอกจากสาธยายชีวิตอันแสนเศร้า เขายังพูดถึงคดีให้ฟังว่า "ต่อให้ขึ้นศาล ศาลก็จะตัดสินให้จ่ายเท่าที่ผมจ่ายไหว ซึ่งถ้าผมไม่มีเงินหละ ถ้าขึ้นศาลมันก็จะเป็นการมองหน้ากันไม่ติด คือเสียเวลา ผมก็จะรู้สึกไม่ดีกับคุณ ไม่อยากจ่ายให้กับคุณ เหมือนกับการที่คุณบีบผมมากๆ ผมอาจจะหนีไปดื้อๆ แต่ถ้าคุยกันดีๆ ผมก็อยากผ่อนให้คุณ เท่าที่ผมผ่อนไหว" พูดแบบว่าเอกสารสัญญาไม่ช่วยอะไรค่ะ เหมือนแบบต่อให้คุณมีสัญญาคุณก็ทำอะไรผมไม่ได้ #เราฟังแล้วนึกว่าแม่กับพี่สาวเราโดนข่มขู่อยู่เลย (ซึ่งเหตุผลจริงๆที่พี่สาวให้ทำสัญญา ไม่ได้คิดว่าเขาจะเบี้ยวนะคะ แต่ก็แค่อยากมีเอกสารเป็นหลักประกันค่ะ แล้วเห็นว่าเป็นเพื่อนแม่ค่ะ) แต่ถึงยังไงให้โอกาสแล้วค่ะแต่เขาไม่ผ่อนชำระเลย เหตุผลเดิมๆคือไม่มีเงิน ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดีล่ะ
ทวงไปทวงมาค่ะ เงินไม่ได้ เขายื้อเวลาไปเรื่อยๆค่ะ แล้วเขาบอกว่าเขามีโฉนดที่ดินอยุ่ค่ะ เขาจะขายค่ะ และจะเอาเงินในส่วนนั้นมาใช้ ซึ่งอยากให้ช่วยขาย (แม่ก็อยากให้พี่สาวเราได้เงินคืนค่ะ ก็พยายามประกาศขาย แต่เขาเอาสำเนาโฉนดฉบับเก่ามาให้ค่ะ#เป็นฉบับที่ยังไม่ได้โอนโฉลดค่ะ ซึ่งมีคนติดต่อมา แต่คนที่ติดต่มาต้องการดูสำเนาโฉนดฉบับจริง#ฉบับปัจจุบันที่มีการโอนแล้ว #ทางคนที่จะซื้อก็คงกลัวเหมือนกันค่ะ(เป็นเราๆก็กลัวนะ)
แม่ก็ได้บอกเขาว่า มีคนจะซื้อและขอดูสำเนาโฉนดอันปัจจุบัน #ซึ่งพอมีคนจะซื้อแม่ติดต่อเขาไม่ค่อยได้เลยค่ะ เขาแลไม่สนใจไม่กระตือลือร้น เหมือนไม่ได้อยากขายค่ะ
ผ่านไปหลายวันเขานำสำเนาโฉลดฉับบปัจจุบันมาให้ค่ะ แต่มันนานเกินจนคนที่จะซื้อหายไปแล้วค่ะ และสำเนาโฉลดปัจจุบันที่เขานำมาให้ช่วยขาย มีการเซ็นต์กำกับไว้ว่า"เอกสารทำลาย"#ไม่ได้เซนต์ชื่อนะคะเซ็นต์กำกับเฉยๆ (แล้วแม่ก็ไม่ค่อยคิดอะไรค่ะ ก็จะไปช่วยขายให้) แต่เรารู้สึกว่ามันแปลกๆค่ะ ถ้าแม่เราเอาไปให้คนซื้อดู เขาคงจะอยากซื้อมากเลยนะคะ โฉนดที่มีการเซ็นต์กำกับว่าเอกสารทำลายเนี่ย คนซื้ออาจจะคิดว่าแม่เราไปหลอกขายรึป่าว รึอาจจะคิดว่าแม่ไปขู่บังคับให้มาขายรึป่าว มันคิดได้หลายแง่ค่ะ พี่สาวเรยให้แม่โทรไปคุยกับเขา เขาให้คำตอบมาแบบซื่อๆว่า"เขากลัวจะเอาสำเนาเอกสารเขาไปจำนองค่ะ กลัวจะเอาไปทำอะไรไม่ดี" #ซึ่งแม่และพี่เราไม่ใช่เจ้าของโฉนดคงจะเอาไปจำนองได้หล่ะนะ (เราแอบสงสัยนะค่ะว่า ถ้าเขาอยากขายหรือกลัวจริงๆเขาน่าจะเซ็นต์ชื่อมา แล้วเขียนกำกับไว้ประมาณว่า "ใช้ในการดูเพื่อซื้อขายเท่านั้น" อะไรทำนองนี้มากกว่านะคะ)
##เราไม่รู้ค่ะว่าแม่เรามองโลกดีเกินไป ใจดีเกินไป หรือเรามองโลกร้ายเกินไป ใจร้ายเกินไป (เราคิดว่าแม่เรากำลังถูกหลอกค่ะ เขาแค่ยื้อเวลาไปเรื่อย ให้เรื่องมันเงียบหายไปตามกาลเวลาค่ะ ซึ่งเราเองเราก็ไม่รู้จะทำอย่างไรค่ะ กฎหมายก็ไม่ค่อยรู้ ..และเราก็เป็นคนที่เคารพผู้ใหญ่เกินไป ต่อให้ผู้ใหญ่บางท่านจะไม่น่านับถือ แต่ถ้าแม่ยังคุยกับเขาดีอยู่เราก็ไม่กล้าว่าหรือพูดอะไรหรอกค่ะ เราเกรงใจแม่ไม่อยากทำร้ายจิตใจท่าน) ทุกคนคิดว่าเราควรทำอย่างไรดี ลางสังหรณ์ของเราที่ว่าแม่จะถูกหลอก ทุกๆคนอ่านแล้วคิดแบบเรารึป่าวค่ะ หรือว่าเราคิดมากไปเองจริงๆ
เราก็ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี เราไม่อยากให้แม่และพี่สาวเครียด เพราะเงินตรงนี้เป็นเงินของพี่สาวค่ะ แต่เหมือนแม่เปนคนพาเขามาแม่ก็จะต้องรับผิดชอบ คุยหรือติดต่ออะไรทำนองนี้ค่ะ เราไม่อยากเป็นแม่กับพี่สาวต้องผิดใจกัน
คนแบบนี้เรียกหัวหมอรึปล่าว? ถ้าอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ควรจัดการอย่างไรดีคะ?
แต่บางทีได้เห็น ได้ฟังแล้วมันก็เกินไปค่ะ -*- ไม่อยากเห็นท่านเครียดค่ะ
แม่มีเพื่อนอยู่คนหนึ่งคนค่ะ เขาติดหนี้พี่สาวของเราอยู่ และเหมือนมีทีท่าว่าจะหนีหนี้ค่ะ ผลัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อย
(เกิดจากการเล่นแชร์ค่ะ แต่เขาโกง โดนให้เหตุผลว่า มันเป็นเหตุสุวิสัยจริงๆเขาลำบากมากและจนตรอกจริงๆ แม่ก็ใจอ่อนค่ะบอกไม่ให้พี่สาวยังไม่เอาความ ให้รอดูไปก่อน) - -*
ซึ่งก็ยังพอเคลีย แต่ทางเราเองก็เดือดร้อนค่ะ(พี่สาวก็ต้องการใช้เงินค่ะ ส่วนแม่ก็ทวงเงินมาให้ไม่ได้) แต่ทางแม่เราไม่ได้ใจดำขนาดที่ว่าคุณต้องจ่ายมาทั้งหมดนะ คุณต้องเอามาคืนภายในวันนี้นะ แต่คือ ให้มีการทำเอกสารสัญญาและมีการผ่อนชำระค่ะ ซึ่งในวันทำสัญญาเขาก็ได้สาธยายถึงชีวิตอันรันทดของเขาให้แม่และพี่สาวของเราฟัง #ซึ่งแม่ก็เชื่อและสงสารค่ะ (แต่เราไม่ค่อยเชื่อค่ะ เรานั่งทำนู้นนี่ไปเรื่อย แอบฟังอย่างเนียนๆ- -*ได้แต่เก็บไว้ในใจ)
นอกจากสาธยายชีวิตอันแสนเศร้า เขายังพูดถึงคดีให้ฟังว่า "ต่อให้ขึ้นศาล ศาลก็จะตัดสินให้จ่ายเท่าที่ผมจ่ายไหว ซึ่งถ้าผมไม่มีเงินหละ ถ้าขึ้นศาลมันก็จะเป็นการมองหน้ากันไม่ติด คือเสียเวลา ผมก็จะรู้สึกไม่ดีกับคุณ ไม่อยากจ่ายให้กับคุณ เหมือนกับการที่คุณบีบผมมากๆ ผมอาจจะหนีไปดื้อๆ แต่ถ้าคุยกันดีๆ ผมก็อยากผ่อนให้คุณ เท่าที่ผมผ่อนไหว" พูดแบบว่าเอกสารสัญญาไม่ช่วยอะไรค่ะ เหมือนแบบต่อให้คุณมีสัญญาคุณก็ทำอะไรผมไม่ได้ #เราฟังแล้วนึกว่าแม่กับพี่สาวเราโดนข่มขู่อยู่เลย (ซึ่งเหตุผลจริงๆที่พี่สาวให้ทำสัญญา ไม่ได้คิดว่าเขาจะเบี้ยวนะคะ แต่ก็แค่อยากมีเอกสารเป็นหลักประกันค่ะ แล้วเห็นว่าเป็นเพื่อนแม่ค่ะ) แต่ถึงยังไงให้โอกาสแล้วค่ะแต่เขาไม่ผ่อนชำระเลย เหตุผลเดิมๆคือไม่มีเงิน ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดีล่ะ
ทวงไปทวงมาค่ะ เงินไม่ได้ เขายื้อเวลาไปเรื่อยๆค่ะ แล้วเขาบอกว่าเขามีโฉนดที่ดินอยุ่ค่ะ เขาจะขายค่ะ และจะเอาเงินในส่วนนั้นมาใช้ ซึ่งอยากให้ช่วยขาย (แม่ก็อยากให้พี่สาวเราได้เงินคืนค่ะ ก็พยายามประกาศขาย แต่เขาเอาสำเนาโฉนดฉบับเก่ามาให้ค่ะ#เป็นฉบับที่ยังไม่ได้โอนโฉลดค่ะ ซึ่งมีคนติดต่อมา แต่คนที่ติดต่มาต้องการดูสำเนาโฉนดฉบับจริง#ฉบับปัจจุบันที่มีการโอนแล้ว #ทางคนที่จะซื้อก็คงกลัวเหมือนกันค่ะ(เป็นเราๆก็กลัวนะ)
แม่ก็ได้บอกเขาว่า มีคนจะซื้อและขอดูสำเนาโฉนดอันปัจจุบัน #ซึ่งพอมีคนจะซื้อแม่ติดต่อเขาไม่ค่อยได้เลยค่ะ เขาแลไม่สนใจไม่กระตือลือร้น เหมือนไม่ได้อยากขายค่ะ
ผ่านไปหลายวันเขานำสำเนาโฉลดฉับบปัจจุบันมาให้ค่ะ แต่มันนานเกินจนคนที่จะซื้อหายไปแล้วค่ะ และสำเนาโฉลดปัจจุบันที่เขานำมาให้ช่วยขาย มีการเซ็นต์กำกับไว้ว่า"เอกสารทำลาย"#ไม่ได้เซนต์ชื่อนะคะเซ็นต์กำกับเฉยๆ (แล้วแม่ก็ไม่ค่อยคิดอะไรค่ะ ก็จะไปช่วยขายให้) แต่เรารู้สึกว่ามันแปลกๆค่ะ ถ้าแม่เราเอาไปให้คนซื้อดู เขาคงจะอยากซื้อมากเลยนะคะ โฉนดที่มีการเซ็นต์กำกับว่าเอกสารทำลายเนี่ย คนซื้ออาจจะคิดว่าแม่เราไปหลอกขายรึป่าว รึอาจจะคิดว่าแม่ไปขู่บังคับให้มาขายรึป่าว มันคิดได้หลายแง่ค่ะ พี่สาวเรยให้แม่โทรไปคุยกับเขา เขาให้คำตอบมาแบบซื่อๆว่า"เขากลัวจะเอาสำเนาเอกสารเขาไปจำนองค่ะ กลัวจะเอาไปทำอะไรไม่ดี" #ซึ่งแม่และพี่เราไม่ใช่เจ้าของโฉนดคงจะเอาไปจำนองได้หล่ะนะ (เราแอบสงสัยนะค่ะว่า ถ้าเขาอยากขายหรือกลัวจริงๆเขาน่าจะเซ็นต์ชื่อมา แล้วเขียนกำกับไว้ประมาณว่า "ใช้ในการดูเพื่อซื้อขายเท่านั้น" อะไรทำนองนี้มากกว่านะคะ)
##เราไม่รู้ค่ะว่าแม่เรามองโลกดีเกินไป ใจดีเกินไป หรือเรามองโลกร้ายเกินไป ใจร้ายเกินไป (เราคิดว่าแม่เรากำลังถูกหลอกค่ะ เขาแค่ยื้อเวลาไปเรื่อย ให้เรื่องมันเงียบหายไปตามกาลเวลาค่ะ ซึ่งเราเองเราก็ไม่รู้จะทำอย่างไรค่ะ กฎหมายก็ไม่ค่อยรู้ ..และเราก็เป็นคนที่เคารพผู้ใหญ่เกินไป ต่อให้ผู้ใหญ่บางท่านจะไม่น่านับถือ แต่ถ้าแม่ยังคุยกับเขาดีอยู่เราก็ไม่กล้าว่าหรือพูดอะไรหรอกค่ะ เราเกรงใจแม่ไม่อยากทำร้ายจิตใจท่าน) ทุกคนคิดว่าเราควรทำอย่างไรดี ลางสังหรณ์ของเราที่ว่าแม่จะถูกหลอก ทุกๆคนอ่านแล้วคิดแบบเรารึป่าวค่ะ หรือว่าเราคิดมากไปเองจริงๆ
เราก็ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี เราไม่อยากให้แม่และพี่สาวเครียด เพราะเงินตรงนี้เป็นเงินของพี่สาวค่ะ แต่เหมือนแม่เปนคนพาเขามาแม่ก็จะต้องรับผิดชอบ คุยหรือติดต่ออะไรทำนองนี้ค่ะ เราไม่อยากเป็นแม่กับพี่สาวต้องผิดใจกัน