ไอซีทีจับเข่าคุยกสทช.เร่งตั้งคณะทำงานแก้ปัญหาซ้ำซ้อน
รมว.ไอซีทีเข้าพบประธานกสทช.เปิดใจเคลียร์กฏหมายที่ทับซ้อนของทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อเดินหน้าตามนโยบาย Digital Economy เร่งตั้งคณะทำงานรับผิดชอบ ด้านประธานกสทช.ยอมรับการแก้กฎหมายไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เห็นด้วยในหลักการทุกประเด็น
วันที่ 18 ก.ย. เมื่อเวลา 12.00 น. นายพรชัย รุจิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เดินทางเข้าพบพล.อ.อ. ธเรศ ปุณศรี ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อหารือถึงขอบข่ายการทำงานของทั้ง 2 หน่วยงานโดยเฉพาะเรื่องกฏหมายที่เหลื่อมล้ำกันอยู่ ซึ่งการเข้าพบครั้งนี้ทั้ง 2 ฝ่ายใช้เวลาในการพูดคุยกันประมาณ 1 ชั่วโมง
นายพรชัย กล่าวภายหลังการเข้าพบประธานกสทช.ว่า การมาหารือครั้งนี้เป็นการเข้ามาทำความเข้าใจถึงบทบาทหน้าที่การทำงานของทั้ง 2 หน่วยงาน โดยเฉพาะเรื่องกฏหมายที่เหลื่อมล้ำกันว่าจะมีความร่วมมือในการทำงานหรือแบ่งการทำงานอย่างไร ซึ่งการหารือครั้งนี้นับเป็นการเริ่มต้นที่ดี หลังจากนี้จะรีบดำเนินการตั้งคณะทำงานขึ้นมารับผิดชอบเรื่องนี้
ด้านพล.อ.อ.ธเรศ กล่าวว่า จากการหารือกันในหลักการแล้ว ตนเองเห็นด้วยทุกประการ ว่าทั้ง 2 ฝ่ายต้องตกลงกันให้ชัดเจนเพื่อให้เป็นไปตามนโยบาย Digital Economy ที่รัฐบาลตั้งใจไว้ รวมถึงจะทำให้ภาพรวมของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมเดินหน้าต่อไปได้
'ก็ต้องยอมรับว่าการแก้กฎหมายไม่ใช่เรื่องง่าย จะเสร็จเร็วหรือไม่ต้องรอดู อย่างน้อยก็ต้องเสร็จภายใน 1 ปี ส่วนการตั้งคณะทำงานว่าใครจะเป็นประธานคณะทำงานนั้น ตอนนี้ก็ยังไม่ได้คิด เพราะนี่ถือเป็นการคุยครั้งแรก เป็นนิมิตรหมายที่ดี โดยส่วนตัวแล้วผมกับรัฐมนตรีรู้จักกันมานานกว่า 10 ปี จึงคุยกันไม่ยาก เราก็คุยกันทุกเรื่อง เห็นด้วยทุกเรื่อง ไม่มีเรื่องไหนที่ไม่เห็นด้วย'
***ย้ำแนวคิดตั้งกระทรวงดิจิตอล
รมว.ไอซีทียังได้กล่าวเพิ่มเติมถึงแนวคิดในการเปลี่ยนชื่อกระทรวงใหม่ด้วยว่า มีความเป็นไปได้ อาจจะตั้งชื่อกระทรวงใหม่เป็นกระทรวงดิจิตอล เพื่อให้กระทรวงทำงานตอบโจทย์นโยบาย Digital Economy ตามที่รัฐบาลมอบหมายไว้ นอกจากนี้ยังเปิดเผยถึงความเป็นไปได้ในการนำศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มาอยู่ภายใต้สังกัดกระทรวงไอซีทีด้วย
'ผมอยากให้กระทรวงไอซีทีมีความทันสมัย ถามว่าทุกวันนี้เราสู้ญี่ปุ่นได้ไหม เราไม่ทันเขานะ เราก็เลยอาจจะตั้งชื่อกระทรวงขึ้นมาใหม่ และอาจจะนำเนคเทคเข้ามาอยู่ในสังกัดของเรา ผมว่ามีความเป็นไปได้'
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9570000107488
จะกระทรวง ICT หรือตั้งซื่อใหม่กระทรวง DIGITAL ECONOMY หน้าที่หลักก็บล็อกเว็บเหมือนเดิม มีอะไรใหม่ไหมครับ
รมว.ไอซีทีเข้าพบประธานกสทช.เปิดใจเคลียร์กฏหมายที่ทับซ้อนของทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อเดินหน้าตามนโยบาย Digital Economy เร่งตั้งคณะทำงานรับผิดชอบ ด้านประธานกสทช.ยอมรับการแก้กฎหมายไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เห็นด้วยในหลักการทุกประเด็น
วันที่ 18 ก.ย. เมื่อเวลา 12.00 น. นายพรชัย รุจิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เดินทางเข้าพบพล.อ.อ. ธเรศ ปุณศรี ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อหารือถึงขอบข่ายการทำงานของทั้ง 2 หน่วยงานโดยเฉพาะเรื่องกฏหมายที่เหลื่อมล้ำกันอยู่ ซึ่งการเข้าพบครั้งนี้ทั้ง 2 ฝ่ายใช้เวลาในการพูดคุยกันประมาณ 1 ชั่วโมง
นายพรชัย กล่าวภายหลังการเข้าพบประธานกสทช.ว่า การมาหารือครั้งนี้เป็นการเข้ามาทำความเข้าใจถึงบทบาทหน้าที่การทำงานของทั้ง 2 หน่วยงาน โดยเฉพาะเรื่องกฏหมายที่เหลื่อมล้ำกันว่าจะมีความร่วมมือในการทำงานหรือแบ่งการทำงานอย่างไร ซึ่งการหารือครั้งนี้นับเป็นการเริ่มต้นที่ดี หลังจากนี้จะรีบดำเนินการตั้งคณะทำงานขึ้นมารับผิดชอบเรื่องนี้
ด้านพล.อ.อ.ธเรศ กล่าวว่า จากการหารือกันในหลักการแล้ว ตนเองเห็นด้วยทุกประการ ว่าทั้ง 2 ฝ่ายต้องตกลงกันให้ชัดเจนเพื่อให้เป็นไปตามนโยบาย Digital Economy ที่รัฐบาลตั้งใจไว้ รวมถึงจะทำให้ภาพรวมของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมเดินหน้าต่อไปได้
'ก็ต้องยอมรับว่าการแก้กฎหมายไม่ใช่เรื่องง่าย จะเสร็จเร็วหรือไม่ต้องรอดู อย่างน้อยก็ต้องเสร็จภายใน 1 ปี ส่วนการตั้งคณะทำงานว่าใครจะเป็นประธานคณะทำงานนั้น ตอนนี้ก็ยังไม่ได้คิด เพราะนี่ถือเป็นการคุยครั้งแรก เป็นนิมิตรหมายที่ดี โดยส่วนตัวแล้วผมกับรัฐมนตรีรู้จักกันมานานกว่า 10 ปี จึงคุยกันไม่ยาก เราก็คุยกันทุกเรื่อง เห็นด้วยทุกเรื่อง ไม่มีเรื่องไหนที่ไม่เห็นด้วย'
***ย้ำแนวคิดตั้งกระทรวงดิจิตอล
รมว.ไอซีทียังได้กล่าวเพิ่มเติมถึงแนวคิดในการเปลี่ยนชื่อกระทรวงใหม่ด้วยว่า มีความเป็นไปได้ อาจจะตั้งชื่อกระทรวงใหม่เป็นกระทรวงดิจิตอล เพื่อให้กระทรวงทำงานตอบโจทย์นโยบาย Digital Economy ตามที่รัฐบาลมอบหมายไว้ นอกจากนี้ยังเปิดเผยถึงความเป็นไปได้ในการนำศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มาอยู่ภายใต้สังกัดกระทรวงไอซีทีด้วย
'ผมอยากให้กระทรวงไอซีทีมีความทันสมัย ถามว่าทุกวันนี้เราสู้ญี่ปุ่นได้ไหม เราไม่ทันเขานะ เราก็เลยอาจจะตั้งชื่อกระทรวงขึ้นมาใหม่ และอาจจะนำเนคเทคเข้ามาอยู่ในสังกัดของเรา ผมว่ามีความเป็นไปได้'
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9570000107488