[CR] ครั้งแรก กับ WWOOF Japan @hokkaido

สวัสดีครับ ชาวpantip ผมเป็นอีกหนึ่งคนที่ชอบเข้ามาอ่านกระทู้ในpantip
แต่ไม่เคยได้ลองเขียนกระทู้ดูบ้างเลย โอกาสนี้จะลองเขียนกระทู้ของตัวเองดูบ้างนะครับ
ไม่ค่อยรู้กฎ กติกาของที่นี่ครับ ยังไงรบกวนบอกด้วยนะครับ อะไรดีไม่ดียังไง

เริ่มต้นที่ ได้มีโอกาสไปเที่ยว ญี่ปุ่น กับน้องๆที่รู้จักกันเมื่อเดือน สิงหาคม ที่ผ่านมา
แต่เที่ยวครั้งนี้ของพวกเรา ไม่ธรรมดาครับ ผมใช้เวลาทั้งหมด 3 สัปดาห์ในการท่องเที่ยว
และอีก 2 สัปดาห์ไปกับการ WWOOFing!

หลายคนคงรู้จักคำนี้ดีอยู่แล้ว เพราะนี่คงไม่ใช่กระทู้แรกที่เขียนขึ้นมาเกี่ยวกับ WWOOF
งั้นผมขอไม่อธิบายรายละเอียดของการสมัครและติดต่อ host ใดๆทั้งสิ้นนะครับ
เพราะผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ ฮ่าๆ แต่เอาเป็นว่าสำหรับคนที่ไม่เคยได้ยินคำนี้มาก่อน

ผมขอให้นิยามคำว่า WWOOF ของผมเองละกันครับ
WWOOF คือการไปเป็นอาสาสมัครแรงงานในฟาร์ม organic โดยที่เราไม่ได้รับค่าตอบแทน
แต่สิ่งที่เราจะได้รับคือ การเรียนรู้ และ ประสบการณ์ครับ

เริ่มเลยละกันครับ!
สำหรับ host แรกที่ผมคือ Matsui Farm ครับ (รหัส h15030 เผื่อใครสนใจ)
ที่นี่เป็นฟาร์มโคนมครับ
host เป็นแฟนกัน
ผู้ชายชื่อ Yasukuni Matsui
ผู้หญิงชื่อ Sachiko Matsui
สุดยอดแห่งความประทับใจครับ เรียกว่า First impression เลยทีเดียว
ค่าเดินทางจาก Odori Bus Station ที่เมือง Sapporo ไปยัง Esashi คือ 5,800 เยนครับ
Bus stop ที่ไปลงคือ Kinkomanai แทบไม่เชื่อสายตาเลยครับ สองข้างถนนไม่มีบ้านเลย
มีแต่ป้อมร้างให้เข้าไปหลบฝน น้ำตาเกือบร่วงครับ นึกว่า เอาแล้วไง โดนหลอกป้ะเนี่ย 555
สัก 5 นาที ก็มีรถขับมาจอด ดีใจยิ้มเลยครับ Yasukuni มารับแล้ว น้ำตาเกือบร่วงอีกทีครับ
คือเค้ารู้ว่ารถจะมาจอดกี่โมงครับ เลยจะออกมาให้พอดีเวลา สงสัยรถที่ผมนั่งมาจะขับเร็วไปนิดนึงครับ

พอถึงบ้านไม่พูดพล่ามทำเพลงครับ Yasukuni พาขึ้นไปห้องนอนวางของ แล้วก็พูดว่า change change after work..
คิดว่าไงครับ แปลว่าอะไรดี 555 ตามประสาคนญี่ปุ่นครับ ภาษาอังกฤษสไตล์ญี่ปุ่น
เค้าบอกว่า ให้เปลี่ยนชุด แล้วไปทำงานกัน แล้วเค้าก็ยื่นชุดหมีมาให้ หลายคนอาจไม่รู้จักชุดหมี
มันเป็นศัพท์เทคนิคครับ 555 มันคือชุดทำงานของเรานั่นเอง
สุดยอดครับ น้ำตาเพิ่งจะเกือบร่วงไปเมื่อกี้ นี่จะไม่ให้พักกันก่อนเหรอ...
ตอนนั้นเป็นเวลาเกือบ 5 โมงเย็นแล้วครับ ซึ่งตามปกติแล้วพวกเค้าจะต้องเริ่มงานช่วงเย็นตั้งแต่ 4 โมงครับ
คือเค้ารอผมอยู่นั่นเอง จะได้ทำงานพร้อมกัน พอเห็นแบบนี้ก็เลยเข้าใจขึ้นมาครับ...

งานที่ฟาร์มนี้ไม่มีไรมากครับ คือ ทำทุกอย่าง เท่านั้นเองครับ 555
บางคนไม่เคยเข้าฟาร์มสัตว์ ลองดูรูปกับสักหน่อย
คนที่กลัวสกปรก แนะนำว่าอย่าไปนะครับ ถ้าคิดว่าจะเดินหลบ ขี้วัว ได้ คิดผิดครับ ไม่มีทาง
ทุกก้าวที่เดินคือ เหยียบอยู่บน ขี้!! ครับ ขี้!!ทั้งนั้น ขี้ ขี้ ขี้ ขี้ ขี้....
กลิ่นสัมผัสแรกเตะจมูก ชวนอ๊วกมาครับ แต่สักพักนึงก็ชินครับ

งานแรกที่ผมได้รับมอบหมายคือ ล๊อคคอวัว ครับ
ฟังดูโหดร้ายจัง น้องวัว จะเจ็บมั้ย? แล้วเราหละ จะเจ็บมั้ย...
แต่วัวเป็นสัตว์ใหญ่ครับ พวกมันแข็งแรงมาก เป็นห่วงตัวเองกันเถอะ -.-
นี่ครับ ล๊อคคอวัว ไม่น่ากลัวอย่างทีคิด วัวจะเดินมากินอาหารเม็ดที่พื้น ซึ่ง Yasukuni ได้เทไว้ก่อนแล้ว
ง่ายมากครับ พอน้องวัวเดินเข้าซองมา เราก็ล๊อคครับ จบ.. ง่ายยิ้ม

จากนั้น เราก็จะเริ่มขั้นตอนที่เรียกว่า add value มากที่สุดของการทำฟาร์มโคนมครับ
นั่นก็คือการ รีดนม วัว เย่ๆๆๆ ไอเราก็เคยซ้อมมาที่ฟาร์มโชคชัยตอนยังเด็กๆ พอรีดเป็นบ้าง
ขั้นแรกครับ ทำความสะอาดนมวัว (Washing)
เราจะใช้อุปกรณ์พิเศษสำหรับทำความสะอาดนมวัวครับ
ในขวดจะใส่ไอโอดีนไว้ แล้วบีบให้ไอโอดีนขึ้นมาอยู่ในถ้วยด้านบน แล้วก็สวมกับนมวัว
จากนั้นก็เช็ดด้วยกระดาษทิชชูครับ ถามว่านมวัว มันจะไปเลอะอะไรมากมายครับ
คำตอบก็คือ ขี้ไง!! ขี้ทั้งนั้นอ่ะ!!

ขั้นตอนที่ 2 ตรวจสอบคุณภาพน้ำนม..
เราจะต้องรีดนมด้วยมือเปล่า ใส่ถ้วยที่มีที่กรอกแบบละเอียดมาก เพื่อดูว่า นม โอเคมั้ย
และเป็นการบอกนมวัวว่า ปล่อยนมได้แล้ว เพราะเมื่อเราเริ่มรีดนมปุ๊บ นมก็จะไหลไม่หยุด

ขั้นตอนที่ 3 จุ๊บนมวัว (Milking)
ต่อหัวดูดนมเข้ากับนมวัว แล้วเครื่องจะทำงานเองอัตโนมัติครับ
พอนมหมด เครื่องก็จะดึงหัวดูดออกเองด้วยครับ มหัศจรรย์มาก

เสร็จแล้วก็ปล่อยวัวที่รีดนมเสร็จออกก่อนได้เลยครับ
แต่วัวน่ะ มันดื้อออออ ให้ออก ก็ไม่ค่อยยอมจะออก
โรงรีดนมนี้ ถือเป็นที่ต้องดูแลความสะอาดเป็นพิเศษครับ
จะมีโซนที่เลอะขี้ได้ กับโซนปลอดขี้ครับ
น้องวัวก็มักจะอิดออด เดินช้าๆ ค่อยๆปล่อยขี้บ้าง ฉี่บ้าง ไปตามทาง
ซึ่งสิ่งที่ผมต้องทำก็คือ วิ่งไปดักข้างหน้า เพื่อให้วัวหยุดเดินครับ
และขับถ่ายเป็นแห่งๆไป เพื่อให่ง่ายต่อการทำความสะอาด

พอน้องวัวออกไปหมด เราก็จะต้องมาทำความสะอาดโรงรีดนมกัน
ขั้นตอนแรก กำจัดขี้วัว
เราจะใช้ไม้ที่มีลักษณะเหมือนไม้รีดน้ำตามห้องน้ำอะคับ (พอดีไม่ได้ถ่ายรูปมา)
ลากขี้วัวให้มาลงร่องตรงกลาง

ขั้นตอนที่ 2 โรยผงสีขาว
ผงสีขาวนี้ คือ ชอล์ก หรือ ปูนขาว ชนิดเดียวกับที่ใช้โรยสนามฟุตบอลครับ
เราจะโรยเฉพาะบริเวณที่เปียก ให้แห้งขึ้น เพื่อป้องกันน้องวัวลื่นครับ
บริเวณที่เปียกนั้นคือ บริเวณที่ เคย มีขี้และฉี่อยู่นั่นเองครับ

นี่คือสิ่งที่ผมต้องทำทุกวันครับ ส่วน yasukuni จะจัดการกับทางเดินตรงกลาง
เค้าจะเปลี่ยนฟาง แล้วก็เกลี่ยให้เท่ากันทั่วๆ
พอหลายๆวันหน่อย ร่องตรงกลางจะเต็มไปด้วย ขี้วัว ฟางเก่า และกระดาษทิชชู่ครับ
โรงรีดนมนี้จะมีกลไกพิเศษครับ ร่องตรงกลางจะมีเหมือนเป็นเหล็กท่อนต่อกันไปเรื่อยๆ
ทำหน้าที่โกยของออกไปนอกโรงครับ มหัศจรรย์ใจมากเลยครับ

ขั้นตอนที่ 3 ล้างหัวดูดนมและอุปกรณ์
เครื่องดูดนมวัวหนักมากครับ คิดว่าเกือบถึง 10 กิโล
ผมจะต้องคัดขี้วัวที่ติดมาออกให้หมดครับ จากนั้น yasukuni จะล้างภายในด้วยการต่อเข้ากับระบบแรงดัน
อันเดียวกับที่ใช้ในการลำเลียงนมไปยังแท้งก์เก็บนมครับ มันค่อนข้างเข้าใจยากครับ ช่างมันละกัน
เอาเป็นว่า yasukuni เล่าให้ฟังว่า เค้าเคยทำผิดทีนึง เครื่องนี้ดูน้ำเปล่าเข้าแท้งก์เก็บนมไปด้วย
ทำให้ต้องทิ้งนมทั้งแท้งก์เลยครับ ขายไม่ได้ ผมนับถือในความซื่อสัตย์ของเขามากเลยครับ เพราะแท้งก์ใหญ่มากครับ

จบขั้นตอนในโรงรีดนมครับ
ชื่อสินค้า:   WWOOF Japan
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่