ไม่รู้จะตั้งห้องไหน ตั้งห้องบลูแล้วกัน วันนี้ได้มีโอกาสลง MRT ใต้ดิน เจออะไรผมว่ามันแปลกๆ
ตามปกติ ผมขับรถครับ ไม่ค่อยได้ใช้บริการสาธารณะเท่าไหร่ ยกเว้นวันพุธ เพราะจากที่ทำงานพระราม 4 ผมจะแวบออกไปเดินซื้อต้นไม้จตุจักร การเดินทางด้วย MRT จึงสะดวกที่สุด
ขากลับ วันนี้ซื้อของมาเยอะ สองถุงใหญ่ ผมขึ้นรถไฟสถานีกำแพงเพชร ก็ได้นั่งอยู่แล้ว เพราะว่าง
นั่งมาเรื่อยๆ คนเริ่มเยอะ มาถึงสถานีสุทธิสาร ชายชราคนหนึ่งเดินเข้ามา จริงๆผมก็ไม่ทันเห็นหรอกครับ และคุณตาก็เดินเลยผมไป
บริเวณนั้น มีเด็กหญิงมหาลัยนั่งอยู่เยอะ เด็กชายมหาลัยด้วย มีหนุ่มๆวัยทำงานอยู่ประปราย ทุกคนนั่งอยู่แล้ว ทุกคนก้มหน้าเล่นมือถือ ไม่ก็เม้ามอยกัน และแม้ว่าทุกคนจะเห็นว่ามีชายชรายืนพิงเสาอยู่ แต่ทุกคนก็เฉย ไม่มีใครลุกให้นั่ง
ผมเลยเอื้อมไปสกิดขาคุณลุง ให้มานั่งตรงที่ผม ผมย้ายของสัมภาระสองภุงออกไปด้วย คุณลุงก็บอกขอบใจเป็นการใหญ่
บอกก่อนครับ ผมไม่ได้ทำตัวเป็นฮีโร่ แล้วมาโม้ให้ชาวเน็ตฟัง เพียงแต่เด็กรุ่นผมได้รับการสั่งสอนมาตลอดให้เอื้อเฟื้อแก่เด็ก สตรี และคนชรา และคนรุ่นผมก็ทำจนติดเป็นนิสัยตั้งแต่เด็กๆ ปัจจุบันผมจะเลข 4 แล้วครับ
รถไฟวิ่งไปสักสองสถานี สาวน้อยคนที่นั่งติดกับลุงก็ลุกเดินออกไป ลุงจึงเรียกผมไปนั่งกับแก
ลุงบอกว่าอายุ 91 แล้ว โอ้โห แข็งแรงมากครับ เราคุยกันตลอดทาง ลุงบอกว่าไปหาเพื่อน แก่แล้วต้องหมั่นออกกำลังกายจะได้แข็งแรง
เราคุยกันอยู่นานจนผมลงจากรถก่อนแกที่สถานีศูนย์สิริกิต
ก็แค่นี่ล่ะครับ ที่มาเล่าให้ฟัง ผมได้มิตรภาพใหม่ดีๆจากคนรุ่นเก่า และได้เห็นความแตกต่างของคนรุ่นใหม่ในสังคมปัจจุบันที่วันๆเอาแต่ก้มหน้าอยู่กับโลกของตัวเอง โดยลืมคำว่าเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันไป
เห็นว่าคนรุ่นใหม่ชอบเรียกคนรุ่นเก่าๆ ว่ามนุษย์ป้าบ้าง มนุษย์ลุงบ้าง ผมว่ามนุษย์เด็กวัยรุ่นนี่ใช่ย่อยครับ....
สนใจคนรอบข้างกันบ้างเถอะครับ
รถไฟใต้ดิน มือถือ และการเม้าท์มอย
ตามปกติ ผมขับรถครับ ไม่ค่อยได้ใช้บริการสาธารณะเท่าไหร่ ยกเว้นวันพุธ เพราะจากที่ทำงานพระราม 4 ผมจะแวบออกไปเดินซื้อต้นไม้จตุจักร การเดินทางด้วย MRT จึงสะดวกที่สุด
ขากลับ วันนี้ซื้อของมาเยอะ สองถุงใหญ่ ผมขึ้นรถไฟสถานีกำแพงเพชร ก็ได้นั่งอยู่แล้ว เพราะว่าง
นั่งมาเรื่อยๆ คนเริ่มเยอะ มาถึงสถานีสุทธิสาร ชายชราคนหนึ่งเดินเข้ามา จริงๆผมก็ไม่ทันเห็นหรอกครับ และคุณตาก็เดินเลยผมไป
บริเวณนั้น มีเด็กหญิงมหาลัยนั่งอยู่เยอะ เด็กชายมหาลัยด้วย มีหนุ่มๆวัยทำงานอยู่ประปราย ทุกคนนั่งอยู่แล้ว ทุกคนก้มหน้าเล่นมือถือ ไม่ก็เม้ามอยกัน และแม้ว่าทุกคนจะเห็นว่ามีชายชรายืนพิงเสาอยู่ แต่ทุกคนก็เฉย ไม่มีใครลุกให้นั่ง
ผมเลยเอื้อมไปสกิดขาคุณลุง ให้มานั่งตรงที่ผม ผมย้ายของสัมภาระสองภุงออกไปด้วย คุณลุงก็บอกขอบใจเป็นการใหญ่
บอกก่อนครับ ผมไม่ได้ทำตัวเป็นฮีโร่ แล้วมาโม้ให้ชาวเน็ตฟัง เพียงแต่เด็กรุ่นผมได้รับการสั่งสอนมาตลอดให้เอื้อเฟื้อแก่เด็ก สตรี และคนชรา และคนรุ่นผมก็ทำจนติดเป็นนิสัยตั้งแต่เด็กๆ ปัจจุบันผมจะเลข 4 แล้วครับ
รถไฟวิ่งไปสักสองสถานี สาวน้อยคนที่นั่งติดกับลุงก็ลุกเดินออกไป ลุงจึงเรียกผมไปนั่งกับแก
ลุงบอกว่าอายุ 91 แล้ว โอ้โห แข็งแรงมากครับ เราคุยกันตลอดทาง ลุงบอกว่าไปหาเพื่อน แก่แล้วต้องหมั่นออกกำลังกายจะได้แข็งแรง
เราคุยกันอยู่นานจนผมลงจากรถก่อนแกที่สถานีศูนย์สิริกิต
ก็แค่นี่ล่ะครับ ที่มาเล่าให้ฟัง ผมได้มิตรภาพใหม่ดีๆจากคนรุ่นเก่า และได้เห็นความแตกต่างของคนรุ่นใหม่ในสังคมปัจจุบันที่วันๆเอาแต่ก้มหน้าอยู่กับโลกของตัวเอง โดยลืมคำว่าเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันไป
เห็นว่าคนรุ่นใหม่ชอบเรียกคนรุ่นเก่าๆ ว่ามนุษย์ป้าบ้าง มนุษย์ลุงบ้าง ผมว่ามนุษย์เด็กวัยรุ่นนี่ใช่ย่อยครับ....
สนใจคนรอบข้างกันบ้างเถอะครับ