บันทึกลึกลับ!!.....ตอน : 10 อันดับของเหตุการณ์ลี้ลับแปลกประหลาดที่ยังไม่สามารถอธิบายได้ด้วยวิทยาศาสตร์?

กราบสวัสดีชาวพันทิปทุกๆท่านนะครับ หายไปนานเรยทีเดียว มาวันนี้เซ็งๆกับวันแรกของวันทำงาน...

มานั่งอ่านเรื่องราวสนุกๆน่าสนใจกันดีกว่าเน้าะ อิอิ....

บนโลกใบนี้ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่ยังท้าทายวิทยาการปัจจุบัน
บางเรื่องมีการค้นคว้าจนหาที่มาที่ไปและคำอธิบายจนได้บทสรุป...
แต่มันจะตรงกับความจริงหรือไม่นั้น เราก็ยังไม่สามารถบอกได้ทั้งหมดใช่ไหมล่ะ?

และยังมีอีกหลากหลายเรื่องราวที่ยังคงเป็นปริศนา...
แม้จะมีผู้คนที่ใฝ่รู้ และ พยายามหาคำตอบจากเรื่องราวเหล่านั้น
แต่มันก็ยังคลุมเครือ จนกระทั่งไม่มีคำตอบที่อธิบายได้ถึงเหตุและผลที่เป็นความจริง...

เราลองมาเรียนรู้เรื่องราวเหล่านั้นพร้อมๆกันดีไหมครับ....
วันนี้ผมจะยกมาให้ท่านลองศึกษาทั้งหมด 10 เรื่องราวด้วยกัน

เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้ว ก็ไปกันได้เลย



ดูคลิปวีดีโอแบบย่อๆได้ก่อนนะจ้ะ มีคลิปที่น่าสนใจอยู่ในนั้นด้วย...

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


มาเริ่มต้นกันในอันดับที่ 10....



อันดับที่ 10 Ice Woman

มนุษย์น้ำแข็งแห่งมินิสโซต้า



ในปี 1981 เหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นครั้งหนึ่งในชีวิตของเด็กสาววัย 19 ปีที่ชื่อ Jean Hilliard ยังคงสร้างความตกตะลึงไปทั่วทั้งวงการแพทย์และวิทยาศาสตร์สมัยใหม่....

เธออาศัยอยู่ในเมือง Lengby รัฐ Minnesota ... เหตุการณ์อันสุดแสนจะแปลกประหลาดและสุดมหัศจรรย์นี้เกิดขึ้นในคืนวันที่อากาศหนาวเหน็บคืนหนึ่ง ซึ่งคืนนั้นอากาศได้ลดลง -25 องศา เธอประสบอุบัติเหตุรถยนต์ลื่นถไหลไปบนพื้นถนนที่เป็นน้ำแข็ง จากนั้นเธอจึงพยายามที่จะออกไปหาคนช่วย...



(รูปบางรูปไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่อง แต่เอามาประกอปการเขียนเฉยๆนะจ้ะ)

แต่เธอไปไม่ถึงไหนเพราะอากาศที่หนาวเหน็บทำให้เธอต้องติดอยู่ท่ามกลางหิมะจนกระทั่งเธอสลบไป
เมื่อเพื่อนบ้านใกล้เคียงได้ตื่นขึ้นมาในตอนเช้า ก็มาพบกับเธอในสภาพอันน่ากลัว...

เมื่อเธอถูกน้ำแข็งเกาะคลุมไปทั้งร่าง และร่างกายแข็งทื่อเหมือนปลาที่ถูกแช่แข็งในตู้เย็น แขนขาของเธอเหยียดตรงไม่สามารถขยับได้ ใบหน้าเธอแสดงถึงความเจ็บปวดและขาวซีดไปทั้งร่าง!!



พวกเขาจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มารับตัวเธอไปยังโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน  แพทย์คิดว่าเธอน่าจะไม่มีทางรอด เพราะน้ำแข็งได้เข้าไปในทุกส่วนของร่างกายแม้กระทั่งเซลล์ ซึ่งน้ำแข็งจะเข้าไปทำลายเซลล์ทั้งหมด รวมทั้งในสมองของเธอด้วย และถึงแม้เธอจะรอดชีวิตเธอก็จะไม่สมประกอบเพราะสมองได้ถูกทำลาย แขนขาก็อาจจะต้องตัดทิ้งเพราะมันน่าจะถูกน้ำแข็งเข้าไปทำลายส่วนของของเหลวภายในจนหมดสิ้น...



ไม่น่าเชื่อ หลังจากที่ทีมแพทย์ได้พยายามช่วยเธอ ผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมงเธอก็กลับตื่นขึ้นมาและชักอย่างรุนแรง...และหลังจากนั้นเธอก็กลับเข้ามามีสติอย่างสมบูรณ์แบบเหมือนเดิม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอเดินได้อย่างคนปรกติทั่วไป....



รูปของ Jean Hilliard ในวัยปัจจุบัน

49 วันต่อมาทางโรงพยาบาลก็ปล่อยให้เธอกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย ปัจจุบันนี้เธอก็ยังใช้ชีวิตอยู่อย่างปรกติสุข โดยไม่มีผลกระทบใดๆจากเหตุการณ์ครั้งนั้น... ทำให้วงการแพทย์และวิทยาศาสตร์ต่างตะลึงงึงงันไปเลยทีเดียว.... ผู้เชียวชาญคาดว่า เหตุการณ์นี้อาจจะเกิดขึ้นได้น้อยมากในคนทั่วไป พวกเขาคิดว่า เซลล์ในร่างกายของเธออาจจะมีความผิดปรกติหรือเกิดการกลายพันธุ์ไป จึงทำให้เธอสามารถรอดชีวิตมาจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นได้...

แต่กระนั้นก็ยังไม่สามารถหาคำอธิบายได้ดีที่สุด และมันก็ยังเป็นสิ่งที่ต้องค้นหาคำตอบกันต่อไป....

อั้ยยะ! แค่อันดับแรกก็เริ่มสนุกแล้ว... มา ... เราไปติดตามกันที่อันดับต่อไป





อันดับที่ 9 Iron Pillar of Delhi

แท่งเสาเหล็กอมตะอายุกว่า 1,700 ปีที่อินเดีย




เสานี้ตั้งอยู่ที่ กุตับมีนาร์ (กุตับ-ชื่อของกษัตริย์ กุตับอุดดินไอบัก มีนาร์-หอสูง) หรือเดิมชื่อ ปฤถวีสตัมภ์ (ปฤถวี-ชื่อของกษัตริย์ฮินดู สตัมภ์-เสา) เป็นหอสูงที่น่าจะถือเป็นเครื่องหมายของกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย...



เดิมพระเจ้าปฤถวีราช กษัตริย์ฮินดูทรงสร้างหอไว้สูงเพียง 95 ฟุต เพื่อให้ลูกสาวขึ้นไปดูแม่น้ำยมุนาอันศักดิ์สิทธิ์ในขณะสวดมนต์ ต่อมากษัตริย์กุตับอุดดินไอบัก ( Qutub ud-din Aibak) ซึ่งเป็นกษัตริย์มุสลิม ได้ปรับปรุงในปี พ.ศ. 1743 จากนั้นกษัตริย์องค์อื่นในราชวงศ์เดียวกันได้สร้างต่ออีกสองครั้ง ในปี พ.ศ. 1753 และ พ.ศ. 1779 กษัตริย์ฟิโรซ ชาห์ แห่งราชวงศ์ตุกลัขได้เสริมต่อจนเป็นรูปอย่างที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งนับเป็นศิลปกรรมแบบมุสลิมผสมฮินดูที่หาดูได้ยากความสูงของหอนี้รวมทั้งหมด 238 ฟุต แบ่งออกเป็น 5 ชั้น ภายในโปร่ง มีบันไดขึ้นไป 379 ขั้น...



มีระเบียบบังคับว่าห้ามขึ้นไปคนเดียว เพราะมีคนขึ้นไปกระโดดฆ่าตัวตายบ่อยๆ จึงยอมให้คนอย่างน้อย 2 คนขึ้นไปได้ แต่ปัจจุบันห้ามขึ้น ในบริเวณกุตับมีนาร์ มีถาวรวัตถุเป็นศิลปะฮินดูเดิม แล้วมุสลิมมาสร้างเสริมเติมแต่งให้ซึ่งปัจจุบันสิ่งที่น่าสนใจและมีผู้นิยมมาเยี่ยมชมในสถานที่แห่งนี้ คือ เสาเหล็ก ที่ทำด้วยเหล็กอย่างดีไม่เป็นสนิม เข้าใจว่าสร้างขึ้นใน พ.ศ.800 หลังสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช



ที่เสามีคำจารึกเป็นภาษาสันสกฤต เป็นคำบูชาถวายพระวิษณุ การฝังเสาทำได้แน่นหนามาก  เล่ากันว่ากษัตริย์มุสลิมพยายามเอาปืนใหญ่ยิงใกล้ๆ ยังไม่โค่นไม่ร้าว รอยเสาที่ถูกปืนใหญ่ ยังปรากฏอยู่จนทุกวันนี้ ความสูงของเสานี้ 32 ฟุต 8 นิ้ว (7 เมตร) เส้นผ่าศูนย์กลาง 16 นิ้ว เป็นที่เชื่อกันว่า ถ้าใครเอาหลังพิงเสานี้ แล้วเอาแขนโอบทางเบื้องหลัง จนมือจับกันได้ ถือว่าเป็นคนซื่อสัตย์หรือมีบุญวาสนา หรือหากทำดังนั้นแล้วตั้งจิตอธิษฐาน ความปรารถนาใดๆ ที่ขอจะสัมฤทธิ์ผล



สิ่งที่น่าอัศจรรย์ใจที่วิทยาศาสตร์ปัจจุบันยังหาคำตอบไม่ได้คือ ทำไมมันถึงไม่เป็นสนิม และอดทนต่อการผุกร่อนมานานกว่า 1,700 ปีได้... เสาได้ดึงดูดความสนใจของนักโบราณคดีและนักวิทยาศาสตร์ เพราะมันมีความต้านทานสูงต่อการกัดกร่อน และที่น่าสนใจคือช่างเหล็กในสมัยโบราณใช้ส่วนผสมอะไรมาทำ ถึงทำให้มันแข็งแกร่งได้เพียงนี้ และถึงแม้วิยาการในสมัยปัจจุบันจะก้าวหน้าไปขนาดไหนก็ตาม ก็ยังหาคำตอบเกี่ยวกับเหล็กนี้ไม่ได้ แถมยังทำเลียนแบบไม่ได้เสียด้วย!!

โอโห้ หรือนี่มันจะเป็นเหล็กของเทพเจ้าในสมัยนั้นกันแน่นะเนี่ยะ!!

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

อันดับต่อไป ตามลงไปในเม้นด้านล่างเลยนะจ้ะ!! จุบุ....

ฟังเพลงเพราะๆไปด้วย อ่านไปด้วย ฟินดีแท้ อิอิ...

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

พาพันอาบน้ำ................พาพันขอบคุณ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่