เล่าประสบการณ์ ลงแข่งจักรยานเสือหมอบงาน มหาวชิราวุธ Beachfront Cycle Tour 18 & 4-5 จ.สงขลา


ตั้งแต่เริ่มปั่นเสือหมอบมาได้ 9 เดือนเศษ
ผมได้ลงแข่งขันจักรยานไปแล้วทั้งสิ้น 2 รายการ
รายการแรกคือ งานปั่นให้หรอย ใจเกินร้อย เมืองคนดี จ.สุราษฎร์ธานี
รายการที่สองคือ งานปั่นจักรยานเสือหมอบ เฉลิมพระเกียรติฯ รพ.สมเด็จฯ อ.นาทวี จ.สงขลา


และครั้งนี้ก็นับเป็นครั้งที่สาม กับงานปั่นจักรยานในชีวิตนี้
ในงานโรงเรียนมหาวชิราวุธ Beachfront Cycle Tour 18 & 4-5 จ.สงขลา
วันที่ 7 กันยายน 2557 ผมได้มีโอกาสลงแข่งขันจักรยานเสือหมอบ ระยะทาง 70 กม.
งานนี้ผมมีความมั่นใจพอสมควรว่าต้องติดอันดับ Top Ten ได้ขึ้นโพเดียมเท่ๆ กับพี่ๆขาแรงเป็นแน่แท้
เพราะอะไรน่ะหรือ ก็ผมคิดว่าเส้นทางที่ใช้แข่งนั้น ผมกับพี่ๆก็ปั่นกันบ่อยเหลือเกิน
เรียกได้ว่ารู้จักเส้นทางพอสมควรเลยล่ะ


อีกทั้งหนึ่งอาทิตย์ก่อนวันแข่ง ผมกับพี่ๆทีมงานก็ได้ไปปั่นทดสอบเส้นทางแข่งจริงๆมาแล้วด้วย
ไฉนงานนี้จะพลาดอันดับกับเขาได้ล่ะ

พอวันแข่งจริงก็มั่นใจมากๆ คิดว่าตัวเองขาแรงพอควรแล้วล่ะ หลังจากปั่นมาได้ 9 เดือนเต็มๆ กับชีวิตบนอานเสือหมอบคู่ใจ
ที่ผมคิดว่าผมเข้าขั้นขาแรงแล้วนั่นก็คือ การยืนพื้นบน AV สูงๆ ได้ โดยไม่เหนื่อยมากเหมือนแต่ก่อน
แต่หารู้ไม่ว่า จริงๆแล้วมันไม่ใช่ปัจจัย AV อย่างเดียว
มันมีปัจจัยของ Heart Rate มาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งทำให้ผมค่อนข้างเป็นขาแรงแค่บางช่วงเท่านั้น ยังไม่เข้าขั้น ขาแรงเต็มตัวซะทีเดียว
เพราะผมคุม Heart Rate ได้ค่อนข้างลำบากมากเลย ตอนช่วงแข่ง
โดยเฉพาะตอนเริ่มต้นปั่นออกตัว

ช่วงฟรีรันที่ใครๆ หลายๆคนคิดว่าจะปั่นกันชิวๆ กินลมชมวิวชายทะเลสงขลา ไม่เร็วมาก
ที่ไหนได้ครับ พี่ท่านขาแรง แต่ละคนก็ใส่กันไม่ยั้งเลยทีเดียว เรียกว่า เจ๊มาร์ค คาเวนดิชมาเองเลย
เล่นสปริ้นกันตั้งแต่ฟรีรัน ไอขาเกือบแรงแบบผมมีหรือจะเหลือ
ก็บ้ายอ สปริ้นตามๆสิครับ Heart Rate พุ่งกระฉูดตั้งแต่ยังไม่พ้นฟรีรันเลย
เล่นซะหอบแฮกๆอีกแล้ว

แต่สิ่งที่ผมได้พัฒนาตัวเองในการแข่งจักรยานมา 2 ครั้งจากความผิดพลาดต่างๆ นั่นก็คือ
Tactic หรือกลยุทธ์นั่นเอง หลายๆ ท่านอาจจะคิดว่า แข่งปั่นจักรยาน มีกลยุทธ์ด้วยหรือ
ไม่ใช่เกมส์หมากกระดาน หมากฮอส เกมโกะสักหน่อย มีกลยุทธ์อะไรด้วย
กลยุทธ์ที่ผมเรียนรู้ได้มาจากงานครั้งก่อนๆคือ

1. อย่าพยายามเป็นจ่าฝูง หรือหัวลากเด็ดขาด ถ้าคุณยังไม่แน่พอ
เพราะคุณจะเสียแรงไปโดยเปล่าประโยชน์ โดยต้องไปอยู่ข้างหน้าบังลมให้กับพวกเจนจัดสนามที่คอยดูดคุณอยู่ตลอด
พอพวกเขาเหล่านั้นหายเหนื่อย หรือคุณเริ่มหมดประโยชน์ เขาเหล่านั้นก็จะรู้จังหวะในการยิงหนีคุณไปเรื่อยๆ
จังหวะนั้นแหละ ที่คุณจะไม่สามารถแซงได้เลย หรือเป็นไปได้ยากมาก เพราะกลุ่มหลังๆ ก็จะทยอยๆตามก้นคนข้างหน้าไปเป็นขบวน
ไม่เว้นช่องให้คุณตามได้เลย เว้นเสียแต่ว่าคุณจะมีแรงเหลือ กระชากตาม

2. เน้นหมกกลุ่ม คุม Heart Rate ให้ดีๆ
อย่าซ่าไปยิงตามเกมส์คนอื่นที่ มันมักจะมีพวกระชากแบบ กระชากหลอกบ่อยๆ
ให้พวกมือสมัครเล่น ที่ไม่เจนจัดสนามต้องยิงตาม แล้วทีนี้แหละ ความฉิ.หายก็จะมาเยือน
คุณจะเหนื่อยแบบไม่ไหวแล้ว หัวใจเต้นแรงมาก หอบถี่ขึ้นๆเรื่อยๆ กระชากตามแรกๆก็ทันอยู่ พอมารู้ตัวอีกที โดนทิ้งซะงั้น
ความน่ากลัวของการโดนทิ้ง ผมเคยประสบมาแล้วหลายครั้ง ทั้งในและนอกสนาม
ผมรู้ดีครับมันเป็นอะไรที่แย่มากๆ ปั่นคนเดียวไม่เท่าไรหรอก แต่มันเหนื่อยนี่สิ ไม่มีใครให้ดูด หรือบังลมให้เลย
ยิ่งเหนื่อยเป็นเท่าทวีคูณ

3. คนที่นำมาตั้งแต่แรก ไม่ได้จะเป็นผู้นำได้ตลอดไป
ของแบบนี้มันขึ้นอยู่กับความอึด ถึก ทน ของแต่ละคน ใครซ้อมมาดีอยู่เป็นจ่าฝูงตลอด
ใครซ้อมมาไม่พอก็จะถูกคัดกรองด้วย เนิน โคก เขา ให้หลุดไปเป็นระยะ
อย่างกับทฤษฎีของดาร์วินยังไงยังงั้นเลย ผู้แข็งแกร่งที่สุดย่อมอยู่รอด

4. พยายามอย่าอยู่ตรงกลางเวลาหมกกลุ่ม ให้อยู่ค่อนไปทางขวาของกลุ่ม
มันเป็นตำแหน่งที่ดูเหมือนจะปลอดภัย ดูดสบายๆ มีคนบังลมให้ทุกทิศทาง
แต่เพราะถ้าคุณอยู่ตำแหน่งตรงกลางนั่นเอง มันเลยเป็นจุดอับที่สมบูรณ์แบบที่สุด
เวลาถนนด้านหน้ามีหลุม คุณไม่สามารถล่วงรู้ล่วงหน้าเพื่อที่จะเตรียมหลบได้เลย
ครั้งนี้ก็เช่นกัน ที่ผมลงหลุมขนาดลูกฟุตบอลเต็มๆ เลย แต่โชคดีที่ไม่มีอะไรเสียหาย
อีกอย่างคือ ถ้าเกิดอุบัติเหตุ คนด้านหน้าล้ม มันมีโอกาสสูงมากที่คุณจะหลบไม่พ้น
นั่นคือความฉิ.หายอีกอย่าง

5. อย่าลืมกินน้ำ หรือเกลือแร่ที่เตรียมมา ให้กินก่อนกระหาย
หรือถ้ากลัวลืม เวลาปั่นอยู่ เห็นจังหวะไหน พี่ๆ ขาแรงยกน้ำมากระดก เราก็เลียนแบบได้ไม่ผิด
ให้กระดกน้ำ หรือเกลือแร่เลียนแบบด้วย นับเป็นการข่มขวัญว่าตูก็มีนะเฟร้ย ไม่น้อยหน้า ฮ่าๆ





งานแข่งในครั้งนี้ โดยรวมผมค่อนข้างประทับใจนะครับ
ได้อันดับที่ 18 จาก 177 คน
ผิดพลาดตอนช่วงเข้าเส้นชัย ที่ต้องสปริ้นขึ้นเขานี่แหละ แบบว่าแรงหมด ตะคริวถามหาเหมือนเคย
จากที่นำๆ มาช่วงแรกๆ กลายเป็นหล่นไปอยู่ อันดับ 18 ซะงั้น

สนาม 8.5/10
โดยรวมแล้วเป็นสนามที่ท้าทายพอสมควร มีเนินให้เล่นเป็นระยะ แล้วปิดท้ายด้วยการเข้าเส้นชัยบนยอดเขาความชันประมาณ  10% ระยะทาง 200 เมตร เป็นสนามที่ระยะทางกำลังดี ไม่ใกล้ หรือไกลจนเกินไป แต่หักเรื่องความไม่ปลอดภัยของช่วงถนนที่อยู่ในชุมชนช่วงท้ายๆไป ซึ่งผมคิดว่าอันตรายมากๆ จริงๆ เพราะเป็นถนน 2 เลน ให้รถสวนกัน แถมเป็นชุมชนอีกต่างหาก ถ้าไม่มีเจ้าหน้าที่ที่เพียงพอ ผมว่ามีโอกาสเกิดอุบัติเหตุมากกว่านี้แน่ๆ

เจ้าหน้าที่ 10/10
เจ้าหน้าที่ทุกคนพร้อมให้บริการผู้เข้าแข่งขันดีมาก ขอชื่นชมครับ

จุดให้น้ำ 9/10
ถือว่ามีเยอะพอสมควร

รถมาแชล และรถพยาบาล 8.5/10
ขับดูแลตลอด ติอย่างเดียวเรื่องของรถของหน่วยกู้ภัย ที่ขับค่อนข้างน่าหวาดเสียว อาจเฉี่ยวจักรยานด้วยกันเองได้

การรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ 9/10
รถนำ , ตำรวจจราจร, อาสาสมัคร, น้องๆ นศท., อปพร., เจ้าหน้าที่ที่เกียวข้อง มากันครบ

การจัดการตอนเข้าเส้นชัย 9/10
ไม่ค่อยมีการมั่วอันดับ มีการจัดการที่ค่อนข้างดี เส้นชัยยอดเขา ก็เริ่มจัดขบวนผู้เข้าแข่งขันให้เข้าช่อง โดยห้ามไม่ให้มีการแซงกันได้ดีครับ

ค่าสมัคร 10/10
450 บาทสำหรับรุ่นปกติ และ 650 สำหรับ VIP
ถือว่าไม่แพง และคุ้มค่ามากๆ ได้เสื้อปั่นจักรยานสวยๆ หนึ่งตัว ได้ถ้วยอย่างดี มีอาหารเช้า และอาหารกลางวันให้ ดีทีเดียว

ถ้วยรางวัล 8/10
ถ้วยสวยงาม ดูดีมีระดับ ติอย่างเดียวที่มันไม่ค่อยทนไม้ทนมือเท่าไหร มีพี่ในทีมได้ถ้วยที่ปลายยอดมันหลุด
อาจจะเพราะกาวไม่แน่น หรืออย่างไรไม่ทราบได้

ปล. งานนี้ผมไม่เกิดอุบัติเหตุเพราะค่อนข้างระวังมาก และไม่มียางรั่วหรือรถมีปัญหาใดๆ แค่นี้ถือว่าพอใจมากแล้วครับ




แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่