เราแนะนำให้แฟนลาออกจากงาน !!!

กระทู้คำถาม
เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า แฟนของ จขกท. นั้นเป็นนักออกแบบอยุ่ที่ บ. แห่งหนึ่ง  

แฟนเรารับโปรเจคมาโปรเจคหนึ่งที่ค่อนข้างใหญ่ (  เราเรียกย่อ ๆ ว่า โปรเจค 1 ก็แล้วกัน  )

เค้าปลุกปล้ำกับมันมา ตั้งแต่ช่วงต้นปี (  แต่ระหว่างทำนั้นมีงานอื่นมาแทรกอยู่เรื่อย ๆ ) จึงทำให้งานเริ่มช้า และติดปัญหามากมาย
แต่แล้วงานในส่วนของงานออกแบบเสร็จสิ้น ส่งมอบงานให้ซัฟพลายเออร์ และซัฟฯ ก็ทำตามแบบจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ยังเหลือก็เพียงแต่ไล่เก็บรายละเอียดภายใน ซึ่งมันเป็นส่วนที่ เค้าเองก็สรุปไม่ได้

จึงได้มีการถูกตามและไถ่ถามจากหัวหน้าแผนกอยู่บ่อยครั้ง และทุกครั้งก็จะจบลงที่มีปากเสียงกันอยุ่บ่อยครั้ง เพราะแฟนเราเป็นคนที่มีลักษณะตรงไป ตรงมา ไม่ค่อยยอมใครถ้าไม่มีเหตุผลมาหักล้างว่าเค้าผิดจริง  และหัวหน้าแผนก ก็ค่อนข้างที่จะไม่ฟังเหตุผลอื่นเลย หัวหน้าเค้าต้องการให้งานเสร็จเพียงอย่างเดียว โดยจะแถไปเรื่อย ๆ  แต่ซึ่งอย่างที่บอก มันไม่ใช่ส่วนที่ แฟนเราจะสรุปได้เอง  แต่ก็ไม่ได้นิ่งเฉยไปซะทีเดียว  เพราะมีการติดตามไถ่ถามไปเรื่อย ๆ แต่ก็ไม่มีคำตอบกลับมา  แฟนเราจึงได้วางมือจากงานนี้เพื่อไปจับงานอื่นที่เข้ามา อีกประมาณ 3-4 โปรเจค

และหลังจากนั้นมีงานออกแบบโครงสร้างบูธ ( เราเรียกว่า 2  ) ที่เป็นส่วนของงานต่างประเทศที่มีกำหนดเวลา  

แฟนเราเล่าให้ฟังว่า ช่างที่มีก็มีจำนวนจำกัด ( มีเพียง3-4 คน ) การแก้ปัญหาในตรงนี้ที่ แฟนเราคิดได้คือ การเพิ่มแรงงาน แต่เราไม่สามารถไปบอก บริษัทให้รับคนเพิ่มได้  เค้าจึงลงมาทำเอง ลงมาทำงาน ตัดไม้ ทาสี ทำเกือบทุกอย่างที่ช่างทำ เพื่อให้งานมันเสร็จเร็วที่สุด ( เหนื่อยจน ขี้เกลือเกาะเต็มเสื้อกลับบ้านทุกวี่ ทุกวัน  เหม็นด้วย )

แต่แล้วมันก็ติดปัญหาอีก งาน  2  ติดปัญหา ที่เป็นปัญหาจากหน่วยงานอื่นที่เค้าสรุปไม่ได้เหมือนเดิม งานเลยเริ่มจะล่าช้า เค้าก็แก้ปัญหาตรงนั้นด้วยการ ให้ช่างที่มีอยุ่เพียงน้อยนิดไปรุมทำงานโปรเจคแรก  โดยที่แฟนเราจะติดตามและไถ่ถามงานโปรเจคที่สองไปเรื่อย ๆ

จนในที่สุดงานในโปรเจคแรก ที่ค้างคาจึงเริ่มจะสำเร็จขึ้นมา เหลือเพียงแค่ไม่กี่เปอร์เซ็น ก็จะได้ส่งงาน

แต่แล้ววันหนึ่ง หัวหน้าประกาศว่า จะให้น้องอีกคนเข้ามาดูแลงานโปรเจค 1 แทน !!  และไม่มีเหตุผลว่าทำไมแฟนเราถึงถูกถอดออก ทั้งที่งานมันเสร็จไปเกิน 95 % แล้ว

จากนั้นมีการประชุมเก็บงานที่เหลือ กันบ่อยครั้งโดยที่ไม่มีการเรียกแฟนเราเข้าร่วมด้วย ....   ไม่มีชื่อแฟนเราในงานเหล่านั้น

เค้าก็ได้แต่กลับมาระบายให้เราฟัง ว่ารู้สึกอึดอัด ไม่สบายใจ เครียดมากจนไมเกรนขึ้น ความดันขึ้น   เราจึงแนะนำไปว่า ถ้ารู้สึกไม่สบายใจ  โดนมองข้าม ไม่ให้ความสำคัญ  ก็ลาออกซะ เพราะมันจะยิ่งทำให้เสียสุขภาพ

แต่ด้วยอายุ 30 กลาง ๆ ทำให้การลาออกในครั้งนี้นั้น เป็นการลาออกที่ทำให้ แฟนเราเครียดหนักกว่าเดิม

เราควรทำอย่างไรดีคะ
ถ้าเป็นพวกคุณ คุณจะทำอย่างไรกับเหตุการณ์ลักษณะนี้ดี ...

ขอความเห็นหน่อยค่ะ

ขอบคุณค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่