++ แบกเป้ตะลุยยุโรปคนเดียว Blablacar/Hitchhiking/Couchsurfing/วัดไทย แบบประหยัดๆ ++

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆพี่ๆน้องๆชาวพันทิปโดยเฉพาะห้องบลูแพลนเน็ต ^____^
ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นก่อนนะคะว่าจขกท.เป็นคนเล่าเรื่องไม่เก่ง แต่จะพยายามค่ะ (ลังเลอยู่นานว่าจะเขียนดีไหม)
จขกท.ขออนุญาตไม่อธิบายเรื่องการเตรียมตัวต่างๆนะคะ เพราะเพื่อนๆคงได้อ่านมามากพอสมควรแล้ว มาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ
** กระทู้นี้จะขอเล่าประสบการณ์การเดินทางที่แปลกใหม่ที่สามารถช่วยคุณประหยัดเงินในกระเป๋าค่ะ การเดินทาง/ที่พัก เป็นหลัก**

>> จขกท.เรียนจบปริญญาตรีเมื่อตอนเดือน มีนาคมที่ผ่านมาค่ะ พอเรียนจบปุ๊ป ก็เลยตัดสินใจขอที่บ้านว่า...
ขอออกไปพักผ่อน ไปเปิดประสบการณ์ ออกไปเจอสิ่งใหม่ๆ เพื่อนใหม่ๆ ได้ไหม? ที่บ้านเลยตอบตกลง! และทริปก็เลยเริ่มขึ้นค่ะ
(ส่วนตัวแล้วจขกท.เป็นคนชอบเที่ยวอยู่แล้วค่ะ ตอนอยู่ปี3 ก็ไปแบ็คแพคที่ยุโรปคนเดียวมาแล้ว เลยไม่ค่อยกังวลมากเท่าไหร่ค่ะ)

ทริปจึงเกิดขึ้นดังนี้ค่ะ >> The Netherlands >> Germany >> Czech Republic >> Hungary >> Slokavia >> Austria >> Italy
เป็นระยะเวลา 3 เดือนเต็มค่ะ ปลาย พ.ค. - ปลายส.ค. โดยทริปนี้เดินทางคนเดียวตามเคย ไปหาเพื่อนเอาระหว่างทาง ^^


โดยจขกท.จะมี "Bucket List หรือ Wish list" ก่อนการเดินทางทุกครั้ง โดยครั้งนี้บอกกับตัวเองว่า...
"ไหนๆก็ไปแล้ว ต้องลองทำอะไรแปลกๆใหม่ๆดูบ้าง และที่สำคัญต้อง....ช่วยประหยัดเงินด้วย"

ต้องขอบอกก่อนเลยว่า จขกท.หาข้อมูลค่อนข้างเยอะค่ะโดยเฉพาะ เรื่องการเดินทางและเรื่องที่พัก
การเดินทาง :: อย่างที่ทราบกันว่า การเดินทางในยุโรปไม่ว่าจะเป็นเดินทางภายในประเทศหรือระหว่างประเทศค่อนข้างสะดวก
และจขกท.ตัดสินใจ "ไม่ซื้อ Eurail Pass" ค่ะ เพราะจขกท.อยากจะลองการเดินทางแบบ...
>> " Blablacar " รวมไปถึงการ "Hitch-Hiking หรือการโบกรถนั่นเอง" <<

1. Blablacar/Carpooling คืออะไร? - หลายคนคงเคยได้ยินกันมาบ้าง และเคยลองไหมคะ? การเดินทางแบบนี้คือ การแชร์ค่าน้ำมันกัน
ยกตัวอย่างเช่น.. จะมีคนขับมาเสนอเส้นทางบนเว็บไซต์จาก จุด A (ต้นทาง) ไป จุด E (ปลายทาง) โดยผ่าน A > " B > C "> D " > E ค่ะ
โดยเราสามารถลงตามจุดต่างๆได้ และราคาก็จะแตกต่างกัน และที่สำคัญ "ประหยัดกว่า" การเดินทางแบบสาธารณะ เช่น รถไฟ รถบัส ฯลฯ
ประสบการณ์ : จขกท.ได้ลอง blablacar ครั้งแรก จาก Berlin,Germany มา Prague, Czech Rep. ด้วยราคา 12 Euro / 7 ชั่วโมง
และนี่คือสภาพของรถ และภายในรถ คนขับ..
   
หลังจากนั้นจขกท.ก็ติดใจ Blablacar มาตลอดเลยค่ะ 1. Berlin - Prague // 2. Vienna - Salzburg // 3. Venice - Florence ค่ะ
ข้อดี : ประหยัดเงินในกระเป๋าได้เยอะเลยค่ะ ถ้าเทียบกับการเดินทางแบบการขนส่งสาธารณะ เช่น รถไฟ หรือรถบัส เป็นต้นค่ะ
ข้อเสีย : การตอบตกลงของผู้ขับกับผู้นั่งจะไม่แน่นอนเสมอค่ะ จขกท.เคยโดยปฎิเสธก่อนการเดินทาง 1 ชั่วโมง และที่สำคัญ เราไม่สามารถทราบเลยว่า เขาจะขับพาเราไปไหน -.- จะถึงปลายทางรึเปล่า แต่ส่วนใหญ่ก็ขับบนไฮเวย์ เลยไม่ค่อยกังวลมากเท่าไหร่ค่ะ

2. Hitch-Hiking - การโบกรถ! ในชีวิตนี้จขกท.ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้โบกรถหรือหยุดรถ!
ประสบการณ์ : จาก Brno ไป Prague ใน Czech Rep. ระยะทาง 240กม.
จขกท.เลยคิดว่า ไหนๆก็ไหนๆละ ลองซักครั้งในชีวิต เลยตัดสินใจนั่งรถแทรมมายังนอกเมือง เพื่อที่จะไปถนนไฮเวย์ เมื่อลงรถแทรมปุ๊ป
ก็ไม่ช้า.. เดินแบกกระเป๋าเป้และเดินบนไฮเวย์ประมาณ 5 กม. เพื่อไปปั๊มน้ำมันหรือจุดพักรถ เพื่อที่จะโบกรถไป Prague
ระหว่างทางก็เก็บแอปเปิ้ลกินไปตามทาง ในที่สุด จขกท.ก็ถึง จุดพักรถ เลยมายืนตรงทางออกจุดพักรถ
และได้โบกรถเป็นเวลา 5 นาที ก็มีรถจอด!! เป็นผู้ชาย แต่เขาไม่ได้ไป Prague เขาจะกลับบ้านซึ่งเป็นครึ่งทางของทางไป Prague จขกท.เลยไม่รอช้า บอกขอติดไปด้วย ส่งฉันจุดพักรถตรงไหนก็ได้... เขาก็โอเค! ระหว่างทางเราก็พูดคุยกัน..
จขกท. : คุณไม่กลัวหรอ? รับใครก็ไม่รู้
ผู้ชายที่รับ : ไม่กลัวหรอก ฉันรับประจำ ถ้าฉันช่วยได้ก็จะช่วย  
เขาส่งจขกท.ที่จุดพักรถ และจขกท.ก็ได้ทำการโบกรถต่อ โดยการโบกครั้งนี้ยาวนานถึง 1.30 ชั่วโมง! จนในที่สุดก็มีผู้หญิงรับไปด้วย..
Prague Prague Prague..
                        
ข้อดี : ฟรี! ^____^
ข้อเสีย : ไม่มีอะไรแน่นอนเลยค่ะ สภาพอากาศ สถานที่ เวลา,อาจจะต้องรอเป็นครึ่งวัน คนที่จะรับเรา ลองจินตนาการนะคะ..
ปล. การเดินและโบกรถบนถนนไฮเวย์ผิดกฎหมายนะคะ ถ้าตำรวจเห็นหรือจับจะต้องโดนปรับหลายร้อยยูโรค่ะ

................................................................................................................................................................................

มาพูดเรื่องที่พักกันบ้างดีกว่าค่ะ พักอย่างไรแบบประหยัดๆ?
ที่พัก : วัดไทย / Couchsurfing / Airbnb / Hostel / B&B / Hotel
โดยจขกท.จะขอเน้นหลักๆที่วัด และ Couchsurfing นะคะ เพราะเพื่อนๆคงรู้จักที่พักประเภท Hostel/B&B/Hotel กันแล้ว

1. วัดไทยในปราก - วัดธรรมกิตติวงศ์
ประสบการณ์: หลังจากจขกท.มาถึง Prague แล้ว..ทำไงดีละ? คืนนี้จะนอนที่ไหน? เลยไม่รอช้า โทรไปหาวัดธรรมกิตติวงศ์ / ปราก 8
เพื่อขอความอนุเคราะห์เรื่องที่พักในคืนนี้  พระอาจารย์ท่านใจดีมากๆเลยค่ะ ท่านบอกกับจขกท.ว่า "คิดเสียว่าบ้านนี้เป็นบ้านหลังที่ 2 ของโยมเลยนะ" จากนั้นจขกท.ก็ตรงดิ่งไปวัดเลยค่ะ ไปนั่งสมาธิ ไปเก็บ กวาด เช็ด ถู ทำความสะอาด..
                        
ข้อดี : ที่พักฟรี กินฟรี แต่จขกท.ไม่ได้คำนึงถึงตรงนั้นเลยค่ะ และไม่อยากให้เพื่อนๆพี่ๆมองว่า มาพักวัดเพราะฟรี! ไม่อยากจ่ายเงินงั้นซิ! และเจอพี่ป้าน้าอาคนไทยเยอะแยะเลยค่ะ ทุกคนใจดีกับจขกท.มาก
ข้อเสีย : ไม่มีข้อเสียเลยค่ะ

2. Couchsurfing - เค้าช์เซิฟฟิงคืออะไร? ง่ายๆเลยก็คือ ไปขออาศัยกับเจ้าของบ้านนั่นเอง โดยนอนที่ Couch = โซฟา หรือ เก้าอี้ยาวๆ
โดยผ่านเว็บไซต์เว็บหนึ่ง โดยเว็บไซต์นี้จะแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆคือ
1. Surf - ไปขอพักอาศัยกับเจ้าของบ้านนั้นๆ  2. Host - คุณเป็นเจ้าบ้าน และมีคนมาขอพักกับคุณ
โดยต้องมีการส่ง Couchrequest ไปถึงเจ้าของบ้านนั้นๆ เกี่ยวกับ ตัวของคุณเอง เช่น นิสัยใจคอ , เกี่ยวกับแผนการเดินทาง วัตถุประสงค์หลักๆ และต้องระบุวันที่ต้องการจะขอเข้าพัก วันที่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ เป็นต้น  

เลือกเจ้าของบ้านอย่างไร? ในโปรไฟล์ของแต่ละคนก็มีกฎ ระเบียบ แตกต่างกันค่ะ อ่านให้เข้าใจ และที่สำคัญต้องอ่านอ้างอิง
ในด้านดี และ ไม่ดีด้วยค่ะ การเลือกก็ตามแต่พิจารณาเลยค่ะ

การตอบรับ ถ้าเจ้าของบ้านเขาพึงพอใจ เขาก็จะตอบตกลงค่ะ และก็อย่าลืมถามรายละเอียดเรื่องการเดินทางไปยังบ้าน,แฟลต ของเขาด้วยนะคะ

และที่พักแบบนี้ก็เป็น 1 ใน Bucket List ของจขกท.ค่ะ ที่อยากจะลองสักครั้ง ^__^ และก็ได้ลองมาแล้ว ^___^

ประสบการณ์ : จขกท.ได้พักแบบ Couchsurfing ที่ Prague , Czech Rep. 4 วัน /Budapest, Hungary 6 วัน / Bratislava, Zilina, Slovakia 5 วัน / Vienna, Austria 5 วันและ Florence, Italy 3 วันค่ะ ถ้าโชคดีหน่อยก็จะมีห้องส่วนตัวค่ะ เช่น ห้องรับแขกที่มีประตูปิด หรืออาจจะเป็นห้องรับแขกที่เป็นส่วนกลาง ก็แล้วแต่เจ้าของบ้านจะเตรียมให้ค่ะ ส่วนใหญ่จขกท.เลือกไปพักกับคนที่มีอายุมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็ตาม และส่วนใหญ่เจ้าของบ้านนั้นๆก็จะให้ กุญแจบ้านกับจขกท.ค่ะ จะออกไป-กลับมาเมื่อไหร่ก็ได้ และที่สำคัญ เราต้อง"ซื่อสัตย์"ค่ะ


ข้อดี : ฟรี! แต่เราก็ต้องเกรงใจ ซื่อสัตย์ และให้เกียรติเจ้าของบ้านด้วย  และเจ้าของบ้านก็ยังแนะนำสถานที่ต่างๆภายในเมืองนั้นๆอีกด้วยค่ะ และเผลอๆเขาอาจจะเป็นไกด์ให้เราด้วยก็ได้ค่ะ  
ข้อเสีย : ทำอะไรได้ไม่เต็มที่เพราะต้องคำนึงถึงเจ้าของบ้านด้วย แรกๆบอกเลยว่ากลัวค่ะ ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรเรารึเปล่า แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดีค่ะ

..................................................................................................................................................................................
นอกจากนี้ จขกท.ก็ขึ้นเขา เดินป่า นอนกางเต้นท์ นอนในทีพี เป็นหลายอาทิตย์อีกด้วยค่ะ


สำหรับใครที่สงสัยว่า.....
หลักๆนอนที่ไหนบ้าง ตลอด 3 เดือนนี้นอกจากการพักอาศัยด้านบน >> คำตอบคือ Hostel ค่ะ และก็อาศัยบ้านเพื่อนตามประเทศต่างๆ
และการเดินทางละ >> คำตอบคือ รถไฟภายในประเทศ หรือระหว่างประเทศ และรถบัส ค่ะ
สุดท้ายเอารูปจากแต่ละประเทศมาฝากกันค่ะ ไม่ทุกเมืองนะคะ









ปล.จขกท.ถ่ายรูปไม่เก่งนะคะ อย่าว่ากันนะคะ ^_____^

สุดท้ายนี้ สำหรับใครที่อยากจะลองการเดินทางแบบนี้ ขอให้คิดให้รอบคอบนะคะ และต้องเตรียมกายเตรียมใจให้พร้อม พร้อมลุยทุกสถานการณ์ และอยากจะบอกกับเพื่อนๆพี่ๆที่กลัวการเที่ยวคนเดียวว่า อย่ากลัวไปเลยค่ะ ออกไปหาประสบการณ์แปลกใหม่ที่ไม่รู้ว่าชีวิตนี้จะหาได้จากที่ไหนอีก ภาพที่มองเห็นด้วยตาหรือด้วยใจยังไงก็สวยงามมากกว่าภาพถ่ายค่ะ ^^ และที่สำคัญเวลาเที่ยว ต้องมีสติ และช่างสังเกตตลอดเวลานะคะ ถ้าเพื่อนๆพี่ๆสงสัยอะไรตรงไหน สอบถามกันเข้ามาได้เลยนะคะ หรือจะหลังไมค์มาก็ได้ค่ะ ยินดีตอบค่ะ
ขอบพระคุณมากๆค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่