สำรวจพุทธศาสนาในเกาหลีเหนือ


 อาคารโบกวังจอนในวัดจองนึงซาในกรุงเปียงยางของเกาหลีเหนือ

 ในเกาหลีเหนือมีวัดและพระสงฆ์หรือไม่ มีชาวเกาหลีเหนือจำนวนไม่มากนักที่ยังจำได้ว่า เคยเห็นพระสงฆ์จริง ๆ ในวัดที่เกาหลีเหนือ
รัฐบาลเกาหลีเหนือประกาศต่อสาธารณะว่าสนับสนุนเสรีภาพในการนับถือศาสนา แม้ว่าในความเป็นจริง ศาสนาจะเป็นสิ่งที่ถูกควบคุมก็ตาม อย่างไรก็ตาม ทางการเกาหลีเหนือค่อนข้างมีทัศนคติเปิดกว้างต่อศาสนาพุทธเมื่อเปรียบเทียบกับศาสนาอื่น ๆ เช่น คริสต์ศาสนานิกายต่าง ๆ
พระเบโอปตา (Beopta) พระสงฆ์ชาวเกาหลีใต้ได้เดินทางไปเยือนเกาหลีเหนือแล้วเกือบ 100 ครั้งในช่วงกว่า 30 ปีที่ผ่านมา และยังจัดตั้งช่องทางการสื่อสารพูดคุยกันระหว่างพุทธศาสนิกชนชาวเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ เขาบอกว่า “ในปัจจุบัน ที่เกาหลีเหนือมีวัดกว่า 60 แห่งและพระสงฆ์ราว 300 รูป”
พระสงฆ์รูปนี้เล่าต่อว่า “ในจำนวนทั้งหมดนี้ อาตมาได้พบพระสงฆ์ชาวเกาหลีเหนือเป็นการส่วนตัวราว 30 รูป”


พระเบโอปตา เป็นหนึ่งในพระสงฆ์อาวุโสของเครือข่ายพุทธศาสนานิกายโชเก (Jogye Order of Korea) เขาถือเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านพระพุทธศาสนาในเกาหลีเหนือ โดยเป็นพระสงฆ์รูปแรกที่มีโอกาสเดินทางเยือนเกาหลีเหนือในปี 1989 หลังจากทั้งสองเกาหลีแยกประเทศกัน

 พระสงฆ์รูปนี้ยังเคยได้พบกับ คิม อิล-ซุง อดีตผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือถึงสองครั้ง นับแต่นั้น เขาก็ได้เข้าเยี่ยมวัดในเกาหลีเหนือหลายแห่งในหลายเมือง เช่น กรุงเปียงยาง, เมืองแกซอง, บนเขากึมกังซาน และเขามโยฮยางซาน ตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา เพื่อติดต่อกับชุมชนชาวพุทธในเกาหลีเหนือ
ภายในกุฏิของพระเบโอปตาในวัดแห่งหนึ่งในเขตซองบุก-กู ของกรุงโซล มีภาพถ่ายจากช่วงที่เขาเดินทางเยือนเกาหลีเหนือหลายพันรูป

 ภาพภายในวัดโบฮยอนซา ที่อยู่บนเขามโยฮยางในเกาหลีเหนือ

 พระเบโอปตาบอกว่า “ในสมัยที่เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้อยู่รวมกันก่อนที่จะได้รับอิสรภาพจากการปกครองของญี่ปุ่นนั้น มีวัดประมาณ 540 แห่งในฝั่งเกาหลีเหนือ มีพระสงฆ์ราว 1,600 รูป และผู้ศรัทธาอีกราว 380,000 คน อย่างไรก็ตาม หลังเกิดสงครามเกาหลีขึ้น (ระหว่างปี 1950-1953) วัดเกือบทั้งหมดในขณะนั้นถูกทำลายหายไป และหลังจากสงครามสิ้นสุดลง ชาวเกาหลีเหนือได้บูรณะวัดซองบุลซาขึ้นในจังหวัดฮวางแฮ และวัดโบฮยอนซา บนเขามโยฮยาง”

 “ไร้ภิกษุณีในเกาหลีเหนือ”
พระเบโอปตาบอกว่า “พระภิกษุในเกาหลีเหนือทั้งหมดสมรสแล้ว และส่วนใหญ่จะไว้ผมยาวและสวมชุดสูท อาตมาได้ให้คำแนะนำหลายครั้งแล้วว่า พระสงฆ์ควรจะปลงผม ซึ่งในที่สุดพระสงฆ์บางรูปในเกาหลีเหนือก็ยอมปฏิบัติตาม หลังจากนั้น อาตมาก็ได้มอบเครื่องนุ่งห่มให้กับพระสงฆ์ในเกาหลีเหนือราว 200 ชุดด้วย”
พระเบโอปตาเน้นย้ำว่า แม้มีวัดและพระสงฆ์ในเกาหลีเหนือ แต่สิ่งที่แตกต่างชัดเจนจากฝ่ายเกาหลีใต้คือ ที่เกาหลีเหนือไม่มีภิกษุณี
“อาตมาเดินทางเยือนวัดในเกาหลีเหนือหลายครั้งแล้ว แต่ยังไม่เคยพบเห็นภิกษุณีแม้แต่รูปเดียว อาตมาคิดว่า พระพุทธศาสนาของเกาหลีเหนือยังมีวัตถุประสงค์ทางการเมืองมากกว่ามิติของการเป็นศาสนา ดังนั้นจึงไม่อนุญาตให้มีภิกษุณี”

 บางคนอ้างว่า “เนื่องจากในทางปฏิบัติ เกาหลีเหนือไม่อนุญาตให้มีเสรีภาพในการนับถือศาสนา พระภิกษุ[ในเกาหลีเหนือ]ทุกรูปจึงเป็นสมาชิกของพรรคแรงงานแห่งชาติเกาหลี และมีพระสงฆ์เพียงไม่กี่รูปที่ปฏิบัติกิจของสงฆ์”
ตามข้อมูลของเอกสารเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือที่เผยแพร่โดยรัฐบาลเกาหลีใต้ ระบุโดยอ้างคำตอบจากบรรดาผู้แปรพักตร์ชาวเกาหลีเหนือส่วนใหญ่ที่ระบุว่า “ไม่มีพระสงฆ์จริง ๆ ในวัด ส่วนวัดที่ยังคงอยู่ก็เป็นเพียงโบราณสถานเท่านั้น”
ผู้แปรพักตร์ชาวเกาหลีเหนือรายหนึ่งบอกว่า “พิธีปฏิบัติธรรมที่จัดขึ้นในช่วงวันสำคัญประจำปีทางพระพุทธศาสนาในเกาหลีเหนือ ส่วนใหญ่จะทำเพื่อสร้างภาพให้ชาวต่างชาติได้เข้าใจว่า ที่เกาหลีเหนือมีสิทธิในการนับถือศาสนา โดยไม่ได้พุ่งเป้าการสื่อสารไปที่สาธารณชนชาวเกาหลีเหนือ”

 จากประเด็นข้างต้น พระเบโอปตาบอกว่า “พระภิกษุเกาหลีเหนือจะมีภาระหน้าที่ไม่มากนักเมื่อเทียบกับพระสงฆ์รูปแบบทางการ เนื่องจากวัดถือเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรม พระสงฆ์จึงรับหน้าที่ปกป้องวัด ขณะที่พระสงฆ์ที่มีครอบครัวจะเดินทางออกจากวัดเพื่อไปทำงานและดำเนินชีวิตตามปกติในแต่ละวัน”
“ครั้งเมื่ออาตมาไปเยือนวัดโบฮยอนซาบนเขามโยฮยางในเกาหลีเหนือในช่วงวันวิสาขบูชา (ตามปฏิทินของเกาหลี) นอกจากจะมีพิธีการเฉลิมฉลองแบบพื้นฐานแล้ว ยังมีชาวบ้านขึ้นมาที่วัดเพื่อร่วมพิธีด้วย” พระสงฆ์รูปนี้อธิบาย

  
 ริชาร์ด คิม
BBC รายงาน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่