นิทานหลอกเด็ก : การเดินทางภาค 3/2

การเดินทางภาค 3/2
โดย : นายเคน บูรพา
ทำนอง : คนรักกาน
กราฟฟิค : (ภาษาสุภาพ)
เมื่อ : วันศุกร์ ที่ 17 กันยายน 2547 เวลา 20.05 น.

พอเริ่มจะเขียน ผมก็รู้ทันทีว่าพวกคุณคงจะไม่เชื่อหรอกนะครับ แต่ว่าผมว่างๆ ก็เลยนั่งเขียนไปเรื่อยเปื่อยนะครับ
สำหรับเพื่อนๆ บางคน ที่ได้ติดตามผลงานของผมตั้งแต่เรื่อง สารลับจากกวนอู, คำว่าเพื่อน, นิยามของดวงดาว,
ปีศาจกระเทย จนกระทั่งเรื่องล่าสุด สรุปสูตรฟิสิกส์ เพื่อนๆ คงจะทราบดีว่าแต่ละเรื่องมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกันตลอด
และแต่ละเรื่องจะมี "น้องมิ้ม" เข้ามาเกี่ยวข้องทุกเรื่อง และจะเป็นอย่างนี้ตลอดไป...

สำหรับวันนี้ เป็นการนำเรื่องของเมื่อวานมาเขียนนะครับ เริ่มกันเลยดีกว่า เพราะผมรู้ว่าพวกคุณคงจะเริ่มเบื่อกันแล้ว
เป็นเรื่องต่อเนื่องจาก สรุปสูตรฟิสิกส์ คือคุณลองบวกไปอีก 7 วัน ตั้งแต่การเดินทางครั้งก่อน นั่นก็คือวันพฤหัสบดี
เหมือนกัน ไม่ต้องแปลกใจหรอกครับ เพราะมันเป็นเรื่องจริง แม้เรื่องนี้จะไม่น่าสนใจ แต่ขอให้รู้เอาไว้เลยนะครับ
ขอให้รักษาหนังสือเล่มนี้ของผมให้ดีหน่อย อย่าให้สภาพย่ำแย่เหมือนเล่มที่ผ่านๆ มา ????????????????????
เครื่องหมายปรัศนีย์ 20 ตัว หมายถึงการขอร้องอย่างสูง "เพราะว่าเผื่อสักวัน จะมีสายลมอันแผ่วเบาพัดผ่าน นำเอา
ข้อความนี้พลัดปลิวไปที่หน้าบ้านน้องมิ้ม แล้วตอนนั้นน้องเค้ากำลังอ่านหนังสือสอบวิชาคณิตศาสตร์ แล้วน้องเค้า
เกิดอาการเครียด เลยเดินออกมาสูดอากาสบริสุทธิ์ที่หน้าบ้าน แล้วบังเอิญเห็นกระดาษของผม แล้วน้องเค้าก็เกิด
อาการสนใจ เดินไปหยิบ แล้วเดินกลับเข้าไปในบ้าน แล้วใช้มันเป็นกระดาษทดเลขที่ด้านหลัง โดยไม่สนใจข้อความ
ข้างหน้า ที่ผมตั้งใจที่จะเขียนถึงน้องเค้าเพียงคนเดียว คนเดียวเท่านั้น เมื่อน้องเค้าทดเลขจนเต็มหน้ากระดาษ แต่ก็
ยังคิดไม่ออก น้องเค้าโมโหเลยขยำทิ้ง แล้วโยนทิ้งถังขยะ แต่โยนพลาดไม่ลงถังขยะ น้องเค้าโมโหเลยจะเดินไปเตะ
แต่ดันเหลือบไปเห็นข้อความด้านหน้าเสียก่อน น้องเค้าเลยนั่งอ่าน และเกิดความประทับใจ ที่คนที่สำคัญที่สุดในเรื่อง
ชื่อเหมือนน้องเค้า แต่น้องเค้าไม่รู้เลยว่า คนที่เขียนตั้งใจเขียนถึงน้องเค้าเพียงคนเดียว พออ่านจบ น้องเค้าก็โยนมัน
ทิ้งถังขยะไป แต่ข้อความในนั้นจะอยู่ในความทรงจำของน้องเค้าตลอดไป จนกว่าน้องเค้าจะลืม...

การเดินทางเริ่มต้นที่ค่ายวชิรปราการ เหมือนเดิม เพราะวันนี้มีเรียน รด. แต่คราวนี้เราฉลาดขึ้น เพราะมีคุณแมน ซึ่งเป็น
เพื่อนของเราเองเป็นผู้นำทางไปยังจุดหมาย หลังจากคราวที่แล้วผมกับคุณปฏิ ต้องเสียเวลาอย่างมากในการเดินทาง
เนื่องจากไม่รู้เส้นทาง คราวนี้คุณแมนขับรถมอเตอร์ไซต์นำเราไปเรื่อยๆ เมื่อเราขับตามไปได้ประมาณ 30 นาที ด้วย
ความเร็วสูงสุด (40 กม./ชม.) รถของคุณปฏิก็เกิดอาการเครื่องกระตุกและกำลังจะดับ คุณปฏิร้องขอให้ผมลดความเร็ว
ลงอีก แต่ผมไม่เชื่อ และสั่งสอนคุณปฏิไปว่า "ปฏิ !!! รถนายก็เหมือนคนที่กำลังใกล้ตาย หากหยุดหายใจ เหมือนที่นาย
กำลังจะให้เราลดความเร็ว ก็คงจะต้องตายไปเลย แต่หากว่าเขาพยายามที่จะหายใจต่อไป อย่างน้อยๆ เขาจะมีชีวิตอยู่
ไปได้อีก และถ้าเร่งเครื่องต่อไป รถของนายก็จะยังขับต่อไปได้เรื่อยๆ" พอผมพูดจบ คุณปฏิถึงกับเจ็บหน้าอก แต่ไม่ใช่
เพราะคำพูดของผมหรอกนะครับ เพราะผมมัวแต่พูด ไม่ดูถนน เลยขขับรถตกหลุมถนน และแล้วรถก็ดับสนิท คราวนี้
คุณปฏิเริ่มแสดงอาการกังวลและอยากกลับบ้านให้ได้ แต่ผมกลัวว่าคุณแมน จะเป็นห่วงและจอดรอพวกเราอยู่ข้างหน้า
ผมพยายามจนเครื่องติดและขับต่อไปเรื่อยๆ สรุปว่าเครื่องดับอีก 2 ครั้ง จึงไปถึงจุดที่คุณแมนจอดรถรออยู่ คุณแมน
บอกกับเราว่าจอดรอกว่า 15 นาทีแล้ว แต่ผมไม่เชื่อเพราะดูนาฬิกา เพิ่จะ 14 นาทีเอง แล้วคุณแมนมีทีท่างอนนิดหน่อย
แล้วก็ขับนำทางต่อไป เขาพาเราไปทางลัด ทางลัดที่ถนนเป็นดินทราย ไม่ได้ลาดยางมะตอย หรือถนนคอนกรีตเลย
แล้วตอนนั้นฝนเริ่มตกขลุกขลิก ทำให้ถนนลื่น รถของคุณแมน ปัดโคลนใส่ผม แล้วผมก็ก้มลงไปปัดโคลน จนรถเกือบ
จะตกคลอง เพราะลักษณะเป็นทางโค้งแบริ่ง 315 ซะด้วย พอไปถึงบ้านคุณแมน เราก็พบกับคุณแม่ของคุณแมน
เราก็เลยสวัสดีไปหนึ่งครั้ง คุณแม่ของคุณแม่ชวนพวกเราขึ้นไปบนบ้าน และจะเลี้ยงอาหารเย็นพวกเรา แต่ตอนนั้น
เริ่มมือแล้ว ไฟในบ้านยังไม่ได้เปิด เปิดไว้แต่ไปหน้าบ้าน คุณแม่ของคุณแมน เลยขอให้คุณปฏิช่วยไปเปิดไฟในบ้าน
แทนที่คุณปฏิจะเปิดไฟในบ้าน แต่มันดันปิดไฟหน้าบ้าน เพราะสวิตซ์อยู่ติดกัน ในมื้อนั้นพวกเราได้รับประทานอาหาร
โดยคุณแมนทอดไข่ฟองละ 3 บาท ให้เรากิน เราตื้นตันใจมาก เพราะว่าคงมีไม่กี่คนที่จะได้ชิมอาหารฝีมือคุณแมน
ปัญหาเกิดขึ้น เมื่อผมกับคุณปฏิ ถกเถียงกันอย่างหนักว่าจะกินอะไรกับไข่ดาว ระหว่างซอวพริก กับ ซีอิ้วขาว แต่ว่า
เราก็ยุติปัญหาลง เมื่อคุณแม่ของคุณแมน บอกว่าทานกับน้ำพริกน้ำปลา หลังจากกินข้าวเสร็จแล้ว คุณแมนพาเราไป
ที่บ้านของเพื่อนอีกหนึ่งคน ชื่อคุณก๊วก ที่กำลังอ่านหนังสือเตรียมสอบอย่างเคร่งเครียด แตกต่างจากผมกับคุณปฏิ
ที่มาทำตัวไร้สาระข้ามอำเภอ ซึ่งคุณก๊วก พาผมไปบ้านน้องมิ้ม ซึ่งคราวนี้ผมไม่ได้พกเงินมาด้วยเลย ไม่ได้เข้าไป
ซื้อของในบ้านน้องมิ้ม โดยผมให้คุณแมน และคุณปฏิ รออยู่ที่บ้านคุณก๊วก ส่วนผมกับคุณก๊วก เราเดินทางออกมา
อย่างเงียบๆ พอไปถึงหน้าบ้านน้องมิ้ม เราจึงเริ่มทำตามแผน
รอบแรก ขับผ่านแบบที่คนธรรมดาๆ เขาทำกัน
รอบที่สอง ขับแบบสโลวโมชั่น จนคนในบ้านเริ่มสังเกต
รอบที่สาม เราแกล้วทำเป็นรถเสีย และจูงผ่านหน้าบ้านน้องเค้าไป
...แต่ไม่รู้ว่าน้องเค้าจะเห็นหรือปล่าว...
จากนั้นเราจึงเดินทางกลับไปที่บ้านคุณก๊วก ผมจึงรับคุณปฏิ กลับบ้านที่ตัวเมือง ระหว่างทางเครื่องดับประมาณ
7-8 ครั้ง และตรงทางลัดที่คุณแมน พาเรามา เราโดนสุนัขไล่กัด คุณปฏิตกใจมาก เลยทำให้ผมตกใจตามไปด้วย
แต่พอหันกลับไป พบว่าเป็นแค่หมาตัวนิดเดียว พันธุ์ชิทสึ เท่านั้นเอง

พอเขียนถึงตรงนี้...คุณปฏิกับคุณหื่น ก็มาหาผมที่บ้าน ผมเลยหยุดเขียนไว้เพียงเท่านี้ครับ


ปล. เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมเขียนขึ้นเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ตอนที่ยังเป็นนักเรียน ม.ปลาย หัวเกรียน ซึ่งภาษาไม่ได้
มีความสวยงาม หรือถูกต้องตามหลักไวยากรณ์เท่าใดนัก เป็นการเขียนเพื่อให้เพื่อนๆ ในกลุ่มได้อ่านกันสนุกๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่