เมื่อผมเปลี่ยนจากการเล่นเฟส เป็น เขียนไดอารี่

ลองเอาไปทำดูนะสำหรับใครที่เบื่อเฟสบุ๊ค สังคมจอมปลอมที่เต็มไปด้วยการอวด การโชว์ การข่ม ไร้ซึ่งความเป็นตัวของตัวเอง ตอนนี้ผมปิดเฟสบุ๊ค และหันมานั่งเขียนไดอารี่มาก็เจ็ดวันแล้ว อยากจะเล่าอาการครับ ว่ามันทรมานใช้ได้ ไม่ต่างอะไรกับติดยาเสพย์ติดเลย จนตอนนี้ผมแทบจะไม่ได้แตะไอคอนสีฟ้าบนโทรศัพท์เลยหล่ะครับ

       สามวันแรกนั้นยอมรับเลยครับ ว่าทรมานมาก unlocked เครื่องทีไร มือก็ไปจิ้มที่ไอคอนทุกที ถามว่าทำไมไม่ลบ app ออกจากเครื่อง ตอนนั้นผมคิดว่า ผมคงเลิกไม่ได้หรอก ไม่มีทาง ยังไงวันที่สี่ หรือวันที่ห้าผมต้องเล่นแน่ๆ พอเวลาผมอยากเล่น ผมก็ไปเขียนในไดอารี่แทน จะวาดรูป จะเขียนด่า จะว่าใคร ก็สบายๆ ไม่ต้องเกรงใจว่าใครร้อนตัว ไม่น่าเชื่อครับ แค่สามวัน ผมเขียนไดอารี่ได้เป็น สิบหน้า (สมุดโน๊ตหนาๆ เล่มกลางๆ ไม่ใหญ่มาก) ถ้าเป็นเฟส คงมีเพื่อนบอกว่า นี่แกจะเวิ่นอะไรนักหนาวะเนี่ยะ

        วันที่สี่กับห้า เริ่มอยู่ตัวครับ มีบ้างบางทีที่อยากเข้า แต่ก็พอเข้าไปมันขึ้นให้กรอก username กับ password (ผมทำการ deactivated) ไป ซึ่งผมรู้สึกว่าขี้เกียจกรอกข้อมูลพวกนี้ลงใน textbox ของ app จัง สุดท้ายก็ปิดไป ตอนนั้นผมรู้สึกว่า ชีวิตเหลืออะไรให้ทำมากขึ้นนะ ผมไปหาหนังสือการ์ตูนมานั่งอ่าน หาต้นไม้มาปลูกตามผนังห้อง ดูหนังในโรง ร้องคาราโอเกะ ไปดรีมเวิลด์ ไปสวนสัตว์ ไปช๊อปปิ้ง และก็เอามานั่งเขียนไดอารี่ได้ตั้งหลายหน้าแหน่ะ (กิจกรรมที่ว่ามาทำคนเดียวหมด) แต่ก็รู้สึกว่าเหงานะ เหมือนใครหลายๆคนที่เราเคยคุย เคยรู้จักหายไปจากชีวิต เอิ่ม แต่ก็ไม่ได้อะไรมาก ก็แค่เคยคุย

        เมื่อวานกับวันนี้ ผมรู้สึกว่าเฟสบุ๊คมันก็แค่กำไรชีวิต ไม่มีก็ไม่ตาย ไม่เห็นต้องกังวลเรื่องจำนวนไลค์ หรือคอมเม้นต์ ตอนนี้ผมลบ app ไปอย่างเรียบร้อย ทั้ง facebook ทั้ง messenger ใครจะแต่งงาน จะรับปริญญา ก็โทรหาเอา ผมว่าดูจริงใจกว่าเยอะ ถ้าจะให้ผมกลับไปเล่นไหม ถ้ากลับไป ผมคงเฉยๆกับมัน แต่ตอนนี้ยังไม่อยากเล่นครับ เบื่อการแข่งขัน เบื่อหลายๆอย่าง

แล้วเพื่อนๆหล่ะ เคยเบื่อเฟสบุ๊คกันบ้างไหม?

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่