*****จำไว้ว่า ประชาธิปไตยไม่ใช่แค่การไปเลือกตั้ง*****

ในฐานะที่เป็นคนกรุงเทพตั้งแต่เกิด  ภูมิใจในกรุงเทพมาตั้งแต่สมัยที่มีประโยคฮิตที่ว่า "กรุงเทพคือประเทศไทย"
ใช่!!  เพราะทุกอย่างมันมารวมกันอยู่ที่กรุงเทพ  สถาบันการศึกษา ห้างสรรพสินค้า แหล่งธุรกิจ  และที่สำคัญ..

แหล่งรวมคนดีคนเก่งคนฉลาดของประเทศ !

คนกรุงเทพไม่เคยถูกซื้อเสียง  เงินไม่กี่ร้อยมาฟาดหัวความเป็นคนฉลาดของเราไม่ได้
เห็นได้จากที่เราเคยเลือกผู้ว่ากทม.จนๆ อย่างพล.ต.จำลอง  ผู้ใช้ฝาเข่งมาทำป้ายหาเสียง

แต่..ตอนนี้ผมชักจะไม่แน่ใจแล้ว  คนกรุงเทพฉลาดจริงอย่างที่คิดสักแค่ไหน
เรารู้แค่ว่า ถึงเวลาก็ออกไปเลือกตั้ง เลือกผู้สม้ครที่เราคิดว่าชอบ ตรงใจ
และ 3 สมัยที่ผ่านมา  เราก็เลือกด้วยอารมณ์ ความรู้สึก  เลือกพรรค
ยิ่งครั้งล่าสุด เลือกด้วยความแตกแยก ความรักความเกลียดชังล้วนๆ

ไม่แปลกใจที่ทำไมคนกรุงเทพถึงได้เกลียดเพื่อไทย รักประชาธิปัตย์เป็นส่วนใหญ่
เพราะเลือกแล้ว เราไม่เคยสนใจเลย ว่าคนที่เราเลือกไป ทำอะไรบ้าง

ลองนึกย้อนดูถึงผลงานของผู้ว่าที่ผ่านๆมาแต่ละคน  ใครนึกอะไรได้บ้าง

ทำไมเรายังต้องทนขับรถบนถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ
ทำไมเรายังรับได้กับการที่เห็นท่อระบายน้ำกับถนนเป็นคนละระดับ
ทำไมเรายังยินดีที่จะมองป้ายโฆษณาที่เกลื่อนเมือง
ทำไมเรายังยอมรับกับน้ำในลำคลองกลางกรุงที่เน่าเหม็นและสกปรก
ทำไมเรายังพอใจที่ได้เห็นเสาไฟเห็นสายไฟสายโทรศัพท์ที่ระโยงระยาง ที่ทำให้นักท่องเที่ยวทึ่ง

คนตจว.อาจจะเลือกส.ส.ที่จ่ายเงินซื้อเสียง
อาจจะเลือกส.ส.คนที่มาช่วยงานบวชงานศพงานแต่ง
อาจจะเลือกส.ส.คนที่ทำประโยชน์ให้กับท้องถิ่น

แต่คนต่างจังหวัดก็ได้เลือกคนที่ทำประโยชน์ให้กับเค้าจริงๆ
แล้วคนกรุงเทพฯเลือกใคร???  ทำประโยชน์อะไรให้คนกรุงเทพฯ

เป็นเวลากี่เดือนที่ตอนนี้กรุงเทพฯไม่มีผู้ว่าราชการ  ต่างกับตอนที่มีตรงไหน
นี่หมายความว่า  กรุงเทพฯจะมีผู้ว่าหรือไม่มีก็ไม่ได้ต่างกันใช่หรือเปล่า

บางทีคำพูดที่ไปด่าคนเสื้อแดงต่างจังหวัดว่า "ประชาธิปไตยไม่ใช่แค่การไปเลือกตั้ง"
คนกรุงเทพฯน่าจะต้องเอากลับมาถามตัวเองมากกว่า.