เมื่อเราอ้างว่าต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ก็ต้องทำใจกับผลการเลือกตั้งให้ได้

กระทู้สนทนา
มันผ่านไปแล้ว แพ้ไปแล้ว ป่วยการจะไปอ้างหรือโทษสิ่งใด
เมื่อการเลือกตั้งดำเนินไปอย่างเที่ยงธรรมไม่มีตุกติก
ผลออกมาอย่างไรก็ต้องยอมรับมันเพราะมันคือประชามติ


ก็พอเข้าใจครับว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ต่างก็ทุ่มกันสุดตัวทั้งผู้สมัครและกองเชียร์
ผมว่าให้ความสำคัญกับมันเกินกว่าแค่เลือกตั้งตำแหน่งผู้ว่าฯไปซะด้วยซ้ำ
เหตุผลสำคัญสำหรับหลายท่านนั้นอาจจะเป็นเพียงแค่เรื่องแพ้ชนะ และการเสียหน้า
ไม่ได้ใส่ใจกับผลที่จะได้จากการเลือกของตัวเองแม้แต่น้อย
เลือกที่จะใช้สิทธิด้วยเหตุผลของอารมณ์เป็นหลัก
ภาพสะท้อนจากแต่ละกระทู้ที่ตั้งกันก็พอมองเห็นแล้วว่า
ยังทำใจกันยังไม่ได้
ยิ่งมาเจอกับปฏิกิริยาแบบเด็กๆของกองเชียร์ฝ่ายชนะที่มาเย้ยหยัน ก็คงทำใจกันลำบากจริงๆ

แต่ในเมื่อเราต่างประกาศตัวว่าจะต่อสู้และยึดมั่นกับระบอบประชาธิปไตย
เราก็ต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับกับเสียงที่แตกต่างจากเราด้วย
จริงๆแล้วผลการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ได้ตัดสินว่าใครดีใครชั่ว
ใครโง่หรือฉลาดกว่ากัน
เพราะมันก็แค่เลือกคนมาทำงาน
ยิ่งเป็นการเลือกจากอารมณ์ชอบและเกลียดด้วยแล้ว
คงจะเอามาวัดเป็นมาตรฐาณว่าดีกว่า เก่งกว่า ก็คงจะไม่ได้
เพราะจริงๆแล้วไม่ได้ดูกันที่ความสามารถ หรือความเหมาะสมกันเลย
เลือกเพราะเกลียด เพราะรักกันแค่นั้นเอง

หากวิเคราะห์ดูกันดีๆแล้ว เหตุผลที่ทำให้ประชาธิปัตย์ชนะ นั้น
น่าจะเป็นไปได้สองกรณีคือ
คนกรุงเทพฯส่วนใหญ่ประทับใจกับการทำงานของคุณชายแกมากจึงอยากจะให้โอกาสอีกครั้งหนึ่ง
กับคนกรุงเทพส่วนใหญ่เชื่อและอินไปกับเนื้อหาการหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ คือยังเชื่อว่าคนเสื้อแดง"เผาบ้าน เผาเมือง "
และเชื่อว่าถ้าไม่เลือกประชาธิปัตย์ จะต้องเสียบ้านเสียเมืองกันอย่างที่โหมหาเสียง


ซึ่งทั้งสองกรณีนั้นทางฝ่ายที่แพ้ก็ควรนำไปศึกษาและแก้ไข
มันน่าจะดีไปกว่าการแสดงอารมณ์หงุดหงิด ไปอ้างไปติกันเรื่อยเปื่อย จนอาจจะทำให้เหมือนเป็นขี้แพ้ชวนตีไปได้ง่ายๆ
ยอมรับอย่างสุภาพบุรุษ(และสุภาพสตรี)
อย่างหากเป็นเพราะผลงานการทำงานของคุณชายแกดีเราก็ต้องตามไปดูว่าดีจริงหรือไม่ ไม่พอใจตรงไหนก็ติก็ตามตรวจสอบกันได้ เพราะ มีหน้าที่รับใช้เราด้วยเช่นกันแม้ว่าเราจะไม่ได้สนับสนุนก็ตาม
หากเราเห็นข้อเสียหรืออะไรไม่ถูกต้องก็ยังมีการตรวจสอบกันได้ไม่ใช่ว่าจบกันแค่เลือกตั้งเสียเมื่อไหร่
หรือหากเป็นด้วยเหตุผลว่าคนกรุงเทพส่วนใหญ่ยังเชื่อตามคำกล่าวอ้าง"เรื่องเผาบ้าน เผาเมือง"
เรายิ่งต้องตามติดหาความจริงมาแก้ต่างให้ได้ว่าใครเป็นใครทำอะไรบ้าง
เมื่อมันเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้พ่ายแพ้ก็ต้องติดตามทำให้มันชัดเจนให้ได้ ไม่ว่ามันคนนั้นจะเป็นใครฝ่ายไหน
ยิ่งใหญ่แค่ไหน ก็ต้องลากคอมันมาลงโทษ เคลียร์เรื่องเผาบ้านเผาเมืองให้จบให้ได้
ไม่อย่างนั้นก็จะคาใจให้ใช้เป็นคำกล่าวอ้างกันได้อยู่ร่ำไปไม่จบสิ้น



ความจริงทางฝ่ายเพื่อไทยและเสื้อแดงนั้น ความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ก็ไม่ได้เสียอะไร นักหนา(นอกจากอารมณ์)
ผมยังว่าหากจะคิดบวกข้อดีมันก็มีอยู่นะ เช่น
1.คือ อย่างน้อยคุณอภิสิทธิแกก็ไม่ต้องลาออกได้อยู่เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ต่อไปอีก ก็คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงซึ่งผมว่าน่าจะเป็นผลดีกับรัฐบาลนะ
2. คุณชายแกก็ได้อยู่สานต่องานทั้งหลายที่แกยังทำไม่เสร็จซะ
เพราะเที่ยวนี้จะมาทำขี้เกียจไม่ทำการบ้านคงไม่ได้แล้ว จะทำจริงตามที่หาเสียงไว้หรือไม่เราก็ตามตรวจสอบกันได้
ทำได้จริงเราก็ได้ประโยชน์ด้วยนี่นา
3.นี่สำคัญ ทางกองเชียร์และเพื่อนร่วมบอร์ดหลายคนก็ยังคงได้อยู่ต่อล้อต่อเถียงกันต่อไป
ยังนึกห่วงอยู่เลยว่าเกิดปชป.แพ้ขึ้นมา คงหายไปหลายคน เสื้อแดงเหงากันแย่เลย
บอร์ดการเมืองจะงดงาม มันต้องมีความแตกต่าง จริงมั๊ย?

ทำเป็นเล่นไปนาเกิดเทวดาคุ้มภัยไม่ขลังดังเก่า คดีความทำคุณชายแกต้องหลุดจากตำแหน่งขึ้นมา ก็คงได้กระดี๊กระด๊า ท้าแข่งกัน อีกรอบก่อนเวลา ก็ได้นา ไม่ต้องรอกันนาน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่