เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 25 ส.ค. ที่ชั้น 38 อาคารแกรมมี่เพสส อดีตนางแบบชื่อดัง ‘ยุ้ย’รจนา เพชรกัณหา และ ‘มาดามเกด’พิมพ์ลดา ยอดไชยเกียรติ ผู้จัดการส่วนตัว ได้เปิดใจแถลงข่าวถึงข่าวลือต่างๆ ที่ผ่านมา ทั้งเรื่องที่โดนผู้จัดการส่วนตัวมาดามเกดนำตัวไปปล่อยทิ้งที่โรงพยาบาล และอัพเดตถึงอาการป่วยตอนนี้

โดยนางแบบสาวกล่าวก่อนว่า “ตอนนี้สบายดีแล้ว แต่คุณหมอบอกว่าต้องทานยา 3 เวลาตลอดชีวิต ห้ามสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ หรือแม้แต่น้ำอัดลม ครั้งนี้ยุ้ยเข้าร.พ.เป็นครั้งที่ 4 แล้ว
ครั้งนี้เข้าไปรักษาตัวอยู่ 2 เดือน ที่ต้องเข้าไปรักษาตัวอีกในครั้งนี้เป็นเพราะยุ้ยไม่ได้ทานยา มีสูบบุหรี่และมีดื่มบ้าง หลังจากออกจากร.พ.มาครั้งนี้ก็ไม่แตะพวกนี้แล้ว เข็ดแล้ว สัญญาว่าจะไม่ยุ่งกับสุราและบุหรี่อีก ยุ้ยหวังว่าแฟนๆ และผู้ใหญ่จะให้โอกาสอีกครั้ง ตอนนี้เป็น ‘รจนา’ คนใหม่ไร้สารเสพติด และตอนนี้ก็มีธุรกิจของตัวเองคือมีหมวกเป็นแบรนด์ของตัวเองออกมาขาย โดยมาดามเกดเป็นคนออกทุนให้”
ต่อข้อถามว่าตอนนี้พักอยู่กับใคร อดีตนางแบบชื่อดังเผยว่า “พักอยู่บ้านคุณมาดามเกด เพราะว่ายุ้ยไม่มีบ้าน”
มาดามเกด กล่าวต่อว่า “ตอนนี้เขาอยู่กับเรา ยุ้ยไม่มีญาติ พี่ชายเขาก็มีครอบครัวที่ต้องดูแล ส่วนแม่ก็บวชชีอยู่ที่วัด ซึ่งตอนนี้ก็ป่วยหนัก อีกอย่างเราเป็นคนส่งยุ้ยไปเพื่อบำบัด เมื่อหายเราก็ต้องไปรับเขากลับบ้านมาดูแล อีกอย่างโรคที่ยุ้ยเป็นต้องอยู่กับคนที่รู้จักโรคนี้พอสมควร ตนได้คุยกับคุณหมอถึงโรคที่เขาเป็นว่าต้องดูแลอย่างไร ทำอย่างไรบ้างเมื่อเขามีอาการ ซึ่งคุณหมอบอกตอนนี้ยุ้ยต้องทานยา 3 เวลา ต้องนอนเร็วตื่นเร็ว ต้องออกกำลังกาย ห้ามใช้โทรศัพท์ ห้ามอยู่ในสังคมที่ทำให้คิดมาก และต้องไปเช็คสุขภาพที่ร.พ.ทุกเดือน”
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าก่อนหน้านี้มีข่าวว่า มาดามเกด พายุ้ยไปทิ้งที่ร.พ.สมเด็จเจ้าพระยา มาดามเกด ตอบว่า ถ้าทิ้งคงไม่ไปรับมาอยู่ด้วย ตอนนั้นที่ต้องพาเขาไปร.พ.เพราะยุ้ยมีพฤติกรรมก้าวร้าว ตาขวาง แล้วชอบหนีออกจากบ้านไปมั่วสุม มีแอบสูบบุหรี่ และดื่มบ้าง ได้คุยเรื่องนี้กับพี่ชายยุ้ย เขาบอกว่าอาการแบบนี้คือยุ้ยขาดยา ตนจึงพาเขาไปส่งร.พ. และตลอดที่เขาอยู่ร.พ. ตนก็ไปคุยกับคุณหมอทุกอาทิตย์ถึงอาการของยุ้ย ยังไงก็ไม่ทิ้ง ตนยังมีความเมตตาให้อยู่ กับธุรกิจหมวกตนเป็นคนลงทุนให้ กำไรยุ้ยเป็นคนเก็บทั้งหมด เพื่อจะได้นำไปใช้จ่าย
ถามต่อถึงเรื่องที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าเงินยุ้ยหายไป 3 หมื่นบาท ตอนนี้เจอหรือยัง นางแบบสาวตอบว่า ตนเป็นคนถอนออกมาจากธนาคารเอง และตอนที่ต้องเข้าไปรักษาตัวใน ร.พ.ครั้งล่าสุดได้ฝากพี่ชายให้เก็บไว้ ซึ่งตอนนี้ก็อยู่ครบทุกบาท
ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าทางต้นสังกัดเก่าจะออกค่ารักษาให้เป็นจำนวนเงินเกือบล้านบาท มาดามเกด ชี้แจงว่า
“ก่อนหน้านี้มีฝรั่งคนหนึ่งพูดไทยไม่ชัด โทร.มาหาตนบอกว่าจะพายุ้ยไปรักษาที่ต่างประเทศ เขาเป็นคนของต้นสังกัดเก่าของยุ้ยตอนที่อยู่ต่างประเทศ ซึ่งพอเราคุยกันและขอรายละเอียดเอกสารและนัดเจอ เขาก็ไม่เคยมาตามนัด จนครั้งล่าสุดที่คุยบอกว่าจะออกเงินรักษาให้เป็นจำนวนเกือบล้านบาท เราก็นัดเจออีก บอกว่าให้เขามาเจอยุ้ยด้วย เขาก็ไม่มาตามนัด
และตอนที่ยุ้ยรักษาตัวอยู่ที่ร.พ. เขาก็พยายามจะซักประวัติของยุ้ยโดยถามกับทางร.พ. แต่ยุ้ยเป็นคนไข้เคสพิเศษ เขาจึงไม่ได้ให้รายละเอียดอะไรไป ดังนั้น ข่าวที่บอกว่าเราอมเงินของยุ้ยนั้นไม่เป็นเรื่องจริง และบอกว่าจะหาประโยชน์จากยุ้ยก็ไม่ใช่เรื่องจริง เพราะยุ้ยเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ เรื่องของค่ารักษายุ้ยได้สิทธิพิเศษในการรักษาอยู่แล้วเพราะหลังจากนี้เขาจะได้เป็นพรีเซ็นเตอร์เกี่ยวกับโรคนี้ให้กับทางร.พ.สมเด็จเจ้าพระยา”
กับเรื่องงานของยุ้ย วางแผนไว้อย่างไรบ้าง มาดามเกดตอบว่า
“ถ้าเป็นงานเดินแบบถ่ายแบบน่าจะได้ แต่ถ้าเป็นละครที่ต้องจำบทยาวๆ คงไม่ไหว เพราะยุ้ยคงจำไม่ได้ และถ้ายุ้ยดีขึ้นกว่านี้เราจะเปิดโรงเรียนสอนเดินแบบ ด้วยศักยภาพและประสบการณ์ที่เขามี น่าจะทำได้และมีคนถามเข้ามากันเยอะ รอเวลาให้เขาโอเคกว่านี้ก็จะเปิดให้เขา เพื่อเขาจะได้มีรายได้ดูแลตัวเองได้”
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าผู้จัดการส่วนตัวของยุ้ยคนก่อนได้ติดต่อมาบ้างหรือเปล่า
ยุ้ย ตอบว่า “ทราบเหมือนกันว่าเขาพยายามจะติดต่อมา แต่ยุ้ยไม่อยากจะอคติกับใครอีก ใครทำอะไรก็รู้เอง ว่าอะไรควรไม่ควรทำ”
ที่มา: ข่าวสดออนไลน์
′ยุ้ย รจนา′ ขอเป็นคนใหม่ ไร้ยาเสพติด-ผู้จัดการฯโต้อมเงิน แจงผู้จัดการฝรั่ง ไม่เคยให้เงินล้านตามข่าว
โดยนางแบบสาวกล่าวก่อนว่า “ตอนนี้สบายดีแล้ว แต่คุณหมอบอกว่าต้องทานยา 3 เวลาตลอดชีวิต ห้ามสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ หรือแม้แต่น้ำอัดลม ครั้งนี้ยุ้ยเข้าร.พ.เป็นครั้งที่ 4 แล้ว
ครั้งนี้เข้าไปรักษาตัวอยู่ 2 เดือน ที่ต้องเข้าไปรักษาตัวอีกในครั้งนี้เป็นเพราะยุ้ยไม่ได้ทานยา มีสูบบุหรี่และมีดื่มบ้าง หลังจากออกจากร.พ.มาครั้งนี้ก็ไม่แตะพวกนี้แล้ว เข็ดแล้ว สัญญาว่าจะไม่ยุ่งกับสุราและบุหรี่อีก ยุ้ยหวังว่าแฟนๆ และผู้ใหญ่จะให้โอกาสอีกครั้ง ตอนนี้เป็น ‘รจนา’ คนใหม่ไร้สารเสพติด และตอนนี้ก็มีธุรกิจของตัวเองคือมีหมวกเป็นแบรนด์ของตัวเองออกมาขาย โดยมาดามเกดเป็นคนออกทุนให้”
ต่อข้อถามว่าตอนนี้พักอยู่กับใคร อดีตนางแบบชื่อดังเผยว่า “พักอยู่บ้านคุณมาดามเกด เพราะว่ายุ้ยไม่มีบ้าน”
มาดามเกด กล่าวต่อว่า “ตอนนี้เขาอยู่กับเรา ยุ้ยไม่มีญาติ พี่ชายเขาก็มีครอบครัวที่ต้องดูแล ส่วนแม่ก็บวชชีอยู่ที่วัด ซึ่งตอนนี้ก็ป่วยหนัก อีกอย่างเราเป็นคนส่งยุ้ยไปเพื่อบำบัด เมื่อหายเราก็ต้องไปรับเขากลับบ้านมาดูแล อีกอย่างโรคที่ยุ้ยเป็นต้องอยู่กับคนที่รู้จักโรคนี้พอสมควร ตนได้คุยกับคุณหมอถึงโรคที่เขาเป็นว่าต้องดูแลอย่างไร ทำอย่างไรบ้างเมื่อเขามีอาการ ซึ่งคุณหมอบอกตอนนี้ยุ้ยต้องทานยา 3 เวลา ต้องนอนเร็วตื่นเร็ว ต้องออกกำลังกาย ห้ามใช้โทรศัพท์ ห้ามอยู่ในสังคมที่ทำให้คิดมาก และต้องไปเช็คสุขภาพที่ร.พ.ทุกเดือน”
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าก่อนหน้านี้มีข่าวว่า มาดามเกด พายุ้ยไปทิ้งที่ร.พ.สมเด็จเจ้าพระยา มาดามเกด ตอบว่า ถ้าทิ้งคงไม่ไปรับมาอยู่ด้วย ตอนนั้นที่ต้องพาเขาไปร.พ.เพราะยุ้ยมีพฤติกรรมก้าวร้าว ตาขวาง แล้วชอบหนีออกจากบ้านไปมั่วสุม มีแอบสูบบุหรี่ และดื่มบ้าง ได้คุยเรื่องนี้กับพี่ชายยุ้ย เขาบอกว่าอาการแบบนี้คือยุ้ยขาดยา ตนจึงพาเขาไปส่งร.พ. และตลอดที่เขาอยู่ร.พ. ตนก็ไปคุยกับคุณหมอทุกอาทิตย์ถึงอาการของยุ้ย ยังไงก็ไม่ทิ้ง ตนยังมีความเมตตาให้อยู่ กับธุรกิจหมวกตนเป็นคนลงทุนให้ กำไรยุ้ยเป็นคนเก็บทั้งหมด เพื่อจะได้นำไปใช้จ่าย
ถามต่อถึงเรื่องที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าเงินยุ้ยหายไป 3 หมื่นบาท ตอนนี้เจอหรือยัง นางแบบสาวตอบว่า ตนเป็นคนถอนออกมาจากธนาคารเอง และตอนที่ต้องเข้าไปรักษาตัวใน ร.พ.ครั้งล่าสุดได้ฝากพี่ชายให้เก็บไว้ ซึ่งตอนนี้ก็อยู่ครบทุกบาท
ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าทางต้นสังกัดเก่าจะออกค่ารักษาให้เป็นจำนวนเงินเกือบล้านบาท มาดามเกด ชี้แจงว่า
“ก่อนหน้านี้มีฝรั่งคนหนึ่งพูดไทยไม่ชัด โทร.มาหาตนบอกว่าจะพายุ้ยไปรักษาที่ต่างประเทศ เขาเป็นคนของต้นสังกัดเก่าของยุ้ยตอนที่อยู่ต่างประเทศ ซึ่งพอเราคุยกันและขอรายละเอียดเอกสารและนัดเจอ เขาก็ไม่เคยมาตามนัด จนครั้งล่าสุดที่คุยบอกว่าจะออกเงินรักษาให้เป็นจำนวนเกือบล้านบาท เราก็นัดเจออีก บอกว่าให้เขามาเจอยุ้ยด้วย เขาก็ไม่มาตามนัด
และตอนที่ยุ้ยรักษาตัวอยู่ที่ร.พ. เขาก็พยายามจะซักประวัติของยุ้ยโดยถามกับทางร.พ. แต่ยุ้ยเป็นคนไข้เคสพิเศษ เขาจึงไม่ได้ให้รายละเอียดอะไรไป ดังนั้น ข่าวที่บอกว่าเราอมเงินของยุ้ยนั้นไม่เป็นเรื่องจริง และบอกว่าจะหาประโยชน์จากยุ้ยก็ไม่ใช่เรื่องจริง เพราะยุ้ยเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ เรื่องของค่ารักษายุ้ยได้สิทธิพิเศษในการรักษาอยู่แล้วเพราะหลังจากนี้เขาจะได้เป็นพรีเซ็นเตอร์เกี่ยวกับโรคนี้ให้กับทางร.พ.สมเด็จเจ้าพระยา”
กับเรื่องงานของยุ้ย วางแผนไว้อย่างไรบ้าง มาดามเกดตอบว่า
“ถ้าเป็นงานเดินแบบถ่ายแบบน่าจะได้ แต่ถ้าเป็นละครที่ต้องจำบทยาวๆ คงไม่ไหว เพราะยุ้ยคงจำไม่ได้ และถ้ายุ้ยดีขึ้นกว่านี้เราจะเปิดโรงเรียนสอนเดินแบบ ด้วยศักยภาพและประสบการณ์ที่เขามี น่าจะทำได้และมีคนถามเข้ามากันเยอะ รอเวลาให้เขาโอเคกว่านี้ก็จะเปิดให้เขา เพื่อเขาจะได้มีรายได้ดูแลตัวเองได้”
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าผู้จัดการส่วนตัวของยุ้ยคนก่อนได้ติดต่อมาบ้างหรือเปล่า
ยุ้ย ตอบว่า “ทราบเหมือนกันว่าเขาพยายามจะติดต่อมา แต่ยุ้ยไม่อยากจะอคติกับใครอีก ใครทำอะไรก็รู้เอง ว่าอะไรควรไม่ควรทำ”
ที่มา: ข่าวสดออนไลน์