ผมทำงานครอบครัวมาตลอด 8 ปี ไม่เคยทำงานบริษัทเลย แต่เนื่องจากธุรกิจครอบครัวดูท่าจะไปไม่รอด ก่อนที่เราจะขาดทุนไปมากกว่านี้ พ่อแม่ผมเลยตัดสินใจหยุด ผมอยู่ว่างๆมาปีหนึ่ง แต่เนื่องจากเป็นคน ไม่ค่อยใช้จ่าย นอกจากเรื่องกิน (ออกแนวขี้เหนียวครับ) และเป็นคนไม่ชอบอยู่ว่างๆ รู้สึกไม่มีความหมาย ไม่มีคุณค่า พอมีแฟนก็อยากแต่งงานมีลูก ก็เริ่มคิด เราต้องทำอะไรสักอย่างแหละ (แต่เนื่องจากเป็นคนไม่กล้าเสี่ยง) เลยตัดสินใจมาสมัครงานบริษัท (เพราะคิดว่าเงินเดือนประจำน่าจะตรงกับผมมากกว่า) เนื่องจากผมไม่มีประสพการณ์ในการทำงานบริษัทมาก่อน เลยได้เงินเดือนแค่ 17,000 บาท ถามว่าพอใช้ไหม พอใช้นะครับ เหลือด้วย เนื่องจากเป็นคนทานง่าย กินอะไรก็ได้ และความตั้งใจผมคือ จะอยู่โดยใช้เงินเดือนที่เรามีเนี่ยแหละ ไม่ใช่เงินเก็บ
ผมเริ่มคิดว่า เงินเดือนมันน้อยไปถึงแม้เราจะอยู่ได้โดยใช้แค่เงิน และงานมันก็ง่ายมาก พูดตรงๆ คือผมแทบไม่ได้ใช้ความรู้อะไรเลย มันเป็นงานที่ใครทำก็ได้ จ้างใครก็ได้ ผมว่าทุกๆคนสามารถทำได้ มันคือความชำนาญ กับความจำมากกว่า เป็นแรงงาน ไม่จำเป็นต้องคิดอะไร ผมไม่ได้ดูถูกงานนะ แต่มันเป็นแบบนั้นจริงๆ
ผมเริ่มคิดว่าถึงแม้เงินเดือนเราจะน้อย และที่ผมสามารถมีเงินเหลือได้เนี่ย นั้นเพราะผมไม่มีหนี้ (พ่อแม่มีเงินส่วนตัวของเขาอยู่แล้ว ทำให้ผมไม่ต้องให้เงินพ่อแม่) แต่ผมก็ไม่เคยขอเขาเลยนะ แต่ที่มีเงินเหลือเพราะ ค่าภาษีสังคมไม่มีถึงมีก็ต่ำมาก (ลูกน้องผมเงินเดือนไม่ถึงหมื่น) คือการซื้อของกินไปให้ลูกน้อง และงานทำงาน 6 วันต่ออาทิตย์ มันทำให้ผมไม่มีเวลาใช้เงินมากกว่า และพอวันหยุดผมก็มักจะพักผ่อนอยู่บ้าน พาแฟนไปดูหนังบ้าง แต่ก็จะไปดูสกาลาเพราะถูก หรือไม่ก็ไปดูตามโรงทั่วไป แต่ใช้โปรที่เขามีให้ใช้ มันก็ทำให้เราประหยัดไปได้เยอะ
คือผมว่าเพราะผมไม่มีเวลาใช้เงินมากกว่า บวกกับผมเป็นคนไม่ได้อยากอะไรเท่าไร นานๆๆๆๆๆ จะซื้อของที (ซื้อก็ซื้อผ่อน) เป็นทั้งแต่ก่อน และปัจจุบันนี้ ล่าสุดผมมีเงินติดตัว 3000 บาท ผมพึ่งจะกด ATM ครั้งแรกเพื่อเอาเงินเดือนออกมาใช้ตอนวันที่ 25/8/2014 ผมมีรถนะ แต่ไม่ใช้ ใช้ก็เติมน้ำมันแค่ 500 บาท (เติมผ่านบัตรนะ) อยู่ได้สองอาทิตย์ ผมนั่งรถเมล์ไปทำงาน ไม่ก็นั่ง BTS ซึ่งผมก็ซื้อบัตรเหมารายเดือน ก็ทำให้ไม่แพง ถ้าเลิกงานดึก (เลิกดึกคือไม่มี bts ให้กลับแล้ว) ก็กลับ taxi แต่ก็มีค่ารถให้ 40 บาท แต่ผมต้องจ่ายเพิ่มประมาณ 30 บาทไม่เกิน (ถ้าเกินแปลว่า taxi โกง) ซึ่งก็โอเค
คือเหมือนผมยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายผมอ่ะ คือมันมีเงินใช้ในชีวิตประจำบ้าง เงินที่เหลือถึงแม้ไม่เยอะ แต่ไม่สามารถเก็บไปแต่งงานมีลูกได้ เลยคิดว่าต้องหางานใหม่
เอาจริงๆ ผมพิมพ์เนี่ยประเด็นยังหาไม่เจอเลยเหอะ แต่อยากบ่นให้ฟัง
มันทำให้ผมคิดว่า สรุปคือการที่เราทำงานประจำแล้วมีเงินเนี่ย มันคือการที่เราไม่มีเวลาใช้เงินเหรอ และยิ่งเป็นคนขี้เหนียวอยู่แล้วด้วย มันเลยดูพออยู่ได้ คือถ้าผมโสดผมก็คงเฉยๆนะ แต่เนื่องจากมีแฟน ผมไม่ต้องการให้เขามาลำบาก
แฟนก็เป็นคนทำงานหนัก เวลาไม่ตรงกัน พอเป็นวันหยุดเนี่ย ต่อให้ตรงกันยิ่งไม่ต้องคุยเรื่องไปต่างจังหวัดเลย ไม่มีเวลาเหมือนกัน แฟนผมหนักกว่าผมอีก เขาทำงาน 6 วันต่ออาทิตย์เหมือนกัน ถ้าเป็นมีวันหยุด ก็อาจจะต้องทำงานเหมือนกัน วันหยุดถ้ามีลูกค้ามาติดต่อ ยังจะต้องไปบริษัทอีก บางอาทิตย์เขาไม่มีวันหยุดด้วยซ้ำไป ทำให้การใช้เงินมันยิ่งน้อยไปใหญ่ และมันใช่เหรอ การใช้ชีวิตแบบนี้ หรือว่ามันเป็นแบบนี้โดยปกติ ผมไม่ทราบจริงๆ
ขอบคุณครับ
ปล. ผมมีรายได้จาการขายของออน์ไลน์อีกประมาณเดือนละ 5,000-8,000 บาท เฉลี่ยประมาณนี้
ผมพึ่งเคยทำงานประจำ เป็นมนุษย์เงินเดือน แต่ผมรู้สึกแปลกๆ ไม่รู้ว่าคนอื่นๆคิดเหมือนผมไหม ?
ผมเริ่มคิดว่า เงินเดือนมันน้อยไปถึงแม้เราจะอยู่ได้โดยใช้แค่เงิน และงานมันก็ง่ายมาก พูดตรงๆ คือผมแทบไม่ได้ใช้ความรู้อะไรเลย มันเป็นงานที่ใครทำก็ได้ จ้างใครก็ได้ ผมว่าทุกๆคนสามารถทำได้ มันคือความชำนาญ กับความจำมากกว่า เป็นแรงงาน ไม่จำเป็นต้องคิดอะไร ผมไม่ได้ดูถูกงานนะ แต่มันเป็นแบบนั้นจริงๆ
ผมเริ่มคิดว่าถึงแม้เงินเดือนเราจะน้อย และที่ผมสามารถมีเงินเหลือได้เนี่ย นั้นเพราะผมไม่มีหนี้ (พ่อแม่มีเงินส่วนตัวของเขาอยู่แล้ว ทำให้ผมไม่ต้องให้เงินพ่อแม่) แต่ผมก็ไม่เคยขอเขาเลยนะ แต่ที่มีเงินเหลือเพราะ ค่าภาษีสังคมไม่มีถึงมีก็ต่ำมาก (ลูกน้องผมเงินเดือนไม่ถึงหมื่น) คือการซื้อของกินไปให้ลูกน้อง และงานทำงาน 6 วันต่ออาทิตย์ มันทำให้ผมไม่มีเวลาใช้เงินมากกว่า และพอวันหยุดผมก็มักจะพักผ่อนอยู่บ้าน พาแฟนไปดูหนังบ้าง แต่ก็จะไปดูสกาลาเพราะถูก หรือไม่ก็ไปดูตามโรงทั่วไป แต่ใช้โปรที่เขามีให้ใช้ มันก็ทำให้เราประหยัดไปได้เยอะ
คือผมว่าเพราะผมไม่มีเวลาใช้เงินมากกว่า บวกกับผมเป็นคนไม่ได้อยากอะไรเท่าไร นานๆๆๆๆๆ จะซื้อของที (ซื้อก็ซื้อผ่อน) เป็นทั้งแต่ก่อน และปัจจุบันนี้ ล่าสุดผมมีเงินติดตัว 3000 บาท ผมพึ่งจะกด ATM ครั้งแรกเพื่อเอาเงินเดือนออกมาใช้ตอนวันที่ 25/8/2014 ผมมีรถนะ แต่ไม่ใช้ ใช้ก็เติมน้ำมันแค่ 500 บาท (เติมผ่านบัตรนะ) อยู่ได้สองอาทิตย์ ผมนั่งรถเมล์ไปทำงาน ไม่ก็นั่ง BTS ซึ่งผมก็ซื้อบัตรเหมารายเดือน ก็ทำให้ไม่แพง ถ้าเลิกงานดึก (เลิกดึกคือไม่มี bts ให้กลับแล้ว) ก็กลับ taxi แต่ก็มีค่ารถให้ 40 บาท แต่ผมต้องจ่ายเพิ่มประมาณ 30 บาทไม่เกิน (ถ้าเกินแปลว่า taxi โกง) ซึ่งก็โอเค
คือเหมือนผมยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายผมอ่ะ คือมันมีเงินใช้ในชีวิตประจำบ้าง เงินที่เหลือถึงแม้ไม่เยอะ แต่ไม่สามารถเก็บไปแต่งงานมีลูกได้ เลยคิดว่าต้องหางานใหม่
เอาจริงๆ ผมพิมพ์เนี่ยประเด็นยังหาไม่เจอเลยเหอะ แต่อยากบ่นให้ฟัง
มันทำให้ผมคิดว่า สรุปคือการที่เราทำงานประจำแล้วมีเงินเนี่ย มันคือการที่เราไม่มีเวลาใช้เงินเหรอ และยิ่งเป็นคนขี้เหนียวอยู่แล้วด้วย มันเลยดูพออยู่ได้ คือถ้าผมโสดผมก็คงเฉยๆนะ แต่เนื่องจากมีแฟน ผมไม่ต้องการให้เขามาลำบาก
แฟนก็เป็นคนทำงานหนัก เวลาไม่ตรงกัน พอเป็นวันหยุดเนี่ย ต่อให้ตรงกันยิ่งไม่ต้องคุยเรื่องไปต่างจังหวัดเลย ไม่มีเวลาเหมือนกัน แฟนผมหนักกว่าผมอีก เขาทำงาน 6 วันต่ออาทิตย์เหมือนกัน ถ้าเป็นมีวันหยุด ก็อาจจะต้องทำงานเหมือนกัน วันหยุดถ้ามีลูกค้ามาติดต่อ ยังจะต้องไปบริษัทอีก บางอาทิตย์เขาไม่มีวันหยุดด้วยซ้ำไป ทำให้การใช้เงินมันยิ่งน้อยไปใหญ่ และมันใช่เหรอ การใช้ชีวิตแบบนี้ หรือว่ามันเป็นแบบนี้โดยปกติ ผมไม่ทราบจริงๆ
ขอบคุณครับ
ปล. ผมมีรายได้จาการขายของออน์ไลน์อีกประมาณเดือนละ 5,000-8,000 บาท เฉลี่ยประมาณนี้