พญามารอยู่ไหนในพระไตรปิฏก

หลังจาดเหตุการณ์ก่อน ตรัสรู้ ไม่เอาคำบอกเล่าของครูบาอาจารย์นะครับ เพราะเคยอ่านบ้างแล้ว

แล้วพญามารจะตกนรกรึเปล่าครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
พญามารอยู่ไหนในพระไตรปิฏก
หลังจาดเหตุการณ์ก่อน ตรัสรู้
แล้วพญามารจะตกนรกรึเปล่าครับ


จากกระทู้เก่าครับ  ท่านผู้ทรงพระไตรปิฏก คุณฐานาฐานะ ได้รวบรวมไว้ดังนี้

อยากรู้เรื่อง มาร( เทวปุตตมาร) หน่อยครับ
http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/Y3492430/Y3492430.html#11


3. วสวัตดีมาร หรือพญามาร เป็นคนเดียวกันกับท้าวปรนิมมิตวสวัตดี
ที่เป็นเจ้าครองสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตดีหรือเปล่าครับ?

          ในอรรถกถากล่าวเป็นนัยว่า

          ถามว่า  พญามารนั้น  ย่อมอยู่  ณ  ที่ไหน?
          ตอบว่า  ย่อมอยู่ในเทวโลกชั้นปริมมิตวสวัตตี.
          จริงอยู่  พญามารวสวัตตี  ครองราชย์อยู่ในเทวโลกนั้น.
          อาจารย์บางพวกกล่าวว่า  พญามารประทับครองความยิ่งใหญ่ในบริษัทของตน
ณ  ส่วนหนึ่ง (ของเทวโลกนั้น) ดุจราชโอรสของพระราชาผู้เรืองนามประทับอยู่ ณ
ปลายแดนราชอาณาจักร ฉะนั้น.

          4. เทพในปรนิมมิตวสวัตดี เป็นมารกันหมดหรือเปล่า?

          ตอบว่า เป็นบางส่วนเท่านั้น
          เทพในชั้นนี้ เป็นพระอริยบุคคลก็มี
          ในคราวที่ พระผู้มีพระภาคทรงแสดงธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ปฐมเทศนา
แก่พระปัญจวัคคีย์นั้น
          เมื่อทรงธรรมเทศนาจบลง เทวดาชั้นปรนิมมิตวสวดี ก็อนุโมทนาด้วย

          [๑๗] ครั้นพระผู้มีพระภาคทรงประกาศธรรมจักรให้เป็นไปแล้ว
          เหล่าภุมมเทวดาได้บันลือเสียงว่า
          นั่นพระธรรมจักรอันยอดเยี่ยม พระผู้มีพระภาคทรงประกาศให้เป็นไปแล้ว
ณ ป่าอิสิปตนะมฤคทายวัน เขตพระนครพาราณสี อันสมณะ พราหมณ์ เทวดา มาร พรหม
หรือใครๆ  ในโลก จะปฏิวัติไม่ได้.
          เทวดาชั้นจาตุมหาราช ได้ยินเสียงของพวกภุมมเทวดาแล้ว ก็บันลือเสียงต่อไป.
          เทวดาชั้นดาวดึงส์ ได้ยินเสียงของพวกเทวดาชั้นจาตุมหาราชแล้ว ก็บันลือเสียงต่อไป.
          เทวดาชั้นยามา ...
          เทวดาชั้นดุสิต ...
          เทวดาชั้นนิมมานรดี ...
          เทวดาชั้นปรนิมมิตวสวดี ...
          เทวดาที่นับเนื่องในหมู่พรหม ได้ยินเสียงของพวกเทวดาชั้นปรนิมมิตวสวดีแล้ว
ก็บันลือเสียงต่อไปว่า
          นั่นพระธรรมจักรอันยอดเยี่ยม พระผู้มีพระภาคทรงประกาศให้เป็นไปแล้ว
ณ ป่าอิสิปตนะมฤคทายวัน เขตพระนครพาราณสี อันสมณะ พราหมณ์ เทวดา มาร พรหม
หรือใครๆ  ในโลก จะปฏิวัติไม่ได้.

          ชั่วขณะการครู่หนึ่งนั้น เสียงกระฉ่อนขึ้นไปจนถึงพรหมโลก ด้วยประการฉะนี้แล.
          ทั้งหมื่นโลกธาตุนี้ได้หวั่นไหวสะเทือนสะท้าน ทั้งแสงสว่างอันยิ่งใหญ่หาประมาณมิได้                
ได้ปรากฏแล้วในโลก ล่วงเทวานุภาพของเทวดาทั้งหลาย.

          ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงเปล่งพระอุทานว่า
                    ท่านผู้เจริญ โกณฑัญญะ ได้รู้แล้วหนอ
                    ท่านผู้เจริญ โกณฑัญญะได้รู้แล้วหนอ
          เพราะเหตุนั้น คำว่า อัญญาโกณฑัญญะนี้ จึงได้เป็นชื่อของท่านพระโกณฑัญญะ
ด้วยประการฉะนี้.
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=4&A=355&Z=445#17

          2. แล้วทำไมมารจึง ยังไม่ตกนรกล่ะครับ?
          ...ผลบุญยังไม่หมดหรือ?
          แล้วถ้าผลบุญหมด จะได้รับวิบากกรรมถึงปานไหนครับ

          ตอบว่า ที่ยังไม่ตกนรก เพราะยังเสวย กุศลวิบากธรรมอยู่
          แล้วถ้าผลบุญหมด จะได้รับวิบากกรรม ตามสมควรแก่กรรม
และวาระของกรรมที่ทำไว้


          5. เทพชั้นอื่นๆ ที่มีมิจฉาทิฏฐิ..และคอยขัดขวางคนต่อกุศลธรรม
ถือว่าเป็นมารด้วยใช่ไหมครับ
          (ดูเหมือน มิจฉาทิฏฐิมีในชั้นพรหมด้วยหนิ แต่ไม่เคยได้ยินว่า มีพรหมที่เป็นมาร)
          แล้วเทพชั้นล่างๆ ตลอดจน ผี เปรต อสุรกาย ตลอดจนคนที่จงใจคอยขัดขวาง
กุศลธรรมถือว่าเป็น เทวปุตตมาร ไหมครับ?

          ตอบว่า ควรเข้าใจ ศัพท์ต่างๆ เหล่านี้ ก่อน คือ
          มาร เทวปุตตมาร มารธิดา เทพดาผู้นับเนื่องในหมู่มาร

          คำว่า มาร ในความหมายของ เทวปุตตมาร นั้น
          เทวปุตตมาร คือ เทวดาที่คอยขัดขวางผู้อื่น ในการกระทำกุศล
อันเป็นเหตุแห่งความเจริญ
          ทำไม มารถึงอยากขัดขวางผู้อื่น
          ตอบว่า เพราะกิเลสมารของ เทวปุตตมาร นั่นเอง

          การเข้าถึงความเป็นมาร หรือหมู่มาร หรือสหายของมาร 3 ลักษณะ
คือ ด้วยอำนาจตัณหา มานะ ทิฏฐิ
อรรถกถา ความว่า
          ปุถุชนได้เห็นก็ดี ได้ยินก็ดี  ซึ่งปชาบดีผู้มีผิวพรรณงาม มีอายุยืน
มีความสุขมาก  ย่อมใฝ่ฝันราชสมบัติด้วยอำนาจแห่งตัณหา
          ก็หรือว่า แม้ตั้งใจไว้เพื่อจะได้ในสิ่งที่ตนยังไม่ได้โดยนัยเป็นต้นว่า
ทำไฉนหนอ  เราพึงเข้าถึงความเป็นสหายแห่งปชาบดี  ชื่อว่า ย่อมสำคัญปชาบดี
ด้วยความสำคัญด้วยอำนาจแห่งตัณหา.
          แต่เมื่อปุถุชนถึงความเป็นปชาบดีแล้ว
          ยังมานะให้เกิดขึ้นว่า เราย่อมเป็นใหญ่ เป็นอธิบดีกว่าปชาทั้งหลาย
พึงทราบว่า ชื่อว่า ย่อมสำคัญปชาบดีด้วยความสำคัญด้วยอำนาจแห่งมานะ.
          แต่เมื่อปุถุชนสำคัญอยู่ว่า ปชาบดี  เที่ยง  ยั่งยืน หรือขาดสูญพินาศ
หรือว่า ไม่มีอำนาจ ไม่มีกำลัง ไม่มีความเพียร น้อมไปสู่ความประสบโชคดี โชคร้าย
ย่อมเสวยสุขทุกข์ในอภิชาติ  ๖  ชาตินั่นแล
          พึงทราบว่า ชื่อว่า ย่อมสำคัญปชาบดีด้วยความสำคัญด้วยอำนาจแห่งทิฏฐิ.
- - - - - -- - - --  -- - -- --- -

          [ความเห็นส่วนตัว โปรดใช้วิจารณญาณด้วย]
          เทพบุตรที่มีการกระทำแบบมาร เรียกว่า เทวปุตตมารก็ได้ หรือเทพดา
ผู้นับเนื่องในหมู่มาร ก็ได้
          เทพธิดาที่มีการกระทำแบบมาร เรียกว่า เทพดาผู้นับเนื่องในหมู่มาร
          สำหรับ มนุษย์ที่มีการกระทำแบบมาร เรียกว่า ไม่ควรเรียกว่า เทวปุตตมาร
เรียกว่า คนพาล หรือคนพาลยิ่งกว่าคนพาล
          แต่จะเรียกอะไรนั้น เป็นไปเพื่อสื่อความหมายแก่กัน และกันในเข้าใจ
ถึงเนื้อความ
          แต่ลักษณะของมารที่ควรทราบ คือ เทวปุตตมารขัดขวางผู้อื่นนั้น
เป็นเพราะกิเลสมารของเทวปุตตมาร นั่นเอง

          6. จากข้อความที่ขีดเส้นใต้
          --วสวัตดี, วสวัดดี ชื่อพระยามาร เป็นเทพในสวรรค์ชั้นสูงสุดแห่งระดับ
กามาวจร เป็นผู้คอยขัดขวางเหนี่ยวรั้งบุคคลไม่ให้ล่วงพ้นจากแดนกาม ซึ่งอยู่ใน
อำนาจครอบงำของตน--
          ช่วยอธิบายหน่อยครับ

          ตอบว่า แดนกาม คือ แดนหรือภูมิที่ยังยินดีในกามคุณ
          มาร เมื่อจะขัดขวางใครๆ ย่อมใช้กามคุณ นั่นแหละเป็นเครื่องมือ
          ศึกษาตัวอย่างการใช้กามคุณ เป็นเครื่องมือ จาก

          พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๗
          สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
          มารธีตุสูตรที่ ๕
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=15&A=4010&Z=4136    

          ผู้ใดพ้นจากกามแล้ว ย่อมพ้นจากอำนาจของมาร
          เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลาย
พ้นจากกามแล้ว พ้นจากอาสวะกิเลสทั้งปวงด้วย มารครอบงำไม่ได้
          มารกลัวว่า ผู้ที่พ้นแล้วอย่างนี้ จะแนะนำสั่งสอนผู้อื่นให้พ้นตาม
จึงมักจะตามรังควาญบ้าง เย้ยหยันด้วย หวังว่า ให้คลายความเพียรบ้าง
ห้ามปราบไม่ให้การแสดงธรรมบ้าง

          พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๗
          สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
          สัตตวัสสสูตรที่ ๔
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=15&A=3952&Z=4009

          ทำทีเป็นว่าห่วงใยชีวิตของพระภิกษุที่ไม่อาลัยต่อชีวิตบ้าง

          โคธิกสูตรที่ ๓
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=15&A=3885&Z=3951

          แสดงเสียงที่น่ากลัว ให้ภิกษุเคลื่อนจากความเพียรบ้าง
บังตาคนเพื่อไม่ให้ถวายบิณฑบาตบ้าง
          ควรศึกษาจาก มารสังยุตต์
          พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕  พระสุตตันตปิฎก เล่ม ๗
          สังยุตตนิกาย สคาถวรรค          
http://84000.org/tipitaka/read/?สารบัญพระไตรปิฎก15
  
          คือ ถ้าสามารถทำให้ปรินิพพานได้ ด้วยอุบายใดๆ ก็จะทำด้วยอุบายนั้น
          เช่น การทูลอาราธนาพระผู้มีพระภาคให้ทรงปรินิพพาน
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=10&A=1888&Z=3915#95    

          ตัวอย่าง การแกล้งพระปัจเจกพุทธเจ้าที่เพิ่งออกจากนิโรธสมาบัติ
เพื่อไม่ให้ได้ บิณฑบาต จาก
          อรรถกถา ขทิรังคารชาดก
          ว่าด้วย มีจิตมั่นคง
http://84000.org/tipitaka/atita100/jataka.php?i=270040

          ตัวอย่าง การริษยาของเทวราชองค์หนึ่ง แทนที่จะอนุโมทนา
จึงแกล้งดาบสตนหนึ่ง จาก
          พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๗  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๙
          ขุททกนิกาย ชาดก ภาค ๑
          อลัมพุสาชาดก
          ว่าด้วย อิสิสิงคดาบสถูกทำลายตบะ
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=27&A=10324&Z=10421

          อรรถกถา อลัมพุสาชาดก
http://84000.org/tipitaka/atita100/jataka.php?i=272478

จากคุณ : ฐานาฐานะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่