'ร้อยเรื่องรักไม่ธรรมดาจาก'แม่สู่ลูก'กับ'แต้ว-ณฐพร'
"แต้ว" คือ "ของขวัญจากนางฟ้า" ร้อยเรื่องรักไม่ธรรมดาจาก "แม่" สู่ "ลูก"
หากพูดถึงผู้หญิงตัวเล็ก ดวงตากลมโต หน้าหวาน ทว่าซ่อนความเข้มแข็ง และมากความสามารถ คงปฏิเสธไม่ได้ว่า "แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์" กลายเป็นนางเอกในดวงใจของใครหลายคน เธอพิสูจน์ฝีมือด้านการแสดงมาแล้วหลายบทบาท แต่มีอีกหนึ่งบทบาทสำคัญ อันพึงรักษาไว้ตลอดชีวิตในฐานะ "ลูกสาว" ของ "แม่นิด-รวงทอง เตมีรักษ์" หญิงแกร่งผู้อยู่เบื้องหลัง และคอยผลักดันทุกย่างก้าวของนางเอกมากฝีมือ “บันเทิง คมชัดลึก” ขอส่งต่อความรัก ความผูกพันจาก “แม่ลูก” คู่นี้ ต้อนรับเดือน “วันแม่แห่งชาติ”
@@ปีแห่งความสำเร็จ
000ความสำเร็จของแต้วในวันนี้ มาจากการมีแม่อยู่เบื้องหลัง
แม่นิด : เหมือนว่าจะเป็นอย่างนั้น แต่ความสำเร็จของแต้วในวันนี้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเขาทั้งหมดเลย เรามีส่วนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะเขาเป็นคนมีความมุ่งมั่นตั้งใจดี แม่มีส่วนในการให้กำลังใจและช่วยเหลือเขาเล็กๆ น้อยๆ ทั้งในเรื่องการเรียน การงาน และการใช้ชีวิต แต่ส่วนใหญ่ทุกอย่างในวันนี้ มาจากความตั้งใจของเขา
000คำที่แม่สอนแต้วบ่อยๆ คืออะไร
แต้ว : ส่วนใหญ่แม่จะสอนเรื่องการเข้าสังคมกับคนอื่น แม่มักจะให้กำลังใจแต้ว ถ้าให้พูดเป็นประโยคแต้วอาจจะจำไม่ได้ แต่สิ่งที่รู้คือแม่จะพยายามเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับทุกเรื่องในชีวิตของเรา แม่อาจจะไม่ได้สอนเป็นคำพูดหรือคติเตือนใจ แต่แม่จะเป็นคนที่คอยผลักดันให้แต้วมีความมั่นใจ ในการที่จะไปทำอะไรต่อมิอะไรข้างนอก
000แม่สอนเรื่องความมั่นใจให้แต้วอย่างไร
แม่นิด : ตั้งแต่เล็กๆ แต้วจะเป็นเด็กที่ขี้อายมาก เวลามีกิจกรรมอะไรจะชอบแอบอยู่ข้างหลัง ตรงนี้เป็นสิ่งที่เราคิดว่า เราต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อให้เขาพยายามดึงความสามารถออกมา อย่างเวลาที่เขาทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ แต่แม่รู้สึกว่า เป็นสิ่งที่เกินความคาดหมายของเราแล้ว เพียงแค่คำชมธรรมดาของเรา แต่ไม่รู้เลยว่า คำพูดเหล่านั้นจะกลายเป็นการสร้างความมั่นใจให้เขา เป็นตัวของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงทุกวันนี้
@@ย้อนวันซน
000ตอนเด็กๆ แต้วเป็นอย่างไรบ้าง มีดื้อมีซนบ้างไหม
แต้ว : เรียบร้อยเนอะแม่
แม่นิด : แม่ว่าไม่นะ (หัวเราะ) ความจริงแล้ว เขาเป็นเด็กที่ซนมาก บางอย่างจะชอบมั่นใจในตัวเองคิดว่าทำได้ แต่ในความตั้งใจ มักจะมีความกลัวซ่อนอยู่ เลยทำให้เขาไม่กล้า แต่เมื่อเขาเริ่มทำ เขาจะมีความรู้สึกว่า เขาทำได้ บางอย่างแม่ก็รู้สึกว่า เขาทำได้เท่าเด็กผู้ชายคนหนึ่งเลย อย่างเช่น การเรียนว่ายน้ำ การขี่จักรยาน เขามีความสามารถเกินวัยของเขา พอโตขึ้นมาหน่อย เขาก็มีความสามารถในการเล่นดนตรี เรียนเปียโน แล้วก็ทำได้ดีด้วย
000กิจกรรมพิเศษต่างๆ แม่อยากให้เรียน หรือแต้วอยากเรียนเอง
แต้ว : คงเหมือนเด็กทั่วๆ ไป ที่แม่อยากให้เรามีความสามารถพิเศษเสริมเข้ามา แต่ทุกอย่างไม่ใช่แม่จะบังคับให้แต้วเรียน แม่จะถามก่อนว่า เราชอบมั้ย อย่างตอนเด็กๆ แต้วเริ่มจากเรียนรำไทยก่อน เรียนไปเรื่อยๆ เพื่อลองดูว่าชอบหรือเปล่า ถ้าชอบแม่จะให้เรียนต่อ ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องทำ
000เคยมีเหตุการณ์ที่แต้วทำให้แม่เสียใจบ้างมั้ย
แต้ว : ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่ถ้ามีเรื่องที่เราไม่เข้าใจกัน เพราะปกติแม่จะเป็นคนค่อนข้างเข้มงวดเรื่องคำพูดนิดหนึ่ง จะเป็นคนละเอียดอ่อนมาก บางอย่างแต้วอาจจะพูดไม่เข้าหู หรือพูดโดยใช้อารมณ์ ถ้ามีเรื่องแบบนี้ เวลาต้องปรับจูนกัน เราจะเงียบกันไปสักพัก ไปอยู่กันคนละที่ก่อน (ยิ้ม) แล้วค่อยกลับมาคุยกันใหม่ แต่เราจูนกันง่าย ไม่ค่อยมีเรื่องที่จูนกันยาก
แม่นิด : คิดว่า เขาเป็นเด็กที่ออกไปสู่โลกของการทำงานเร็วกว่าเด็กในวัยเดียวกัน เขาเจอคนหลากหลาย และสามารถที่จะเข้าใจความคิดของผู้ใหญ่ได้เร็ว เรียกว่าเป็นธรรมชาติของเขา เลยทำให้เขาปรับตัว และเรียนรู้ที่จะทำความเข้าใจกับความต้องการของผู้ใหญ่ได้
000วีรกรรมแสบสุดของแต้วมีอะไรบ้าง
แม่นิด : เมื่อก่อนที่บ้านจะมีเด็กอยู่ 4 คน มีแต้ว กับเต๋า (พี่สาวแต้ว) และมีลูกพี่ลูกน้องด้วย เขาจะชอบเล่นกันแปลกๆ คือตื่นขึ้นมาตอนตี 1 ตี 2 แล้วจะแบ่งกันไปดูต้นทาง จากนั้นแอบไปรื้อของในตู้เย็นมาทำอะไรพิสดาร แต่แม่จะได้เห็นความป่วน วุ่นวายเต็มบ้านไปหมดในตอนเช้า หลังจากที่เขาสลบกันหมดแล้ว (หัวเราะ)
000ที่บ้านมีกฎที่แม่ตั้งขึ้นมาหรือไม่
แม่นิด : มีนะ ถ้าเป็นตอนเด็กๆ เล่นแล้วต้องเก็บของ จะพยายามสร้างนิสัย ความมีระเบียบให้เขา อย่างถุงเท้า รองเท้า หลังกลับมาจากโรงเรียนต้องเอาไปเก็บให้เข้าที่ ถ้าไม่ทำตาม เราจะเอาไปทิ้งถังขยะหมดเลย พอโตมาก็จะมีกฎระเบียบอีกแบบหนึ่ง ที่สำคัญคือต้องมีความรับผิดชอบและตรงต่อเวลา ต้องรู้หน้าที่ อย่างเรื่องของเวลา จะต้องบอกผู้ใหญ่ว่า ไปไหน กับใคร และจะกลับกี่โมง
แต้ว : คือกฎเรื่องเวลา ไม่ว่าแต้วจะโตแค่ไหน ก่อนพระอาทิตย์ตกดินจะต้องโทรบอกที่บ้านว่า เราอยู่ไหนแล้ว เพื่อให้ทุกคนในบ้านรู้
@@ครั้งแรกในวงการ
000วันแรกที่เข้ามาในวงการบันเทิง แต้วจำได้มั้ยว่า แม่สอนอะไร
แต้ว : ช่วงแรกที่แต้วเข้ามาทำงานในวงการ เป็นช่วงที่เรายังต้องเรียน แม่จะบอกให้อย่าทิ้งเรื่องเรียน และพูดเรื่องความรับผิดชอบ ต้องพยายามทำให้ดีทั้งสองอย่าง แต่ทุกอย่างที่แม่พูด จะอยู่ภายใต้การไม่กดดันเรา และสอนในเรื่องของการเป็นตัวของตัวเอง
แม่นิด : ต้องบอกก่อนว่าตระกูลของแม่ เราไม่รู้จักวงการบันเทิงเลย เพราะว่าเราไม่มีญาติพี่น้องในวงการนี้ แต่แต้วมีโอกาสเข้ามาทำงานในวงการบันเทิง ซึ่งช่วงแรกแม่จะกังวลเรื่องการเรียนของเขา เราพยายามให้เขาทำงานน้อยที่สุด เพื่อจะได้เรียน และใช้ชีวิตวัยรุ่นให้มากที่สุด
000ในวันที่ลูกสาวประสบความสำเร็จ แม่ประทับใจอะไรในตัวลูกบ้าง
แม่นิด : ความจริง แม่ไม่ได้คิดว่าเขาประสบความสำเร็จอะไรมากมาย เขายังต้องเรียนรู้ไปเรื่อยๆ แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็มีความพึงพอใจในงานของตัวเอง และผู้ชมยอมรับในผลงานของเขา แม่คิดว่าเขาได้ก้าวเข้ามาในทิศทางที่ยังพัฒนาต่อไปได้อีก จะเรียกว่าเขาประสบความสำเร็จคงยังไม่ได้
แต้ว : แต้วก็ยังไม่คิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จนะ แต่แต้วดีใจที่คนดูให้การยอมรับ และชื่นชอบผลงานเรา ถามว่าประทับใจอะไรในตัวแม่ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แม่เป็นแบบอย่างของแต้ว และเรามีลักษณะคล้ายแม่เหมือนกัน อย่างเรื่องของความละเอียดอ่อน ซึ่งทำให้เรามีความละเอียดในการมองสิ่งต่างๆ มากขึ้น
แม่นิด : บางครั้ง เขาจะชอบพูดว่า แม่แหละที่ทำให้แต้วเป็นแบบนี้ (หัวเราะ) เพราะแม่จะเป็นคนค่อนข้างหัวโบราณ ไม่ได้เป็นคนที่เปิดตัวไปกับสังคมมากเท่าไหร่ เลยทำให้คนที่มองแต้วเข้ามา อาจจะรู้สึกว่า เขามีระยะห่างกับคนอื่นๆ แต่ความจริงแล้ว เขาไม่ใช่คนแบบนั้น เพียงแต่บางครั้งเขาอาจจะเข้าสังคมไม่เก่ง เลยทำให้รู้สึกว่าไม่กลมกลืน แต่ในสิ่งเหล่านั้น เราก็รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะอย่างน้อยๆ ในสังคม ผู้หญิงควรจะไว้ตัวนิดหนึ่ง ไม่ใช่ว่าเปิดตัวแล้วให้สังคมเข้ามาโดยที่ไม่มีระยะห่างเลย
@@ความในใจ
000แม่กับแต้วมีวิธีการบอกรักกันอย่างไรบ้าง
แต้ว : เราบอกรักกันไม่บ่อย แต่จะหอมแก้มกันบ่อย อย่างถ้าเวลาตื่นขึ้นมาเห็นแม่ตัวกลมๆ จะหมั่นเขี้ยว เราก็จะเข้าไปกอด ไปหอม (ยิ้ม) เป็นความรู้สึกเหมือนเราอ้อนแม่ไปเลย บางทีก็เล่นแรงๆ กับแม่ ชอบแกล้งแม่
แม่นิด : การแสดงความรักของเรามีบ่อยๆ แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้แสดงออกในรูปแบบของคำพูด แต่การกระทำบางอย่างเราจะสัมผัสกันได้ว่า นี่คือสิ่งที่เรารู้สึกดีๆ ต่อกัน เพราะตั้งแต่ตอนแต้วเด็กๆ แม่จะมีคำพูดบอกเขาเสมอว่า เขาคือ “ของขวัญจากนางฟ้า” เพราะแม่สัมผัสได้ว่า ทุกอย่างของเขาทำให้เรามีความสุข เวลาอยู่ใกล้เขา เราจะรู้สึกเย็นใจ เพราะเขาเป็นเด็กที่คิดถึงคนอื่นก่อนตัวเองเสมอ แม่ดีใจมากที่มีลูกคนนี้ เพราะแม่เคยคิดว่าถ้าลูกคนโตเป็นผู้ชาย จะมีลูกคนเดียว แต่ปรากฏว่าคนโตเป็นผู้หญิง เลยขอมีอีกคน ซึ่งทั้งสองคนสร้างความตื่นเต้นในชีวิตแม่ แตกต่างกันมาก
แต้ว : เวลาได้ยินแม่พูดแบบนี้ แต้วจะดีใจทุกครั้ง ฟังกี่รอบเราก็ดีใจ อาจจะมีทำให้ปวดหัวบ้าง (หัวเราะ) ดื้อบ้าง แต่เวลามีเรื่องภูมิใจเกิดขึ้นในชีวิต แล้วเราได้บอกแม่ เราจะได้เห็นเขายิ้มด้วยความภาคภูมิใจในตัวเรา แต้วจะดีใจทุกครั้ง
แม่นิด : ทุกอย่างแม่ก็ทำเพื่อหนูนะลูก (หันไปบอกแต้วพร้อมหอมแก้ม)
000มีความในใจอะไรอยากจะบอกกันบ้าง
แต้ว : แม่จะเป็นคนทำเพื่อคนอื่นตลอด ถึงแม้ตอนนี้แม่จะปลดเกษียณแล้ว แต่เมื่อก่อนแม่ทำงานหนัก และเต็มที่มาก แม้แต่การเป็นแม่บ้านแม่ก็ทำเต็มที่ แต้วอยากให้แม่ทำเพื่อตัวเองบ้าง
แม่นิด : ในความเป็นแม่ เรายังมองเขาเป็นคนที่ต้องห่วงใยตลอดเวลา ทั้งที่ความจริงเขาเป็นผู้ใหญ่ สามารถดูแลตัวเอง และพ่อแม่ได้แล้ว แม่อยากให้เขาดูแลตัวเองให้มากกว่านี้ เรื่องสุขภาพอย่าคิดว่าไม่สำคัญ การที่เขาทำงานหนัก อยากให้เขามีเวลาพักผ่อนบ้าง นอกเหนือจากนี้ ไม่กังวลอะไรกับเขาแล้ว
น่ารัก อบอุ่น ไปกับสายสัมพันธ์รักของแม่ลูกคู่นี้จริงๆ
CR. บันเทิงวันเสาร์ เรื่อง... เบญจภรณ์ อำไพรัตนพล ภาพ... วริศรา วุฒิกุล/คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/detail/20140809/189798.html
อ่านสัมภาษณ์อันนี้ของแต้วและคุณแม่แล้วทำให้เข้าใจเลยว่าผู้หญิงคนนี้โตขึ้นมาสวย สมบูรณ์พร้อมได้อย่างไร
"แต้ว" คือ "ของขวัญจากนางฟ้า" ร้อยเรื่องรักไม่ธรรมดาจาก "แม่" สู่ "ลูก"
"แต้ว" คือ "ของขวัญจากนางฟ้า" ร้อยเรื่องรักไม่ธรรมดาจาก "แม่" สู่ "ลูก"
หากพูดถึงผู้หญิงตัวเล็ก ดวงตากลมโต หน้าหวาน ทว่าซ่อนความเข้มแข็ง และมากความสามารถ คงปฏิเสธไม่ได้ว่า "แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์" กลายเป็นนางเอกในดวงใจของใครหลายคน เธอพิสูจน์ฝีมือด้านการแสดงมาแล้วหลายบทบาท แต่มีอีกหนึ่งบทบาทสำคัญ อันพึงรักษาไว้ตลอดชีวิตในฐานะ "ลูกสาว" ของ "แม่นิด-รวงทอง เตมีรักษ์" หญิงแกร่งผู้อยู่เบื้องหลัง และคอยผลักดันทุกย่างก้าวของนางเอกมากฝีมือ “บันเทิง คมชัดลึก” ขอส่งต่อความรัก ความผูกพันจาก “แม่ลูก” คู่นี้ ต้อนรับเดือน “วันแม่แห่งชาติ”
@@ปีแห่งความสำเร็จ
000ความสำเร็จของแต้วในวันนี้ มาจากการมีแม่อยู่เบื้องหลัง
แม่นิด : เหมือนว่าจะเป็นอย่างนั้น แต่ความสำเร็จของแต้วในวันนี้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเขาทั้งหมดเลย เรามีส่วนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะเขาเป็นคนมีความมุ่งมั่นตั้งใจดี แม่มีส่วนในการให้กำลังใจและช่วยเหลือเขาเล็กๆ น้อยๆ ทั้งในเรื่องการเรียน การงาน และการใช้ชีวิต แต่ส่วนใหญ่ทุกอย่างในวันนี้ มาจากความตั้งใจของเขา
000คำที่แม่สอนแต้วบ่อยๆ คืออะไร
แต้ว : ส่วนใหญ่แม่จะสอนเรื่องการเข้าสังคมกับคนอื่น แม่มักจะให้กำลังใจแต้ว ถ้าให้พูดเป็นประโยคแต้วอาจจะจำไม่ได้ แต่สิ่งที่รู้คือแม่จะพยายามเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับทุกเรื่องในชีวิตของเรา แม่อาจจะไม่ได้สอนเป็นคำพูดหรือคติเตือนใจ แต่แม่จะเป็นคนที่คอยผลักดันให้แต้วมีความมั่นใจ ในการที่จะไปทำอะไรต่อมิอะไรข้างนอก
000แม่สอนเรื่องความมั่นใจให้แต้วอย่างไร
แม่นิด : ตั้งแต่เล็กๆ แต้วจะเป็นเด็กที่ขี้อายมาก เวลามีกิจกรรมอะไรจะชอบแอบอยู่ข้างหลัง ตรงนี้เป็นสิ่งที่เราคิดว่า เราต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อให้เขาพยายามดึงความสามารถออกมา อย่างเวลาที่เขาทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ แต่แม่รู้สึกว่า เป็นสิ่งที่เกินความคาดหมายของเราแล้ว เพียงแค่คำชมธรรมดาของเรา แต่ไม่รู้เลยว่า คำพูดเหล่านั้นจะกลายเป็นการสร้างความมั่นใจให้เขา เป็นตัวของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงทุกวันนี้
@@ย้อนวันซน
000ตอนเด็กๆ แต้วเป็นอย่างไรบ้าง มีดื้อมีซนบ้างไหม
แต้ว : เรียบร้อยเนอะแม่
แม่นิด : แม่ว่าไม่นะ (หัวเราะ) ความจริงแล้ว เขาเป็นเด็กที่ซนมาก บางอย่างจะชอบมั่นใจในตัวเองคิดว่าทำได้ แต่ในความตั้งใจ มักจะมีความกลัวซ่อนอยู่ เลยทำให้เขาไม่กล้า แต่เมื่อเขาเริ่มทำ เขาจะมีความรู้สึกว่า เขาทำได้ บางอย่างแม่ก็รู้สึกว่า เขาทำได้เท่าเด็กผู้ชายคนหนึ่งเลย อย่างเช่น การเรียนว่ายน้ำ การขี่จักรยาน เขามีความสามารถเกินวัยของเขา พอโตขึ้นมาหน่อย เขาก็มีความสามารถในการเล่นดนตรี เรียนเปียโน แล้วก็ทำได้ดีด้วย
000กิจกรรมพิเศษต่างๆ แม่อยากให้เรียน หรือแต้วอยากเรียนเอง
แต้ว : คงเหมือนเด็กทั่วๆ ไป ที่แม่อยากให้เรามีความสามารถพิเศษเสริมเข้ามา แต่ทุกอย่างไม่ใช่แม่จะบังคับให้แต้วเรียน แม่จะถามก่อนว่า เราชอบมั้ย อย่างตอนเด็กๆ แต้วเริ่มจากเรียนรำไทยก่อน เรียนไปเรื่อยๆ เพื่อลองดูว่าชอบหรือเปล่า ถ้าชอบแม่จะให้เรียนต่อ ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องทำ
000เคยมีเหตุการณ์ที่แต้วทำให้แม่เสียใจบ้างมั้ย
แต้ว : ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่ถ้ามีเรื่องที่เราไม่เข้าใจกัน เพราะปกติแม่จะเป็นคนค่อนข้างเข้มงวดเรื่องคำพูดนิดหนึ่ง จะเป็นคนละเอียดอ่อนมาก บางอย่างแต้วอาจจะพูดไม่เข้าหู หรือพูดโดยใช้อารมณ์ ถ้ามีเรื่องแบบนี้ เวลาต้องปรับจูนกัน เราจะเงียบกันไปสักพัก ไปอยู่กันคนละที่ก่อน (ยิ้ม) แล้วค่อยกลับมาคุยกันใหม่ แต่เราจูนกันง่าย ไม่ค่อยมีเรื่องที่จูนกันยาก
แม่นิด : คิดว่า เขาเป็นเด็กที่ออกไปสู่โลกของการทำงานเร็วกว่าเด็กในวัยเดียวกัน เขาเจอคนหลากหลาย และสามารถที่จะเข้าใจความคิดของผู้ใหญ่ได้เร็ว เรียกว่าเป็นธรรมชาติของเขา เลยทำให้เขาปรับตัว และเรียนรู้ที่จะทำความเข้าใจกับความต้องการของผู้ใหญ่ได้
000วีรกรรมแสบสุดของแต้วมีอะไรบ้าง
แม่นิด : เมื่อก่อนที่บ้านจะมีเด็กอยู่ 4 คน มีแต้ว กับเต๋า (พี่สาวแต้ว) และมีลูกพี่ลูกน้องด้วย เขาจะชอบเล่นกันแปลกๆ คือตื่นขึ้นมาตอนตี 1 ตี 2 แล้วจะแบ่งกันไปดูต้นทาง จากนั้นแอบไปรื้อของในตู้เย็นมาทำอะไรพิสดาร แต่แม่จะได้เห็นความป่วน วุ่นวายเต็มบ้านไปหมดในตอนเช้า หลังจากที่เขาสลบกันหมดแล้ว (หัวเราะ)
000ที่บ้านมีกฎที่แม่ตั้งขึ้นมาหรือไม่
แม่นิด : มีนะ ถ้าเป็นตอนเด็กๆ เล่นแล้วต้องเก็บของ จะพยายามสร้างนิสัย ความมีระเบียบให้เขา อย่างถุงเท้า รองเท้า หลังกลับมาจากโรงเรียนต้องเอาไปเก็บให้เข้าที่ ถ้าไม่ทำตาม เราจะเอาไปทิ้งถังขยะหมดเลย พอโตมาก็จะมีกฎระเบียบอีกแบบหนึ่ง ที่สำคัญคือต้องมีความรับผิดชอบและตรงต่อเวลา ต้องรู้หน้าที่ อย่างเรื่องของเวลา จะต้องบอกผู้ใหญ่ว่า ไปไหน กับใคร และจะกลับกี่โมง
แต้ว : คือกฎเรื่องเวลา ไม่ว่าแต้วจะโตแค่ไหน ก่อนพระอาทิตย์ตกดินจะต้องโทรบอกที่บ้านว่า เราอยู่ไหนแล้ว เพื่อให้ทุกคนในบ้านรู้
@@ครั้งแรกในวงการ
000วันแรกที่เข้ามาในวงการบันเทิง แต้วจำได้มั้ยว่า แม่สอนอะไร
แต้ว : ช่วงแรกที่แต้วเข้ามาทำงานในวงการ เป็นช่วงที่เรายังต้องเรียน แม่จะบอกให้อย่าทิ้งเรื่องเรียน และพูดเรื่องความรับผิดชอบ ต้องพยายามทำให้ดีทั้งสองอย่าง แต่ทุกอย่างที่แม่พูด จะอยู่ภายใต้การไม่กดดันเรา และสอนในเรื่องของการเป็นตัวของตัวเอง
แม่นิด : ต้องบอกก่อนว่าตระกูลของแม่ เราไม่รู้จักวงการบันเทิงเลย เพราะว่าเราไม่มีญาติพี่น้องในวงการนี้ แต่แต้วมีโอกาสเข้ามาทำงานในวงการบันเทิง ซึ่งช่วงแรกแม่จะกังวลเรื่องการเรียนของเขา เราพยายามให้เขาทำงานน้อยที่สุด เพื่อจะได้เรียน และใช้ชีวิตวัยรุ่นให้มากที่สุด
000ในวันที่ลูกสาวประสบความสำเร็จ แม่ประทับใจอะไรในตัวลูกบ้าง
แม่นิด : ความจริง แม่ไม่ได้คิดว่าเขาประสบความสำเร็จอะไรมากมาย เขายังต้องเรียนรู้ไปเรื่อยๆ แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็มีความพึงพอใจในงานของตัวเอง และผู้ชมยอมรับในผลงานของเขา แม่คิดว่าเขาได้ก้าวเข้ามาในทิศทางที่ยังพัฒนาต่อไปได้อีก จะเรียกว่าเขาประสบความสำเร็จคงยังไม่ได้
แต้ว : แต้วก็ยังไม่คิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จนะ แต่แต้วดีใจที่คนดูให้การยอมรับ และชื่นชอบผลงานเรา ถามว่าประทับใจอะไรในตัวแม่ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แม่เป็นแบบอย่างของแต้ว และเรามีลักษณะคล้ายแม่เหมือนกัน อย่างเรื่องของความละเอียดอ่อน ซึ่งทำให้เรามีความละเอียดในการมองสิ่งต่างๆ มากขึ้น
แม่นิด : บางครั้ง เขาจะชอบพูดว่า แม่แหละที่ทำให้แต้วเป็นแบบนี้ (หัวเราะ) เพราะแม่จะเป็นคนค่อนข้างหัวโบราณ ไม่ได้เป็นคนที่เปิดตัวไปกับสังคมมากเท่าไหร่ เลยทำให้คนที่มองแต้วเข้ามา อาจจะรู้สึกว่า เขามีระยะห่างกับคนอื่นๆ แต่ความจริงแล้ว เขาไม่ใช่คนแบบนั้น เพียงแต่บางครั้งเขาอาจจะเข้าสังคมไม่เก่ง เลยทำให้รู้สึกว่าไม่กลมกลืน แต่ในสิ่งเหล่านั้น เราก็รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะอย่างน้อยๆ ในสังคม ผู้หญิงควรจะไว้ตัวนิดหนึ่ง ไม่ใช่ว่าเปิดตัวแล้วให้สังคมเข้ามาโดยที่ไม่มีระยะห่างเลย
@@ความในใจ
000แม่กับแต้วมีวิธีการบอกรักกันอย่างไรบ้าง
แต้ว : เราบอกรักกันไม่บ่อย แต่จะหอมแก้มกันบ่อย อย่างถ้าเวลาตื่นขึ้นมาเห็นแม่ตัวกลมๆ จะหมั่นเขี้ยว เราก็จะเข้าไปกอด ไปหอม (ยิ้ม) เป็นความรู้สึกเหมือนเราอ้อนแม่ไปเลย บางทีก็เล่นแรงๆ กับแม่ ชอบแกล้งแม่
แม่นิด : การแสดงความรักของเรามีบ่อยๆ แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้แสดงออกในรูปแบบของคำพูด แต่การกระทำบางอย่างเราจะสัมผัสกันได้ว่า นี่คือสิ่งที่เรารู้สึกดีๆ ต่อกัน เพราะตั้งแต่ตอนแต้วเด็กๆ แม่จะมีคำพูดบอกเขาเสมอว่า เขาคือ “ของขวัญจากนางฟ้า” เพราะแม่สัมผัสได้ว่า ทุกอย่างของเขาทำให้เรามีความสุข เวลาอยู่ใกล้เขา เราจะรู้สึกเย็นใจ เพราะเขาเป็นเด็กที่คิดถึงคนอื่นก่อนตัวเองเสมอ แม่ดีใจมากที่มีลูกคนนี้ เพราะแม่เคยคิดว่าถ้าลูกคนโตเป็นผู้ชาย จะมีลูกคนเดียว แต่ปรากฏว่าคนโตเป็นผู้หญิง เลยขอมีอีกคน ซึ่งทั้งสองคนสร้างความตื่นเต้นในชีวิตแม่ แตกต่างกันมาก
แต้ว : เวลาได้ยินแม่พูดแบบนี้ แต้วจะดีใจทุกครั้ง ฟังกี่รอบเราก็ดีใจ อาจจะมีทำให้ปวดหัวบ้าง (หัวเราะ) ดื้อบ้าง แต่เวลามีเรื่องภูมิใจเกิดขึ้นในชีวิต แล้วเราได้บอกแม่ เราจะได้เห็นเขายิ้มด้วยความภาคภูมิใจในตัวเรา แต้วจะดีใจทุกครั้ง
แม่นิด : ทุกอย่างแม่ก็ทำเพื่อหนูนะลูก (หันไปบอกแต้วพร้อมหอมแก้ม)
000มีความในใจอะไรอยากจะบอกกันบ้าง
แต้ว : แม่จะเป็นคนทำเพื่อคนอื่นตลอด ถึงแม้ตอนนี้แม่จะปลดเกษียณแล้ว แต่เมื่อก่อนแม่ทำงานหนัก และเต็มที่มาก แม้แต่การเป็นแม่บ้านแม่ก็ทำเต็มที่ แต้วอยากให้แม่ทำเพื่อตัวเองบ้าง
แม่นิด : ในความเป็นแม่ เรายังมองเขาเป็นคนที่ต้องห่วงใยตลอดเวลา ทั้งที่ความจริงเขาเป็นผู้ใหญ่ สามารถดูแลตัวเอง และพ่อแม่ได้แล้ว แม่อยากให้เขาดูแลตัวเองให้มากกว่านี้ เรื่องสุขภาพอย่าคิดว่าไม่สำคัญ การที่เขาทำงานหนัก อยากให้เขามีเวลาพักผ่อนบ้าง นอกเหนือจากนี้ ไม่กังวลอะไรกับเขาแล้ว
น่ารัก อบอุ่น ไปกับสายสัมพันธ์รักของแม่ลูกคู่นี้จริงๆ
CR. บันเทิงวันเสาร์ เรื่อง... เบญจภรณ์ อำไพรัตนพล ภาพ... วริศรา วุฒิกุล/คมชัดลึก http://www.komchadluek.net/detail/20140809/189798.html
อ่านสัมภาษณ์อันนี้ของแต้วและคุณแม่แล้วทำให้เข้าใจเลยว่าผู้หญิงคนนี้โตขึ้นมาสวย สมบูรณ์พร้อมได้อย่างไร