ฝาก ตอนที่ 1 : info กับ เนเธอร์แลนด์ ด้วยน้า >>
http://pantip.com/topic/32354409
ตอนที่ 2 : ฝรั่งเศส >>
http://pantip.com/topic/32368616
ถึงแล้ว สวิตเซอร์แลนด์ ที่ Geneva Cornavin Station สถานีรถไฟหลักของเมือง Geneva โดยรถไฟ TGV จาก Paris Gare de Lyon
แนะนำว่าระหว่างทาง จาก Paris ถึง Geneva อย่าหลับตลอดทางน้า ตื่นขึ้นมาชมวิวระหว่างทางบ้าง เป็นวิวชนบท สวยมากค่ะ แต่ถ่ายรูปมามีแต่เบลอๆ TT
การเที่ยวเองใน Switzerland ค่อนข้างง่ายและสะดวกสบายมาก ถ้ามีการทำการบ้านและเตรียมความพร้อมก่อนไปที่ดี จะแทบไม่ต้องไปงมหาทางเลย ผู้คนก็ใจดี เต็มใจที่จะช่วยเหลือค่ะ
สำหรับ จขกท ก็ศึกษาตารางการท่องเที่ยวจากคนที่เคยไปมาแล้วและจาก pantip นี่แหละค่ะ วางแพลนไว้แน่นอนเลยว่าวันนี้ไปเมืองไหน ไปไหนบ้าง (อาจยืดหยุ่นได้ตามสภาพอากาศ) การเดินทางในสวิตเซอร์แลนด์ เราใช้รถไฟเดินทางประมาณ 98% เพราะฉะนั้น เราจะจดเที่ยวรถไฟมาแล้วจากเมืองไทย โดยเที่ยวรถไฟ สามารถศึกษาได้จาก www.sbb.ch เพียงแค่ใส่ว่าเดินทางจากไหน ไปไหน วันที่เท่าไหร่ ประมาณเวลาไหน เว็บก็จะขึ้นเที่ยวรถไฟมาให้ ว่ามีออกจากสถานีเวลาไหนบ้าง ถึงเวลาไหน ที่ชานชะลาที่เท่าไหร่
แนะนำเพิ่มเติม สำหรับ Smart phone โหลดแอฟ sbb ติดไว้ในเครื่องได้ สะดวกสบายมาก เพราะบางที เราก็ไม่ได้เดินทางตามเที่ยวรถไฟที่เราจดมาจากเมืองไทย ก็ต้องดูเที่ยวรถไฟใหม่ app นี้ตอบโจทย์ได้ดีค่ะ เราจะเช็คเที่ยวรถไฟจากโรงแรมตอนที่ยังมี wifi ใช้มาก่อน แล้วแคปหน้าจอไว้ ที่นี้ก็ไปตามชานชะลาที่ app มันบอกเลย มีข้อมูลให้ครบ ทั้งออกกี่โมงถึงกี่โมง ชานชะลาไหน เปลี่ยนขบวนที่ชานชะลาไหน ผ่านเมืองอะไรบ้าง ไม่ต้องไปดูที่สถานีให้ งง
สำหรับการเดินทางโดยรถไฟในสวิตเซอร์แลนด์ ตรงเวลาและเป็นระบบระเบียบมากๆ ถึงขนาดขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศแห่งการเดินทางโดยรถไฟทีเดียว เพราะฉะนั้นไม่มีเลทแน่นอน ออกตรงเวลาถึงตรงเวลาเป็นนาที แต่เราก็ต้องไปให้ตรงเวลาด้วย ไม่งั้นตกรถไฟค่ะ
เมืองต่างๆ ใน Switzerland จขกท จะอาศัยการเดินในการเที่ยวเมืองต่างๆ เพราะจะได้เดินชมเมืองไปด้วย จขกท ก็ศึกษาจากแผนที่ในหนังสือมาก่อน หาใน google ก็มีแผนที่เมืองต่างๆ แบบ 4 สี ดูง่ายมาก ปริ้นติดตัวไว้ ดูพลางๆ พอคุ้นๆ ตา หรือจะไปขอแผนที่ที่ tourist information ตามสถานีรถไฟก้ได้ค่ะ
สำหรับ Switzerland trip นี้ ค่อนข้างชะโงกเบาๆ เนื่องจากโลภมาก มีเวลาน้อย แต่อยากเที่ยวหลายที่ ฮ่าๆ เลยจัดเลย วันละเมือง
เริ่มที่ Geneva จัดการฝากกระเป๋าเดินทาง เพื่อจะได้เที่ยว Geneva แบบไม่มีภาระ ที่ฝากกระเป๋าอยู่ชั้น 1 มองจากหน้าสถานีเข้ามา จะอยู่ทางขวา หรือง่ายๆ ลงจากบันไดเลื่อนที่มีร้าน Starbucks ก็ถึงเลยค่ะ
สำหรับ locker ฝากกระเป๋าที่ Geneva Train Station จะมีตั้งแต่ไซส์ S M L XL ราคาก็แตกต่างกันไป
สำหรับวิธีใช้งาน ตู้ที่ว่างจะขึ้นไฟสีเขียว ฝาตู้จะแง้มๆ อยู่ เราก็จัดการนำกระเป๋าของเราใส่เข้าไปใน locker แล้วก็ดันตู้ให้ปิดสนิท ทีนี้ที่หน้าจอมอนิเตอร์จะอยู่ถัดจากตู้ไป จะขึ้นราคาให้เราจ่ายเงิน (เครื่องจ่ายเงินจะสามารถรับได้แค่เหรียญกับบัตรที่ต้องใส่ pin code นะคะ) จ่ายเงินเสร็จเรียบร้อย เครื่องจะปริ้นอารมณ์ใบเสร็จอ้ะ ออกมาให้เรา เก็บเอาไว้นะคะ ในใบนั้นจะมีบาร์โค้ด เอามาแสกนที่เครื่องเดิมตอนที่รับกระเป๋าคืน แสกนปุ๊บ locker ที่เราฝากกระเป๋าไว้ก็จะเด้งเปิดฝาตู้ออกให้ค่ะ
ฝากกระเป๋าเสร็จเรียบร้อย ที่นี้ก็จัดการซื้อ Swiss pass กันดีกว่า สำหรับ Swiss pass จะเป็นบัตรที่ทำให้เราสามารถเดินทางได้ฟรีไม่ว่าจะไปไหนก็ตามใน Switzerland ทั้งรถไฟ รถเมล์ บางทีรวมถึงรถรางไต่เขาด้วย บางทีก็ใช้เป็นส่วนลดในการเดินทางขึ้นเขาต่างๆ และถ้ามี Swiss pass แล้ว ยังสามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์ใน Switzerland ได้ฟรี ในหลายๆ พิพิธภัณฑ์ด้วยค่ะ
สำหรับสถานที่ซื้อ Swiss pass จะอยู่หลัง เคาเตอร์ tourist information ชั้น 1 สังเกตง่าย ใหญ่อยู่ค่ะ
ราคาของ Swiss pass สำหรับผู้ใหญ่ที่เดินทางด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป คนละ CHF 245 สำหรับเด็กที่อายุไม่เกิน 26 ปี ราคา CHF 204 สำหรับเด็กที่เดินทางพร้อมพ่อหรือแม่หรือทั้งพ่อและแม่ ค่า Swiss pass ฟรี เค้าจะออกบัตรที่เรียกว่า Family Card ให้เด็กค่ะ (จขกท มีน้องอายุ 15 เดินทางพร้อมแม่พอดี ได้สิทธิพิเศษมากพอสมควรเลยค่ะ ทั้ง Swiss pass ฟรี และขึ้นเขาฟรีอีกหลายลูก) ตอนซื้อก็ยื่น passport ให้เจ้าหน้าที่ บอกเค้าด้วยก็ดีว่าคนนี้ซื้อแบบ Youth (อายุไม่เกิน 26) คนนี้เดินทางแบบ Saver (ผู้ใหญ่เดินทางด้วยกัน 2 คนขึ้นไป) ก็แล้วแต่ละคนว่ามีใครเดินทางไปบ้าง เจ้าหน้าที่เฟรนลี่มากๆ เค้าก็จะออก Swiss pass มาให้ เป็นใบยาวๆ มีชื่อเราที่บัตรด้วย ได้ Swiss pass มาแล้ว ทีนี้ก็แทบไม่ต้องควักเงินจ่ายค่าเดินทางอีกเลย ควักแต่ Swiss pass ออกมาโชว์นายตรวจนี่แหละค่ะ
ฝากกระเป๋าแล้ว ซื้อ Swiss pass แล้ว ทีนี้ก็ไปเที่ยวเมือง Geneva กัน ขอแผนที่เมือง Geneva ได้ที่ tourist information ที่อยู่หน้าที่ซื้อ Swiss pass นั่นแหละค่ะ
น้ำพุกลางเมือง Geneva
ไปทานข้าวกลางวันก่อนดีกว่า มื้อนี้ฝากท้องที่ร้าน Cafe du Centre อยู่ถนน Place du Molard ตอนแรกตั้งใจจะไปทานไก่สิบดาว ร้าน Carnivor du Centre แต่เนื่องจากหาไม่เจอและทุกคนหิวมากแล้ว เลยเข้าร้านนี้ละกัน เห็นคนเยอะดีและชื่อคล้ายกัน 555
รสชาติอาหารธรรมดาค่ะ ไม่ค่อยถูกปาก พอทานได้ แต่เมนูที่เหมือนเป็นเมนูแนะนำของร้านกลับไม่ถูกปากเลยจริงๆ เป็นซุปปลาสักอย่าง
เมนูนี้แหละค่ะ ซุปไม่ถูกปากอย่างแรง (หรือปากเราเข้าไม่ถึง TT) เห็นเมนูนี้มีเหมือนเป็นหลังคาที่เมนู คิดว่าคงอร่อย แต่ .. TT
ทานอาหารกลางวันเสร็จ ช็อปปิ้งนิดๆ หน่อยๆ แล้วไปเที่ยวต่อกัน
เดินตามแผนที่เลยค่ะ ไปที่ Jardin Anglais เป็นสวนสาธารณะ
ด้านหน้าเป็นนาฬิกายักษ์แบบนี้ สังเกตง่าย ถ้าข้ามมาจากสะพาน Pont du Mont-Blanc ก็เห็นเลยค่ะ
เดินเข้ามาเรื่อยๆ จนถึงริมทะเลสาบ Geneva ก็จะเห็น Jet d'Eau เป็น tourist attraction ของ Geneva เลย
ออกมาจาก Jardin Anglais เลี้ยวขวา เดินกลับมาทางสถานีรถไฟ ข้ามสะพาน Pont du Mont-Blanc ชมวิวหน่อย
มาสวิตเซอร์แลนด์ทั้งที จะพลาดชมนาฬิกาได้ยังไง ใครสนใจซื้อนาฬิกากลับบ้าน ก็แวะชมได้ มีตั้งแต่แบรนด์ธรรมดาๆ ราคารับได้ ไปจนถึงเรือนนึง ราคาแตะหลักล้านบาท ช็อปนาฬิกา จขกท เจออยู่เรื่อยๆ ตามเมืองต่างๆ ค่ะ
Geneva ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งนาฬิกาอีกเมืองหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ เป็นบ้านเกิดของนาฬิกาแบรนด์ Patek Philippe นาฬิกาหรูหราและแพงที่สุดในสวิส (อ้างอิงจากหนังสือ)
เนื่องจากวันนี้ลูกทัวร์ จขกท ดูนอยด์ๆ เหนื่อยๆ จากการเดินทาง (ที่เกือบตกรถไฟจาก Paris) เวลาที่เลทไปมากจากการฝากกระเป๋าและซื้อ Swiss pass ที่สำคัญ วันนี้ จขกท ตั้งใจจะนั่งรถไฟไปค้างที่ Zermatt ด้วย กลัวว่าจะไปถึง Zermatt ดึกไป ทุกคนเลยลงความเห็นว่าไป Zermatt เลยดีกว่า
สำหรับ Geneva ส่วนตัวเราว่าก็สวยดีค่ะ แต่คนค่อนข้างพลุกพล่านมาก วันที่เราไปมีงานอะไรสักอย่างด้วย คนเลยยิ่งเยอะเข้าไปอีก เดินไปไหนก็เจอแต่คน ถ่ายรูปก็ติดคน ผิดหวังจากที่คิดไว้นิดหน่อย เลยไป Zermatt เลยดีกว่า แต่จริงๆ แล้ว Geneva มีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายที่เลย เช่น Broken Chair สำนักงานองค์การสหประชาชาติ (UN) อนุสาวรีย์ Brunswick เรือล่องทะสาบ Geneva ใครมีโอกาสไป ลองไปชมดูได้ค่ะ
ส่วน จขกท ขอตัวไป Zermatt ก่อนน้า
จาก Geneva ไป Zermatt เปลี่ยนขบวน 1 ครั้งที่ Visp ใช้เวลาเดินทางจาก Geneva ไป Visp ประมาณ 2.20 ชม. จาก Visp ไป Zermatt ประมาณ 1 ชม.
พอรถไฟออก นายตรวจก็จะเดินตรวจตั๋ว เราก็แค่ยื่น Swiss pass ให้นายตรวจดู แค่นี้ก็ผ่านฉลุยค่ะ
รถไฟในสวิสจะมีที่วางกระเป๋าเดินทางอยู่บริเวณประตูทางขึ้น แต่ถ้ากระเป๋าใบไม่ใหญ่ แล้วคนในขบวนไม่เยอะ ก็เอาไปนั่งกับเราได้ที่ที่นั่งค่ะ ไม่หาย สบายใจด้วย เนื่องจาก จาก Geneva ไป Visp จขกท เจอเหตุการณ์ระทึก มีคนสวิสกระเป๋าเดินทางใบเล็กหายบนรถไฟ ทั้งเงิน บัตรเครดิต พาสปอร์ต หายหมดเลย คนสวิสเองแท้ๆ TT เจอคุณลุงบนรถไฟก็เลยคุยกัน บางคนคิดว่าไปเที่ยวสวิสไม่ต้องห่วงกระเป๋าหรอก ปลอดภัยไม่มีโจร อยากให้เปลี่ยนความคิด โจรมีอยู่ทุกที่ค่ะ คุณลุงบอกว่าเด่วนี้สวิสโจรบนรถไฟก็เยอะ ส่วนใหญ่เป็นคนชาติอื่นเข้ามา เพราะเค้ารู้ว่านักท่องเที่ยวมาเที่ยวสวิสเยอะขึ้นทุกปี ยังไงก็ระวังตัวเองไว้ดีที่สุดเนอะ
พอถึง Visp ก็มีเวลาประมาณ 15 นาที ไปอีกชานชะลาตามที่จดโพยมาเพื่อเปลี่ยนขบวนรถไฟ นักท่องเที่ยวลากกระเป๋าเดินกันไปเยอะค่ะ
เส้นทางจาก Visp ไป Zermatt แนะนำมากๆ ๆ ๆ อย่าหลับนะคะ เพราะต่อจากนี้ เส้นทางธรรมชาติล้วนๆ ขึ้นเขาไปยังเมือง Zermatt สวยมากๆ ที่เหนื่อยๆ นอยด์ๆ เมื่อเช้า หายหมดเกลี้ยง พอเห็นวิวระหว่างทาง ทั้งภูเขา ทั้งแม่น้ำ สวยจริงๆ
รูปทั้งหมด อยากให้ไปเห็นกับตา ของจริงสวยกว่ารูปมากค่ะ
กระจกหน้าต่างเปิดได้นะค้า รับลมเย็นๆ
ระหว่างทาง ตามสถานีต่างๆ ก็มีโรงแรมไว้บริการนักท่องเที่ยว
รถไฟเป็นแบบขบวนท้องถิ่นเล็กๆ (ในสวิส จะมีรถไฟหลายแบบค่ะ)
ลำธารที่น้ำไหลตลอด และน้ำใสมากค่ะ
ขบวนที่นั่งจาก Visp มา Zermatt หน้าตาเป็นงี้
ถึง Zermatt ก็เจอป้ายยินดีต้อนรับหลากหลายภาษาแบบนี้ค่า
จัดการขนกระเป๋าลงจากรถไฟ แล้วไป Check in โรงแรมกันก่อน
โรงแรมที่จองไว้ที่ Zermatt สำหรับคืนนี้ ชื่อ Hotel Garni Testa Grigia ดูจาก review ใน pantip และคะแนนที่ได้จาก booking.com สูงมาก ทั้งคะแนนความสะอาด ปลอดภัย สะดวกสบาย ที่สำคัญ location หาง่ายและใกล้สถานีรถไฟมาก ตัดสินใจเอาโรงแรมนี้แหละ
สำหรับที่ตั้งโรงแรมอยู่บนถนนเส้นหลักของเมืองหรือ Bahnhofstrasse จากสถานีรถไฟ ออกมาเลี้ยวขวาเดินตามถนนเส้นหลักไปเรื่อยๆ ไม่ไกล โรงแรมจะอยู่ทางซ้าย หาง่ายมากถึงมากที่สุดค่ะ
ด้านหน้าโรงแรม รูปดูดีกว่าใน booking.com มาก มีคะแนนจาก booking.com ติดหน้าโรงแรมด้วยค่ะ
เข้ามาในโรงแรม ไม่ผิดหวังเลยค่ะ ดีทุกอย่างจริงๆ แนะนำมากๆ ใครไป Zermatt ลองพักโรงแรมนี้ได้เลย
เด่วจะไปกินอาหารเย็นกันค่า
[CR] 10 วัน กับการเที่ยวเองในเนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส สวิสเซอร์แลนด์ ไม่ยากอย่างที่คิด ตอนที่ 3.1
ตอนที่ 2 : ฝรั่งเศส >> http://pantip.com/topic/32368616
ถึงแล้ว สวิตเซอร์แลนด์ ที่ Geneva Cornavin Station สถานีรถไฟหลักของเมือง Geneva โดยรถไฟ TGV จาก Paris Gare de Lyon
แนะนำว่าระหว่างทาง จาก Paris ถึง Geneva อย่าหลับตลอดทางน้า ตื่นขึ้นมาชมวิวระหว่างทางบ้าง เป็นวิวชนบท สวยมากค่ะ แต่ถ่ายรูปมามีแต่เบลอๆ TT
การเที่ยวเองใน Switzerland ค่อนข้างง่ายและสะดวกสบายมาก ถ้ามีการทำการบ้านและเตรียมความพร้อมก่อนไปที่ดี จะแทบไม่ต้องไปงมหาทางเลย ผู้คนก็ใจดี เต็มใจที่จะช่วยเหลือค่ะ
สำหรับ จขกท ก็ศึกษาตารางการท่องเที่ยวจากคนที่เคยไปมาแล้วและจาก pantip นี่แหละค่ะ วางแพลนไว้แน่นอนเลยว่าวันนี้ไปเมืองไหน ไปไหนบ้าง (อาจยืดหยุ่นได้ตามสภาพอากาศ) การเดินทางในสวิตเซอร์แลนด์ เราใช้รถไฟเดินทางประมาณ 98% เพราะฉะนั้น เราจะจดเที่ยวรถไฟมาแล้วจากเมืองไทย โดยเที่ยวรถไฟ สามารถศึกษาได้จาก www.sbb.ch เพียงแค่ใส่ว่าเดินทางจากไหน ไปไหน วันที่เท่าไหร่ ประมาณเวลาไหน เว็บก็จะขึ้นเที่ยวรถไฟมาให้ ว่ามีออกจากสถานีเวลาไหนบ้าง ถึงเวลาไหน ที่ชานชะลาที่เท่าไหร่
แนะนำเพิ่มเติม สำหรับ Smart phone โหลดแอฟ sbb ติดไว้ในเครื่องได้ สะดวกสบายมาก เพราะบางที เราก็ไม่ได้เดินทางตามเที่ยวรถไฟที่เราจดมาจากเมืองไทย ก็ต้องดูเที่ยวรถไฟใหม่ app นี้ตอบโจทย์ได้ดีค่ะ เราจะเช็คเที่ยวรถไฟจากโรงแรมตอนที่ยังมี wifi ใช้มาก่อน แล้วแคปหน้าจอไว้ ที่นี้ก็ไปตามชานชะลาที่ app มันบอกเลย มีข้อมูลให้ครบ ทั้งออกกี่โมงถึงกี่โมง ชานชะลาไหน เปลี่ยนขบวนที่ชานชะลาไหน ผ่านเมืองอะไรบ้าง ไม่ต้องไปดูที่สถานีให้ งง
สำหรับการเดินทางโดยรถไฟในสวิตเซอร์แลนด์ ตรงเวลาและเป็นระบบระเบียบมากๆ ถึงขนาดขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศแห่งการเดินทางโดยรถไฟทีเดียว เพราะฉะนั้นไม่มีเลทแน่นอน ออกตรงเวลาถึงตรงเวลาเป็นนาที แต่เราก็ต้องไปให้ตรงเวลาด้วย ไม่งั้นตกรถไฟค่ะ
เมืองต่างๆ ใน Switzerland จขกท จะอาศัยการเดินในการเที่ยวเมืองต่างๆ เพราะจะได้เดินชมเมืองไปด้วย จขกท ก็ศึกษาจากแผนที่ในหนังสือมาก่อน หาใน google ก็มีแผนที่เมืองต่างๆ แบบ 4 สี ดูง่ายมาก ปริ้นติดตัวไว้ ดูพลางๆ พอคุ้นๆ ตา หรือจะไปขอแผนที่ที่ tourist information ตามสถานีรถไฟก้ได้ค่ะ
สำหรับ Switzerland trip นี้ ค่อนข้างชะโงกเบาๆ เนื่องจากโลภมาก มีเวลาน้อย แต่อยากเที่ยวหลายที่ ฮ่าๆ เลยจัดเลย วันละเมือง
เริ่มที่ Geneva จัดการฝากกระเป๋าเดินทาง เพื่อจะได้เที่ยว Geneva แบบไม่มีภาระ ที่ฝากกระเป๋าอยู่ชั้น 1 มองจากหน้าสถานีเข้ามา จะอยู่ทางขวา หรือง่ายๆ ลงจากบันไดเลื่อนที่มีร้าน Starbucks ก็ถึงเลยค่ะ
สำหรับ locker ฝากกระเป๋าที่ Geneva Train Station จะมีตั้งแต่ไซส์ S M L XL ราคาก็แตกต่างกันไป
สำหรับวิธีใช้งาน ตู้ที่ว่างจะขึ้นไฟสีเขียว ฝาตู้จะแง้มๆ อยู่ เราก็จัดการนำกระเป๋าของเราใส่เข้าไปใน locker แล้วก็ดันตู้ให้ปิดสนิท ทีนี้ที่หน้าจอมอนิเตอร์จะอยู่ถัดจากตู้ไป จะขึ้นราคาให้เราจ่ายเงิน (เครื่องจ่ายเงินจะสามารถรับได้แค่เหรียญกับบัตรที่ต้องใส่ pin code นะคะ) จ่ายเงินเสร็จเรียบร้อย เครื่องจะปริ้นอารมณ์ใบเสร็จอ้ะ ออกมาให้เรา เก็บเอาไว้นะคะ ในใบนั้นจะมีบาร์โค้ด เอามาแสกนที่เครื่องเดิมตอนที่รับกระเป๋าคืน แสกนปุ๊บ locker ที่เราฝากกระเป๋าไว้ก็จะเด้งเปิดฝาตู้ออกให้ค่ะ
ฝากกระเป๋าเสร็จเรียบร้อย ที่นี้ก็จัดการซื้อ Swiss pass กันดีกว่า สำหรับ Swiss pass จะเป็นบัตรที่ทำให้เราสามารถเดินทางได้ฟรีไม่ว่าจะไปไหนก็ตามใน Switzerland ทั้งรถไฟ รถเมล์ บางทีรวมถึงรถรางไต่เขาด้วย บางทีก็ใช้เป็นส่วนลดในการเดินทางขึ้นเขาต่างๆ และถ้ามี Swiss pass แล้ว ยังสามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์ใน Switzerland ได้ฟรี ในหลายๆ พิพิธภัณฑ์ด้วยค่ะ
สำหรับสถานที่ซื้อ Swiss pass จะอยู่หลัง เคาเตอร์ tourist information ชั้น 1 สังเกตง่าย ใหญ่อยู่ค่ะ
ราคาของ Swiss pass สำหรับผู้ใหญ่ที่เดินทางด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป คนละ CHF 245 สำหรับเด็กที่อายุไม่เกิน 26 ปี ราคา CHF 204 สำหรับเด็กที่เดินทางพร้อมพ่อหรือแม่หรือทั้งพ่อและแม่ ค่า Swiss pass ฟรี เค้าจะออกบัตรที่เรียกว่า Family Card ให้เด็กค่ะ (จขกท มีน้องอายุ 15 เดินทางพร้อมแม่พอดี ได้สิทธิพิเศษมากพอสมควรเลยค่ะ ทั้ง Swiss pass ฟรี และขึ้นเขาฟรีอีกหลายลูก) ตอนซื้อก็ยื่น passport ให้เจ้าหน้าที่ บอกเค้าด้วยก็ดีว่าคนนี้ซื้อแบบ Youth (อายุไม่เกิน 26) คนนี้เดินทางแบบ Saver (ผู้ใหญ่เดินทางด้วยกัน 2 คนขึ้นไป) ก็แล้วแต่ละคนว่ามีใครเดินทางไปบ้าง เจ้าหน้าที่เฟรนลี่มากๆ เค้าก็จะออก Swiss pass มาให้ เป็นใบยาวๆ มีชื่อเราที่บัตรด้วย ได้ Swiss pass มาแล้ว ทีนี้ก็แทบไม่ต้องควักเงินจ่ายค่าเดินทางอีกเลย ควักแต่ Swiss pass ออกมาโชว์นายตรวจนี่แหละค่ะ
ฝากกระเป๋าแล้ว ซื้อ Swiss pass แล้ว ทีนี้ก็ไปเที่ยวเมือง Geneva กัน ขอแผนที่เมือง Geneva ได้ที่ tourist information ที่อยู่หน้าที่ซื้อ Swiss pass นั่นแหละค่ะ
น้ำพุกลางเมือง Geneva
ไปทานข้าวกลางวันก่อนดีกว่า มื้อนี้ฝากท้องที่ร้าน Cafe du Centre อยู่ถนน Place du Molard ตอนแรกตั้งใจจะไปทานไก่สิบดาว ร้าน Carnivor du Centre แต่เนื่องจากหาไม่เจอและทุกคนหิวมากแล้ว เลยเข้าร้านนี้ละกัน เห็นคนเยอะดีและชื่อคล้ายกัน 555
รสชาติอาหารธรรมดาค่ะ ไม่ค่อยถูกปาก พอทานได้ แต่เมนูที่เหมือนเป็นเมนูแนะนำของร้านกลับไม่ถูกปากเลยจริงๆ เป็นซุปปลาสักอย่าง
เมนูนี้แหละค่ะ ซุปไม่ถูกปากอย่างแรง (หรือปากเราเข้าไม่ถึง TT) เห็นเมนูนี้มีเหมือนเป็นหลังคาที่เมนู คิดว่าคงอร่อย แต่ .. TT
ทานอาหารกลางวันเสร็จ ช็อปปิ้งนิดๆ หน่อยๆ แล้วไปเที่ยวต่อกัน
เดินตามแผนที่เลยค่ะ ไปที่ Jardin Anglais เป็นสวนสาธารณะ
ด้านหน้าเป็นนาฬิกายักษ์แบบนี้ สังเกตง่าย ถ้าข้ามมาจากสะพาน Pont du Mont-Blanc ก็เห็นเลยค่ะ
เดินเข้ามาเรื่อยๆ จนถึงริมทะเลสาบ Geneva ก็จะเห็น Jet d'Eau เป็น tourist attraction ของ Geneva เลย
ออกมาจาก Jardin Anglais เลี้ยวขวา เดินกลับมาทางสถานีรถไฟ ข้ามสะพาน Pont du Mont-Blanc ชมวิวหน่อย
มาสวิตเซอร์แลนด์ทั้งที จะพลาดชมนาฬิกาได้ยังไง ใครสนใจซื้อนาฬิกากลับบ้าน ก็แวะชมได้ มีตั้งแต่แบรนด์ธรรมดาๆ ราคารับได้ ไปจนถึงเรือนนึง ราคาแตะหลักล้านบาท ช็อปนาฬิกา จขกท เจออยู่เรื่อยๆ ตามเมืองต่างๆ ค่ะ
Geneva ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งนาฬิกาอีกเมืองหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ เป็นบ้านเกิดของนาฬิกาแบรนด์ Patek Philippe นาฬิกาหรูหราและแพงที่สุดในสวิส (อ้างอิงจากหนังสือ)
เนื่องจากวันนี้ลูกทัวร์ จขกท ดูนอยด์ๆ เหนื่อยๆ จากการเดินทาง (ที่เกือบตกรถไฟจาก Paris) เวลาที่เลทไปมากจากการฝากกระเป๋าและซื้อ Swiss pass ที่สำคัญ วันนี้ จขกท ตั้งใจจะนั่งรถไฟไปค้างที่ Zermatt ด้วย กลัวว่าจะไปถึง Zermatt ดึกไป ทุกคนเลยลงความเห็นว่าไป Zermatt เลยดีกว่า
สำหรับ Geneva ส่วนตัวเราว่าก็สวยดีค่ะ แต่คนค่อนข้างพลุกพล่านมาก วันที่เราไปมีงานอะไรสักอย่างด้วย คนเลยยิ่งเยอะเข้าไปอีก เดินไปไหนก็เจอแต่คน ถ่ายรูปก็ติดคน ผิดหวังจากที่คิดไว้นิดหน่อย เลยไป Zermatt เลยดีกว่า แต่จริงๆ แล้ว Geneva มีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายที่เลย เช่น Broken Chair สำนักงานองค์การสหประชาชาติ (UN) อนุสาวรีย์ Brunswick เรือล่องทะสาบ Geneva ใครมีโอกาสไป ลองไปชมดูได้ค่ะ
ส่วน จขกท ขอตัวไป Zermatt ก่อนน้า
จาก Geneva ไป Zermatt เปลี่ยนขบวน 1 ครั้งที่ Visp ใช้เวลาเดินทางจาก Geneva ไป Visp ประมาณ 2.20 ชม. จาก Visp ไป Zermatt ประมาณ 1 ชม.
พอรถไฟออก นายตรวจก็จะเดินตรวจตั๋ว เราก็แค่ยื่น Swiss pass ให้นายตรวจดู แค่นี้ก็ผ่านฉลุยค่ะ
รถไฟในสวิสจะมีที่วางกระเป๋าเดินทางอยู่บริเวณประตูทางขึ้น แต่ถ้ากระเป๋าใบไม่ใหญ่ แล้วคนในขบวนไม่เยอะ ก็เอาไปนั่งกับเราได้ที่ที่นั่งค่ะ ไม่หาย สบายใจด้วย เนื่องจาก จาก Geneva ไป Visp จขกท เจอเหตุการณ์ระทึก มีคนสวิสกระเป๋าเดินทางใบเล็กหายบนรถไฟ ทั้งเงิน บัตรเครดิต พาสปอร์ต หายหมดเลย คนสวิสเองแท้ๆ TT เจอคุณลุงบนรถไฟก็เลยคุยกัน บางคนคิดว่าไปเที่ยวสวิสไม่ต้องห่วงกระเป๋าหรอก ปลอดภัยไม่มีโจร อยากให้เปลี่ยนความคิด โจรมีอยู่ทุกที่ค่ะ คุณลุงบอกว่าเด่วนี้สวิสโจรบนรถไฟก็เยอะ ส่วนใหญ่เป็นคนชาติอื่นเข้ามา เพราะเค้ารู้ว่านักท่องเที่ยวมาเที่ยวสวิสเยอะขึ้นทุกปี ยังไงก็ระวังตัวเองไว้ดีที่สุดเนอะ
พอถึง Visp ก็มีเวลาประมาณ 15 นาที ไปอีกชานชะลาตามที่จดโพยมาเพื่อเปลี่ยนขบวนรถไฟ นักท่องเที่ยวลากกระเป๋าเดินกันไปเยอะค่ะ
เส้นทางจาก Visp ไป Zermatt แนะนำมากๆ ๆ ๆ อย่าหลับนะคะ เพราะต่อจากนี้ เส้นทางธรรมชาติล้วนๆ ขึ้นเขาไปยังเมือง Zermatt สวยมากๆ ที่เหนื่อยๆ นอยด์ๆ เมื่อเช้า หายหมดเกลี้ยง พอเห็นวิวระหว่างทาง ทั้งภูเขา ทั้งแม่น้ำ สวยจริงๆ
รูปทั้งหมด อยากให้ไปเห็นกับตา ของจริงสวยกว่ารูปมากค่ะ
กระจกหน้าต่างเปิดได้นะค้า รับลมเย็นๆ
ระหว่างทาง ตามสถานีต่างๆ ก็มีโรงแรมไว้บริการนักท่องเที่ยว
รถไฟเป็นแบบขบวนท้องถิ่นเล็กๆ (ในสวิส จะมีรถไฟหลายแบบค่ะ)
ลำธารที่น้ำไหลตลอด และน้ำใสมากค่ะ
ขบวนที่นั่งจาก Visp มา Zermatt หน้าตาเป็นงี้
ถึง Zermatt ก็เจอป้ายยินดีต้อนรับหลากหลายภาษาแบบนี้ค่า
จัดการขนกระเป๋าลงจากรถไฟ แล้วไป Check in โรงแรมกันก่อน
โรงแรมที่จองไว้ที่ Zermatt สำหรับคืนนี้ ชื่อ Hotel Garni Testa Grigia ดูจาก review ใน pantip และคะแนนที่ได้จาก booking.com สูงมาก ทั้งคะแนนความสะอาด ปลอดภัย สะดวกสบาย ที่สำคัญ location หาง่ายและใกล้สถานีรถไฟมาก ตัดสินใจเอาโรงแรมนี้แหละ
สำหรับที่ตั้งโรงแรมอยู่บนถนนเส้นหลักของเมืองหรือ Bahnhofstrasse จากสถานีรถไฟ ออกมาเลี้ยวขวาเดินตามถนนเส้นหลักไปเรื่อยๆ ไม่ไกล โรงแรมจะอยู่ทางซ้าย หาง่ายมากถึงมากที่สุดค่ะ
ด้านหน้าโรงแรม รูปดูดีกว่าใน booking.com มาก มีคะแนนจาก booking.com ติดหน้าโรงแรมด้วยค่ะ
เข้ามาในโรงแรม ไม่ผิดหวังเลยค่ะ ดีทุกอย่างจริงๆ แนะนำมากๆ ใครไป Zermatt ลองพักโรงแรมนี้ได้เลย
เด่วจะไปกินอาหารเย็นกันค่า