คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
เป็นสังคมที่คนทำจริงๆไม่ได้สวยๆเหมือนในหนังขนาดนั้น ทำงานหน้ามันหัวฟู
มีเรื่องให้จำ มีช่างให้ตบตี มีงานให้แก้ เหมือนอาชีพทั่วไปนี่แหละ
วันที่คุณจะสวยที่สุดคือวันโชว์งานอะนะ แล้วก็นวงจรเดิมอีกครั้ง
ถ้าถามแบบสังคมลึกๆเป็นแบบไหน ตอบไม่ได้นะคะ เพราะแล้วแต่ที่ๆที่งาน แล้วแต่ด้วยว่างานแบบไหน
เรียนFashion designer แล้วอาจจะเปิดแบรนด์ ขายเสื้อผ้าในกระแส ขายเสือผ้าในสยาม ทำงานกับแบรนด์
ทำแพทเทิร์น เป็นนักวาดภาพแฟชั่น(ซึ่งอาจจะกลายเป็นภาพประกอบทีหลัง) ออกแบบลายผ้า หรือจะเป็นนักออกแบบ
หรืออาจจะกลายเป็นเกือบทั้งหมดในร่างเดียวกันก็ได้
(เราเรียนสายตรงเลย มหาวิทยลัยเอกชน)
สังคมเนี่ยสำหรับเราค่อนข้างไม่ชอบ เหนื่อยกับการกระตือรือล้นตลอดเวลา ต้องแอคทีฟ ต้องมีคอนเนคชั่น
เสียค่าใช้จ่ายหลายๆอย่างเยอะ คนเก่งก็มีมาก สมัยเรียนอาจจะเป็นสายประกวด สายเรียน บลาๆ
เรียนจบไปทำงาน ก็ต้องเข่าใจนะว่าเรื่องเสื้อผ้าในไทยค่อนข้างขาลงแล้ว ค่าแรงกับค่าไอเดีย อาจไม่คุ้มกับเสื้อผ้าตัวไม่กี่ร้อย
แถมต้องคุยกับช่างเย็บ ซึ่งเป็นปัญหาที่สุด(หรือจะเย็บเอง บอกด้วยความสัตย์จริง ถ้าไม่มีคนคอยช่วยเราว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย)
ฉะนั้นเสื้อผ้าแนวนี้ก็ต้องร้อยปลายๆ พันขึ้นไป (มีเพื่อนทำขำๆ เสื้อเชิ้ตตัวละ 1200 มีตัวสองตัว ทำเองขายเอง)
ไปทำงานกับบริษัท (รับจ้างตัดเย็บ ทำแพทเทิร์น รับออกแบบลาย) จะเจอกับเรื่องการคุยกับลูกค้า จุกจิก มีความอดทนสูง
ซึ่งเราว่าเป็นเรื่องปกติของทุกอาชีพแหละ แต่จะลำบากแตกต่างกันไป
หรือจะอยู่กับแบรนด์อันนี้ต้องรอผู้รู้มาตอบเอง
เอาเป็นว่า ก็คล้ายๆอาชีพเฉพาะทางทั่วไป ถ้ามีใจรัก อดทนสูงเราว่าก็ผ่านไปได้นะ
เพิ่มเติม
เห็นเรียนการตลาด เคยเห็นคนเรียนการตลาด เปิดแบรนด์เหมือนกันทำร่วมกับดีไซด์เนอร์ใหม่
(ไปดูงานในงานธีสิสแล้วติดต่อไป) ก็ไม่รุ้ว่าเป็นยังไงเหมือนกัน ไม่เคยถาม
เราก็ไม่ได้เป็นคนในสายตรง (คือเรียน แต่ว่าไม่ได้ทำงานสายดีไซด์เนอร์เต็มตัว)
แต่การตลาดต้องมีการคำนวน การคิดแผนโฆษณา แพคเกจ การกำหนดราคา ซึ่งเราว่าส่วนมากยังขาดจุดนี้กัน
(ส่วนมากคำนวนไม่เก่งกัน) เช่นมีการคิดว่าต้นทุนทั้งหมดเท่าไหร่ ราคาขาย ราคาเซลล์ ประมาณนี้
อาจจะลองไปหาทำก่อนที่พวกแบรนด์แล้วน่าจะเข้าใจมากขึ้นนะคะ (ตปท ก็มีหลักสูตรสำหรับการตลาดเสื้อผ้านะ)
มีเรื่องให้จำ มีช่างให้ตบตี มีงานให้แก้ เหมือนอาชีพทั่วไปนี่แหละ
วันที่คุณจะสวยที่สุดคือวันโชว์งานอะนะ แล้วก็นวงจรเดิมอีกครั้ง
ถ้าถามแบบสังคมลึกๆเป็นแบบไหน ตอบไม่ได้นะคะ เพราะแล้วแต่ที่ๆที่งาน แล้วแต่ด้วยว่างานแบบไหน
เรียนFashion designer แล้วอาจจะเปิดแบรนด์ ขายเสื้อผ้าในกระแส ขายเสือผ้าในสยาม ทำงานกับแบรนด์
ทำแพทเทิร์น เป็นนักวาดภาพแฟชั่น(ซึ่งอาจจะกลายเป็นภาพประกอบทีหลัง) ออกแบบลายผ้า หรือจะเป็นนักออกแบบ
หรืออาจจะกลายเป็นเกือบทั้งหมดในร่างเดียวกันก็ได้
(เราเรียนสายตรงเลย มหาวิทยลัยเอกชน)
สังคมเนี่ยสำหรับเราค่อนข้างไม่ชอบ เหนื่อยกับการกระตือรือล้นตลอดเวลา ต้องแอคทีฟ ต้องมีคอนเนคชั่น
เสียค่าใช้จ่ายหลายๆอย่างเยอะ คนเก่งก็มีมาก สมัยเรียนอาจจะเป็นสายประกวด สายเรียน บลาๆ
เรียนจบไปทำงาน ก็ต้องเข่าใจนะว่าเรื่องเสื้อผ้าในไทยค่อนข้างขาลงแล้ว ค่าแรงกับค่าไอเดีย อาจไม่คุ้มกับเสื้อผ้าตัวไม่กี่ร้อย
แถมต้องคุยกับช่างเย็บ ซึ่งเป็นปัญหาที่สุด(หรือจะเย็บเอง บอกด้วยความสัตย์จริง ถ้าไม่มีคนคอยช่วยเราว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย)
ฉะนั้นเสื้อผ้าแนวนี้ก็ต้องร้อยปลายๆ พันขึ้นไป (มีเพื่อนทำขำๆ เสื้อเชิ้ตตัวละ 1200 มีตัวสองตัว ทำเองขายเอง)
ไปทำงานกับบริษัท (รับจ้างตัดเย็บ ทำแพทเทิร์น รับออกแบบลาย) จะเจอกับเรื่องการคุยกับลูกค้า จุกจิก มีความอดทนสูง
ซึ่งเราว่าเป็นเรื่องปกติของทุกอาชีพแหละ แต่จะลำบากแตกต่างกันไป
หรือจะอยู่กับแบรนด์อันนี้ต้องรอผู้รู้มาตอบเอง
เอาเป็นว่า ก็คล้ายๆอาชีพเฉพาะทางทั่วไป ถ้ามีใจรัก อดทนสูงเราว่าก็ผ่านไปได้นะ
เพิ่มเติม
เห็นเรียนการตลาด เคยเห็นคนเรียนการตลาด เปิดแบรนด์เหมือนกันทำร่วมกับดีไซด์เนอร์ใหม่
(ไปดูงานในงานธีสิสแล้วติดต่อไป) ก็ไม่รุ้ว่าเป็นยังไงเหมือนกัน ไม่เคยถาม
เราก็ไม่ได้เป็นคนในสายตรง (คือเรียน แต่ว่าไม่ได้ทำงานสายดีไซด์เนอร์เต็มตัว)
แต่การตลาดต้องมีการคำนวน การคิดแผนโฆษณา แพคเกจ การกำหนดราคา ซึ่งเราว่าส่วนมากยังขาดจุดนี้กัน
(ส่วนมากคำนวนไม่เก่งกัน) เช่นมีการคิดว่าต้นทุนทั้งหมดเท่าไหร่ ราคาขาย ราคาเซลล์ ประมาณนี้
อาจจะลองไปหาทำก่อนที่พวกแบรนด์แล้วน่าจะเข้าใจมากขึ้นนะคะ (ตปท ก็มีหลักสูตรสำหรับการตลาดเสื้อผ้านะ)
แสดงความคิดเห็น
ิอยากรู้ว่าสังคมของ fashion desginer จริงๆเป็นแบบไหน?
อยากรู้ว่าเหมือนในหนังไหม แล้วการเรียน การทำงาน ยากไหมค่ะ แข่งขันกันสูงไหม?