ตอนที่ 17 Part 3

"ยังมีรอยเขียวช้ำเป็นจ้ำๆ อยู่เลย นายยังเจ็บอยู่มั้ย" ณมนเอ่ยถามด้วยความสงสารเมื่อเห็นว่าเนื้อตัวของชายหนุ่มยังทิ้งร่องรอยของความบอบช้ำจากการต่อสู้อยู่ไม่น้อย

"ไม่ค่อยเจ็บแล้วล่ะ เป็นห่วงฉันด้วยหรือ กลัวฉันจะตายใช่ไหมล่ะ"

"ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันไม่ตายง่ายๆหรอก ตราบใดที่ฉันยังไม่ได้แต่งงานกับเธอ"

"เอ๊ย...บ้า ใครแต่งกับนาย เพ้อเจ้อ"

"พูดมากอยู่นั่นแหละ เดี๋ยวก็ไม่ทาให้ซะเลย" ด้วยความอายณมนเลยต้องทำเป็นโกรธเสียงขุ่น

"เพ้อเจ้ออะไร ก็เธอบอกว่าเธอรักฉันไม่ใช่หรอ หื้อ..."

"เอ๊ย...บ้าแล้ว ใครบอกนาย ฉันยังไม่เคยบอกนายสักหน่อย อย่ามาโมเมนะ"

"เธอนั่นแหละพูด"

"ฉันได้ยินเต็มสองหูเลย"

"เอ่อ...เอ๊ย ไม่ใช่ มั่วแล้ว ฉันว่านะ นายน่ะนอนละเมอ หรือไม่ก็ฝันไปเองต่างหาก"

"ที่โรงพยาบาลน่ะ เธอพูดอะไรกับฉันไว้ ฉันจำได้ทุกคำที่เธอบอกฉัน เพราะตอนนั้น...ฉันไม่ได้หลับ"

"อะไรนะ นี่นายหลอกฉันหรอ ทุเรศที่สุดเลย ฉันจะไม่ยุ่งกับนายแล้ว"

ด้วยความอาย ณมนเลยแสร้งทำเป็นโมโหแล้ววิ่งออกมาจากห้องเพราะไม่รู้ว่าจะทำหน้าอย่างไรดีที่เขารู้ว่าเธอรู้สึกอย่างไรเพราะเธอดันไปสารภาพรักกับเขาซะจนหมดเปลือก
ตีหนึ่งเป็นเวลาล่วงสู่วันใหม่แต่ภาพเหตุการณ์ในวันนี้กลับยังอยู่ในความนึกคิดของเขาและเธอ


"โอ๊ย...ยัยณมนนะยัยณมน ทีนี้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนล่ะเนี่ย"

"แล้วพรุ่งนี้เจอหน้านายนั่นแล้วฉันจะทำหน้ายังไงเนี่ย บ้าที่สุดเลย"


มหาสวัสดิ์ยิ้มกับตัวเอง คิดถึงใบหน้าหวาน ที่ยามดุทั้งน่ากลัวและน่าขัน ยามยิ้มกลับน่ารักน่ามองจนแทบถอนสายตาไม่ได้ ลิ้มฝีปากบางจิ้มลิ้มที่มักจะทำให้เขาไขว้เขวทุกที ว่าแล้วก็กดโทรศัพท์ไปหาเจ้าของลิ้มฝีปากบางจิ้มลิ้มคนนั้นดีกว่า

"ว๊าย..ตาบ้า โทรมาทำไมเนี่ย ฉันยิ่งไม่อยากเจอนายอยู่ด้วย"

"เมื่อหัวค่ำเธอเป็นอะไรหรือเปล่า เห็นเธอวิ่งพลวดพลาดออกไป ฉันพูดอะไรผิดไปหรือ"

"ก็..ไม่ได้เป็นอะไรนี่ แล้วโทรมาทำไม อย่าบอกนะว่าโทรมาเพื่อจะพูดเรื่องแค่นี้ตอนตีหนึ่งเนี่ยนะ"

"จะโทรมาบอกว่า...
คิดถึง"

ณมนอึ้งไปสักพักก่อนจะตอบ
"โทรมากวนชาวบ้านเขาตอนตีหนึ่งเพื่อจะบอกว่าคิดถึงเนี่ยนะคนบ้า"

"ฉันคิดถึงเธอมากจริงๆนะ อยากอยู่ใกล้ อยากคุยด้วย แล้วเธอล่ะ คิดถึงฉันบ้างไหม"

"เอ่อ...ไม่ ใครจะไปคิดถึงนาย" ณมนพูดไม่เต็มเสียงนักด้วยความขัดเขิน ใครจะกล้าตอบล่ะว่าคิดถึงตาบ้า ณมนคิดในใจ

"ใจร้าย... แต่ไม่เป็นไร ต่อไปฉันจะทำให้เธอคิดถึงฉันทุกวันเลยล่ะ

"ไม่มีทางย่ะ"

"ไว้คอยดูกันต่อไป แล้วพรุ่งนี้เธอจะมาดูแลฉันอีกไหม" ชายหนุ่มเอ่ยอย่างมีความหวังว่าหญิงสาวจะมาดูแลเขาเหมือนเช่นเคย

"พรุ่งนี้ฉันไม่ว่าง มีงานเดินแบบเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่น่ะ ถามทำไมหรือ"

"ว้า..งั้นพรุ่งนี้ฉันก็ไม่มีพยาบาลสาวสวยมาคอยป้อนข้าวป้อนน้ำป้อนยา ทายาให้นะซิ คิดถึงตายเลย"

"ฮึ นายก็ทำเองบ้างซิ ฉันรู้นะว่าจริงๆแล้วอาการของนายดีขึ้นมากแล้ว นายอย่ามาเนียนใช้ฉัน ฉันรู้ว่าตอนที่ฉันไม่อยู่นายก็เดินไปโน้นไปนี่เองได้ แถมยังไปทำงานได้ด้วย อย่าคิดนะว่าฉันไม่รู้"

"ตายล่ะ นี่แอบสืบข่าวฉันด้วยหรือนี่ เป็นห่วงฉันล่ะซิ ใช่มั้ย บอกให้ชื่นใจหน่อยซิ นะครับคนดี"

"อะไร ใครห่วงนายกัน ฉันก็แค่ดูแลนายไปตามหน้าที่ก็แค่นั้น ไม่ได้รู้สึกอะไรย่ะ"

"จริงหรือ... แล้วใครกันนะมาสารภาพรักกับฉันที่โรงพยาบาลน่ะ ดีนะ ต่อหน้าไม่พูด แต่แอบไปพร่ำเพ้อตอนเขาหลับไม่ได้สติซะงั้น นี่ถ้าฉันไม่แกล้งหลับคงไม่ได้รู้ว่าเธอน่ะหลงรักฉันเข้าให้แล้ว รักมากซะด้วย" เขาแกล้งเอ่ยแซวหญิงสาว

"บ้า ฉันว่านายนอนละเมอฝันไปแล้วล่ะ แค่นี่นะฉันง่วงแล้วฉันอยากจะนอน พรุ่งนี้ฉันต้องทำงานนะย่ะ ไม่ได้นอนเปื่อยสบายๆ อย่างนายนี่" ณมนแสร้งทำเสียงขุ่นทั้งที่ในใจกลับรู้สึกเขินอายที่สุด

"เอาล่ะ ฉันไม่เซ้าซี้เธอก็ได้ ไหนลองพูดจาหวานๆ หน่อยซิ แล้วฉันจะรีบวางหูไม่กวนเธอแล้ว พูดซิจ๊ะ หวานๆ น่ะ"

"ค่ะ ฝันดีนะคะ"

"ครับ จุ๊บๆ ฝันดีนะครับที่รัก"


"ตาบ้า บทจะหวาน ก็หวานซะฉันขนลุกเชียว"
ชายหนุ่มวางสายไปแล้ว คนบ้าจะมาไม้ไหนกันแน่เนี่ย ณมนบ่นอุบอิบอยู่คนเดียว คิดถึงเรื่องราวตั้งแต่สมัยเด็กๆ จำได้ว่าคุณลุงกมลมักจะพาลูกชายของท่านมาที่บ้านอยู่เสมอเพราะว่าบ้านของเราอยู่ติดกัน คุณพ่อมักจะชมเด็กชายมหาสวัสดิ์ว่าหน้าตาดี เรียนเก่ง นิสัยดี ทำให้เด็กหญิงณมนอดอิจฉาไม่ได้ รู้สึกว่ามหาสวัสดิ์ทำอะไรมักจะได้รับคำยกย่อง ชมเชย จากบิดาของตนเสมอ ตั้งแต่นั้นมาจึงตั้งตนเป็นอริกับเขา อีกทั้งเขาเองก็ชอบยั่วเย้าให้เธอต้องหงุดหงิด อารมณ์เสียเป็นประจำ

ฝ่ายมหาสวัสดิ์ก็เช่นเดียวกัน กำลังหวนคิดถึงสมัยยังเด็ก เขายังจำวันแรกที่ได้รู้จักกับเด็กหญิงผมเปีย ตัวอ้วนกลม แสนเอาแต่ใจได้เป็นอย่างดี เด็กหญิงวิ่งมาชนเขาทำให้ตุ๊กตาที่อยู่ในมือสาวน้อยกระเด็นตกลงไปในบ่อโคลน จนเจ้าตัวนั้นเปรอะเปื้อนไปหมด เธอร้องไห้โห หาว่าเขาแกล้ง แถมยังวิ่งไปฟ้งคุณอามหศักดิ์และพ่อของเขา ทำให้เขาต้องโดนพ่อทำโทษ เขาโกรธเธอมาก ตั้งแต่นั้นมาทั้งเขาและเธอก็เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด ดังนั้นเขามักจะชอบแกล้งให้เธอโมโหเป็นประจำ รู้สึกสนุกสนานที่สามารถทำให้เธอแสดงอารมณ์อันหลากหลายออกมาได้ ไม่คิดเลยว่าห่างกันไปเกือบ 20 ปี เธอก็ยังเหมือนเดิม หากแต่ว่าโตเป็นสาวสะพรั่ง สวยขึ้นมาก ใครจะคิดว่าเขาจะเกิดรักใคร่เด็กผู้หญิงตัวอ้วนคนนั้นในวันนี้ได้ เขาอยากอยู่กับเธอในทุกห้วงอารมณ์ และในขณะนี้เขากำลังจินตนาการถึงอารมณ์รักใคร่ที่หญิงสาวกำลังแสดงออกกับเขา อยากรู้ว่าเขาจะทำให้เธอหลงไหลได้เท่ากับที่เธอแทบจะทำให้เขาคลุ้มคลั่งในตอนนี้ได้หรือไม่
ติดตามอ่าน "อุบัติรัก สลัดลาย" (นิยายมโน) ในตอนต่อไป
* หายไปนานเลย ไม่รู้ยังมีใครรออ่านอยู่ไหม พยายามจะมาลงให้จบก่อนละครไม่สิ้นไร้ไฟสวาทจะออนแอร์นะ
"อุบัติรัก สลัดลาย" (นิยายมโน) ตอนที่ 17 Part 3 นำแสดงโดย พี่ตุ้ย - ขวัญ
"ยังมีรอยเขียวช้ำเป็นจ้ำๆ อยู่เลย นายยังเจ็บอยู่มั้ย" ณมนเอ่ยถามด้วยความสงสารเมื่อเห็นว่าเนื้อตัวของชายหนุ่มยังทิ้งร่องรอยของความบอบช้ำจากการต่อสู้อยู่ไม่น้อย
"ไม่ค่อยเจ็บแล้วล่ะ เป็นห่วงฉันด้วยหรือ กลัวฉันจะตายใช่ไหมล่ะ"
"ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันไม่ตายง่ายๆหรอก ตราบใดที่ฉันยังไม่ได้แต่งงานกับเธอ"
"เอ๊ย...บ้า ใครแต่งกับนาย เพ้อเจ้อ"
"พูดมากอยู่นั่นแหละ เดี๋ยวก็ไม่ทาให้ซะเลย" ด้วยความอายณมนเลยต้องทำเป็นโกรธเสียงขุ่น
"เพ้อเจ้ออะไร ก็เธอบอกว่าเธอรักฉันไม่ใช่หรอ หื้อ..."
"เอ๊ย...บ้าแล้ว ใครบอกนาย ฉันยังไม่เคยบอกนายสักหน่อย อย่ามาโมเมนะ"
"เธอนั่นแหละพูด"
"ฉันได้ยินเต็มสองหูเลย"
"เอ่อ...เอ๊ย ไม่ใช่ มั่วแล้ว ฉันว่านะ นายน่ะนอนละเมอ หรือไม่ก็ฝันไปเองต่างหาก"
"ที่โรงพยาบาลน่ะ เธอพูดอะไรกับฉันไว้ ฉันจำได้ทุกคำที่เธอบอกฉัน เพราะตอนนั้น...ฉันไม่ได้หลับ"
"อะไรนะ นี่นายหลอกฉันหรอ ทุเรศที่สุดเลย ฉันจะไม่ยุ่งกับนายแล้ว"
ด้วยความอาย ณมนเลยแสร้งทำเป็นโมโหแล้ววิ่งออกมาจากห้องเพราะไม่รู้ว่าจะทำหน้าอย่างไรดีที่เขารู้ว่าเธอรู้สึกอย่างไรเพราะเธอดันไปสารภาพรักกับเขาซะจนหมดเปลือก
ตีหนึ่งเป็นเวลาล่วงสู่วันใหม่แต่ภาพเหตุการณ์ในวันนี้กลับยังอยู่ในความนึกคิดของเขาและเธอ
"โอ๊ย...ยัยณมนนะยัยณมน ทีนี้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนล่ะเนี่ย"
"แล้วพรุ่งนี้เจอหน้านายนั่นแล้วฉันจะทำหน้ายังไงเนี่ย บ้าที่สุดเลย"
มหาสวัสดิ์ยิ้มกับตัวเอง คิดถึงใบหน้าหวาน ที่ยามดุทั้งน่ากลัวและน่าขัน ยามยิ้มกลับน่ารักน่ามองจนแทบถอนสายตาไม่ได้ ลิ้มฝีปากบางจิ้มลิ้มที่มักจะทำให้เขาไขว้เขวทุกที ว่าแล้วก็กดโทรศัพท์ไปหาเจ้าของลิ้มฝีปากบางจิ้มลิ้มคนนั้นดีกว่า
"ว๊าย..ตาบ้า โทรมาทำไมเนี่ย ฉันยิ่งไม่อยากเจอนายอยู่ด้วย"
"เมื่อหัวค่ำเธอเป็นอะไรหรือเปล่า เห็นเธอวิ่งพลวดพลาดออกไป ฉันพูดอะไรผิดไปหรือ"
"ก็..ไม่ได้เป็นอะไรนี่ แล้วโทรมาทำไม อย่าบอกนะว่าโทรมาเพื่อจะพูดเรื่องแค่นี้ตอนตีหนึ่งเนี่ยนะ"
"จะโทรมาบอกว่า...คิดถึง"
ณมนอึ้งไปสักพักก่อนจะตอบ
"โทรมากวนชาวบ้านเขาตอนตีหนึ่งเพื่อจะบอกว่าคิดถึงเนี่ยนะคนบ้า"
"ฉันคิดถึงเธอมากจริงๆนะ อยากอยู่ใกล้ อยากคุยด้วย แล้วเธอล่ะ คิดถึงฉันบ้างไหม"
"เอ่อ...ไม่ ใครจะไปคิดถึงนาย" ณมนพูดไม่เต็มเสียงนักด้วยความขัดเขิน ใครจะกล้าตอบล่ะว่าคิดถึงตาบ้า ณมนคิดในใจ
"ใจร้าย... แต่ไม่เป็นไร ต่อไปฉันจะทำให้เธอคิดถึงฉันทุกวันเลยล่ะ
"ไม่มีทางย่ะ"
"ไว้คอยดูกันต่อไป แล้วพรุ่งนี้เธอจะมาดูแลฉันอีกไหม" ชายหนุ่มเอ่ยอย่างมีความหวังว่าหญิงสาวจะมาดูแลเขาเหมือนเช่นเคย
"พรุ่งนี้ฉันไม่ว่าง มีงานเดินแบบเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่น่ะ ถามทำไมหรือ"
"ว้า..งั้นพรุ่งนี้ฉันก็ไม่มีพยาบาลสาวสวยมาคอยป้อนข้าวป้อนน้ำป้อนยา ทายาให้นะซิ คิดถึงตายเลย"
"ฮึ นายก็ทำเองบ้างซิ ฉันรู้นะว่าจริงๆแล้วอาการของนายดีขึ้นมากแล้ว นายอย่ามาเนียนใช้ฉัน ฉันรู้ว่าตอนที่ฉันไม่อยู่นายก็เดินไปโน้นไปนี่เองได้ แถมยังไปทำงานได้ด้วย อย่าคิดนะว่าฉันไม่รู้"
"ตายล่ะ นี่แอบสืบข่าวฉันด้วยหรือนี่ เป็นห่วงฉันล่ะซิ ใช่มั้ย บอกให้ชื่นใจหน่อยซิ นะครับคนดี"
"อะไร ใครห่วงนายกัน ฉันก็แค่ดูแลนายไปตามหน้าที่ก็แค่นั้น ไม่ได้รู้สึกอะไรย่ะ"
"จริงหรือ... แล้วใครกันนะมาสารภาพรักกับฉันที่โรงพยาบาลน่ะ ดีนะ ต่อหน้าไม่พูด แต่แอบไปพร่ำเพ้อตอนเขาหลับไม่ได้สติซะงั้น นี่ถ้าฉันไม่แกล้งหลับคงไม่ได้รู้ว่าเธอน่ะหลงรักฉันเข้าให้แล้ว รักมากซะด้วย" เขาแกล้งเอ่ยแซวหญิงสาว
"บ้า ฉันว่านายนอนละเมอฝันไปแล้วล่ะ แค่นี่นะฉันง่วงแล้วฉันอยากจะนอน พรุ่งนี้ฉันต้องทำงานนะย่ะ ไม่ได้นอนเปื่อยสบายๆ อย่างนายนี่" ณมนแสร้งทำเสียงขุ่นทั้งที่ในใจกลับรู้สึกเขินอายที่สุด
"เอาล่ะ ฉันไม่เซ้าซี้เธอก็ได้ ไหนลองพูดจาหวานๆ หน่อยซิ แล้วฉันจะรีบวางหูไม่กวนเธอแล้ว พูดซิจ๊ะ หวานๆ น่ะ"
"ค่ะ ฝันดีนะคะ"
"ครับ จุ๊บๆ ฝันดีนะครับที่รัก"
"ตาบ้า บทจะหวาน ก็หวานซะฉันขนลุกเชียว"
ชายหนุ่มวางสายไปแล้ว คนบ้าจะมาไม้ไหนกันแน่เนี่ย ณมนบ่นอุบอิบอยู่คนเดียว คิดถึงเรื่องราวตั้งแต่สมัยเด็กๆ จำได้ว่าคุณลุงกมลมักจะพาลูกชายของท่านมาที่บ้านอยู่เสมอเพราะว่าบ้านของเราอยู่ติดกัน คุณพ่อมักจะชมเด็กชายมหาสวัสดิ์ว่าหน้าตาดี เรียนเก่ง นิสัยดี ทำให้เด็กหญิงณมนอดอิจฉาไม่ได้ รู้สึกว่ามหาสวัสดิ์ทำอะไรมักจะได้รับคำยกย่อง ชมเชย จากบิดาของตนเสมอ ตั้งแต่นั้นมาจึงตั้งตนเป็นอริกับเขา อีกทั้งเขาเองก็ชอบยั่วเย้าให้เธอต้องหงุดหงิด อารมณ์เสียเป็นประจำ
ฝ่ายมหาสวัสดิ์ก็เช่นเดียวกัน กำลังหวนคิดถึงสมัยยังเด็ก เขายังจำวันแรกที่ได้รู้จักกับเด็กหญิงผมเปีย ตัวอ้วนกลม แสนเอาแต่ใจได้เป็นอย่างดี เด็กหญิงวิ่งมาชนเขาทำให้ตุ๊กตาที่อยู่ในมือสาวน้อยกระเด็นตกลงไปในบ่อโคลน จนเจ้าตัวนั้นเปรอะเปื้อนไปหมด เธอร้องไห้โห หาว่าเขาแกล้ง แถมยังวิ่งไปฟ้งคุณอามหศักดิ์และพ่อของเขา ทำให้เขาต้องโดนพ่อทำโทษ เขาโกรธเธอมาก ตั้งแต่นั้นมาทั้งเขาและเธอก็เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด ดังนั้นเขามักจะชอบแกล้งให้เธอโมโหเป็นประจำ รู้สึกสนุกสนานที่สามารถทำให้เธอแสดงอารมณ์อันหลากหลายออกมาได้ ไม่คิดเลยว่าห่างกันไปเกือบ 20 ปี เธอก็ยังเหมือนเดิม หากแต่ว่าโตเป็นสาวสะพรั่ง สวยขึ้นมาก ใครจะคิดว่าเขาจะเกิดรักใคร่เด็กผู้หญิงตัวอ้วนคนนั้นในวันนี้ได้ เขาอยากอยู่กับเธอในทุกห้วงอารมณ์ และในขณะนี้เขากำลังจินตนาการถึงอารมณ์รักใคร่ที่หญิงสาวกำลังแสดงออกกับเขา อยากรู้ว่าเขาจะทำให้เธอหลงไหลได้เท่ากับที่เธอแทบจะทำให้เขาคลุ้มคลั่งในตอนนี้ได้หรือไม่
ติดตามอ่าน "อุบัติรัก สลัดลาย" (นิยายมโน) ในตอนต่อไป
* หายไปนานเลย ไม่รู้ยังมีใครรออ่านอยู่ไหม พยายามจะมาลงให้จบก่อนละครไม่สิ้นไร้ไฟสวาทจะออนแอร์นะ