ทฤษฏีอันนึงที่น่าสนใจ ทางเศรษฐศาสตร์ ที่แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ของมูลค่า กับคุณค่า โดยใช้การเปรียบเทียบตัวอย่างของ 2 สิ่ง คือ น้ำกับ เพชร (Diamond-water Paradox) โดยที่ เพชรเป็นตัวแทนของมูลค่า ความพอใจ อิ่มเอม และน้ำเป็นตัวแทนของคุณค่า ที่มีค่าต่อร่างกายมนุษย์ หากสมมติให้ด.ญ.โรส สนใจเลือกซื้อระหว่างเพชรกับน้ำ โดยที่ไม่มีปัญหาเรื่องเงินเลย เพื่อสนองความต้องการของเขา ให้เกิดอรรถประโยชน์ ความพึงพอใจกับตัวเองสูงสุด โดยที่ราคาเพชรอาจเป็นแสนๆเท่าของน้ำก็ตาม และหากโรส หิวกระหายน้ำมากๆ จะเป็นลม เขาจะมีวิธีการเลือกบริโภคอย่างไร จากสมมติฐานคือดังนี้
หากในครั้งแรก ให้เลือกบริโภคระหว่าง 2 อย่างนี้ โรสอาจจำเป็นต้องเลือกน้ำที่มีราคาถูก แต่ทำให้เขารู้สึกดีมาก มีพลังชีวิต ได้ประโยชน์กับร่างกายมากๆ เท่ากับเขาเลือกบริโภคด้านคุณค่ามาก่อน
หากในครั้งที่ 2 ให้เลือกเหมือนเดิม โรสก็อาจจะยังเลือกบริโคน้ำ เพื่อสำรอง หรือดื่มเพิ่มอีกสักนิด ให้ร่างกายได้รับน้ำเพียงพอ เขาก็ยังคงเลือกคุณค่ามาก่อน
แต่หากในครั้งที่ 3 ให้เลือกบริโภค โรสอาจคิดว่าน้ำไม่ได้จำเป็นต่อร่างกายเขาอีกแล้ว เขาไม่สามารถบริโภค และหากบริโภคอีกอาจทำให้เขาส่งผลลบ(Law of Diminishing Marginal Utility) ต่อร่างกายได้ น้ำกลายเป็นสิ่งไม่มีคุณค่า ในครั้งนี้เชื่อว่าเขาจะเลือกซื้อเพชร เนื่องจากทำให้เขามีความพอใจ มีประโยชน์มากกว่า อาจเก็บไว้เป็นทุนสำรอง ซื้อน้ำ อาหารได้ ในอนาคต หรือเอาไว้ประดับ อวดบารมีก็ตาม เขาจึงเลือกบริโภคที่มูลค่า ในครั้งนี้ และในครั้งต่อไปเรื่อยๆ ตราบที่น้ำยังไม่หมด และเขายังไม่หิวน้ำ
เมื่อสรุปโดยรวมพูดถึงการตัดสินใจ โดยยกตัวอย่างจากเรื่องด้านบนนี้ ทำให้เชื่อได้บางอย่าง ว่าคนเราไม่ได้เลือกซื้อ บริโภค จากคุณค่า มูลค่า โดยรวมของสินค้านั้นๆ แต่เลือกบริโภคจากการเปรียบเทียบ สัดส่วนความรู้สึก ที่พึงพอใจ(อรรถประโยชน์ส่วนเพิ่ม) จากทั้งสองสิ่งนี้ โดยทำการตัดสินใจเป็นครั้งๆไป และอีกส่วนที่น่าสนใจตั้งคำถามคือ ในการตัดสินใจของคนหนึ่งคน ไม่ได้สนใจเพียงแค่คุณค่า แต่สนใจมูลค่าด้วย ขึ้นกับประโยชน์ หรือความพอใจที่เขาได้รับ...แล้วเราจะมั่นใจกับการตัดสินใจ ของใครคนนึงได้ยาวนานได้อย่างไร แม้แต่เรื่องความรัก ที่มีคุณค่า กับมูลค่าเข้ามาเกี่ยว...
อยากแลกเปลี่ยน และพัฒนาการเขียน การคิดของตัวเองครับ...
น้ำกับ เพชร (Diamond-water Paradox) คุณค่า และมูลค่า...
หากในครั้งแรก ให้เลือกบริโภคระหว่าง 2 อย่างนี้ โรสอาจจำเป็นต้องเลือกน้ำที่มีราคาถูก แต่ทำให้เขารู้สึกดีมาก มีพลังชีวิต ได้ประโยชน์กับร่างกายมากๆ เท่ากับเขาเลือกบริโภคด้านคุณค่ามาก่อน
หากในครั้งที่ 2 ให้เลือกเหมือนเดิม โรสก็อาจจะยังเลือกบริโคน้ำ เพื่อสำรอง หรือดื่มเพิ่มอีกสักนิด ให้ร่างกายได้รับน้ำเพียงพอ เขาก็ยังคงเลือกคุณค่ามาก่อน
แต่หากในครั้งที่ 3 ให้เลือกบริโภค โรสอาจคิดว่าน้ำไม่ได้จำเป็นต่อร่างกายเขาอีกแล้ว เขาไม่สามารถบริโภค และหากบริโภคอีกอาจทำให้เขาส่งผลลบ(Law of Diminishing Marginal Utility) ต่อร่างกายได้ น้ำกลายเป็นสิ่งไม่มีคุณค่า ในครั้งนี้เชื่อว่าเขาจะเลือกซื้อเพชร เนื่องจากทำให้เขามีความพอใจ มีประโยชน์มากกว่า อาจเก็บไว้เป็นทุนสำรอง ซื้อน้ำ อาหารได้ ในอนาคต หรือเอาไว้ประดับ อวดบารมีก็ตาม เขาจึงเลือกบริโภคที่มูลค่า ในครั้งนี้ และในครั้งต่อไปเรื่อยๆ ตราบที่น้ำยังไม่หมด และเขายังไม่หิวน้ำ
เมื่อสรุปโดยรวมพูดถึงการตัดสินใจ โดยยกตัวอย่างจากเรื่องด้านบนนี้ ทำให้เชื่อได้บางอย่าง ว่าคนเราไม่ได้เลือกซื้อ บริโภค จากคุณค่า มูลค่า โดยรวมของสินค้านั้นๆ แต่เลือกบริโภคจากการเปรียบเทียบ สัดส่วนความรู้สึก ที่พึงพอใจ(อรรถประโยชน์ส่วนเพิ่ม) จากทั้งสองสิ่งนี้ โดยทำการตัดสินใจเป็นครั้งๆไป และอีกส่วนที่น่าสนใจตั้งคำถามคือ ในการตัดสินใจของคนหนึ่งคน ไม่ได้สนใจเพียงแค่คุณค่า แต่สนใจมูลค่าด้วย ขึ้นกับประโยชน์ หรือความพอใจที่เขาได้รับ...แล้วเราจะมั่นใจกับการตัดสินใจ ของใครคนนึงได้ยาวนานได้อย่างไร แม้แต่เรื่องความรัก ที่มีคุณค่า กับมูลค่าเข้ามาเกี่ยว...
อยากแลกเปลี่ยน และพัฒนาการเขียน การคิดของตัวเองครับ...