เรื่องเล่าตอบวช <<อโหสิกรรมให้ด้วย>>

กระทู้สนทนา
สวัสดีครับเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ได้เกิดขึ้นมาประมาณ 3 ปีแล้ว ไม่เคยเล่าให้ใครฟังนอกจากคนใกล้ชิดเท่านั้น วันนี้เห็นว่าโอกาสเหมาะจึงจะขอแบ่งปันเรื่องราวให้ได้ฟังกัน

ผมได้บวชเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ตอนอายุ 25 ปี เบญจเพศพอดี ตอนผมบวชมีพระพี่เลี้ยงรูปนึงที่จะคอยดูแลคอยสอนเราที่เป็นพระใหม่ให้ได้รู้วิธีประพฤติปฎิบัติในวิถีของพระ
ในคืนแรกท่านได้ให้หนังสือบทสวดมาเล่มนึง(ผมจำชื่อหนังสือไม่ได้) ในนั้นจะมีบทสวดต่างๆมากมาย แล้วแต่เราจะเลือกสวด คืนนั้นผมเลือกที่จะสวดแค่บทธรรมดาคือบทที่มีไว้สำหรับไหว้พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และบทแผ่เมตตาเท่านั้น สวดเสร็จก็นั่งสมาธิพอให้จิตใจสงบ และก็จำวัดตามปกติ ในคืนแรกก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ปิดไฟจำวัดได้อย่างสบายใจ(ปกติเป็นคนที่หลับยากและค่อนข้างจะเป็นคนที่เกิดเรื่องพวกนี้อยู่ไม่น้อย)

ในคืนที่สองก็เริ่มสวดหลายบทมากขึ้น เนื่องจากอยากจะได้บุญเยอะเลยสวดเยอะ(คิดไปเอง 555555) คืนที่สองก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นจำวัดได้อย่างปกติสุข

แต่ในคืนที่สามคืนที่เกิดเรื่อง ผมได้เปิดสารบัญของหนังสือเล่มนั้น แล้วได้เจอบทสวดบทนึง ผมจำไม่ได้ว่าชื่อบทสวดอะไร แต่ในเนื่อหาของบทสวดนั้นเป็นประมาณว่า ขออโหสิกรรมกับสิ่งที่ได้ทำไว้ทั้งในชาตินี้และชาติที่แล้ว ซึ่งผมเห็นว่ามาเป็นบทสวดที่น่าสนใจจึงได้ทำการสวดไป ในคืนนั้นหลังจากสวดเสร็จผมก็ปิดไฟจำวัดตามปกติ

ขอเล่าย้อนกลับไปนิดนึงนะครับ ในกุฎิที่ผมจำวัดนั้นเป็นกุฏิที่มีหกห้อง แบ่งเป็นสองฝั่ง มีพื่นที่ว่างไว้สำหรับทำกิจกรรม คล้ายห้องโถงคั่นไว้ตรงกลางจึงแบ่งห้องออกไปเป็นฝั่งละสามห้อง กุฎิอยู่บนชั้นสอง ชั้นล่างจะไม่มีใครอยู่ เพราะเป็นห้องเดียวยาวเอาไว้เก็บพวก จาน ชาม หม้อ กระโถน สำหรับเอาไว้ให้ยืมกันตอนมีงานบุญหรืองานพิธีตามทางศาสนา แล้วผมอยู่กับพระพี่เลี้ยงแค่สองรูปในกุฎินั้น ผมอยู่ห้องริมติดกับห้องโถงตรงกลาง ส่วนพระพี่เลี้ยงอยู่ห้องริมสุดอีกฝั่นึงที่ห่างจากห้องโถง คืออยู่คนฝั่งน่ะครับ


ปิดไฟจำวัดได้หลับสักพักนึง จำวัดประมาณสามทุ่ม ก็สะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงคนเดินอยู่หน้าห้อง กุฎิพื้นเป็นไม้เวลาใครเดินก็จะได้ยินเสียงไม้ลั่นปกติ ตอนแรกนึกว่าพระเลี้ยงเดินไปฉันน้ำจึงไม่คิดอะไร เพราะมองลอดช่องตรงพื้นประตูก็เห็นเงาคนเดินผ่านห้องไป เลยหยิบนาฬิกามาดูนึกว่าเช้าแล้วถึงเวลาที่ต้องไปบิณฑบาตร แต่ดูเวลาแล้วก็ยังแค่ตีหนึ่งกว่าๆยังไม่ถึงเวลาไปบิณฑบาตร จึงจำวัดต่อแต่ยังไม่หลับดี ก็ได้ยินเสียงเดิมอีกแต่ตอนนี้เปลี่ยนจากเดินเป็นวิ่ง ดัง ตึกๆๆๆ วิ่งประมาณว่าหาทางเข้าไปสักห้องนึงแต่เข้าไม่ได้ ทีนี้ผมรู้ตัวแล้วว่าต้องไม่ใช่พระพี่เลี้ยงแน่ เพราะพระจะไม่วิ่ง พื้นไม้ถ้ามีคนวิ่งนอกจากเสียงมันจะดังแล้วเราที่นอนพื้นจะรู้สึกได้ว่ามีการสั่นเกิดขึ้นซึ่งผมก็รู้สึกว่ามันสั่นจริงๆ สติมีครบทุกอย่างแต่ไม่รู้จะทำยังไงจึงปล่อยให้วิ่งอย่างนั้นต่อไปแล้วผมก็นอนตะแคงซ้ายเพื่อที่จะไม่ต้องเห็นเงาแว๊บไปแว๊บมาตรงช่องประตูแล้วพยายามข่มตาหลับให้ไป แต่ว่ามันไปหลับนี้สิ

พอนานเข้าเริ่มจะรู้วึกว่าไอ้สิ่งนั้นมันไม่ได้วิ่งอยู่นอกห้องแล้ว มันมาวิ่งอยู่ในห้องรอบๆตัวผมมี่จำวัดอยู่ ทั้งเสียงทั้งแรงสั่นทำให้ผมรู้สึกได้ว่าวิ่งนั้นมันเข้ามาใยห้องผมแล้วและก็อยู่ใกล้ๆตัวผมนี่แหละ

ผมพยายามหลับตาข่มตาไม่อยากจะลืมตาขึ้นมาเพราะว่าจะเจอดีอะไรเข้า สิ่งนั้นวิ่งอยู่นานผมก็ข่มตาอยู่นาน แล้วจู่ๆก็มีลมผ่านหูของผม ครั้งแรกรู้สึกว่าเป็นลมเฉยๆ ครั้งสองเริ่มรู้สึกว่ามันเสียงกระซิบข้างๆหูแต่จับใจความไม่ได้ ครั้งที่สามทีนึ้รู้เลยว่าเค้าต่องการอะไร


เสียงที่ผมได้ยินคือ "หลวงพี่เมื่อกี้ที่พูดไป ได้ยินมั้ย"ร้องไห้ตอนพิมพ์ขนผมลุกเลย) พอผมจำใจความได้เท่านั้นจากที่ข่มตาไว้ให้ไม่ลืมขึ้นมาจู่ๆผมก็ลืมตาขึ้น และได้เห็นเธอนอนอยู่ข้างๆผม หน้าชนหน้าเลยแต่เธอมาในรูปแบบของควัน ดูไม่รู้ว่าผมยาวหรือผมสั้น ดูไม่รู้ว่าหน้าตายังไง แต่ความรู้สึกบอกผมว่าคือผู้หญิงแน่นอน พอผมได้เห็นผมกลัวจนอุทานออกมาว่า เฮ้ย!!!! แล้วเธอก็ค่อยๆหายไป เลือนลางออกไปเหมือนควันลอยขึ้นสู่ที่สูง จนควันหายไป ช่วงเวลานั้นตาผมจับจ้องที่ควันนั้นตลอดตั้งแต่เป็นรูปร่างหน้าคน จนหายวับไปกับตา ความรู้สึกตอนกลัวมากแต่แปลกที่ผมก็ไม่ลุกหนีไปไหน ทั้งๆทีร่างกาบก็ขยับได้ปกติ หลังจากที่เธอหายไปได้สักพักผมกลับยิ้มออกมาเองโดยไม่รู้ว่าผมยิ้มเพราะอะไร

หลังจากเธอหายไปได้สักพักผมก็หลับ ที่นี้ผมได้ฝัน ในความฝันของผมนั้น ภาพที่เห็นคือผมเป็นบุคคลที่หนึ่งสามารถเห็นทุกอย่างได้แต่ไม่สามารถเห็นตัวเอง
ความฝันเริ่มที่ผมยืนอยู่หน้าบ้านเรือนไทยหลังนึงใหญ่โตทีเดียว ผมเดินขึ้นบันไดไปชั้นสองเจอเหมือนกับคนรับใช้รอรับผมอยู่ ในฝันผมได้พูดกับเค้าไปว่า "นายหญิงอยู่ไหน" แล้วคนรับใช้คนนั้นก็ชี้มือไปทางซ้าย ภาพที่ผมเห็นก็ค่อยๆเลื่อนตามทางที่คนรับใช้ชี้ไป ผมได้รูปผู้หญิงที่สวย สง่า ห่มสไบ ดูเป็นนายหญิงขแงบ้านนี้แน่ๆ แต่ผมจำไม่ว่าหน้าตาเธอเป็นยังไง แต่ความรู้สึกณ.ตอนนั้น เธอคนนี้คือคนเดียวกับคนที่มากระซิบข้างหูผม และปรากฎตัวเป็นเงาให้ผมได้เห็น หลังจากเห็นภาพเธอแล้วเหมือนภาพมันก็จบลงไปดื้อๆ ตื่นขึ้นมาอีกทีก็เกือบจะเช้าแล้วถึงเวลาบิณฑบาตรแล้ว

ผมมาคิดๆดูประกอบกับไปอ่านหนังสือบทสวดนั้นอย่างตั้งใจอีกที คือบทสวดเป็นบาลีแต่ก็จะคำแปลอยู่ตอนท้ายๆของบทนั้น

คำแปลประมาณว่า ขออโหสิกรรมกับสิ่งที่ทำ ทั้งตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ รวมถึงคำสัญญาต่างๆทั้งจากชาตินี้หรือชาติที่แล้ว ขอให้เป็นโมฆะไป
สิ่งที่ผมคิดได้คือ ผมอาจจะเคยสัญญากับผู้หญิงคนนั้นว่า "ผมจะรักเธอคนเดียว แล้วผมกับเธอจะอยู่ด้วยกันตลอดทุกชาติไป" ชาตินี้ผมได้เกิดมาแต่เธอไม่ได้เกิดจึงเป็นวิญญาณตามติดผมอยู่ จนมาวันที่ผมได้สวดบทอโหสิกรรม เธอจึงได้พ้นทุกข์จากผม ไปเกิดหรือไปอะไรก็แล้วแต่



ผมขอให้เธอได้ไปเกิดในภพในชาติที่ดีดีด้วยเถ้อ......

เรื่องก็มีเท่านี้แหละครับ

ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ เรื่องนี้ก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะครับจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่

จริงๆยังมีอีกเรื่องที่ผมเคยเจอจังๆ แต่เอาแค่นี้ก่อนนะครับ...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่