เรื่องมีอยุ่ว่า เพื่อนคนนึงตัดสินใจบวชที่วัดแห่งนึง
เมื่อผ่านพิธีต่างๆ จนเย็น พระพี่เลี้ยงบอกให้ไปหาห้องนอน
ห้องที่พูดถึงเป็นกุฎิหลังเล็กๆ ปลูกเรียงๆ กันประมาณ 5 หลัง
พระพี่เลี้ยงบอกให้พระใหม่ไปนอนกุฎิหลังที่สอง
พูดเสร็จแล้วก็ขอตัวไปทำธุระ พระใหม่เกรงใจก็เดินขึ้นไปกุฎิสอง
โดยไม่รู้ว่ากุฎิอื่นๆ มีใครพักอยู่หรือเปล่า แต่ไม่เห็นพระรูปอื่น
อยู่แถวนั้นเลย
ในกุฎิเล็กๆ เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะเป็นที่นอนอันเดียวอยู่ที่พื้น
รอบๆ ห้องไม่มีอะไร จะมีก็แต่โต๊ะเก่าๆ ตัวนึง และอีกมุมก็เป็นห้องน้ำ
พอดีเวลานั้นเป็นช่วงปลายปี อากาศไม่ร้อน พระใหม่เลยไม่กังวลว่า
ในห้องจะมีพัดลมหรือเปล่า
พระใหม่เมื่ออาบน้ำอาบท่าเสร็จแล้วก็ลงนอน หยิบหนังสือสวดมนต์ที่ได้รับมา
จากตอนทำพิธีบวชเมื่อเช้าขึ้นมาอ่าน สวดๆ ท่องๆ อยู่อย่างนั้นจนง่วง
หลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ตัว
หลับไปนานแค่ไหนไม่รู้ พระใหม่ได้ยินเสียงเคาะประตูห้อง
"ปัง ปัง ปัง" พอรู้สึกตัวตื่นก็สงสัยว่าใครกันมาเคาะประตูเรียก
จึงลุกขึ้นมาเดินตรงไปที่ประตู
พื้นกุฎีเป็นไม้กระดานจะมีเสียงเดินดังเอี๊ยดๆ กว่าจะถึงประตูก็ดังไปหลายเอี๊ยด
พอเปิดประตูออกปรากฎว่ามีแต่ความมืด ไม่มีใครอยู่ตรงประตุ บรรยากาศ
รอบตัวก็เงียบสงบ
ด้วยความง่วงพระใหม่ไม่ได้คิดอะไรมาก ปิดประตูแล้วกลับไปนอน คิดว่า
เพราะตัวเองหลับอาจจะหูแว่วไปก็ได้ หยิบมือถือขึ้นมาส่องดูตอนนั้นเวลาก็
ใกล้ตีหนึ่งแล้ว จึงเอนตัวลงนอนหลับตา
สักพักเดียวก็มีเสียงเคาะประตู "ปัง ปัง ปัง"อีก ทีนี้ได้ยินชัดเจน และไม่ได้หลับอยู่
ใครกันมาเคาะประตุ พระใหม่ลุกขึ้นเดินไปที่ประตุ เมื่อเปิดออกก็ไม่เห็นใคร
ชะโงกซ้ายชะโงกขวาก็ไม่มีใคร เสร็จแล้วงับประตูกลับ กดลูกบิดแล้วเดินกลับมา
ระหว่างเดินก็ได้ยินเสียงเอี๊ยดๆ ของไม้กระดาน ทำให้ฉุกคิดว่า ถ้ามีใครมาที่ประตูจริง
ทำไมตัวไม่ได้ยินเสียงลั่นของไม้กระดานที่เกิดจากการเดิน
ถึงตรงนี้ก็เอาละ เริ่มออกอาการขนลุก จิตใจไม่อยู่กับเนื้อตัว เริ่มระแวงความมืดรอบตัว
แต่ก็พยายามข่มใจนอนหลับตาให้ได้ แม้ว่าประสาทตอนนี้ตื่นตัวเต็มที่ พยายามข่มใจ
อย่างไร หูก็พยายามตั้งใจฟังเสียงรอบตัว นอนรอสักพักลุ้นว่าจะมีเสียงเคาะประตูอีก
หรือเปล่า รอลุ้นไม่นานเลย มาอีกแล้ว "ปัง ปัง ปัง ปัง"
หลังเสียงดังขึ้น พระใหม่ถึงกับตัวชา รู้สึกเครียดอย่างเห็ฯได้ชัด ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะ
ทำอย่างไร จะปล่อยให้เสียงเคาะดังไปเรื่อยๆ หรือจะทำใจสู้ลุกไปเปิดประตู ตอนที่
กำลังนึกอยู่นั้นเสียงเคาะระลอกสองก็มาอีก "ปัง ปัง ปัง ปัง"
พระใหม่เหงื่อแตกผลัก แต่รู้สึกหนาวเย็นอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกเลยว่าผ้าห่มที่คลุมอยู่
ไม่ได้ช่วยอะไรเลย แม้ว่าสภาพจิตจะแย่ขนาดนั้นก็พยายามข่มใจ ลุกขึ้นไปที่ประตูอีกครั้ง
"อีาดดดดด" เสียงเปิดประตูดังลั่น พระใหม่ชะโงกหน้าดูซ้ายขวาก็ไม่เห็นใครอีก
"เอาวะ เอาไงเอากัน" พระใหม่บอกกับตัวเอง งับประตูกลับคืนแล้วฝืนยืนอยู่ตรงนั้น
กะว่าถ้ามีเสียงเคาะประตูอีก จะเปิดผัวะออกไปให้ผีมันตกใจบ้าง
ยืนรออย่างนั้นใจลุ้นระทึก เมื่อไหร่จะมีเสียงเคาะ เมื่อไหร่จะมีเสียงเคาะ เมื่อไหร่ เมื่อไหร่
ใจนึกไปต่างๆ นานา ว่าตัวเองหูแว่วหรือมีผีจริงๆ คิดไปต่างๆ นานาแล้วกวาดสายตามองไปรอบห้อง
ชักสงสัยว่าตอนนี้ผีมันมาอยู่อยู่ในห้องข้างๆ ตัวแล้วหรือยัง
"ปัง ปัง ปัง ปัง" เป็นอย่างคาด เสียงเคาะประตูดังอีกแล้ว พระใหม่กลั้นใจเปิดประตูออกดังผัวะ
เสียงอุทานดังสวนกลับมาทันที "เอ๋ง" ถึงแม้จะเป็นตอนกลางคืน ความมืดปกคลุมไปทั่ว
พระใหม่ก็เห็นหมาตัวหนึ่ง หุ่นอย่างหมาไทยอิด่างลายจุดนั่นเลย กระโดดโหยงขึ้นมาจากท่า
นอนที่กำลังใช้เท้าหลังเกาหูอยู่ วิ่งผลุบลงไปทานบันไดขึ้นกุฎิ
"โธ่ อิหมา" พระใหม่สบถและเริ่มปะติดปะต่อเหตุการณ์ คือหมามันขึ้นมานอนหน้าประตูแล้ว
เกายิ๊กๆๆๆ ขาหลังที่เกาก็ดีดประตูดังปัง ปัง ปังไปด้วย แต่พอได้ยินเสียงคนลุกขึ้นมา
มันเลยรีบวิ่งหนีลงกุฎิไป แต่พอเสียงเงียบมันก็กลับขึ้นมานอนที่เดิมอีก แค่นั่นแหละ
ผีในวัด เรื่องสยองขวัญ เจอมาสดๆ ร้อนๆ ยังขนลุกอยู่เลย
เมื่อผ่านพิธีต่างๆ จนเย็น พระพี่เลี้ยงบอกให้ไปหาห้องนอน
ห้องที่พูดถึงเป็นกุฎิหลังเล็กๆ ปลูกเรียงๆ กันประมาณ 5 หลัง
พระพี่เลี้ยงบอกให้พระใหม่ไปนอนกุฎิหลังที่สอง
พูดเสร็จแล้วก็ขอตัวไปทำธุระ พระใหม่เกรงใจก็เดินขึ้นไปกุฎิสอง
โดยไม่รู้ว่ากุฎิอื่นๆ มีใครพักอยู่หรือเปล่า แต่ไม่เห็นพระรูปอื่น
อยู่แถวนั้นเลย
ในกุฎิเล็กๆ เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะเป็นที่นอนอันเดียวอยู่ที่พื้น
รอบๆ ห้องไม่มีอะไร จะมีก็แต่โต๊ะเก่าๆ ตัวนึง และอีกมุมก็เป็นห้องน้ำ
พอดีเวลานั้นเป็นช่วงปลายปี อากาศไม่ร้อน พระใหม่เลยไม่กังวลว่า
ในห้องจะมีพัดลมหรือเปล่า
พระใหม่เมื่ออาบน้ำอาบท่าเสร็จแล้วก็ลงนอน หยิบหนังสือสวดมนต์ที่ได้รับมา
จากตอนทำพิธีบวชเมื่อเช้าขึ้นมาอ่าน สวดๆ ท่องๆ อยู่อย่างนั้นจนง่วง
หลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ตัว
หลับไปนานแค่ไหนไม่รู้ พระใหม่ได้ยินเสียงเคาะประตูห้อง
"ปัง ปัง ปัง" พอรู้สึกตัวตื่นก็สงสัยว่าใครกันมาเคาะประตูเรียก
จึงลุกขึ้นมาเดินตรงไปที่ประตู
พื้นกุฎีเป็นไม้กระดานจะมีเสียงเดินดังเอี๊ยดๆ กว่าจะถึงประตูก็ดังไปหลายเอี๊ยด
พอเปิดประตูออกปรากฎว่ามีแต่ความมืด ไม่มีใครอยู่ตรงประตุ บรรยากาศ
รอบตัวก็เงียบสงบ
ด้วยความง่วงพระใหม่ไม่ได้คิดอะไรมาก ปิดประตูแล้วกลับไปนอน คิดว่า
เพราะตัวเองหลับอาจจะหูแว่วไปก็ได้ หยิบมือถือขึ้นมาส่องดูตอนนั้นเวลาก็
ใกล้ตีหนึ่งแล้ว จึงเอนตัวลงนอนหลับตา
สักพักเดียวก็มีเสียงเคาะประตู "ปัง ปัง ปัง"อีก ทีนี้ได้ยินชัดเจน และไม่ได้หลับอยู่
ใครกันมาเคาะประตุ พระใหม่ลุกขึ้นเดินไปที่ประตุ เมื่อเปิดออกก็ไม่เห็นใคร
ชะโงกซ้ายชะโงกขวาก็ไม่มีใคร เสร็จแล้วงับประตูกลับ กดลูกบิดแล้วเดินกลับมา
ระหว่างเดินก็ได้ยินเสียงเอี๊ยดๆ ของไม้กระดาน ทำให้ฉุกคิดว่า ถ้ามีใครมาที่ประตูจริง
ทำไมตัวไม่ได้ยินเสียงลั่นของไม้กระดานที่เกิดจากการเดิน
ถึงตรงนี้ก็เอาละ เริ่มออกอาการขนลุก จิตใจไม่อยู่กับเนื้อตัว เริ่มระแวงความมืดรอบตัว
แต่ก็พยายามข่มใจนอนหลับตาให้ได้ แม้ว่าประสาทตอนนี้ตื่นตัวเต็มที่ พยายามข่มใจ
อย่างไร หูก็พยายามตั้งใจฟังเสียงรอบตัว นอนรอสักพักลุ้นว่าจะมีเสียงเคาะประตูอีก
หรือเปล่า รอลุ้นไม่นานเลย มาอีกแล้ว "ปัง ปัง ปัง ปัง"
หลังเสียงดังขึ้น พระใหม่ถึงกับตัวชา รู้สึกเครียดอย่างเห็ฯได้ชัด ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะ
ทำอย่างไร จะปล่อยให้เสียงเคาะดังไปเรื่อยๆ หรือจะทำใจสู้ลุกไปเปิดประตู ตอนที่
กำลังนึกอยู่นั้นเสียงเคาะระลอกสองก็มาอีก "ปัง ปัง ปัง ปัง"
พระใหม่เหงื่อแตกผลัก แต่รู้สึกหนาวเย็นอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกเลยว่าผ้าห่มที่คลุมอยู่
ไม่ได้ช่วยอะไรเลย แม้ว่าสภาพจิตจะแย่ขนาดนั้นก็พยายามข่มใจ ลุกขึ้นไปที่ประตูอีกครั้ง
"อีาดดดดด" เสียงเปิดประตูดังลั่น พระใหม่ชะโงกหน้าดูซ้ายขวาก็ไม่เห็นใครอีก
"เอาวะ เอาไงเอากัน" พระใหม่บอกกับตัวเอง งับประตูกลับคืนแล้วฝืนยืนอยู่ตรงนั้น
กะว่าถ้ามีเสียงเคาะประตูอีก จะเปิดผัวะออกไปให้ผีมันตกใจบ้าง
ยืนรออย่างนั้นใจลุ้นระทึก เมื่อไหร่จะมีเสียงเคาะ เมื่อไหร่จะมีเสียงเคาะ เมื่อไหร่ เมื่อไหร่
ใจนึกไปต่างๆ นานา ว่าตัวเองหูแว่วหรือมีผีจริงๆ คิดไปต่างๆ นานาแล้วกวาดสายตามองไปรอบห้อง
ชักสงสัยว่าตอนนี้ผีมันมาอยู่อยู่ในห้องข้างๆ ตัวแล้วหรือยัง
"ปัง ปัง ปัง ปัง" เป็นอย่างคาด เสียงเคาะประตูดังอีกแล้ว พระใหม่กลั้นใจเปิดประตูออกดังผัวะ
เสียงอุทานดังสวนกลับมาทันที "เอ๋ง" ถึงแม้จะเป็นตอนกลางคืน ความมืดปกคลุมไปทั่ว
พระใหม่ก็เห็นหมาตัวหนึ่ง หุ่นอย่างหมาไทยอิด่างลายจุดนั่นเลย กระโดดโหยงขึ้นมาจากท่า
นอนที่กำลังใช้เท้าหลังเกาหูอยู่ วิ่งผลุบลงไปทานบันไดขึ้นกุฎิ
"โธ่ อิหมา" พระใหม่สบถและเริ่มปะติดปะต่อเหตุการณ์ คือหมามันขึ้นมานอนหน้าประตูแล้ว
เกายิ๊กๆๆๆ ขาหลังที่เกาก็ดีดประตูดังปัง ปัง ปังไปด้วย แต่พอได้ยินเสียงคนลุกขึ้นมา
มันเลยรีบวิ่งหนีลงกุฎิไป แต่พอเสียงเงียบมันก็กลับขึ้นมานอนที่เดิมอีก แค่นั่นแหละ