นี่เป็นเรื่องของน้องสาวเรา อยากแชร์ค่ะ สำหรับคนที่จะไปนอก
เริ่มเลยแล้วกันนะคะ
เรื่องมีอยู่ว่า น้องสาวเราได้ทุนไปเรียนต่อป.ตรีที่ออสเตรเลียค่ะ
ทีนี้พอรู้ตัวว่าจะไป นางก็ไปเปิดบัญชีธนาคาร และทำบัตรเดบิตที่ธนาคารสีเขียวตามหัวกระทู้
กะว่าถ้ามีเหตุฉุกเฉิน บ้านโดนปล้น มือถือหาย เงินทุนไม่พอใช้จะได้ให้ที่บ้านโอนปัจจัยมาเลี้ยงปากท้อง
ตอนเปิดบัญชีและทำบัตร
น้องได้แจ้งพนักงานว่าต้องการใช้กดเงินสดและรูดซื้อสินค้าในต่างประเทศ ทำได้ใช่มั้ย?
พนักงานก็ตอบว่า "ใช้ได้เลยค่ะ แต่จะมีค่าธรรมเนียมครั้งละ 100 บาท กับอีก 2.5%"
น้องสาวได้ยินดังนั้น นางก็โอเคซิกกะแรต ให้พี่พนักงานดำเนินการเปิดบัญชีเสร็จสรรพ (บัตรคิตตี้ซะด้วย)
เมื่อได้บัตรมาพร้อมกับรหัสกดตัง 4 หลักที่ทางธนาคารให้มา น้องนางก็ไปเปลี่ยนรหัสบัตรให้นางจำง่ายๆ
หลังจากนั้นก็ใช้บัตรแมวเหมียวกดตัง ณ ห้างแถวบ้านมาซื้อคอมพิวเตอร์ ก็กดได้สบายบรื๋อ (กด30,000 1 ครั้ง 20,000 อีก1ครั้ง ติดกัน)
ครั้นน้องนางเหยียบแผ่นดินจิงโจ้ ก็รู้สึกว่าเมืองนี้ช่าง civilize ยิ่งนัก
ทั้งค่าบ้าน ค่ารถ ค่าอาหาร ทุกสรรพสิ่งล้วนแล้วแต่แพงวายป่วง
เงินงวดแรกที่กรมให้ทุนไปก็ร่อยหรออย่างรวดเร็ว ราวกับหุ้น SIRI ดิ่งเหว
น้องเพิ่งเริ่มสำเหนียกว่าคงจะไม่สามารถดำรงตนอยู่ได้เป็นแน่แท้ ก่อนเงินงวดหน้ามา อาจจะขาดสารอาหารลาโลกไปเสียก่อน
จึงตัดสินใจเสียบบัตรแมวเหมียวเข้าไปในตู้ เอาตังมา (ATM) ณ ตู้แถวๆ ม. และพบว่า
WTF!!! นี่มันคือเจรี้ยอัลไลวะคะ
ด้วยความตกใจปนหิวเล็กๆ น้องสาวรีบโทรไลน์สายด่วนมาหาพี่ และนี่คือบทสนทนาจำลอง...
น้อง : พี่ วันนี้หนูเอาบัตรแมวไปลองเช็คยอด มันเช็คไม่ได้อ่ะพี่
จขกท : อะไร? ทำไมไม่ได้อ่ะ
น้อง : ไม่รู้อ่ะพี่ มันขึ้นว่า &),#%_$'dy)3£,! Blah blah เดี๋ยวถ่ายรูปสลิปให้ดู
จขกท : เห้ย เอ็งกดถูกตู้รึเปล่า ต้องเป็นตู้ที่มีเครื่องหมาย VISA นะโว้ย
น้อง : มีดิ่พี่ หนูดูดีแล้ว มี

หมด ทั้ง VISA, MASTER CARD, UNION PAY........
จขกท : อ้าว อะไรวะ, ไม่เป็นไร งั้นเดี๋ยวพี่ไปคุยกับธนาคารให้ เอ็งยังมีกินใช่มั้ย?
น้อง : พอไหวพี่ โอเค
หลังจากนี้ขออนุญาตเข้าโหมดสั้นกระชับนะคะ
พอเจรจากับน้องสาวเสร็จ อีกวันสองวันเราก็เข้าไปที่แบงค์เขียว แจ้งเรื่องที่เกิดขึ้น
คุณพี่พนักงานก็ถามว่าเคยใช้บัตรรึยังคะ (เห้ย ตูไม่ได้มาจากยุคหินนะ) เปลี่ยนรหัสบัตรรึยัง blah blah
สุดท้ายก็บอกว่าพี่ช่วยอะไรไม่ได้เลยอ่ะค่ะ เดี๋ยวโทรเข้าคอลเซ็นเตอร์ให้ (ปล่อยให้คุยตั้งนาน ไมไม่บอกแต่แรกฟระ)
พอต่อสายให้คอลเซ็นเตอร์คุย คุณหมี(นามสมมติ) ก็บอกว่าต้องให้ จขบช. คุยเอง
เราก็ได้แต่บอกว่า พี่คะ จขบช. มันอยู่ออสนะ โทรหาพี่ฟรีมั้ยล่ะ มันก็เสียตังใช่มั้ย
หนูคุยแทนน้องไม่ได้หรอ น้องมอบอำนาจมา คุณหมีก็ว่าไม่ได้ค่ะ ต้องให้น้องโทรมาเอง
จขกท. เลยต้องบากหน้าไปรายงานน้อง นังน้องก็ไม่อยากเสียตังโทร บอกเปลือง
ความผิดตูรึก็ไม่ใช่ ทำไมต้องให้ตูเสียตังโทรกลับไปนาทีละหลายบาทฟะ (ก็จริง)
แต่สุดท้าย ความหิวก็ชนะ น้องสาวโทรกลับมา คอลเซ็นเตอร์บอกว่าจัดการให้แล้ว
นังน้องก็ลั้ลลาออกไปกดตัง และปรากฏว่า....
จึงเกิดบทสนทนาเหล่านี้ขึ้น
แล้วนังน้องก็ตัดสินใจออกไปกดดูอีกหนึ่งรอบ ผลเป็นไงน่ะหรอ?
สรุปตอนนี้ รู้สึกสิ้นหวังมาก
คำถามคือ
1. ทำไมบัตรเดบิตแมวเหมียวถึงไม่สามารถใช้งานกับตู้เอาตังมาที่มีเครื่องหมายวีซ่าในออสเตรเลียได้
2. บอกให้เจ้าตัวโทรมาเอง มันก็อุตส่าห์เสียตังโทรไปแล้ว แต่บัตรก็ยังใช้ไม่ได้นี่แปลว่าอะไร
3. ถ้าสมมติว่ามีขั้นตอนอะไรที่เจ้าของบัตรต้องทำเพื่อให้ใช้งานบัตรได้ ทำไมพนักงานคุณไม่แจ้ง ทั้งๆที่ลูกค้าก็บอกว่าจะเอาไปใช้ตปท.
4. ขอทราบแนวทาง
ที่ชัดเจนในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
คือที่มาตั้งกระทู้นี้ ไม่ใช่ไม่ได้ทำอะไรมาเลย เจอปัญหาปุ๊บตั้งกระทู้ปั๊บ ไม่ใช่แบบนั้น
เข้าไปคุยมาก็แล้ว น้องโทรเองก็แล้ว ถามจริงๆเถอะ ถ้าเกิดน้องจขกท. ไม่เหลือเงินแล้วจริงๆ แล้วมีบัตรคุณใบเดียวในกระเป๋า
น้องจขกท. จะอยู่ยังไง เงินมีเยอะแยะแต่กดใช้ไม่ได้ ทั้งที่พนักงานคุณก็บอกเองว่ากดได้เลยค่ะ รูดได้เลยค่ะ
จินตนาการภาพเด็กคนนึงกำลังจะไม่มีเงินกินข้าว อยู่ตัวคนเดียวมันเคว้งนะคุณ แต่คุณกลับไม่ช่วยลูกค้าแก้ปัญหาเลย เลือดเย็นมาก
ฝากถึงน้องๆที่คิดว่าจะไปเรียนเมืองนอก บัตรที่กดเงินตปท.ได้ อย่าทำไปใบเดียว ธนาคารเดียว เกิดเจอแบบนี้ขึ้นมาจะหิวไม่รู้ตัว
ธนาคารจะใหญ่แค่ไหนก็ไว้ใจไม่ได้ทั้งนั้น ทางที่ดีสแปร์ไว้ซักสองสามใบจะเซฟสุด
ต้องให้อดตายอยู่เมืองนอกมั้ย? Kbank คุณทำอะไรให้ลูกค้าของคุณได้บ้าง?
เริ่มเลยแล้วกันนะคะ
เรื่องมีอยู่ว่า น้องสาวเราได้ทุนไปเรียนต่อป.ตรีที่ออสเตรเลียค่ะ
ทีนี้พอรู้ตัวว่าจะไป นางก็ไปเปิดบัญชีธนาคาร และทำบัตรเดบิตที่ธนาคารสีเขียวตามหัวกระทู้
กะว่าถ้ามีเหตุฉุกเฉิน บ้านโดนปล้น มือถือหาย เงินทุนไม่พอใช้จะได้ให้ที่บ้านโอนปัจจัยมาเลี้ยงปากท้อง
ตอนเปิดบัญชีและทำบัตร น้องได้แจ้งพนักงานว่าต้องการใช้กดเงินสดและรูดซื้อสินค้าในต่างประเทศ ทำได้ใช่มั้ย?
พนักงานก็ตอบว่า "ใช้ได้เลยค่ะ แต่จะมีค่าธรรมเนียมครั้งละ 100 บาท กับอีก 2.5%"
น้องสาวได้ยินดังนั้น นางก็โอเคซิกกะแรต ให้พี่พนักงานดำเนินการเปิดบัญชีเสร็จสรรพ (บัตรคิตตี้ซะด้วย)
เมื่อได้บัตรมาพร้อมกับรหัสกดตัง 4 หลักที่ทางธนาคารให้มา น้องนางก็ไปเปลี่ยนรหัสบัตรให้นางจำง่ายๆ
หลังจากนั้นก็ใช้บัตรแมวเหมียวกดตัง ณ ห้างแถวบ้านมาซื้อคอมพิวเตอร์ ก็กดได้สบายบรื๋อ (กด30,000 1 ครั้ง 20,000 อีก1ครั้ง ติดกัน)
ครั้นน้องนางเหยียบแผ่นดินจิงโจ้ ก็รู้สึกว่าเมืองนี้ช่าง civilize ยิ่งนัก
ทั้งค่าบ้าน ค่ารถ ค่าอาหาร ทุกสรรพสิ่งล้วนแล้วแต่แพงวายป่วง
เงินงวดแรกที่กรมให้ทุนไปก็ร่อยหรออย่างรวดเร็ว ราวกับหุ้น SIRI ดิ่งเหว
น้องเพิ่งเริ่มสำเหนียกว่าคงจะไม่สามารถดำรงตนอยู่ได้เป็นแน่แท้ ก่อนเงินงวดหน้ามา อาจจะขาดสารอาหารลาโลกไปเสียก่อน
จึงตัดสินใจเสียบบัตรแมวเหมียวเข้าไปในตู้ เอาตังมา (ATM) ณ ตู้แถวๆ ม. และพบว่า
WTF!!! นี่มันคือเจรี้ยอัลไลวะคะ
ด้วยความตกใจปนหิวเล็กๆ น้องสาวรีบโทรไลน์สายด่วนมาหาพี่ และนี่คือบทสนทนาจำลอง...
น้อง : พี่ วันนี้หนูเอาบัตรแมวไปลองเช็คยอด มันเช็คไม่ได้อ่ะพี่
จขกท : อะไร? ทำไมไม่ได้อ่ะ
น้อง : ไม่รู้อ่ะพี่ มันขึ้นว่า &),#%_$'dy)3£,! Blah blah เดี๋ยวถ่ายรูปสลิปให้ดู
จขกท : เห้ย เอ็งกดถูกตู้รึเปล่า ต้องเป็นตู้ที่มีเครื่องหมาย VISA นะโว้ย
น้อง : มีดิ่พี่ หนูดูดีแล้ว มี
จขกท : อ้าว อะไรวะ, ไม่เป็นไร งั้นเดี๋ยวพี่ไปคุยกับธนาคารให้ เอ็งยังมีกินใช่มั้ย?
น้อง : พอไหวพี่ โอเค
หลังจากนี้ขออนุญาตเข้าโหมดสั้นกระชับนะคะ
พอเจรจากับน้องสาวเสร็จ อีกวันสองวันเราก็เข้าไปที่แบงค์เขียว แจ้งเรื่องที่เกิดขึ้น
คุณพี่พนักงานก็ถามว่าเคยใช้บัตรรึยังคะ (เห้ย ตูไม่ได้มาจากยุคหินนะ) เปลี่ยนรหัสบัตรรึยัง blah blah
สุดท้ายก็บอกว่าพี่ช่วยอะไรไม่ได้เลยอ่ะค่ะ เดี๋ยวโทรเข้าคอลเซ็นเตอร์ให้ (ปล่อยให้คุยตั้งนาน ไมไม่บอกแต่แรกฟระ)
พอต่อสายให้คอลเซ็นเตอร์คุย คุณหมี(นามสมมติ) ก็บอกว่าต้องให้ จขบช. คุยเอง
เราก็ได้แต่บอกว่า พี่คะ จขบช. มันอยู่ออสนะ โทรหาพี่ฟรีมั้ยล่ะ มันก็เสียตังใช่มั้ย
หนูคุยแทนน้องไม่ได้หรอ น้องมอบอำนาจมา คุณหมีก็ว่าไม่ได้ค่ะ ต้องให้น้องโทรมาเอง
จขกท. เลยต้องบากหน้าไปรายงานน้อง นังน้องก็ไม่อยากเสียตังโทร บอกเปลือง
ความผิดตูรึก็ไม่ใช่ ทำไมต้องให้ตูเสียตังโทรกลับไปนาทีละหลายบาทฟะ (ก็จริง)
แต่สุดท้าย ความหิวก็ชนะ น้องสาวโทรกลับมา คอลเซ็นเตอร์บอกว่าจัดการให้แล้ว
นังน้องก็ลั้ลลาออกไปกดตัง และปรากฏว่า....
จึงเกิดบทสนทนาเหล่านี้ขึ้น
แล้วนังน้องก็ตัดสินใจออกไปกดดูอีกหนึ่งรอบ ผลเป็นไงน่ะหรอ?
สรุปตอนนี้ รู้สึกสิ้นหวังมาก
คำถามคือ
1. ทำไมบัตรเดบิตแมวเหมียวถึงไม่สามารถใช้งานกับตู้เอาตังมาที่มีเครื่องหมายวีซ่าในออสเตรเลียได้
2. บอกให้เจ้าตัวโทรมาเอง มันก็อุตส่าห์เสียตังโทรไปแล้ว แต่บัตรก็ยังใช้ไม่ได้นี่แปลว่าอะไร
3. ถ้าสมมติว่ามีขั้นตอนอะไรที่เจ้าของบัตรต้องทำเพื่อให้ใช้งานบัตรได้ ทำไมพนักงานคุณไม่แจ้ง ทั้งๆที่ลูกค้าก็บอกว่าจะเอาไปใช้ตปท.
4. ขอทราบแนวทางที่ชัดเจนในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
คือที่มาตั้งกระทู้นี้ ไม่ใช่ไม่ได้ทำอะไรมาเลย เจอปัญหาปุ๊บตั้งกระทู้ปั๊บ ไม่ใช่แบบนั้น
เข้าไปคุยมาก็แล้ว น้องโทรเองก็แล้ว ถามจริงๆเถอะ ถ้าเกิดน้องจขกท. ไม่เหลือเงินแล้วจริงๆ แล้วมีบัตรคุณใบเดียวในกระเป๋า
น้องจขกท. จะอยู่ยังไง เงินมีเยอะแยะแต่กดใช้ไม่ได้ ทั้งที่พนักงานคุณก็บอกเองว่ากดได้เลยค่ะ รูดได้เลยค่ะ
จินตนาการภาพเด็กคนนึงกำลังจะไม่มีเงินกินข้าว อยู่ตัวคนเดียวมันเคว้งนะคุณ แต่คุณกลับไม่ช่วยลูกค้าแก้ปัญหาเลย เลือดเย็นมาก
ฝากถึงน้องๆที่คิดว่าจะไปเรียนเมืองนอก บัตรที่กดเงินตปท.ได้ อย่าทำไปใบเดียว ธนาคารเดียว เกิดเจอแบบนี้ขึ้นมาจะหิวไม่รู้ตัว
ธนาคารจะใหญ่แค่ไหนก็ไว้ใจไม่ได้ทั้งนั้น ทางที่ดีสแปร์ไว้ซักสองสามใบจะเซฟสุด