เรามาเดากัน จะจบยังไง อะไรอาจไม่ใช่อย่างที่เห็น

หลายคนที่เชียทักษิณก็คือคนที่เชียพลังธรรม เชียจำลอง
สนธิที่อวยทหาร ปี 49 ก็บอกเตะหมูเข้าปากหมาได้
ดังนั้นไม่มีอะไรแน่นอน...

ผมมองที่เป้าหมายของคนแต่ละกลุ่มว่า คืออะไรแล้วมันสมประโยชน์ตัวเองมั๊ย
กลุ่มแรก
กปปส ปชป ที่ทำมาทั้งหมด เรื่องปฎิรูปอะไรเป็นเรื่องรอง เหมือนราคายาง อะไรทั้งหลาย เป้าจริง คือไล่ระบอบทักษิณ หรือใครที่อยู่ฝั่งรัฐบาล ออกไป เป้าหมายอัลติเมท คือ ออกไปเลยอย่าเข้ามาในอำนาจอีก  การที่ทหารเข้ามายึดหมดนั่นก็คือ บรรลุเป้าแรกแต่หากสุดท้ายทหารไม่ไล่อีกฝั่งสุดลิ่ม ยังให้กลับมา ผมว่า ในมุมของกลุ่มนี้ ถือว่าเสียของเสียโอกาส ดังนั้นสุดท้าย จะมีคนออกมาตัดรอน อกหัก เหมือนสนธิแน่นอน แต่ว่าจะออกมาชน มาทวงแรงแค่ใหนไม่รู้ แต่ผมคิดลึกๆ ว่าสำหรับทหารกลุ่มนี้น่ากลัวกว่าเสื้อแดง เพราะทำทุกวิธีตามความเชื่อ ไม่สนใจอะไร เมื่อเป้าสุดท้ายมันไม่ตรงกันมันก็ต้อง แครช แน่ ส่วนเรื่องเสรีภาพ รฐน ทายาทอสูรอะไร ทั้งสองฝ่ายก็ได้รับชะตากรรมเดียวกัน คงไม่เดือดร้อนอะไร ยิ่งเป้นฝ่ายตัวเองยิ่งชอบ แต่ถ้าไม่บรรลุเป้า ไอ้นี่อาจเป้นข้ออ้างมาชนได้

กลุ่มเสื้อแดง เพื่อไทย
ก็มีทั้งอุดมการ และกลุ่มรักทักกี้ กลุ่มนี้ เสียเสรีภาพ มากมายอัดอั้นกับ การควบคุม แต่ถ้าทหารรักษาระยะไม่ทำอะไรที่ดูไม่ยุติธรรม เลือกข้างจนเกินไป ก็จะทนๆ กันไป เพระาสุดท้ายคือเลือกตั้ง ก็จบ ถ้าทหารยิ่งยาวไปๆ โอกาสกระทบกันก็จะสูงแต่ถ้า 1-2 ปี ก็คงรอเลือกตั้ง ไอ้ที่จะปะทะกันน่าจะเป็นเรื่ององค์กรอิสระที่เอียงกระเท่เล่ ถ้ายุบไปคงก็จบ คดีความถ้าถึงศาลแล้ว ให้เหตุผลตัดสินก็อาจจะไม่มีอะไร ลึกๆ ผมคิดว่าคงมีการถามกันว่าท่านจะกวาดล้างเรารึเปล่า และคงคุยกันแล้วว่า ไม่  จะเห้นว่าในคำอารัมบท รฐน ไม่ได้มีพูดว่ารับบาลคอรัปอะไรเลย ในสาเหตุการยึดอำนาจ สัญญาณหลายอย่าง เช่น ประกาศบางฉบับปรามองค์กรอิสระศาล และงานหลายอย่างในรัฐบาลก่อนก็เอามาสานต่อ

กลุ่มทหาร
เป้าหมาย ว่าแค่ยับยั้งและรีเซ็ท ไม่ได้กวาดล้างฝ่ายใดให้จมดินไป แต่ด้วยอุดมการ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ก็จะเน้นเรื่องสถาบัน แน่นอนมีหลายเรื่องที่ทหารร่วมหัวจมท้ายกับ ปชป เช่น กรณี ปี 53 คือมี conflict of interest แต่ผมคิดว่าไม่ใช่แนวร่วมกันทุกเรื่อง ความเห็นส่วนตัวครับ คือร่วมกันบางเรื่อง หลายเรื่องก็รู้สึกและหมั่นไส้ กปปส เหมือนกัน ผมคิดว่าทหาร เป็นอีกกลุ่ม ในรายบุคคลอาจมีเอนเอียงฝั่งโน้นฝั่งนี้แต่ในภาพใหญ่คงจะต้องรักษาศูนย์ กรณีที่ออกมาบอกคุยกันไว้ก่อนก็รีบมาแก้ หลายเรื่องเช่น พลังงาน คนละมุมกับ กปปส เลย เพียงแตความเป็นทหาร อาจจะมองว่าปัญหาแก้ง่ายไป ปฎิรูปง่ายๆ ผมว่าเมื่อทำงาน จะยิ่งเห็นใจรัฐบาลเก่า

จากที่ว่ามา ผมว่าทหาร และ กปปส จะขัดแย้งกับทหารมากกว่าเสื้อแดง เพื่อไทยซะอีก ด้านสนธิกับทหารกลุ่มนี้ก็กินแหนงกันมา ถ้าเอเอสเจ๊งละก้อ ไม่จืดแน่

สุดท้ายที่อยากฝากทั้ง ทหาร และเพื่อไทย คือ
1.ความเสียหายที่เกิดขึ้นมากมาย เกิดเพราะการใช้สื่อทีวี และวาทกรรมเกลียดชัง จนเกินลิมิต กติกาใหม่ต้องมีชัด ที่ผ่านมา ศาลอะไรไปเข้าอีกฝั่ง อะไรก็ยังไม่ผิด ยึดสถานที่อะไรก็ไม่ผิด ต้องเห้นร่วมกันที่จะตั้งกติกา
2.การชุมนุมต้องมีกฎหมายรับรองที่ดีและชัด ความจริงมีบทเรียน ปี 53 แล้ว แต่ทั้งสองฝ่ายก็ไม่กล้าตั้งกติกา เพราะเหมือนจำกัดฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลโดนอีก แต่ทหารทำได้ เช่น สถานที่ ความปลอดภัย ต้องมีระบบระเบียบอย่างไร
3.ผมครุ่นคิดว่า ทำไมรัฐบาลยิ่งลักษณ์ควำ่ง่ายจัง ทำไมกระแสคนเมือง สุง มีความรู้ทั้งนั้น มีสองเรืองที่เป็นสาเหตุ คือ การใช้เรื่องสถาบันโจมตี กับสอง เพื่อไทยมีเครดิตนิติธรรมหรือต้นทุนน้อยไปครับ ลองคิดดูทหารเข้ามาสั่งโน้นสั่งนี้ จับกินแซนวิส จับชูสามนิ้ว อะไร คนอาจจะบอกว่าไม่น้อย ก็ยังบอก โอเคลองดู คือมีเครดิตอยู่ แต่เพื่อไทยถ้าเข้ามาแล้วทำงานจริงจัง เรื่องที่เอารัดเอาเปรียบชาวบ้าน ฟันไม่ไว้น่า สร้างเครดิต แรงผลักนิดๆ หน่อยๆ ก้ไม่เป้นไร แต่นี้ เราก็ได้ยินข่าว เส้นสายจริง พอเค้าแคมเปญมันก็เป๋ ดังนั้นต้องปรับอีกเยอะ และต้องเรียนรุ้บทเรียนของตัวเองด้วย ไม่ใช่แต่โทษ กปปส ฝั่งเดียว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่