หรือว่า สื่อสาร มีลับลมคมใน

กระทู้คำถาม
ผมจินตนาการว่า
ผู้ถือหุ้นใหญ่จากต่างชาติ
เขาพอรู้มาก่อนหลายปีดีดัก
จึงเอาทุนคืนด้วยการปันผลหนักๆ
ทั้งปันจากกำไร จากเงินกู้ จากกำไรสะสม
จากอะไรต่อมิอะไร
โดยที่นโยบายปันผล เปิดช่องให้ทำได้

แต่เม่าๆ รู้ทันไม่หมด
นึกว่า หุ้นสื่อสาร เป็นหุ้นเน้นปันผลสูง
จึงช่วยกันดันราคา ช่วนกันรับ ตลอดทาง
เพื่อทำให้ความโลภจากเม่าเอาชนะความคลางแคลงใจไปได้
ระหว่างนั้น ผู้ถือหุ้นใหญ่ก็ยังคงปันผลหนักๆตลอดเวลา
และทยอยลดสัดส่วนการถือแบบค่อยเป็นค่อยไป

สุดท้ายเมื่อคืนทุนและได้ผลตอบแทนจากการลงทุนแล้ว
ก็พร้อมประกาศสละเรือ และเปลี่ยนแปลงนโยบายปันผลเป็นจากผลกำไรล้วนๆเท่านั้น
กำไรสะสมไม่มีแล้ว เอากลับประเทศแล้ว
เม่าก็รอรับเงินปันผลที่น่าจะลดน้อยถอยลง
โดยรับหุ้นไปที่ราคาสูงไปแล้ว

หลังจากนี้ เปอร์เซนต์ปันผล ก็คงไม่ได้จูงใจอะไรอีกต่อไป

เป็นไปได้ไหมครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
อีกมุมมองหนึ่งนะครับ ^^

ความเห็นเกี่ยวกับ ADVANC, dtac, True กับการประกาศเรื่องเลื่อนประมูล 4G (คลื่น 1800, 900) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดังนี้ครับ

1. หลังประกาศ ราคาหุ้นสื่อสาร Mobile Operator ทุกตัวติดลบหนักกว่าตลาด ราคาปิดวันศุกร์ ADVANC -4.87%, INTUCH -3.4%, dtac -3.11%, และ True -3.12% สะท้อนความตกใจ และการมองลบต่อ sector นี้ชัดเจน

2. ในแง่ธุรกิจ ถามว่า 4G (LTE : Long Term Evolution) เทคโนโลยีนี้ดีเลย์ได้หนึ่งปีหรือไม่... คหสต.ของผมคิดว่าได้ และไม่ถือว่าเสียหาย เพราะปัจจุบัน ตัวเครื่องมือถือที่รองรับ LTE ยังไม่แพร่หลายครับ ถ้าคุณยังไม่ใช้ iPhone5 หรือ SSรุ่นใหม่ๆ เครื่องยังไม่รองรับนะ ... เอาง่ายๆว่า ขนาดมือถือ 3G ทั้งประเทศ 3G device penetration ยังแค่ประมาณ 1 ใน 3 เท่านั้น (33%)

3. ADVANC, dtac, True ทุ่มลงทุน 3G ระดับมากกว่า 10,000 Sites ทุกราย CAPEX ก้อนนี้เริ่มปี 2013-2015 ค่าเสื่อมมหาศาลกำลังทยอยมา ดังนั้นการทิ้งช่วงก่อนลง LTE น่าจะเป็นการดีกับพวกเขาด้วยซ้ำ จะได้มีเวลาลง 3G ให้แน่นในพื้นที่เมือง(capacity) โดย small cell และขยาย macro cell ไปยังพื้นที่ที่ไม่เคยไป (coverage) ให้ดียิ่งๆขึ้น เพราะความเร็ว 3G HSPA+ ถือเป็น 3.9G ที่ความเร็วสูงใช้ได้กับ Apps ปัจจุบัน

4. ดังนั้น Agenda หลักของทุกราย ยังคงเป็น หนึ่ง..ขยาย 3G network สอง..เชิญลูกค้ามาใช้ 3G ใช้ internet และ สาม..ทยอยลดต้นทุน Cost of Services และค่าใช้จ่าย SG&A เพื่อให้กิจการสร้างฐาน "รายได้เพิ่ม กำไรเพิ่ม ปันผลเพิ่ม" ให้ได้

5. ความเสี่ยงในอนาคตมีหรือไม่?...อาจจะ "มี" ครับ ลองอ่านคำสั่งดูจะพบว่า ในประกาศมีคำว่า..."แก้ไขกฏ..." ซึ่งจุดนี้คือ uncertainty ที่อุตสาหกรรมโทรคมไม่สามารถทำนายได้ครับ อาจจะไม่มีอะไร หรือ อาจจะแก้กฏที่ทำให้พื้นฐาน "เปลี่ยน" ก็ได้

สรุปคือ คหสต.ผมนะ

Active Port... ถ้าเชื่อว่ากฏกติกา ไม่มีอะไรเปลี่ยน ราคาตอนนี้ดูน่าสนใจนะ โดยเฉพาะ INTUCH แต่...ถ้ามองลบ กติกาอาจจะเปลี่ยน ก็ถอยมาดูก่อนดีกว่า ... อันนี้ต้องตัดสินใจเอง

ส่วน Passive Port ออมหุ้น ไม่ต้องกลัวครับ มันเป็น 1 ใน 5 หรือ 1 ใน 7 ของพอร์ทเท่านั้น ทยอยๆเก็บระยะยาว บางบริษัทเค้าผ่านวิกฤตได้เสมอ แถมระยะยาวๆ demand trend ของ Mobile Internet ดีมาก ไม่เปลี่ยนแปลงครับ

ref : Internet

ถ้าบทความข้อมูลด้านบนมีแนวโน้มเป็นจริง (ซึ่งผมเห็นด้วยนะ) ก็จะเป็นผลดีของ Operator ทั้ง 3 ค่ายแน่นอนครับ



BV ลดลงหนักในจังหวะที่มีปันผลพิเศษออกไป แต่หลังจากนั้น BV ก็เพิ่มขึ้นมาพร้อมกับกำไรสุทธิ์ที่เพิ่มขึ้น ในปี 2556 ถึง

176% เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิ์ของปี 2553

อันนี้ชัดเจนครับ ตอนนี้สื่อสารในความคิดเห็นผมยังน่าสนใจ แต่ที่ตลาดกลัวคือ ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงกติกา และเงื่อนไข มากกว่าครับ

รางวัลของผู้กล้ารอบนี้คือ : ความมั่นคงทางการเงินระยะยาวของผู้กล้า ผมเชื่อว่าหลังจากกติกาออกมาชัดเจน และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ธุรกิจดำเนินไปข้างหน้าด้วยการตลาด การแข่งขันที่เป็นธรรม ธุรกิจนี้สามารถต่อยอด และสร้างรายได้ในกิจการได้ยังยืนแน่นอนครับ

ข้อสังเกตของหุ้นที่ดี 7 ประการของคุณหมอนักลงทุนท่านหนึ่งมีดังนี้

1.หุ้นตัวนั้นต้องมีอัตราผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) สูง 15-20% ขึ้นไป ROE จะบ่งบอกความสามารถของผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น “ยิ่งสูง ยิ่งดี” แต่บางครั้งก็มีตัวหลอกเหมือนกัน หากบริษัทนั้นมีหนี้สินจำนวนมาก ฉะนั้นต้องดูดีๆ อย่ารีบเชื่อทันที!

ข้อ 2. หุ้นตัวนั้นต้องมีอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA) สูงกว่า 10%

ข้อ 3.ต้องมี PEG ratio น้อยกว่า 1 เท่า คือการเทียบค่า P/E ratio กับการเจริญเติบโตของกำไรสุทธิ (Growth) หาโดยเอาค่า P/E ratio ตั้งหารด้วยเปอร์เซ็นต์การเจริญเติบโตนั้น บริษัทใดที่ราคาหุ้นต่ำจะน่าซื้อ ถ้าค่า PEG ratio เกิน 1 แสดงว่าราคาหุ้นสูงเกินไป

ข้อ 4.ต้องมีอัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) อยู่ในระดับ 3.5-4% ขึ้นไป ถามว่าทำไมต้องเป็นตัวเลขนี้ เพราะเป็นตัวเลขที่มากกว่าอัตราเงินเฟ้อที่ปกติจะอยู่ระดับ 3%

ข้อ 5. หุ้นตัวนั้นต้องมีกระแสเงินสดสูงๆ ยิ่งไม่ต้องจ่ายหนี้ "ผมจะชอบมากเป็นพิเศษ"

ข้อ 6. ผู้บริหารต้องไว้ใจได้ (โปร่งใส) พูดแล้วทำได้จริง ซึ่งเราต้องไปคุยกับผู้บริหารบ่อยๆ ยิ่งเขาถือหุ้น 20-25% ผมยิ่งชอบเพราะมันจะบ่งบอกว่า เขาจะทุ่มเทในการทำงานมากขนาดไหน ข้อสุดท้าย จะดูปัจจัยทางกายภาพ ธุรกิจนี้มีความแข็งแรงมากน้อยแค่ไหน โอกาสเติบโตของรายได้และกำไรเป็นอย่างไร สินค้าหรือธุรกิจหลักจะเติบโตไปตามชีวิตประจำวันที่เปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ และลูกค้านิยมชมชอบสินค้ามากหรือน้อยแค่ไหน ที่สำคัญจะดูว่าคู่แข่งของเขามีใครบ้าง หากจะมีคู่แข่งเกิดขึ้นใหม่จะเข้ามาในธุรกิจนี้ได้ง่ายหรือยาก

**หุ้นในกลุ่มสื่อสาร ผมว่าเข้าองค์ประกอบทุกข้อ ^^

ลองเปรียบเทียบกับแนวโน้มในกลุ่มเดียวกันในต่างประเทศดู ผมว่าเทรนมันมาคล้ายๆกันนะครับ แต่ของเค้าไม่มีปัญหาเรื่องการเมือง หรือสัมปทาน

หุ้นบางตัวตกลงไปนาน แต่ถ้าดีมันก็จะขึ้นมาให้เห็นเอง เพียงแต่ว่าเรามั่นใจแค่ไหนเท่านั้นเอง
ref : http://pantip.com/topic/30758782
ref : http://pantip.com/topic/30741273

building in a digital age.
A ??? operator gets paid by content providers such as media companies and ... directly from the content provider's origin infrastructure, resulting in possible cost ... Most ??? are operated as an application service provider.

กลุ่มหุ้นในยุคดิจิตอลที่ผมมองไว้ มี 4 กลุ่มครับ สั้นๆ
1. Content พวกนี้เป็นพวกผลิตรายการ เนื้อหาสาระ ครับ เช่น BEC ,WORK
2. Infrastructure : พวกนี้คือกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน เช่น THCOM ,TRUEGIF
3. Operater : ผู้บริหารจัดการ และให้บริการระบบโทรศัพท์ ADVACN ,DTAC
4. Application : พวกนี้พวกพัฒนาแอพต่างๆ โดยเฉพาะดีไวท์ที่ใช้กับพวกสมาร์ทโฟน ซึ่งบ้านเรายังไม่ค่อยเห็น แต่ยกตัวอย่างก็พวก LINE

แต่ที่มีครบผมว่า INTUCH มีครบทั้ง 4 ข้อเลย **ความคิดเห็นส่วนตัว
ขอให้โชดดีในการลงทุน / การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลทุกครั้งก่อนการลงทุน !!!


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่