รู้จักสิวกันเถอะ
1. ต้องเข้าใจ...สิวเกิดจากอะไร
1. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในแต่ละวัย เช่นในช่วงวัยรุ่น ทำให้ต่อมไขมันสร้างไขมันมากขึ้น ซึ่งทำให้เกิดการ
อุดตันของรูขุมขนได้
2. การอุดตันของผิวหนังที่เสื่อมสภาพ ปกติผิวหนังคนเราเมื่อเสื่อมสภาพจะหลุดออกไปเอง แต่บางส่วนอาจจะอุด
ตันในรูขุมขนได้
3. เครื่องสำอาง การแต่งหน้า ถ้าล้างออกไม่ดีพอ อาจจะทำให้เหลือสิ่งตกค้างอุดตันในรูขุมขนได้
4. แบคทีเรีย เชื้อแบคทีเรียบางชนิดทำให้เกิดสิวได้ เช่น P.Acne
2. ชนิดของสิว
สิวแบ่งได้ 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ สิวไม่อักเสบ และสิวอักเสบ
1. สิวไม่อักเสบ ซึ่งสามารถแบ่งออกได้อีก 2 ชนิด คือ สิวหัวขาว(สิวหัวปิด) และสิวหัวดำ(สิวหัวเปิด)
2. สิวอักเสบ มีลักษณะเป็นตุ่มหนอง ฝี หรือตุ่มถุงน้ำอักเสบ สิวแบบนี้มักจะทำให้เกิดเป็นแผลเป็น ซึ่งมีลักษณะ
เป็นรอยนูน หรือรอยบุ๋มก็ได้
3. ถ้าเป็นสิว...แล้วจะรักษาอย่างไร
1. ถ้าเป็นสิว(น้อย)และสิวยังไม่อักเสบมากนัก ควรใช้ยาทาลอกผิวที่มีฤทธิ์ละลายตุ่มสิวอุดตัน ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของกรดวิตามินเอ เพื่อทำให้หัวสิวหลุดออก
2. ถ้ามีสิวอักเสบบ้างเล็กน้อย ควรเลือกใช้ยาทากลุ่มยาฆ่าเชื้อ เช่น เบนซอยล์ เปอร์ออกไซด์ และยาปฏิชีวนะ ซึ่งอาจใช้ร่วมกับยาทาลอกผิวข้างต้น
3. ผู้ที่เป็นผิวอักเสบปานกลาง จนถึงขั้นรุนแรงควรพบแพทย์ผิวหนังเพื่อรับประทานยา อย่าเลือกใช้ยาเองเพราะอาจทำให้อาการสิวรุนแรงขึ้น และอาจทำให้เป็นแผลเป็นหรือรอยดำได้
4.ดูแลตัวเองยังไง... ไม่ให้เป็นสิว
หากเป็นสิว ไม่ต้องกังวลมากเกินไป เนื่องจากเมื่อเกิดความกังวล มักจะทำให้ไปสัมผัสบริเวณนั้นตลอดเวลา ดังนั้นจึงควรปฎิบัติตน และดูแลผิวตัวเองดังนี้
1. รักษาความสะอาดโดยล้างหน้าวันละ 2 – 3 ครั้งก็เพียงพอ เนื่องจากสิวไม่ไดเกิดจากความสกปรกของฝุ่นผงในอากาศ เวลาล้างหน้าอย่าถูแรง พยายามหลีกเลี่ยงการใช้สบู่หรือโฟมล้างหน้าทั่วไปที่มีฤทธิ์เป็นด่าง ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยนต่อผิว
2. หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสารเคมีที่อาจจะทำให้เกิดสิว ควรเลือกใช้เครื่องสำอางที่ระบุว่า ไม่ทำให้เกิดสิว (Non-Comedogenic)
3. หลีกเลี่ยงการสัมผัสผิวหน้าบ่อยๆ
4. อย่าบีบหรือแกะสิว เพราะจะทำให้เกิดรอยแผลเป็นซึ่งรักษาให้หายได้ยากกว่าการรักษาสิว
5. อย่าปล่อยให้ผมยาวรุงรังปรกหน้า และอย่าปล่อยให้ผมมัน และควรงดใช้น้ำมันใส่ผม เจล หรือเสปรย์
6. พยายามอย่าให้เครียด อย่าให้เกิดอารมณ์หงุดหงิดหรือกังวล และพยายามอย่านอนดึก
บทความจาก :
http://gg.oofstar.com/views/1473
รู้จักสิวกันเถอะ เอาน่าเดียวก็หาย
1. ต้องเข้าใจ...สิวเกิดจากอะไร
1. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในแต่ละวัย เช่นในช่วงวัยรุ่น ทำให้ต่อมไขมันสร้างไขมันมากขึ้น ซึ่งทำให้เกิดการ
อุดตันของรูขุมขนได้
2. การอุดตันของผิวหนังที่เสื่อมสภาพ ปกติผิวหนังคนเราเมื่อเสื่อมสภาพจะหลุดออกไปเอง แต่บางส่วนอาจจะอุด
ตันในรูขุมขนได้
3. เครื่องสำอาง การแต่งหน้า ถ้าล้างออกไม่ดีพอ อาจจะทำให้เหลือสิ่งตกค้างอุดตันในรูขุมขนได้
4. แบคทีเรีย เชื้อแบคทีเรียบางชนิดทำให้เกิดสิวได้ เช่น P.Acne
2. ชนิดของสิว
สิวแบ่งได้ 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ สิวไม่อักเสบ และสิวอักเสบ
1. สิวไม่อักเสบ ซึ่งสามารถแบ่งออกได้อีก 2 ชนิด คือ สิวหัวขาว(สิวหัวปิด) และสิวหัวดำ(สิวหัวเปิด)
2. สิวอักเสบ มีลักษณะเป็นตุ่มหนอง ฝี หรือตุ่มถุงน้ำอักเสบ สิวแบบนี้มักจะทำให้เกิดเป็นแผลเป็น ซึ่งมีลักษณะ
เป็นรอยนูน หรือรอยบุ๋มก็ได้
3. ถ้าเป็นสิว...แล้วจะรักษาอย่างไร
1. ถ้าเป็นสิว(น้อย)และสิวยังไม่อักเสบมากนัก ควรใช้ยาทาลอกผิวที่มีฤทธิ์ละลายตุ่มสิวอุดตัน ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของกรดวิตามินเอ เพื่อทำให้หัวสิวหลุดออก
2. ถ้ามีสิวอักเสบบ้างเล็กน้อย ควรเลือกใช้ยาทากลุ่มยาฆ่าเชื้อ เช่น เบนซอยล์ เปอร์ออกไซด์ และยาปฏิชีวนะ ซึ่งอาจใช้ร่วมกับยาทาลอกผิวข้างต้น
3. ผู้ที่เป็นผิวอักเสบปานกลาง จนถึงขั้นรุนแรงควรพบแพทย์ผิวหนังเพื่อรับประทานยา อย่าเลือกใช้ยาเองเพราะอาจทำให้อาการสิวรุนแรงขึ้น และอาจทำให้เป็นแผลเป็นหรือรอยดำได้
4.ดูแลตัวเองยังไง... ไม่ให้เป็นสิว
หากเป็นสิว ไม่ต้องกังวลมากเกินไป เนื่องจากเมื่อเกิดความกังวล มักจะทำให้ไปสัมผัสบริเวณนั้นตลอดเวลา ดังนั้นจึงควรปฎิบัติตน และดูแลผิวตัวเองดังนี้
1. รักษาความสะอาดโดยล้างหน้าวันละ 2 – 3 ครั้งก็เพียงพอ เนื่องจากสิวไม่ไดเกิดจากความสกปรกของฝุ่นผงในอากาศ เวลาล้างหน้าอย่าถูแรง พยายามหลีกเลี่ยงการใช้สบู่หรือโฟมล้างหน้าทั่วไปที่มีฤทธิ์เป็นด่าง ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยนต่อผิว
2. หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสารเคมีที่อาจจะทำให้เกิดสิว ควรเลือกใช้เครื่องสำอางที่ระบุว่า ไม่ทำให้เกิดสิว (Non-Comedogenic)
3. หลีกเลี่ยงการสัมผัสผิวหน้าบ่อยๆ
4. อย่าบีบหรือแกะสิว เพราะจะทำให้เกิดรอยแผลเป็นซึ่งรักษาให้หายได้ยากกว่าการรักษาสิว
5. อย่าปล่อยให้ผมยาวรุงรังปรกหน้า และอย่าปล่อยให้ผมมัน และควรงดใช้น้ำมันใส่ผม เจล หรือเสปรย์
6. พยายามอย่าให้เครียด อย่าให้เกิดอารมณ์หงุดหงิดหรือกังวล และพยายามอย่านอนดึก
บทความจาก : http://gg.oofstar.com/views/1473