สวัสดีครับ กระทู้แรกเลย ที่อยากมาแบ่งปันกับทุกคน ผมก็มนุษย์เงินเดือนเหมือนๆ ทุกคนเลยครับ แต่ที่แตกต่างคือเก็บเงินช้าไป ปัจจุบันฐานะเลยยังไม่เดินไปถึงไหน เศร้าๆๆ
ผมเป็นมนุษย์เงินเดือนมาตลอดช่วงชีวิตตั้งแต่เรียน จบ สมัยเด็กเห็นที่บ้านพ่อ แม่ เป็นมนุษย์เงินเดือน เลยบอกตัวเองว่า โตขึ้น เราจะเป็นคนที่เป็นเจ้าของกิจการให้ได้ ไม่ได้คิดเลยว่า การจะเป็นเจ้าของกิจการได้นั้น ต้องใช้เงินทุนแค่ไหน มันจะลำบากขนาดไหน (ออกตัวก่อนน่ะครับ ที่บ้านก็ไม่ได้ฐานะแย่มากแต่ไม่ได้รวยมากเช่นกัน เอาเป็นว่า ถ้าหาซื้อรถมือสองได้ก็มีกำลังผ่อนไหวประมาณนั้น)
ตั้งแต่เรียนจบออกมาเกรดการเรียนก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไรมาก จบมาทางด้านนิเทศศาตร์ แน่นอนว่า ตอนนั้นก็มองหางานทำไปเรื่อยๆ จนมาได้งานเป็นครีเอทีฟ รายการโทรทัศน์ เงินเดือนก้อนแรก 7500 บาท เก็บเดือนล่ะ 1500 บาท ทำไปได้สักพัก ก็ไปลองวิชาที่ใหม่ เงินเดือน 9000 บาท เก็บเดือนล่ะ 2000 บาท จุดพลิกผัน ครั้งที่ 1 คือตอนช่วงไปทำงานออกมาเป็น Freerance ครั้งแรกในชีวิต คือมือปืนรับจ้าง ได้เงิน มา 15000 บาท ตอนนั้น บอdกับตัวเองว่า สวรรค์ชัดๆๆ นี้แระทางของเรา เงินก้อนใหญ่มาก อีกไม่นานเราจะเปิดออฟฟิศของเราเอง ได้แระ ความคิดแบบเด็กๆ มาแระ เด๋วมาต่อครับ
อีก 1 ก้าวของมนุษย์เงินเดือนที่ขยันเก็บเงิน
ผมเป็นมนุษย์เงินเดือนมาตลอดช่วงชีวิตตั้งแต่เรียน จบ สมัยเด็กเห็นที่บ้านพ่อ แม่ เป็นมนุษย์เงินเดือน เลยบอกตัวเองว่า โตขึ้น เราจะเป็นคนที่เป็นเจ้าของกิจการให้ได้ ไม่ได้คิดเลยว่า การจะเป็นเจ้าของกิจการได้นั้น ต้องใช้เงินทุนแค่ไหน มันจะลำบากขนาดไหน (ออกตัวก่อนน่ะครับ ที่บ้านก็ไม่ได้ฐานะแย่มากแต่ไม่ได้รวยมากเช่นกัน เอาเป็นว่า ถ้าหาซื้อรถมือสองได้ก็มีกำลังผ่อนไหวประมาณนั้น)
ตั้งแต่เรียนจบออกมาเกรดการเรียนก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไรมาก จบมาทางด้านนิเทศศาตร์ แน่นอนว่า ตอนนั้นก็มองหางานทำไปเรื่อยๆ จนมาได้งานเป็นครีเอทีฟ รายการโทรทัศน์ เงินเดือนก้อนแรก 7500 บาท เก็บเดือนล่ะ 1500 บาท ทำไปได้สักพัก ก็ไปลองวิชาที่ใหม่ เงินเดือน 9000 บาท เก็บเดือนล่ะ 2000 บาท จุดพลิกผัน ครั้งที่ 1 คือตอนช่วงไปทำงานออกมาเป็น Freerance ครั้งแรกในชีวิต คือมือปืนรับจ้าง ได้เงิน มา 15000 บาท ตอนนั้น บอdกับตัวเองว่า สวรรค์ชัดๆๆ นี้แระทางของเรา เงินก้อนใหญ่มาก อีกไม่นานเราจะเปิดออฟฟิศของเราเอง ได้แระ ความคิดแบบเด็กๆ มาแระ เด๋วมาต่อครับ