จากกรณีที่ ศ.เกษียร เตชะพีระ ได้ตั้งคำถามเหล่านี้กับสังคม ดิฉันในฐานะคนในสังคมคนหนึ่ง ขออนุญาติตอบคำถามของท่านดังนี้
1. ถ้าโค้ชเชไม่ได้นำทีมเทควันโดไทยจนประสบความสำเร็จโดดเด่นได้แชมป์ในการแข่งขันสากลหลายครั้ง พูดง่าย ๆ ถ้าโค้ชเช "แพ้" แทนที่จะ "ชนะ" เราจะมองเรื่องนี้เหมือนเดิมไหม? หรือต่างไปอย่างไร? เพราะเหตุใด?
ตอบ : ฉันคิดว่า เราไม่ควรคำนึงถึงประเด็น แพ้ชนะ จนลืมเรื่องความเป็นจริงระหว่างลูกศิษย์กับครูอาจารย์ ในกรณีนี้ ไม่ว่าโค้ชเชจะเป็นเฮดโค้ชทีมชาติไทย หรือเป็นครูพละศึกษา พานักเรียนไปแข่งกีฬาระดับ อบต. ก็ตามแต่ ปัญหาเกิดขึ้นจากตรงที่ นักกีฬาร้องเรียนว่าโค้ชทำร้ายร่างกาย แต่ฝั่งโค้ชโต้แย้งว่า ไม่ได้ "ทำร้าย" แต่เขา "ทำโทษ" ที่สังคมกำลังลงโทษน้องก้อยอยู่ในขณะนี้ ไม่ใช่เพราะน้องแพ้ ! แต่เพราะสังคมกำลังตั้งคำถาม ที่ตัวน้องก็ไม่ยอมออกมาตอบเสียทีว่า "ที่น้องโดนโค้ชกระทำการเช่นที่น้องกล่าว เช่น ที่ว่าโค้ชต่อยหน้า 10 หมัดนั้น จริงหรือไม่ ? และสาเหตุที่แท้จริงที่น้องโดนโค้ชกระทำเช่นนั้น มาจากการขาดระเบียบวินัยและความรับผิดชอบในการแข่งขัน ทั้งที่น้องคือตัวแทนที่ไปในนามของประเทศไทย ใช่หรือไม่ ? และพ่อแม่หรือผู้ปกครอง มีส่วนทำให้น้องต้องตกเป็นจำเลยสังคมในครั้งนี้ด้วยหรือไม่ ?"
ดิฉันยังไม่เห็นใครสักคนที่ออกมาประณามน้อก้อยที่แพ้คู่ต่อสู้ยับเยิน หรือสรรเสริญเพราะโค้ชเก่งกล้าสามารถเกินมนุษย์มนา นอกจากปัญหาเรื่องวินัยและความรับผิดชอบของนักกีฬา ร่วมถึงการอยู่ร่วมกันในกฎระเบียบของคนในแต่ละสังคม ที่แตกต่างกันออกไป ตามแต่บริบทในสังคมนั้นๆ
2. ถ้ากรณี "อบรมสั่งสอน" แบบนี้เกิดขึ้นกับลูกของคุณเอง คุณจะคิดเห็นต่อเรื่องนี้เหมือนเดิมไหม? หรือต่างออกไปอย่างไร? เพราะเหตุใด?
ตอบ : ประเด็นถกเถียงในข้อนี้สอดคล้องกับคำตอบในข้อแรก และหากเรื่องนี้เกิดขึ้นกับลูกของดิฉัน ในฐานะแม่ ย่อมรักลูกสุดหัวใจ ดิฉันจะไม่ยอมให้เรื่องนี้จบลงง่ายๆ ถ้าหากว่าลูกสาวของดิฉัน ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจ ประพฤติตนอย่างนักกีฬาที่เคารพกฎระเบียบและมีวินัย รับใช้ชาติอย่างเต็มความสามารถ แต่หากไม่เป็นเช่นนั้น ดิฉันจะยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้โค้ชสักคนที่รักลูกสาวของดิฉันเหมือนลูกตัวเอง คอยชี้ถูกชี้ผิดให้ลูกดิฉันเห็น ไม่ปล่อยให้เขาหลงระเริงไปในทางที่ผิด ทำโทษเขาตามสมควรแก่ความผิดที่เขาได้กระทำ เพราะดิฉัน ยังคงเชื่อมั่นในคำสอนที่ปู่ย่าตายายสั่งสอนดิฉันมาเสมอ ว่า "รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี" และที่ดิฉันเป็นห่วงคือ ความคิดของผู้หลักผู้ใหญ่บางคนในปัจจุบัน เหมือนจะมุ่งเน้นการทำให้บุตรหลานของตน กลายเป็นคนที่ "ไม่มีคุณภาพทั้งด้านอารมณ์และด้านสติปัญญา" ต่อไปในอนาคต
3. คุณจะจ่ายเท่าไหร่ เสียสละอะไรบ้าง เพื่อ "ชัยชนะ"? เมื่อไหร่ ถึงจุดไหน คุณจะหยุดจ่าย? และเอาเข้าจริงใครเป็นคนที่จ่าย คุณหรือคนอื่น?.
ตอบ ถึงจุดนี้ อาจมีใครบางคนอาจ ลืมมองถึง "ราคา" ในด้านอื่นที่เราไม่สามารถจะประเมินค่าได้ นอกจากเรื่อง "ชัยชนะ" เช่น การสูญเสียบุคลากรที่มีคุณสมบัติอันหาได้ยากยิ่งในสังคมไทย ซึ่งนี้คือเรื่องจริงที่น่าเจ็บปวด แต่เราต้องยอมรับและแก้ไขกันต่อไป หรือ การที่สถาบันครอบครัว ล้มเหลวในเรื่องการอบรมเลี้ยงดูบุตรหลาน อันจะเติบโตขึ้นมาเป็นเยาวชนของชาติต่อไปในอนาคต หรือ การที่คนไทยขาดความเข้าใจในเรื่องของการเคารพกฎกติกา การขาดจิตสำนึกในการรักษาระเบียบวินัย การมองเห็นแต่สิทธิของตนเอง แต่ไม่เคารพสิทธิของผู้อื่น แม้กระทั้งการเห็นแต่ประโยชน์ส่วนตน จนไม่มองถึงผลกระทบต่อส่วนรวม เหล่านี้ "คือสิ่งที่ประเทศชาติของเราต้องจ่าย" และราคาของมันนั้น ไม่อาจประเมินได้ ไม่ว่าใครจะเป็นคนที่ต้องจ่าย หรือเราจะต้องจ่ายมันต่อไป จนตราบเท่าแผ่นดินไทยจะแตกสลาย ถ้าไม่มีการปรับเปลี่ยนทัศนคติของคนในชาติ ก็สุดจะตอบได้
4. ราคนไทยย่อมดีใจที่ทีมกีฬาชาติไทยชนะได้แชมป์ คำถามคือชาติไทยของเรา นอกจากเป็นชาติที่ชนะแล้ว ควรมีคุณสมบัติอื่นอย่างใดบ้าง? หรือชาติของเราจะเป็นอย่างใดก็ได้ก็ช่าง ขอให้ชนะเท่านั้นเป็นพอ? แค่ไหนที่เรายินดีจะแลกค่านิยม คุณค่า สิ่งสำคัญของชาติ กับ "ชัยชนะ"? ถึงจุดไหนที่เราจะหยุด เพราะบางอย่างสำคัญกับชาติของเรามากกว่า "ชัยชนะ"? คือ ไม่ชนะก็ได้ แพ้ก็ไม่เป็นไร ขอเรารักษาสิ่งนี้ไว้ก่อน เพราะมันสำคัญกับชาติเรามากกว่า
ตอบ ข้อนี้ขอตอบสั้นๆ เพียงว่า ดิฉันคิดว่า ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงที่ "ทีมกีฬาชาติไทยชนะได้แชมป์" แต่ประเด็นปัญหามันอยู่ตรงความคิดที่ว่า "ไม่ชนะก็ได้ แพ้ก็ไม่เป็นไร" เพราะผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเราเอง ยังเห็นว่าวงการกีฬาในชาติไทยควรรักษาจุดนี้ไว้ ดิฉันจึงหมดความสงสัยแล้วว่า ทำไม กีฬาอีกหลายๆประเภทของไทย จึงไม่โดดเด่นขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในอดีต จนถึง ปัจจุบัน ทั้งที่เราควรพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาไทยไปได้ไกลกว่านี้
ขอจบการตอบคำถาม ตามที่สติปัญญาอันโง่เขลาของดิฉันจะเอื้อำนวยให้ตอบได้ แต่เพียงเท่านี้
ขอบคุณค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.posttoday.com/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A1/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%9B/307210/%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A3-%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%B5%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%A2%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2-%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%8A%E0%B9%80%E0%B8%8A
ขอตอบคำถาม ศ.เกษียร ที่ถามสังคมกรณีขัดแย้งน้องก้อย-โค้ชเช
จากกรณีที่ ศ.เกษียร เตชะพีระ ได้ตั้งคำถามเหล่านี้กับสังคม ดิฉันในฐานะคนในสังคมคนหนึ่ง ขออนุญาติตอบคำถามของท่านดังนี้
1. ถ้าโค้ชเชไม่ได้นำทีมเทควันโดไทยจนประสบความสำเร็จโดดเด่นได้แชมป์ในการแข่งขันสากลหลายครั้ง พูดง่าย ๆ ถ้าโค้ชเช "แพ้" แทนที่จะ "ชนะ" เราจะมองเรื่องนี้เหมือนเดิมไหม? หรือต่างไปอย่างไร? เพราะเหตุใด?
ตอบ : ฉันคิดว่า เราไม่ควรคำนึงถึงประเด็น แพ้ชนะ จนลืมเรื่องความเป็นจริงระหว่างลูกศิษย์กับครูอาจารย์ ในกรณีนี้ ไม่ว่าโค้ชเชจะเป็นเฮดโค้ชทีมชาติไทย หรือเป็นครูพละศึกษา พานักเรียนไปแข่งกีฬาระดับ อบต. ก็ตามแต่ ปัญหาเกิดขึ้นจากตรงที่ นักกีฬาร้องเรียนว่าโค้ชทำร้ายร่างกาย แต่ฝั่งโค้ชโต้แย้งว่า ไม่ได้ "ทำร้าย" แต่เขา "ทำโทษ" ที่สังคมกำลังลงโทษน้องก้อยอยู่ในขณะนี้ ไม่ใช่เพราะน้องแพ้ ! แต่เพราะสังคมกำลังตั้งคำถาม ที่ตัวน้องก็ไม่ยอมออกมาตอบเสียทีว่า "ที่น้องโดนโค้ชกระทำการเช่นที่น้องกล่าว เช่น ที่ว่าโค้ชต่อยหน้า 10 หมัดนั้น จริงหรือไม่ ? และสาเหตุที่แท้จริงที่น้องโดนโค้ชกระทำเช่นนั้น มาจากการขาดระเบียบวินัยและความรับผิดชอบในการแข่งขัน ทั้งที่น้องคือตัวแทนที่ไปในนามของประเทศไทย ใช่หรือไม่ ? และพ่อแม่หรือผู้ปกครอง มีส่วนทำให้น้องต้องตกเป็นจำเลยสังคมในครั้งนี้ด้วยหรือไม่ ?"
ดิฉันยังไม่เห็นใครสักคนที่ออกมาประณามน้อก้อยที่แพ้คู่ต่อสู้ยับเยิน หรือสรรเสริญเพราะโค้ชเก่งกล้าสามารถเกินมนุษย์มนา นอกจากปัญหาเรื่องวินัยและความรับผิดชอบของนักกีฬา ร่วมถึงการอยู่ร่วมกันในกฎระเบียบของคนในแต่ละสังคม ที่แตกต่างกันออกไป ตามแต่บริบทในสังคมนั้นๆ
2. ถ้ากรณี "อบรมสั่งสอน" แบบนี้เกิดขึ้นกับลูกของคุณเอง คุณจะคิดเห็นต่อเรื่องนี้เหมือนเดิมไหม? หรือต่างออกไปอย่างไร? เพราะเหตุใด?
ตอบ : ประเด็นถกเถียงในข้อนี้สอดคล้องกับคำตอบในข้อแรก และหากเรื่องนี้เกิดขึ้นกับลูกของดิฉัน ในฐานะแม่ ย่อมรักลูกสุดหัวใจ ดิฉันจะไม่ยอมให้เรื่องนี้จบลงง่ายๆ ถ้าหากว่าลูกสาวของดิฉัน ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจ ประพฤติตนอย่างนักกีฬาที่เคารพกฎระเบียบและมีวินัย รับใช้ชาติอย่างเต็มความสามารถ แต่หากไม่เป็นเช่นนั้น ดิฉันจะยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้โค้ชสักคนที่รักลูกสาวของดิฉันเหมือนลูกตัวเอง คอยชี้ถูกชี้ผิดให้ลูกดิฉันเห็น ไม่ปล่อยให้เขาหลงระเริงไปในทางที่ผิด ทำโทษเขาตามสมควรแก่ความผิดที่เขาได้กระทำ เพราะดิฉัน ยังคงเชื่อมั่นในคำสอนที่ปู่ย่าตายายสั่งสอนดิฉันมาเสมอ ว่า "รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี" และที่ดิฉันเป็นห่วงคือ ความคิดของผู้หลักผู้ใหญ่บางคนในปัจจุบัน เหมือนจะมุ่งเน้นการทำให้บุตรหลานของตน กลายเป็นคนที่ "ไม่มีคุณภาพทั้งด้านอารมณ์และด้านสติปัญญา" ต่อไปในอนาคต
3. คุณจะจ่ายเท่าไหร่ เสียสละอะไรบ้าง เพื่อ "ชัยชนะ"? เมื่อไหร่ ถึงจุดไหน คุณจะหยุดจ่าย? และเอาเข้าจริงใครเป็นคนที่จ่าย คุณหรือคนอื่น?.
ตอบ ถึงจุดนี้ อาจมีใครบางคนอาจ ลืมมองถึง "ราคา" ในด้านอื่นที่เราไม่สามารถจะประเมินค่าได้ นอกจากเรื่อง "ชัยชนะ" เช่น การสูญเสียบุคลากรที่มีคุณสมบัติอันหาได้ยากยิ่งในสังคมไทย ซึ่งนี้คือเรื่องจริงที่น่าเจ็บปวด แต่เราต้องยอมรับและแก้ไขกันต่อไป หรือ การที่สถาบันครอบครัว ล้มเหลวในเรื่องการอบรมเลี้ยงดูบุตรหลาน อันจะเติบโตขึ้นมาเป็นเยาวชนของชาติต่อไปในอนาคต หรือ การที่คนไทยขาดความเข้าใจในเรื่องของการเคารพกฎกติกา การขาดจิตสำนึกในการรักษาระเบียบวินัย การมองเห็นแต่สิทธิของตนเอง แต่ไม่เคารพสิทธิของผู้อื่น แม้กระทั้งการเห็นแต่ประโยชน์ส่วนตน จนไม่มองถึงผลกระทบต่อส่วนรวม เหล่านี้ "คือสิ่งที่ประเทศชาติของเราต้องจ่าย" และราคาของมันนั้น ไม่อาจประเมินได้ ไม่ว่าใครจะเป็นคนที่ต้องจ่าย หรือเราจะต้องจ่ายมันต่อไป จนตราบเท่าแผ่นดินไทยจะแตกสลาย ถ้าไม่มีการปรับเปลี่ยนทัศนคติของคนในชาติ ก็สุดจะตอบได้
4. ราคนไทยย่อมดีใจที่ทีมกีฬาชาติไทยชนะได้แชมป์ คำถามคือชาติไทยของเรา นอกจากเป็นชาติที่ชนะแล้ว ควรมีคุณสมบัติอื่นอย่างใดบ้าง? หรือชาติของเราจะเป็นอย่างใดก็ได้ก็ช่าง ขอให้ชนะเท่านั้นเป็นพอ? แค่ไหนที่เรายินดีจะแลกค่านิยม คุณค่า สิ่งสำคัญของชาติ กับ "ชัยชนะ"? ถึงจุดไหนที่เราจะหยุด เพราะบางอย่างสำคัญกับชาติของเรามากกว่า "ชัยชนะ"? คือ ไม่ชนะก็ได้ แพ้ก็ไม่เป็นไร ขอเรารักษาสิ่งนี้ไว้ก่อน เพราะมันสำคัญกับชาติเรามากกว่า
ตอบ ข้อนี้ขอตอบสั้นๆ เพียงว่า ดิฉันคิดว่า ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงที่ "ทีมกีฬาชาติไทยชนะได้แชมป์" แต่ประเด็นปัญหามันอยู่ตรงความคิดที่ว่า "ไม่ชนะก็ได้ แพ้ก็ไม่เป็นไร" เพราะผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเราเอง ยังเห็นว่าวงการกีฬาในชาติไทยควรรักษาจุดนี้ไว้ ดิฉันจึงหมดความสงสัยแล้วว่า ทำไม กีฬาอีกหลายๆประเภทของไทย จึงไม่โดดเด่นขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในอดีต จนถึง ปัจจุบัน ทั้งที่เราควรพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาไทยไปได้ไกลกว่านี้
ขอจบการตอบคำถาม ตามที่สติปัญญาอันโง่เขลาของดิฉันจะเอื้อำนวยให้ตอบได้ แต่เพียงเท่านี้
ขอบคุณค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้