อยากขอคำปรึกษาและความช่วยเหลือค่ะ

เรื่องนี้เกิดขึ้นกับตัวของดิฉันเองเมื่อเดือนปลายๆ ปี 2544 ตอนนั้นดิฉันไปทำงานและเรียนในโครงการ Au Pair in America พักอยู่กับโฮสต์แฟมิลี่ที่รัฐนิวเจอร์ซี่ย์ ดิฉันทำงานเลี้ยงเด็กให้โฮสต์ผู้ชายเป็นชาวยิวที่ถือว่านิสัยดีมากเมื่อเปรียบเทียบกับโฮสต์ผู้หญิงซึ่งเป็นลูกครึ่งไทย-ฟิลิปปินส์ ครอบครัวนี้มักจะมีพ่อของโฮสต์ผู้หญิงซึ่งเป็นคนไทยมาเยี่ยมทุกๆ เดือน และพักอยู่ด้วยครั้งละประมาณ 1 สัปดาห์ เพราะภรรยาชาวฟิลิปปินส์ของแกเสียไปเมื่อประมาณไม่กี่เดือนก่อนที่ฉันจะไปพักและทำงานให้กับบ้านนี้ ด้วยความที่เป็นคนไทยเหมือนกันดิฉันจึงให้ความเคารพแกเหมือนเป็นคุณตาของดิฉัน แกพักอยู่ชั้นเดียวกับฉันคือชั้นสามของบ้าน
     2 สัปดาห์ก่อนที่ฉันจะย้ายออกไปบ้านโฮสต์แฟมิลี่ใหม่ เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นกับดิฉัน และมันเป็นเหมือนฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนดิฉันมาจนถึงทุกวันนี้ เกือบจะ 3 ปีแล้ว เช้าวันที่ 15 พ.ย. วันนั้นฉันไม่ต้องทำงานแต่เช้า เพราะโฮสต์บอกว่าจะให้ตาของเด็กดูเด็กช่วงเช้า จึงกะว่าจะตื่นสายเสียหน่อย เวลาประมาณหกโมงเช้าเศษๆ ขณะที่ฉันยังนอนครึ่งหลับครึ่งตื่น เสียงเคาะประตูห้องนอนของฉันดังขึ้น ฉันมองไปที่นาฬิกาปลุกในห้อง ก็เห็นว่ายังไม่ถึงเวลาที่ฉันต้องทำงานนี่ รู้สึกหัวเสียนิดหน่อย ฉันกำลังจะลุกออกจากเตียง แต่ประตูเปิดออกโดยคุณตา แกหอบข้าวของเข้ามาในห้องฉันและบอกว่าเป็นเซอร์ไพรส์วันเกิดล่วงหน้า ฉันก็คิดในใจว่ามันตั้งอีกเป็นอาทิตย์นะ แต่ก็ไม่ได้คิดไรมาก แกก็จัดแจงเอากล่องของขวัญยื่นให้ฉันและบอกให้ฉันเปิดเดี๋ยวนั้น ในใจคิดว่าเปิดๆ ไปแล้วแกจะได้รีบๆ ออกไปจากห้องแล้วดิฉันจะนอนต่ออีกซักหน่อย พอเปิดดูก็เห็นเป็นสร้อยคอ ซึ่งก็ไม่ได้ดูดี และดิฉันก็ไม่ได้อยากจะได้ แต่ไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร หรือตอนนั้นเพิ่งถูกปลุกให้ตื่นสมองจึงปรับไม่ทัน แล้วแกก็อธิบายร่ายยาวเกี่ยวกับสร้อยนั่น อธิบายจนฉันรู้สึกมึนกะคำบรรยาย แต่ด้วยความที่ฉันกลัวเสียมารยาทก็เลยทนฟังแกพล่ามจนจบ แล้วก็ยังมีของอีกสามสี่ชิ้น แล้วแกก็บอกให้ฉันจูบแกเป็นการขอบคุณ ฉันปฏิเสธแต่แล้วมันก็เข้ามาจูบดิฉัน กดให้ฉันล้มลงไปบนเตียงแล้วขึ้นมาคร่อมฉันไว้ ตอนนั้นตกใจจนทำอะไรไม่ถูก พยามบอกว่าฉันเคารพแกเหมือนเป็นตาแท้ๆ ของฉัน มันก็บอกว่าความรักไม่มีเกี่ยงอายุ แล้วพยามจะถอดชุดนอนของฉันซึ่งเป็นกางเกงขายาวและเสื้อแขนยาวที่ฉันใส่นอนแบบมิดชิด ฉันขอร้องว่าอย่าทำฉันเลยนะ ถ่วงเวลาคิดหาวิธีที่จะเอาตัวออกไปจากสถานการณ์เลวร้ายนี้ประมาณ 20 นาทีเห็นจะได้ ระหว่างนั้นมันก็ยังพยามจะถอดชุดนอนให้ได้ และลูบคลำตัวของฉัน ฉันก็เอาแขนป้องหน้าอกของฉันไว้ให้ดีที่สุด ระหว่างนั้นมันบอกฉันว่า I'm ganna make you be a big girl ฉันกลัวมาก ครั้นจะต่อสู้กับมันฉันก็ไม่รู้ว่าฉันจะสู้แรงมันได้มั้ย พอได้ยินเสียงเด็กตื่นมันก็ยังมีหน้ามาบอกว่าไม่เป็นไรอีก แล้วฉันก็คิดได้ว่าต้องไปห้องน้ำเลยบอกมันว่าฉันต้องไปเข้าห้องน้ำแล้วมันก็ยอมปล่อยฉันไป ฉันรีบตรงไปที่ห้องน้ำซึ่งอยู่ชั้นสองของบ้านแล้วอยู่ในนั้นประมาณ 5 นาที ไอ้แกนั่นก็ตามมาเคาะประตูว่าฉันเป็นอะไรมั้ย ยังมีหน้ามาถามฉันว่าเป็นไรมั้ย ฉันเลยบอกว่าไม่เป็นไรทั้งๆ ที่กลัวมาก เสียดายที่ไม่ได้วิ่งออกจากบ้านเพื่อขอความช่วยเหลือจากคนข้างนอก โทรศัพท์ก็อยู่ชั้นล่างสุดกับห้องนอนโฮสต์ที่ชั้นสอง พยามรวบรวมความกล้าทั้งๆ ที่ตัวสั่น ออกมาจากห้องน้ำแล้วก็เข้าไปดูเด็กเพื่อจะเอาเด็กมาช่วยเป็นกำบัง มันก็ยังตามมาแล้วมาจับก้นฉัน ฉันล่ะอยากฆ่ามันจริงๆ  และทั้งวันนั้นฉันก็พยามอยู่ห่างจากมันให้มากที่สุด จนตอนเย็นโฮสต์กลับมาบ้านฉันก็บอกโฮสต์ แต่เหมือนนางโฮสต์ผู้หญิงจะข้าข้างพ่อของมัน แล้วแค่ให้ฉันคืนของทุกชิ้นให้พ่อมันแล้วพ่อมันกลับบ้านที่ต่างเมืองไป แล้วถือว่าจบเรื่อง ก่อนไอ้แก่นั่นจะไปมันบอกฉันว่าขอโทษและขอบใจที่ฉันได้มอบจูบให้มัน ฉันไม่ได้ตั้งใจหรือเต็มใจเลยซักนิด แล้วก็ไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้หรือแสดงความรับผิดชอบอะไรเลย แต่ยังถือว่ายังโชคดีอยู่บ้างที่ไม่โดนข่มขืน
     ฉันมาคิดได้ตอนหลังก็ด่าตัวเองว่าทำไมตอนนั้นฉันถึงไม่โทรขอความช่วยเหลือนะนังโง่ หรือน่าจะต่อสู้กับมันให้รู้กันไปข้างนึง ทุกวันนี้คนในครอบครัวของฉันไม่มีใครรู้ เพราะฉันไม่กล้าที่จะบอกและไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ก่อนจะหลับตานอนทุกคืนภาพเหตุการณ์นั้นมันวนเวียนเข้ามาหลอกหลอนฉันตลอกระยะเวลาเกือบ 3 ปี ยิ่งได้ยินได้เห็นข่าวผู้หญิงถูกเอาเปรียบ ถูกข่มขืนมันยิ่งตอกย้ำดิฉันมากยิ่งขึ้น
     ฉันอยากขอความช่วยเหลือและคำปรึกษาว่าฉันจะทำอย่างไรดี ฉันจะฟ้องตำรวจหาทนายช่วยฉันจับไอ้แก่ตัณหากลับนั่นเข้าคุกได้อย่างไร ฉันอยากให้มันไปนอนตายในคุกให้สาสมกับความชั่วร้ายที่มันทำกับฉัน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่