ชวาลา ตอนที่ ๑๓ การหนีเรียนครั้งเเรกของอชิ

กระทู้สนทนา
13
การหนีเรียนครั้งแรกของอชิ


            กุลินหงายข้อมือขึ้นมารอการแจ้งเตือนเผื่อว่าจะมีข้อความเข้ามาอยู่หลายครั้งในระหว่างที่อยู่ยังคงอยู่ในห้องสมุดโรงเรียนด้วยกัน เด็กสาวได้แต่ดันหนังสือกลับเข้าไปที่ชั้นเก็บหนังสือพลางเหลือบมองอีกฝ่ายอย่างสงสัยว่าเธอกำลังรอคอยอะไร ทั้งที่เมื่อครู่บอกกับเธอมาว่าจะต้องรีบไปจากที่นี่
            “จริงสิอชิ…ปลอมตัวเป็นผู้ชายด้วยจะดีกว่านะ”
            กุลินหันมา หลังจากที่ช่วยกันจัดเก็บเอกสารและหนังสือทั้งหมดจนเข้าที่เรียบร้อย คล้ายกับว่าหญิงสาวรู้ตัวว่าอชิลอบมองมาอย่างสงสัยอยู่หลายครั้ง
            “ค่ะ” เด็กสาวรับคำอย่างว่าง่าย ถึงกระนั้นก็อดไม่ได้ที่จะถามต่อ “พี่กุลินรออะไรอยู่เหรอคะ”
            “รอสัญญาณ”
            “สัญญาณ?”
            เด็กสาวทวนคำอย่างฉงน กุลินมีสีหน้าเคร่งเครียด
            “ดูเหมือนว่าเทวาจะมีปัญหา”

            ภายในห้องน้ำชายของตึกสี่กอ ชายหนุ่มคนหนึ่งในชุดเครื่องแบบของเด็กนักเรียน จ้องมองใบหน้าของตนที่สะท้อนอยู่บนผืนกระจกอย่างครุ่นคิด ก่อนจะตัดสินใจถอดแว่นออก ส่งผลให้ใบหน้าคมเข้มนั้นดูอ่อนเยาว์ลงไปมาก
            หากแต่เพียงเท่านี้ยังไม่พอ…เทวาครุ่นคิด
            ชายหนุ่มเริ่มลงมือเปลี่ยนแปลงข้อมูลใบหน้าของตัวเอง โดยการใช้ข้อมูลที่เขียนขึ้นมาจนเป็นภาพโปรแกรมสามมิติทับลงบนใบหน้าเดิม ทว่าด้วยฝีมือของเขานั้นไม่สามารถทำให้ใบหน้าเปลี่ยนไปได้มากเหมือนคนละคน แต่เพียงเท่านี้ก็คงไม่มีใครในโรงเรียนจดจำเขาได้อีกแน่
            เทวาขยับยิ้มอย่างพึงพอใจ ก่อนที่สีหน้าจะเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมเมื่อนึกถึงบทสนทนาระหว่างอาจารย์เจตน์

            ‘จริงๆ แล้วเรื่องนี้ควรจะเป็นหน้าที่ของคนอื่นไม่ใช่หรือ’
            ‘ครับ แต่แผนมีการเปลี่ยนแปลง เวลานี้ต้องผมเท่านั้นถึงจะพยุงสถานการณ์ได้’
            ‘จากที่คุณอธิบายมาเมื่อครู่น่ะผมเข้าใจ แต่ทำไมถึงเป็นกุลิน ’
น้ำเสียงของอาจารย์เจตน์ยังคงราบเรียบ หากแต่เทวาสัมผัสถึงปลายเสียงที่สั่นเล็กน้อยในตอนท้าย เจตน์หันกลับมาสบตากับชายหนุ่ม ‘ความใจอ่อนที่เขาพยายามซ่อนอยู่ต่างหาก ที่ผมห่วง’
            ‘กุลินได้ยินคุณว่าอย่างนี้คงดีใจน่าดู’
            อาจารย์เจตน์ถอนหายใจ
            “เอาเถอะ ผมขอตัวไปทำหน้าที่ก่อน เดี๋ยวจะมีคนสงสัยได้”

            ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาจากอ่างน้ำ จ้องมองใบหน้าที่แปลกออกไปของตัวเองในบานกระจกอีกครั้ง แม้จะอดรู้สึกพะวงอยู่บ้างไม่ได้เพราะนี่เป็นภารกิจแรกของกุลิน หากแต่เวลานี้เขาคงทำได้เพียงเชื่อมั่นในตัวของกุลิน
            เขามีความเชื่อมั่น…ว่าหากกุลินเกิดพลาดพลั้งขึ้นมา…
            …อชินี่แหละที่จะเป็นคนคอยหนุนนำเธอเอง
            เมื่อตัดความกังวลทุกอย่างออกไปแล้ว ความคิดของเทวาก็กลับมาคมชัดอีกครั้ง ชายหนุ่มจัดเก็บทุกอย่างให้กลับไปเป็นดังเดิมเหมือนเช่นว่าเขาไม่เคยเข้ามาในนี้มาก่อน เทวาจ้องมองตัวเองในกระจกอีกครั้ง เห็นแววตาของตัวเองที่มุ่งมั่นปราศจากความลังเล
            …ได้เวลาเริ่มต้นภารกิจ!

            ที่นี้ไม่ผิดแน่…
            ชายหนุ่มจ้องมองสถานที่ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นคอกม้าเก่า ก่อนจะก้มลงมองผังกล้องวงจรปิดที่อยู่ในมือแล้วอดที่จะคิดไม่ได้ ว่าพวกเขานั้นช่างโชคดีจริงๆ ที่สถานที่ซึ่งพวกเขากำลังยืนอยู่ในขณะนี้คือเขต 5 ซึ่งนับว่าเป็นเขตที่มีจำนวนประชากรหนาแน่นน้อยสุดในบรรดาทั้ง 13 เขต อีกทั้งโรงเรียนของอชิก็จัดว่าเป็นโรงเรียนเล็ก เด็กระดับหัวกระทิมีอยู่ไม่กี่คน ดังนั้นความเข้มงวดในการจับตามองจากพวกผู้คุมกฏจึงหย่อนลงมา
            มีกล้องวงจรปิดอยู่บางตัวที่เสียอยู่ แต่ไม่ได้รับการใส่ใจแก้ไข อาจเป็นเพราะตั้งแต่โรงเรียนนี้ตั้งขึ้นมาก็ไม่เคยมีเหตุการณ์อะไรให้ต้องสงสัย
            ทว่าถึงแม้ระดับการจับตามองจะหย่อนลงมาถึงขนาดนี้ แต่ถ้าหากมีอะไรผิดพลาดไปแม้แต่นิดเดียว
            …ก็คือจบกัน!
            ชายหนุ่มตีสีหน้าเคร่งเครียด สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ  รู้สึกได้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจอย่างหนักหน่วง ก่อนจะพยายามเดินเลี่ยงไปทางบริเวณจุดบอดของกล้อง และผ่อนลมหายใจออกมาได้อย่างคลายใจขึ้นเมื่อในที่สุดเขาก็มาหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องเล็กๆ ห้องหนึ่งที่ใส่กุญแจล็อครหัสไว้เป็นอย่างดี
            เทวาขยับยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะสอดเครื่องมือขนาดเล็กไว้ที่ช่องว่างใต้ประตูอย่างเบามือ และถอยเท้าออกมายืนรอที่มุมหนึ่ง
            พลันเสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามา!
            ชายหนุ่มสะดุ้ง รีบคว้าเครื่องมือนั่นออกมาจากบริเวณใต้ประตู ทว่าด้วยอารามร้อนรน แทนที่เครื่องมือนั้นจะติดมือกลับมา กลับถูกดันลึกเข้าไปในห้อง!
            เหงื่อซึมชื้นออกมาตามแผ่นหลังขณะที่เสียงฝีเท้านั้นเริ่มใกล้เข้ามาทุกที ชายหนุ่มคว้าเอาเศษลวดที่ตกอยู่แถวๆ นั้นขึ้นมาเขี่ยเครื่องมือกลับเข้ามาในมือได้ในที่สุด
            แย่ล่ะสิ!…กำลังจะเข้ามาแล้ว ชายหนุ่มเร่งมองหาทางออก
            สายตาสะดุดเข้าที่จุดหนึ่ง
            “แย่จริง สายไปนิดเดียวก็ส่งข้อความเข้ามาจิกอยู่ได้”
            ชายในร่างสูงใหญ่ พุงโต ไว้หนวดเคราะรุงรังเดินเข้ามาในบริเวณคอกม้าร้างพร้อมกับบ่นพึมพำ
            “เฮ้ย!!” ชายคนนั้นร้องขึ้น “ฉันมาแล้ว! เปิดประตูซิ!”
            เทวาซึ่งหลบเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในตู้เก็บของได้อย่างฉิวเฉียด ผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก มือหนาค่อยๆ งับประตูตู้เข้ามาปิดสนิทอย่างเบามือ เงี่ยหูรอฟังความเคลื่อนไหวภายใต้ความมืด
            “แกมาช้าไปเป็นชั่วโมง”
            เสียงของชายอีกคนดังขึ้นพร้อมกับเสียงประตูที่แง้มเปิดออก ทำให้เทวาพอจะสรุปได้ว่าชายร่างใหญ่ที่เพิ่งจะเข้ามาในคอกม้านั้นมาเลทจากเวลาในการผลัดเปลี่ยนเวร
            ดูเหมือนว่าอาจารย์เจตน์จะยังคงทำงานได้อย่างรอบคอบเช่นเคย…ข้อมูลที่ให้มานั้นยังคงแม่นยำ ละเอียดรอบคอบ ไม่มองข้ามแม้กระทั่งเวลาผลัดเปลี่ยนเวรทำงาน
            แต่ที่เกือบพลาดไปเป็นเพราะปัจจัยที่เกินจากความคาดเดานั้นอาจเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้
            …นับจากนี้เขาคงต้องระมัดระวังยิ่งขึ้นไปอีก
            เครื่องมือขนาดเล็กถูกสอดเข้าไปใต้ประตูอีกครั้ง ปล่อยควันสลบจางๆ ขนาดตาเปล่ามองไม่เห็นเข้าไปในห้อง ทิ้งเวลาไว้จนแน่ใจว่าคนเฝ้าเวรในห้องหมดสติไปเรียบร้อย จึงเป็นเวลาที่เทวาเริ่มดำเนินแผนต่อ ชายหนุ่มอาศัยรหัสผ่านที่ได้มาจากอาจารย์เจตน์เปิดล็อคประตูเข้าไปด้านใน สายตาเหลือบมองด้านหลัง และรอบข้างอย่างระแวดระวัง ก่อนจะพาร่างเข้าไปในห้องแล้วงับประตูเข้ามาปิด
            สภาพภายในห้องแตกต่างจากสภาพของคอกม้าร้างด้านนอกราวกับหลุดเข้ามาอีกโลก
            ชายหนุ่มปลายตามองร่างที่ฟุบอยู่กับโต๊ะ เหยียดยิ้มข้างมุมปาก ก่อนจะแหงนมองจอภาพนับสิบจอเบื้องหน้าอย่างสนอกสนใจ เทวาลองค้นหาภาพภายในห้องสมุดซึ่งกุลินและอชิน่าจะกำลังอยู่ในขณะนี้ ก่อนจะพบเพียงจอภาพมืดๆ อันเนื่องมาจากกล้องที่เสียอยู่
            ห้องเล็กๆ แห่งนี้คือห้องที่ใช้ตรวจกล้องวงจรปิดทั้งหมดภายในโรงเรียนนี้นี่เอง ใครจะรู้ว่ามีสถานที่เช่นนี้ซ่อนอยู่ในคอกม้าร้างที่ไม่มีใครเข้ามาใช้งานอีกต่อไป พวกผู้คุมกฎจับตามองพวกเราตลอดมา จับตามองแม้กระทั่งเด็กๆ และครูในโรงเรียน และพร้อมที่จะเข้ามาจัดการขั้นเด็ดขาดอย่างลับๆ ได้ทุกเมื่อ
            ครั้งนี้ก็เช่นกัน ใช้คำว่าตรวจสุขภาพเหมือนเรื่องปกติทั่วไป ไม่มีสิ่งแอบแฝง…
            …ทว่าแท้จริงแล้วก็มีเพื่อคัดประชากรที่ไม่ได้ตามแบบแผนของพวกมันออกไป!
            เทวาเหยียดยิ้ม ก่อนจะเริ่มลงมือป้อนโปรแกรมตามแผนที่ได้รับมอบหมายมา…คงต้องเจอกันหน่อย ในเมื่อพวกมันทำตัวเหมือนเงา พวกเขาก็จะเป็นผีให้ดู!

            “พ่อมดเทวาเปิดทางให้แล้ว”
            กุลินยิ้มร่า ก่อนจะหันเรียกเด็กสาว  
            “พร้อมรึยังอชิ?”
            “พร้อมค่ะ”
            อชิตอบพร้อมกับเดินออกมาจากหลังชั้นหนังสือ จากเด็กสาวได้แปรเปลี่ยนเป็นเด็กหนุ่ม เธอแย้มยิ้มกว้างให้กับกุลินที่จ้องมองมาอย่างสนใจ
            “หล่อเชียว มีแฟนยังจ๊ะ”
            กุลินแซว อชิแอบขนลุกอยู่ไม่น้อย
            “ยังค่ะ”
            หญิงสาวมองอชิในคราบเด็กหนุ่มพร้อมกับหัวเราะออกมาเบาๆ
            “ทำตัวแมนๆ หน่อยสิ” กุลินเดินเข้ามาตบบ่าแรงๆ ก่อนจะยื่นของสิ่งหนึ่งให้” อะ เอานี่ไปติด”
            “อะไรคะ”
            อชิรับมา ก่อนจะเพ่งพิจารนาเม็ดกลมๆ ที่นอนกลิ้งอยู่ในมืออย่างสนใจ ขนาดมันเล็กเท่ากับเม็กถั่ว ผิวเรียบลื่นมันวาวและเบาเสียจนแทบไม่รู้สึกถึงน้ำหนัก
            “มันจะแผ่คลื่นแม่เหล็กออกมาปกคลุมรอบตัวอชิ กล้องวงจรปิดภายในโรงเรียนจะไม่สามารถจับภาพเธอได้ เราจะต้องออกไปจากโรงเรียนโดยที่ไม่มีใครพบเห็นตัวเธอ”
            กุลินเบือนหน้าไปอีกทาง ใบหน้าครึ่งหนึ่งภายใต้เงาปรากฏรอยยิ้มเหยียดที่มุมปาก รอยยิ้มและสายตาของหญิงสาวในยามนี้ทำให้อชิสะดุ้งในใจ เสี้ยวนาทีหนึ่งที่ภาพของหญิงสาวธรรมดาอย่างกุลินได้หายไป กลายเป็นผู้หญิงอีกคนซึ่งเธอไม่รู้จัก แววตาที่เคยอ่อนใสสะท้อนถึงความไร้เดียงสากลับแฝงไว้ด้วยความมุ่งร้าย
            ก่อนที่ใบหน้านั้นจะกลับมาเป็นพี่กุลิน เจ้าของรอยยิ้มสบายตาคนเดิม
            “มนุษย์ทุกคนไม่อาจสลัดทิ้งเงาที่ตามติดตัวได้ แต่ผีนั้นไม่มีเงา” กุลินหันกลับมาสบตากับเด็กสาว แววตานั้นสะท้อนความซุกซน “แต่อย่างอชิ บอกว่าเป็นพรายน้ำจะดูน่ารักกว่านะ”
            “น่ากลัวออก”
            อชิบ่น เธอไม่เข้าใจที่กุลินพูดมานักหรอก แต่เธอไม่ชอบเรื่องผีๆ สางๆ เท่าไหร่
            “เมื่อกี้พี่กุลินทำหน้าตาน่ากลัวจัง”
            เด็กสาวว่าเบาๆ ไม่ได้ตั้งใจให้อีกฝ่ายได้ยิน หากแต่เพราะห้องที่เงียบงันจนเกินไป กุลินได้ฟังแล้วก็เลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ
            “อย่างนั้นหรือ?” หญิงสาวหัวเราะ “เอ้า พอๆ ไปกันเสียที นี่ภารกิจใหญ่และจริงจังสุดยอดนะ!”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่