ตอนที่ ๔
http://pantip.com/topic/32308089
พรีมนึกน้อยใจที่เขาไม่รอเธอ พอเข้ามาในตึกก็เห็นคุยกับกลุ่มผู้หญิงที่ชอบกระซิบกระซาบเวลาเธอเดินผ่าน หญิงสาวจึงตัดสินใจเดินขึ้นบันได นึกโกรธชายหนุ่มห้องตรงข้าม สิบนาทีที่แล้วเขายังชวนเธอไปเที่ยวอยู่เลย พรีมค่อยๆ เดิน เธอคิดในแง่ดีว่า กินอาหารไปเยอะ เดินขึ้นบันไดก็ดีเหมือนกัน ถือว่าออกกำลังกายไปด้วย
รพีพัฒน์นั่งรอเธอที่บันได เขาคิดว่าเธอคงอึดอัดที่ต้องขึ้นลิฟท์พร้อมกับกลุ่มนั้น ผู้หญิงแบบเธอย่อมตกเป็นเป้าให้นินทาว่าร้ายได้ง่ายอยู่แล้ว
“เมื่อยหรือเปล่าครับ”
พรีมเงยหน้ามอง เธอตกใจที่เห็นเขานั่งอยู่บนขั้นบันได ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนยิ้มให้เธอ
“ออกกำลังกายรอบดึกหรือครับ”
“ค่ะ” พรีมยิ้มตอบ
“คุณน่าจะบอกผมก่อนว่าจะขึ้นบันได ผมจะได้เดินเป็นเพื่อน”
พรีมเงียบ จะให้เธอพูดความจริงหรือว่าเหตุใดจึงเดินขึ้นบันได หญิงสาวเสียบลูกกุญแจเปิดประตูห้อง
“ฝันดีนะครับ” ชายหนุ่มพูดกับเธอก่อนจะปิดประตูห้อง
“ฝันดีค่ะ” พรีมพูดในใจ
วันอาทิตย์ พรีมตื่นสายกว่าปกติ วันนี้เป็นวันทำงานบ้านของเธอ ด้วยความที่โตมาในต่างประเทศกับแม่ หญิงสาวจึงต้องช่วยตัวเองตั้งแต่เด็ก แม้ตอนที่มาอยู่กับพ่อจะมีแม่บ้านทำความสะอาด แต่หญิงสาวก็ยังชินกับการทำงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ ด้วยตัวเอง
พรีมตากผ้าที่ระเบียง หลังจากนั้นจึงดูดฝุ่น และถูห้อง ต่อไปเธอคงไม่มีโอกาสทำอะไรแบบนี้แล้ว งานแต่งจะจัดขึ้นปลายเดือนหน้า ชุดเจ้าสาวและรองเท้าสั่งตัดจากฝรั่งเศส รวมถึงแอ็กแซสเซอร์รี่อื่นๆ ภูวดลบอกกับเธอว่าอยากมีลูกทันที เพราะเขาและเธอก็อายุมากแล้ว พรีมนึกภาพตัวเองเป็นแม่คนไม่ออก
สิบเอ็ดโมงกว่า เธอเดินไปร้านกาแฟ หญิงสาวสั่งกาแฟกลับบ้าน เดี๋ยวตอนบ่ายเธอจะไปที่บ้านของภูวดล
“เมื่อคืนคุณพิมหลับสบายไหมครับ” รพีพัฒน์เดินมายืนข้างเธอ
“หัวถึงหมอนก็หลับเลยค่ะ” พรีมตอบ ขี้เกียจบอกเขาว่าชื่อเธอควรออกเสียงอย่างไร
“ผมก็เหมือนกัน ขอชาเขียวเย็นปั่นครับ” ชายหนุ่มหันไปสั่งบาริสต้า
“คาปูชิโน่เย็นได้แล้วครับ” พนักงานยื่นกาแฟส่งให้เธอ หญิงสาวกำลังจะยื่นเงินส่งให้ รพีพัฒน์มือไวปากไวกว่า
“คิดรวมเลยครับ”
พรีมตั้งท่าจะค้าน ชายหนุ่มรู้จึงรีบพูดว่า
“ผมเลี้ยงเอง เมื่อคืนคุณซื้อขนมเลี้ยงผมตั้งเยอะ”
“แต่ว่า...” พรีมอยากจะค้าน เมื่อวานเขาก็เลี้ยงเครื่องดื่มเธอไปแล้วรอบหนึ่ง
“เพื่อนกัน กินแค่นี้ไม่เป็นไรหรอกครับ”
“ขอบคุณค่ะ” พรีมยิ้มให้เขา “นี่เราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เมื่อไหร่” หญิงสาวคิด
“ผมมีธุระ ไปก่อนนะครับ” พูดจบเขาก็เดินไปขึ้นรถจากัวร์ พรีมรอจนรถขับออกไปจึงเดินกลับคอนโด
รพีพัฒน์รับงานจัดสวนที่โรงแรมห้าดาวเปิดใหม่ โชคดีที่มีงานเข้ามาในช่วงที่เขาต้องเข้ากรุงเทพฯ แม้เขาจะไม่ได้รับงานจัดสวนสเกลใหญ่ๆ มานานหลายปี แต่ผลงานที่สร้างชื่อให้เขาก็ยังเป็นที่กล่าวขาน ลูกชายเจ้าของโรงแรมเป็นเพื่อนสมัยเรียนมัธยมและยังคอยช่วยเหลือชายหนุ่มระหว่างเร่ร่อนไปทั่วยุโรป เขาจึงตกปากรับคำทำงานนี้ทันที
บ้านหรืออันที่จริงต้องเรียกว่า “คฤหาสน์” ของตระกูลศิลาพักตร์กินอาณาบริเวณ ๑๐ ไร่ ตัวบ้านสร้างตามแบบสถาปัตยกรรมแบบชิโน-โปรตุกีส ภูวดลอยู่บ้านนี้เพียงลำพัง ไม่นับแม่บ้าน เด็กรับใช้ คนสวน คนขับรถ พรีมไม่ชอบบ้านกว้างๆ แบบนี้ เธอพอใจกับการอยู่ห้องหรือบ้านหลังเล็กๆ มากกว่า
ภูวดลโทรศัพท์มาบอกว่าถึงเมืองไทยแล้ว จะกลับช้าเล็กน้อย พรีมไม่ได้ถามต่อว่าไปไหน หญิงสาวจึงนั่งอ่านหนังสือที่ห้องสมุด แม่บ้านนำของว่างมาให้
“เหงาแย่เลยนะคะ”
“คะ” พรีมมองหน้าแม่บ้านเก่าแก่ของตระกูล
“คุณภูก็ไม่ค่อยอยู่ นี่ขนาดยังไม่ได้แต่ง ป้าหวังว่าถ้าแต่งงานกันแล้ว คุณภูคงมีเวลาให้คุณพรีมมากกว่านี้”
“พรีมชินแล้วค่ะ”
“คิดถึงคุณพีจัง” แม่บ้านรำพึง พรีมรู้แค่ว่าภูวดลมีน้องชายที่หายสาบสูญไปเมื่อห้าปีก่อน เธออยากถามเขาว่าเหตุใดจึงไม่คิดตามหา ถ้าจ้างนักสืบเก่งๆ ต้องเจอตัวอย่างแน่นอน
“แล้วคุณพีไม่ติดต่อกลับมาเลยหรือคะ”
“ไม่เลยค่ะ ป้าคิดว่าคุณพีคงหนีไปอยู่เมืองนอก คงจะเป็นอังกฤษ เพราะคุณพีไปเรียนที่นั่นตั้งแต่ตอนเป็นวัยรุ่น” ลำดวนรำลึกถึงคุณหนูคนโปรดของนาง
พรีมนึกภาพใบหน้าของเขาไม่ออก รูปในบ้านก็ไม่มีสักใบ หรืออาจจะมีแต่ภูวดลสั่งให้เก็บไปหมดแล้ว เธอเองก็ไม่กล้าขอดู
“ป้าเชื่อว่างานแต่งงานของพวกคุณ คุณพีต้องกลับมาแน่นอนค่ะ” ลำดวนพูดด้วยน้ำเสียงเชื่อมั่น
“คุณภูกับคุณพีสนิทกันหรือเปล่าคะ”
“ไม่หรอกค่ะ คุณภูเรียบร้อย คุณพีซนมากหาเรื่องปวดหัวให้คนในบ้านได้ทุกวัน” นางรำพึงด้วยน้ำเสียงเปี่ยมสุข
แม่บ้านออกไปแล้ว หญิงสาวเอนหลังลงบนเก้าอี้ยาว สักพักก็หลับ ภูวดลเข้ามาในห้องสมุดรู้ดีว่าเธอต้องอยู่ที่นี่ ชายหนุ่มนั่งมองใบหน้ายามหลับของคู่หมั้น พรีมรู้ดีว่าจะพบกับอะไรหลังจากแต่งงานกับเขา แต่เธอก็ยอมรับหมั้น ชายหนุ่มรู้สึกว่าตัวเองเป็นหนี้บุญคุณเธออย่างที่ชาตินี้ก็ไม่มีวันใช้หมด
พรีมนั่งฟังคู่หมั้นเล่าเรื่องงานที่ต่างประเทศ เธอได้แต่ตอบว่า “ค่ะ”, “หรือคะ”, “น่าสนใจดีนะคะ” กังวลอยู่ว่าเขาจะคิดว่าเธอน่าเบื่อหรือเปล่านะ
“เกือบลืม ผมมีของฝากมาให้คุณด้วย” ภูวดลสั่งให้เด็กรับใช้นำของมาให้เธอ
“คุณภูไม่น่าลำบากเลยค่ะ”
“ลำบากตรงไหนกัน”
ภูวดลรับถุงใส่ของจากเด็กรับใช้ยื่นส่งให้เธอ หญิงสาววางถุงลงบนเก้าอี้ข้างๆ ในนั้นคือเครื่องสำอางระดับไฮเอนด์ของเกาหลี หญิงสาวยิ้มให้คู่หมั้น
“ขอบคุณค่ะ”
“ชอบหรือเปล่าครับ ผมได้ยินว่าแบรนด์นี้ใช้ดีมาก”
“ค่ะ” พรีมพูดปด ความจริงแล้วเธอคงจะดีใจกว่านี้ถ้าของฝากเป็นขนมที่ไม่มีขายในเมืองไทยหรือสตรอว์เบอรี่จากสวนที่โน่น
พรีมนั่งรับประทานของว่างเพียงลำพัง ส่วนภูวดลมีประชุมด่วน หญิงสาวมองบัวลอยเผือกในถ้วยที่ตอนนี้เหลือแต่น้ำกะทิ
“อืม ขอป้าลำดวนห่อกลับบ้านให้ดีกว่า ไปฝากคุณพี เมื่อเช้าเขาเลี้ยงกาแฟเรา”
ลำดวนแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นพรีมเข้ามาในครัว
“คุณพรีมอยากได้อะไรหรือคะ”
“อืม บัวลอยเผือกยังมีเหลือไหมคะ” พรีมถามเสียงเบา
“มีสิคะ คุณพรีมชอบหรือคะ”
“ค่ะ พรีมขอกลับบ้านสักหน่อยได้ไหมคะ”
“ได้สิคะ ป้าทำไว้เยอะเลย เดี๋ยวป้าตักใส่กล่องให้นะคะ” พูดจบนางก็กุลีกุจอตักขนมใส่หม้อหุงข้าวพลาสติกใบเล็ก
“ขอบคุณค่ะ” พรีมรับถุงผ้าจากลำดวน
“จะกลับแล้วหรือคะ”
“ค่ะ” พรีมยกมือไหว้ลำดวน แม่บ้านรีบยกมือไหว้กลับ
“ไม่ต้องไหว้ก็ได้ค่ะ”
“ไม่ได้หรอกค่ะ ป้าลำดวนเป็นผู้ใหญ่”
ลำดวนมองด้วยความชื่นชม ตอนแรกนางไม่ใคร่ชอบพรีมนัก คิดว่าเธอแต่งงานกับภูวดลเพราะเงิน แต่เมื่อได้ใกล้ชิดก็พบว่าพรีมไม่ใช่คนแบบนั้น
พรีมเคาะประตูห้องทำงานของภูวดล ไม่ได้ยินเสียงตอบ หญิงสาวจึงเปิดประตูเข้าไป คู่หมั้นของเธอกำลังประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ พอเห็นเธอเขามา ชายหนุ่มจึงสั่งงานแล้วปิดหน้าจอทันที
“จะกลับแล้วหรือครับ”
“ค่ะ”
ภูวดลเดินเข้ามากอดเธอ พรีมขืนตัวเล็กน้อย เธอไม่ได้กอดเขาตอบได้แต่ยืนตัวเกร็ง
“ของชำร่วยเสร็จแล้ว การ์ดก็แจกออกไปหมดแล้ว สถานที่ก็เตรียมแล้ว เหลือก็แต่ชุดเจ้าสาว ตื่นเต้นหรือเปล่าครับ”
“ค่ะ” พรีมตอบ พยายามหลบสายตาชายหนุ่ม
“คุณพรีมคิดไว้หรือยังว่าอยากไปฮันนีมูนที่ไหน”
“พรีมยังไม่ได้คิดค่ะ”
“เราไปพักปราสาทของเพื่อนผมที่ออสเตรียดีไหมครับ”
“แล้วแต่คุณภูค่ะ”
ภูวดลคลายอ้อมกอด ยิ้มให้คู่หมั้น
“พรุ่งนี้ต้องทำงาน คุณพรีมกลับไปพักผ่อนเถอะครับ”
“ค่ะ เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ”
หลังจากพรีมกลับไปได้ครึ่งชั่วโมง สินชัย ทนายความประจำตัวชายหนุ่มก็เข้ามาเพื่อรายงานเรื่องด่วน
“ได้ยินว่ามีเรื่องด่วนต้องการแจ้งผม”
“ครับ ตอนนี้คุณพีอยู่กรุงเทพฯ ครับ”
“แล้วคุณรู้ไหมว่าตอนนี้พีพักอยู่ที่ไหน”
“พักอยู่ที่คอนโดมิเนียมเดียวกับคุณพรีมครับ”
“ตอนนี้พีทำอะไรอยู่”
“รับจัดสวนโรงแรมเดียวกับที่คุณภูจะใช้เป็นสถานที่จัดงานแต่งงานครับ”
“พีอยู่กรุงเทพฯนานเท่าไหร่แล้ว”
“เกือบสองสัปดาห์แล้วครับ”
“แต่คุณเพิ่งมาบอกผม” ภูวดลกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“ผมแค่อยากให้แน่ใจว่าคราวนี้คุณพีจะไม่หนีไปไหนอีกครับ”
“แล้วคุณรู้หรือเปล่าว่าตลอดห้าปีที่ผ่านมา พีไปอยู่ที่ไหน”
“ไม่ทราบครับ แต่ผมว่าไม่นานเราจะได้รู้คำตอบครับ”
“ผมต้องทำงานต่อ คุณไปได้แล้ว”
“ครับ”
มีหรือเขาจะไม่รู้ว่าน้องชายหนีไปอยู่ที่ไหน หลังงานศพว่าที่พี่สะใภ้ รพีพัฒน์ขับรถออกจากบ้านในเช้าวันรุ่งขึ้นและไม่เคยกลับมาอีกเลย สิบแปดเดือนที่แล้วบิดาของทั้งคู่เสียชีวิต รพีพัฒน์ไม่ได้มาร่วมงานศพของบิดา พินัยกรรมถูกเปิดสองพี่น้องได้ครอบครองสมบัติคนละครึ่ง ทุกวันนี้เขาทำหน้าที่ดูแลผลประโยชน์ส่วนของรพีพัฒน์เป็นอย่างดี
ภูวดลรู้ว่าการประกาศข่าวการหมั้นและการแต่งงานจะทำให้น้องชายเขากลับมา การที่รพีพัฒน์พักอยู่คอนโดมิเนียมเดียวกับคู่หมั้น สะกิดใจชายหนุ่ม ทว่า เขามีงานล้นมือจนไม่มีเวลาขบคิดเรื่องอื่น
*******************************************************************
หนามหัวใจ โดย กัณฐมาศ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เพลิงสุมทรวง โดย กัณฐมาศ ตีพิมพ์แล้วกับสำนักพิมพ์ทัช
หนามหัวใจ ตอนที่ ๕
พรีมนึกน้อยใจที่เขาไม่รอเธอ พอเข้ามาในตึกก็เห็นคุยกับกลุ่มผู้หญิงที่ชอบกระซิบกระซาบเวลาเธอเดินผ่าน หญิงสาวจึงตัดสินใจเดินขึ้นบันได นึกโกรธชายหนุ่มห้องตรงข้าม สิบนาทีที่แล้วเขายังชวนเธอไปเที่ยวอยู่เลย พรีมค่อยๆ เดิน เธอคิดในแง่ดีว่า กินอาหารไปเยอะ เดินขึ้นบันไดก็ดีเหมือนกัน ถือว่าออกกำลังกายไปด้วย
รพีพัฒน์นั่งรอเธอที่บันได เขาคิดว่าเธอคงอึดอัดที่ต้องขึ้นลิฟท์พร้อมกับกลุ่มนั้น ผู้หญิงแบบเธอย่อมตกเป็นเป้าให้นินทาว่าร้ายได้ง่ายอยู่แล้ว
“เมื่อยหรือเปล่าครับ”
พรีมเงยหน้ามอง เธอตกใจที่เห็นเขานั่งอยู่บนขั้นบันได ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนยิ้มให้เธอ
“ออกกำลังกายรอบดึกหรือครับ”
“ค่ะ” พรีมยิ้มตอบ
“คุณน่าจะบอกผมก่อนว่าจะขึ้นบันได ผมจะได้เดินเป็นเพื่อน”
พรีมเงียบ จะให้เธอพูดความจริงหรือว่าเหตุใดจึงเดินขึ้นบันได หญิงสาวเสียบลูกกุญแจเปิดประตูห้อง
“ฝันดีนะครับ” ชายหนุ่มพูดกับเธอก่อนจะปิดประตูห้อง
“ฝันดีค่ะ” พรีมพูดในใจ
วันอาทิตย์ พรีมตื่นสายกว่าปกติ วันนี้เป็นวันทำงานบ้านของเธอ ด้วยความที่โตมาในต่างประเทศกับแม่ หญิงสาวจึงต้องช่วยตัวเองตั้งแต่เด็ก แม้ตอนที่มาอยู่กับพ่อจะมีแม่บ้านทำความสะอาด แต่หญิงสาวก็ยังชินกับการทำงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ ด้วยตัวเอง
พรีมตากผ้าที่ระเบียง หลังจากนั้นจึงดูดฝุ่น และถูห้อง ต่อไปเธอคงไม่มีโอกาสทำอะไรแบบนี้แล้ว งานแต่งจะจัดขึ้นปลายเดือนหน้า ชุดเจ้าสาวและรองเท้าสั่งตัดจากฝรั่งเศส รวมถึงแอ็กแซสเซอร์รี่อื่นๆ ภูวดลบอกกับเธอว่าอยากมีลูกทันที เพราะเขาและเธอก็อายุมากแล้ว พรีมนึกภาพตัวเองเป็นแม่คนไม่ออก
สิบเอ็ดโมงกว่า เธอเดินไปร้านกาแฟ หญิงสาวสั่งกาแฟกลับบ้าน เดี๋ยวตอนบ่ายเธอจะไปที่บ้านของภูวดล
“เมื่อคืนคุณพิมหลับสบายไหมครับ” รพีพัฒน์เดินมายืนข้างเธอ
“หัวถึงหมอนก็หลับเลยค่ะ” พรีมตอบ ขี้เกียจบอกเขาว่าชื่อเธอควรออกเสียงอย่างไร
“ผมก็เหมือนกัน ขอชาเขียวเย็นปั่นครับ” ชายหนุ่มหันไปสั่งบาริสต้า
“คาปูชิโน่เย็นได้แล้วครับ” พนักงานยื่นกาแฟส่งให้เธอ หญิงสาวกำลังจะยื่นเงินส่งให้ รพีพัฒน์มือไวปากไวกว่า
“คิดรวมเลยครับ”
พรีมตั้งท่าจะค้าน ชายหนุ่มรู้จึงรีบพูดว่า
“ผมเลี้ยงเอง เมื่อคืนคุณซื้อขนมเลี้ยงผมตั้งเยอะ”
“แต่ว่า...” พรีมอยากจะค้าน เมื่อวานเขาก็เลี้ยงเครื่องดื่มเธอไปแล้วรอบหนึ่ง
“เพื่อนกัน กินแค่นี้ไม่เป็นไรหรอกครับ”
“ขอบคุณค่ะ” พรีมยิ้มให้เขา “นี่เราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เมื่อไหร่” หญิงสาวคิด
“ผมมีธุระ ไปก่อนนะครับ” พูดจบเขาก็เดินไปขึ้นรถจากัวร์ พรีมรอจนรถขับออกไปจึงเดินกลับคอนโด
รพีพัฒน์รับงานจัดสวนที่โรงแรมห้าดาวเปิดใหม่ โชคดีที่มีงานเข้ามาในช่วงที่เขาต้องเข้ากรุงเทพฯ แม้เขาจะไม่ได้รับงานจัดสวนสเกลใหญ่ๆ มานานหลายปี แต่ผลงานที่สร้างชื่อให้เขาก็ยังเป็นที่กล่าวขาน ลูกชายเจ้าของโรงแรมเป็นเพื่อนสมัยเรียนมัธยมและยังคอยช่วยเหลือชายหนุ่มระหว่างเร่ร่อนไปทั่วยุโรป เขาจึงตกปากรับคำทำงานนี้ทันที
บ้านหรืออันที่จริงต้องเรียกว่า “คฤหาสน์” ของตระกูลศิลาพักตร์กินอาณาบริเวณ ๑๐ ไร่ ตัวบ้านสร้างตามแบบสถาปัตยกรรมแบบชิโน-โปรตุกีส ภูวดลอยู่บ้านนี้เพียงลำพัง ไม่นับแม่บ้าน เด็กรับใช้ คนสวน คนขับรถ พรีมไม่ชอบบ้านกว้างๆ แบบนี้ เธอพอใจกับการอยู่ห้องหรือบ้านหลังเล็กๆ มากกว่า
ภูวดลโทรศัพท์มาบอกว่าถึงเมืองไทยแล้ว จะกลับช้าเล็กน้อย พรีมไม่ได้ถามต่อว่าไปไหน หญิงสาวจึงนั่งอ่านหนังสือที่ห้องสมุด แม่บ้านนำของว่างมาให้
“เหงาแย่เลยนะคะ”
“คะ” พรีมมองหน้าแม่บ้านเก่าแก่ของตระกูล
“คุณภูก็ไม่ค่อยอยู่ นี่ขนาดยังไม่ได้แต่ง ป้าหวังว่าถ้าแต่งงานกันแล้ว คุณภูคงมีเวลาให้คุณพรีมมากกว่านี้”
“พรีมชินแล้วค่ะ”
“คิดถึงคุณพีจัง” แม่บ้านรำพึง พรีมรู้แค่ว่าภูวดลมีน้องชายที่หายสาบสูญไปเมื่อห้าปีก่อน เธออยากถามเขาว่าเหตุใดจึงไม่คิดตามหา ถ้าจ้างนักสืบเก่งๆ ต้องเจอตัวอย่างแน่นอน
“แล้วคุณพีไม่ติดต่อกลับมาเลยหรือคะ”
“ไม่เลยค่ะ ป้าคิดว่าคุณพีคงหนีไปอยู่เมืองนอก คงจะเป็นอังกฤษ เพราะคุณพีไปเรียนที่นั่นตั้งแต่ตอนเป็นวัยรุ่น” ลำดวนรำลึกถึงคุณหนูคนโปรดของนาง
พรีมนึกภาพใบหน้าของเขาไม่ออก รูปในบ้านก็ไม่มีสักใบ หรืออาจจะมีแต่ภูวดลสั่งให้เก็บไปหมดแล้ว เธอเองก็ไม่กล้าขอดู
“ป้าเชื่อว่างานแต่งงานของพวกคุณ คุณพีต้องกลับมาแน่นอนค่ะ” ลำดวนพูดด้วยน้ำเสียงเชื่อมั่น
“คุณภูกับคุณพีสนิทกันหรือเปล่าคะ”
“ไม่หรอกค่ะ คุณภูเรียบร้อย คุณพีซนมากหาเรื่องปวดหัวให้คนในบ้านได้ทุกวัน” นางรำพึงด้วยน้ำเสียงเปี่ยมสุข
แม่บ้านออกไปแล้ว หญิงสาวเอนหลังลงบนเก้าอี้ยาว สักพักก็หลับ ภูวดลเข้ามาในห้องสมุดรู้ดีว่าเธอต้องอยู่ที่นี่ ชายหนุ่มนั่งมองใบหน้ายามหลับของคู่หมั้น พรีมรู้ดีว่าจะพบกับอะไรหลังจากแต่งงานกับเขา แต่เธอก็ยอมรับหมั้น ชายหนุ่มรู้สึกว่าตัวเองเป็นหนี้บุญคุณเธออย่างที่ชาตินี้ก็ไม่มีวันใช้หมด
พรีมนั่งฟังคู่หมั้นเล่าเรื่องงานที่ต่างประเทศ เธอได้แต่ตอบว่า “ค่ะ”, “หรือคะ”, “น่าสนใจดีนะคะ” กังวลอยู่ว่าเขาจะคิดว่าเธอน่าเบื่อหรือเปล่านะ
“เกือบลืม ผมมีของฝากมาให้คุณด้วย” ภูวดลสั่งให้เด็กรับใช้นำของมาให้เธอ
“คุณภูไม่น่าลำบากเลยค่ะ”
“ลำบากตรงไหนกัน”
ภูวดลรับถุงใส่ของจากเด็กรับใช้ยื่นส่งให้เธอ หญิงสาววางถุงลงบนเก้าอี้ข้างๆ ในนั้นคือเครื่องสำอางระดับไฮเอนด์ของเกาหลี หญิงสาวยิ้มให้คู่หมั้น
“ขอบคุณค่ะ”
“ชอบหรือเปล่าครับ ผมได้ยินว่าแบรนด์นี้ใช้ดีมาก”
“ค่ะ” พรีมพูดปด ความจริงแล้วเธอคงจะดีใจกว่านี้ถ้าของฝากเป็นขนมที่ไม่มีขายในเมืองไทยหรือสตรอว์เบอรี่จากสวนที่โน่น
พรีมนั่งรับประทานของว่างเพียงลำพัง ส่วนภูวดลมีประชุมด่วน หญิงสาวมองบัวลอยเผือกในถ้วยที่ตอนนี้เหลือแต่น้ำกะทิ
“อืม ขอป้าลำดวนห่อกลับบ้านให้ดีกว่า ไปฝากคุณพี เมื่อเช้าเขาเลี้ยงกาแฟเรา”
ลำดวนแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นพรีมเข้ามาในครัว
“คุณพรีมอยากได้อะไรหรือคะ”
“อืม บัวลอยเผือกยังมีเหลือไหมคะ” พรีมถามเสียงเบา
“มีสิคะ คุณพรีมชอบหรือคะ”
“ค่ะ พรีมขอกลับบ้านสักหน่อยได้ไหมคะ”
“ได้สิคะ ป้าทำไว้เยอะเลย เดี๋ยวป้าตักใส่กล่องให้นะคะ” พูดจบนางก็กุลีกุจอตักขนมใส่หม้อหุงข้าวพลาสติกใบเล็ก
“ขอบคุณค่ะ” พรีมรับถุงผ้าจากลำดวน
“จะกลับแล้วหรือคะ”
“ค่ะ” พรีมยกมือไหว้ลำดวน แม่บ้านรีบยกมือไหว้กลับ
“ไม่ต้องไหว้ก็ได้ค่ะ”
“ไม่ได้หรอกค่ะ ป้าลำดวนเป็นผู้ใหญ่”
ลำดวนมองด้วยความชื่นชม ตอนแรกนางไม่ใคร่ชอบพรีมนัก คิดว่าเธอแต่งงานกับภูวดลเพราะเงิน แต่เมื่อได้ใกล้ชิดก็พบว่าพรีมไม่ใช่คนแบบนั้น
พรีมเคาะประตูห้องทำงานของภูวดล ไม่ได้ยินเสียงตอบ หญิงสาวจึงเปิดประตูเข้าไป คู่หมั้นของเธอกำลังประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ พอเห็นเธอเขามา ชายหนุ่มจึงสั่งงานแล้วปิดหน้าจอทันที
“จะกลับแล้วหรือครับ”
“ค่ะ”
ภูวดลเดินเข้ามากอดเธอ พรีมขืนตัวเล็กน้อย เธอไม่ได้กอดเขาตอบได้แต่ยืนตัวเกร็ง
“ของชำร่วยเสร็จแล้ว การ์ดก็แจกออกไปหมดแล้ว สถานที่ก็เตรียมแล้ว เหลือก็แต่ชุดเจ้าสาว ตื่นเต้นหรือเปล่าครับ”
“ค่ะ” พรีมตอบ พยายามหลบสายตาชายหนุ่ม
“คุณพรีมคิดไว้หรือยังว่าอยากไปฮันนีมูนที่ไหน”
“พรีมยังไม่ได้คิดค่ะ”
“เราไปพักปราสาทของเพื่อนผมที่ออสเตรียดีไหมครับ”
“แล้วแต่คุณภูค่ะ”
ภูวดลคลายอ้อมกอด ยิ้มให้คู่หมั้น
“พรุ่งนี้ต้องทำงาน คุณพรีมกลับไปพักผ่อนเถอะครับ”
“ค่ะ เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ”
หลังจากพรีมกลับไปได้ครึ่งชั่วโมง สินชัย ทนายความประจำตัวชายหนุ่มก็เข้ามาเพื่อรายงานเรื่องด่วน
“ได้ยินว่ามีเรื่องด่วนต้องการแจ้งผม”
“ครับ ตอนนี้คุณพีอยู่กรุงเทพฯ ครับ”
“แล้วคุณรู้ไหมว่าตอนนี้พีพักอยู่ที่ไหน”
“พักอยู่ที่คอนโดมิเนียมเดียวกับคุณพรีมครับ”
“ตอนนี้พีทำอะไรอยู่”
“รับจัดสวนโรงแรมเดียวกับที่คุณภูจะใช้เป็นสถานที่จัดงานแต่งงานครับ”
“พีอยู่กรุงเทพฯนานเท่าไหร่แล้ว”
“เกือบสองสัปดาห์แล้วครับ”
“แต่คุณเพิ่งมาบอกผม” ภูวดลกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“ผมแค่อยากให้แน่ใจว่าคราวนี้คุณพีจะไม่หนีไปไหนอีกครับ”
“แล้วคุณรู้หรือเปล่าว่าตลอดห้าปีที่ผ่านมา พีไปอยู่ที่ไหน”
“ไม่ทราบครับ แต่ผมว่าไม่นานเราจะได้รู้คำตอบครับ”
“ผมต้องทำงานต่อ คุณไปได้แล้ว”
“ครับ”
มีหรือเขาจะไม่รู้ว่าน้องชายหนีไปอยู่ที่ไหน หลังงานศพว่าที่พี่สะใภ้ รพีพัฒน์ขับรถออกจากบ้านในเช้าวันรุ่งขึ้นและไม่เคยกลับมาอีกเลย สิบแปดเดือนที่แล้วบิดาของทั้งคู่เสียชีวิต รพีพัฒน์ไม่ได้มาร่วมงานศพของบิดา พินัยกรรมถูกเปิดสองพี่น้องได้ครอบครองสมบัติคนละครึ่ง ทุกวันนี้เขาทำหน้าที่ดูแลผลประโยชน์ส่วนของรพีพัฒน์เป็นอย่างดี
ภูวดลรู้ว่าการประกาศข่าวการหมั้นและการแต่งงานจะทำให้น้องชายเขากลับมา การที่รพีพัฒน์พักอยู่คอนโดมิเนียมเดียวกับคู่หมั้น สะกิดใจชายหนุ่ม ทว่า เขามีงานล้นมือจนไม่มีเวลาขบคิดเรื่องอื่น
*******************************************************************
หนามหัวใจ โดย กัณฐมาศ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้