เป็นที่รู้กันดีว่าในยุคไดโนเสาร์นั้น ไดโนเสาร์สามารถครอบครองพื้นพิภพได้ยาวนานถึงสองร้อยล้านปีหรือมากกว่า โดยแบ่งออกเป็นยุคยิบย่อยมากมาย จนในที่สุด พวกมันสูญพันธุ์ไปด้วยมหาวิบัติภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ดั่งที่ทราบกันตามหลักฐาน หลังจากนั้น มนุษย์ได้ถือกำเนิดขึ้น และสามารถครอบครองโลกใบนี้ เพราะด้วยมนุษย์มีขนาดสมองที่ใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัว จึงถือได้ว่ามีความฉลาดเป็นพิเศษ
ในโลกปัจจุบัน เมื่อเทียบกับยุคไดโนเสาร์แล้ว เราทุกท่านยังอยู่ในช่วงต้นๆของเผ่าพันธุ์มนุษย์ เพราะประวัติศาสตร์มนุษยชาติที่ได้มีการบันทึกกันมาจนถึงปัจจุบัน มีอายุเพียงแค่ประมาณหนึ่งหมื่นปีเท่านั้น จึงถือว่าพวกเราทุกท่าน ณ. ขณะนี้ เป็นบรรพบุรุษของรุ่นลูกรุ่นหลานอีกนับไม่ถ้วน โดยที่ทุกท่านไม่ต้องห่วงกังวลถึงเรื่องวันสิ้นโลก เพราะมันจะไม่เกิดขึ้นในช่วงชีวิตของเราอย่างแน่นอน
ปัจจุบัน คริสตศักราชที่ 2014 มนุษย์สามารถคิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆได้อย่างรวดเร็ว สามารถพัฒนาองค์ความรู้ในศาสตร์สาขาต่างๆใว้ให้ลูกหลานรุ่นต่อๆไปได้ศึกษาเล่าเรียนและต่อยอดได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ถึงแม้ว่าพวกเราทุกท่านในปัจจุบันไม่สามารถที่จะมีชีวิตอยู่รอชม ค.ศ. ที่ 1000000 หรือ Y1M ได้ แต่เราก็สามารถที่จะจำลองภาพ ณ. ขณะนั้นขึ้นมา แบบเดียวกับที่มนุษย์ในอดีตกาลนึกถึงภาพอารยธรรมมนุษย์ในอนาคต ซึ้งก็คือความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ทุกท่านกำลังใช้งานอยู่ในบัจจุบันนั่นเอง ผมจึงขอลองกล่าวถึงยุค Y1M ตามแบบที่ผมพอจะนึกภาพออกเป็นหัวข้อ ดังนี้...
การเมืองการปกครอง
ในยุค Y1M ขนาดของแต่ละประเทศอาจจะไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงเสี้ยวหนึ่งในดาวเคราะห์ แต่จะหมายถึงดาวเคราะห์ทั้งดวง กลุ่มดาวเคราะห์ หรือทั้งระบบสุริยะก็ว่าได้ ซึ้งผมได้ประมาณการใว้ที่ 335 ประเทศ บนดาวเคราะห์ 1780 ดวง ในระบบสุริยะ 103 แห่ง ส่วนผู้นำประเทศและศูนย์รวมจิตใจของประชาชน อาจจะเป็นมนุษย์ หรือไม่ใช่อีกต่อไป เช่นบางประเทศ เคารพและบูชาหอคอยสูงสองกิโลเมตร ซึ้งมีการติดตั้งระบบสมองกลเพื่อคอยควบคุมการกระทำความผิดที่เกิดเป็นรูปธรรมภายในประเทศตนใว้บนยอดหอคอย
ศาสนาและวัฒนธรรม
ในยุค Y1M ซึ้งอันที่จริง ณ. ขณะนั้นผมก็ไม่แน่ใจว่า ค.ศ. พ.ศ. ฯลฯ จะนับไปถึงหรือไม่ นั่นก็แปลว่าศาสนาจะได้รับความสำคัญน้อยลง อาจเพราะด้วยมีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจใหม่ๆเข้ามา เป็นสิ่งที่ยังไม่สามารถให้คำจำกัดความได้ เช่นขณะนั้นอาจจะนับศักราชเป็น ฟ.ศ. ฯลฯ และเป็นการยากที่จะมีศาสนาไหม่ๆเกิดขึ้นในช่วงเวลาต่อจากนี้ ส่วนเรื่องวัฒนธรรมประเพณีนั้น บางสิ่งจะถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลา แต่จะมีสิ่งใหม่ๆเข้ามาหมุนเวียนอยู่เรื่อยๆ
อาหารและการแต่งกาย
อาหารในยุค Y1M นั้น อาจจะเป็นอาหารที่มีธาตุสารอาหารที่สำคัญเป็นส่วนประกอบมากที่สุด มีกากอาหารที่ไม่จำเป็นผสมอยู่เป็นจำนวนน้อย เช่นเนื้อสัตว์ต่างๆจะถูกเพาะเลี้ยงขึ้นมาเป็นเนื้อเยื่อในขนาดที่เหมาะสม โดยใช้ต้นแบบมาจากสัตว์ 36 ชนิต 290 สายพันธุ์ ได้ก้อนเนื้อใว้ประกอบอาหารทั้งหมด 1220 รสชาติ และกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนเครื่องแต่งกายที่วางขายกันส่วนใหญ่จะเป็นสีขาว เมื่อท่านตัดสินใจเลือกซื้อเสื้อผ้าชิ้นนั้นแล้ว ท่านจะสามารถเลือกสีได้โดยระบบเมนูบนผ้าสัมผัส และสามารถเปลี่ยนสีสัน ออกแบบลวดลายไหม่ๆได้ตลอดเวลา
พลังงานนิรันดร์
ในยุค Y1M พลังงานส่วนใหญ่ได้มาจากแหล่งผลิดพลังงานฟรีที่กระจายอยู่ตามดาวเคราะห์ดวงต่างๆ เพื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับประชาชนในดาวของตน โรงไฟฟ้าบางแห่งบนดาวเคราะห์ที่ยังไม่เจริญนักจะใช้พลังงานแสงจากดาวฤกษ์ (ดวงอาทิตย์) ที่อยู่ใกล้ที่สุดในการผลิตกระแสไฟฟ้า ส่วนดาวเคราะห์ที่มีความต้องการในการใช้ไฟฟ้าสูง มักจะใช้โรงไฟฟ้าพลังงานแม่เหล็ก โรงไฟฟ้าชนิดนี้จะใช้แม่เหล็กชนิดพิเศษซึ้งมีเพียงขั้วเดียว มาประกอบกันเป็นวงจรเพื่อทำการขับเคลื่อนตัวผลิตกระแสไฟฟ้าขนาดใหญ่ และกระจายกระแสไฟฟ้าไปตามพื้นผิวถนนจนถึงเมืองใหญ่ๆต่อไป
คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี
ในยุค Y1M คอมพิวเตอร์อาจจะไม่มีตัวตนที่สามารถจับต้องได้ การแสดงผลหน้าต่างต่างๆอาจสามารถแสดงในอากาศและลอยติดตามท่านไปได้ทุกที่ แต่อาจจะต้องสวมคอนแทคเลนส์ชนิดพิเศษเพื่อที่ท่านจะสามารถมองเห็นมันเพียงคนเดียวในส่วนของท่าน หรือแชร์หน้าต่างนั้นให้กับผู้ที่สวมคอนแทคเลนส์ท่านอื่นๆ เพื่อให้ได้รับชมไปพร้อมๆกันกับท่านด้วย อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในยุคนี้จะมีขนาดที่เล็กมาก โดยใช้มาตราส่วนในการผลิตลึกเข้าไปจนถึงระดับเฟมโต ทำให้อุปกรณ์บางชนิด สามารถฝังเข้าไปในร่างกายมนุษย์ อย่างเช่นชิพประจำตัวประชาชน
การติดต่อสื่อสาร
ผู้คนในยุค Y1M อาจจะสามารถติดต่อสื่อสารกันได้เพียงแค่เอ่ยรหัสคู่สนทนา แล้วคู่สนทนาจะปรากฏขึ้นมาตรงหน้า ในรูปแบบหน้าต่างสองมิติหรือหุ่นสามมิติก็มีในตัวเลือก ซื้งแน่นอน ท่านต้องสวมคอนแทคเลนส์ชนิดพิเศษจากข้อมูลข้างต้น พร้อมด้วยชุดกระดุมหูฟัง เพื่อจะสามารถใช้งานในส่วนนี้ได้ เรื่องระบบสัญญาณที่ใช้กันในยุคนั้น จะใช้เป็นคลื่นอากาศที่มีขนาดเซลล์เล็กเป็นพิเศษ สามารถแทรกซึมและเดินทางหักเหไปได้ทุกที่ภายในดาวเคราะห์ ส่วนสัญญาณที่ใช้ส่งข้อมูลระหว่างดาวเคราะห์ ยังใช้สัญญาณแสงเคริฟที่ใช้กันมายาวนานกว่าหนึ่งแสนปี
การคมนาคมขนส่ง
การเดินทางในยุค Y1M ภายในประเทศ (ภายในดาวเคราะห์) เห็นได้ชัดว่าจะใช้การเดินทางโดยท่อสูญญากาศที่ถูกพัฒนาต่อยอดมาจากระบบราง วิ่งได้ทั้งบนทางยกระดับและอุโมงค์ใต้ดินเฉกเช่นปัจจุบัน สามารถเดินทางรอบดาวเคราะห์ด้วยความเร็วสูงได้ในระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมง ส่วนอากาศยานส่วนใหญ่ จะใช้เดินทางระหว่างประเทศ (ระหว่างดาวเคราะห์) เพื่อขนส่งมนุษย์และสินค้าด้วยความเร็วสูง ในการเดินทางภายในเมืองใหญ่ ท่านสามารถใช้บริการยานพาหนะสาธารณะหรือยานพาหนะส่วนตัวพลังงานไฟฟ้าซึ้งสามารถวิ่งได้บนถนนเรืองแสงที่มีการปล่อยกระแสไฟฟ้าบนผิวถนน ถนนชนิดนี้มีอยู่บนดาวเคราะห์เพียง 820 ดวงเท่านั้น
การท่องเที่ยว
สถานที่ท่องเที่ยวในยุค Y1M ส่วนใหญ่จะเป็นสิ่งก่อสร้างล้ำสมัยที่มนุษย์ในยุคนั้นสร้างขึ้นบนดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างไกลออกไป อาจจะมีซากโบราณสถานหลงเหลืออยู่บ้าง กระจัดกระจายอยู่ตามดาวเคราะห์ต่างๆ จึงถือได้ว่าซากเหล่านั้นเป็นอารยธรรมที่เกิดขึ้นภายหลังยุคของพวกเราทุกท่านด้วยซ้ำ แพคเกจทัวร์ดาวเคราะห์บริวาร (ดวงจันทร์) อาจจะเป็นเรื่องที่ธรรมดาสุดๆ ท่านอาจจะพบแพคเกจทัวร์พาชมดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างไกลออกไป ซึ้งมันเป็นบริวารของดาวฤกษ์ถึงสามดวงในกาแล็กซี่อันไกลโพ้น หรือเจอแพคเกจทัวร์ย้อนอดีตรำลึกถึงอารยธรรมมนุษย์ยุค Y2K ตามหน้าเว็บทั่วไปก็เป็นได้
กีฬาและการแพทย์
Y1M ได้มีการจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนครั้งที่ 249,527 โดยคาดว่าในกีฬาโอลิมปิกครั้งนี้ ได้มีการกำหนดการแข่งขันใน 196 ชนิดกีฬา รวมทั้งหมด 1170 ประเภทรุ่น มีนักกีฬาราว 150,400 คน จาก 310 ประเทศ โดยกีฬากว่าครึ้งหนึ่งจะเป็นก็ฬาที่เน้นการใช้ความคิดมากกว่าการใช้แรงกำลัง ส่วนการแพทย์ในยุคนี้ได้มีการชลอความก้าวหน้าเอาใว้ เพื่อลดปัญหาเรื่องประชากรสูงอายุที่มีจำนวนมากกว่าครึ้ง หลังจากที่ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลานานจนล้ำหน้าไปเป็นอย่างมาก อายุเฉลี่ยของประชากรทั้งหมดนั้น อยู่ที่ประมาก 120 ปี
นี่เป็นแค่บางส่วนที่พอจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพได้อย่างชัดเจน ผมเชื่อว่าวิวัฒนาการบางอย่างที่ได้กล่าวถึงข้างต้น อาจจะเป็นสิ่งที่พัฒนาสำเร็จแล้วในปัจจุบัน แต่มันถูกผู้ไดครอบครองอยู่นั้น ผมก็ไม่อาจล่วงรู้ได้ ดั่งเช่นมหาพีระมิดคูฟูซึ้งถูกก่อสร้างมาเมื่อ 4,600 ปีล่วงมาแล้ว แต่สิ่งนั้นยังครองตำแหน่ง สิ่งก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในโลกจวบจนถึงปัจจุบัน แล้วในปัจจุบัน จะไม่มีสิ่งที่ล้ำอนาคตซ่อนอยู่หรือ
ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้อ่านมาจนถึงจุดนี้ หากท่านเห็นควรที่จะให้ทำการแก้ไขหรือเพิ่มเติมในจุดใด ผมยินดีรับฟังครับ
มวลมนุษยชาติจะเป็นเช่นไรในคริสตศักราชที่ 1000000
ในโลกปัจจุบัน เมื่อเทียบกับยุคไดโนเสาร์แล้ว เราทุกท่านยังอยู่ในช่วงต้นๆของเผ่าพันธุ์มนุษย์ เพราะประวัติศาสตร์มนุษยชาติที่ได้มีการบันทึกกันมาจนถึงปัจจุบัน มีอายุเพียงแค่ประมาณหนึ่งหมื่นปีเท่านั้น จึงถือว่าพวกเราทุกท่าน ณ. ขณะนี้ เป็นบรรพบุรุษของรุ่นลูกรุ่นหลานอีกนับไม่ถ้วน โดยที่ทุกท่านไม่ต้องห่วงกังวลถึงเรื่องวันสิ้นโลก เพราะมันจะไม่เกิดขึ้นในช่วงชีวิตของเราอย่างแน่นอน
ปัจจุบัน คริสตศักราชที่ 2014 มนุษย์สามารถคิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆได้อย่างรวดเร็ว สามารถพัฒนาองค์ความรู้ในศาสตร์สาขาต่างๆใว้ให้ลูกหลานรุ่นต่อๆไปได้ศึกษาเล่าเรียนและต่อยอดได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ถึงแม้ว่าพวกเราทุกท่านในปัจจุบันไม่สามารถที่จะมีชีวิตอยู่รอชม ค.ศ. ที่ 1000000 หรือ Y1M ได้ แต่เราก็สามารถที่จะจำลองภาพ ณ. ขณะนั้นขึ้นมา แบบเดียวกับที่มนุษย์ในอดีตกาลนึกถึงภาพอารยธรรมมนุษย์ในอนาคต ซึ้งก็คือความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ทุกท่านกำลังใช้งานอยู่ในบัจจุบันนั่นเอง ผมจึงขอลองกล่าวถึงยุค Y1M ตามแบบที่ผมพอจะนึกภาพออกเป็นหัวข้อ ดังนี้...
การเมืองการปกครอง
ในยุค Y1M ขนาดของแต่ละประเทศอาจจะไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงเสี้ยวหนึ่งในดาวเคราะห์ แต่จะหมายถึงดาวเคราะห์ทั้งดวง กลุ่มดาวเคราะห์ หรือทั้งระบบสุริยะก็ว่าได้ ซึ้งผมได้ประมาณการใว้ที่ 335 ประเทศ บนดาวเคราะห์ 1780 ดวง ในระบบสุริยะ 103 แห่ง ส่วนผู้นำประเทศและศูนย์รวมจิตใจของประชาชน อาจจะเป็นมนุษย์ หรือไม่ใช่อีกต่อไป เช่นบางประเทศ เคารพและบูชาหอคอยสูงสองกิโลเมตร ซึ้งมีการติดตั้งระบบสมองกลเพื่อคอยควบคุมการกระทำความผิดที่เกิดเป็นรูปธรรมภายในประเทศตนใว้บนยอดหอคอย
ศาสนาและวัฒนธรรม
ในยุค Y1M ซึ้งอันที่จริง ณ. ขณะนั้นผมก็ไม่แน่ใจว่า ค.ศ. พ.ศ. ฯลฯ จะนับไปถึงหรือไม่ นั่นก็แปลว่าศาสนาจะได้รับความสำคัญน้อยลง อาจเพราะด้วยมีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจใหม่ๆเข้ามา เป็นสิ่งที่ยังไม่สามารถให้คำจำกัดความได้ เช่นขณะนั้นอาจจะนับศักราชเป็น ฟ.ศ. ฯลฯ และเป็นการยากที่จะมีศาสนาไหม่ๆเกิดขึ้นในช่วงเวลาต่อจากนี้ ส่วนเรื่องวัฒนธรรมประเพณีนั้น บางสิ่งจะถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลา แต่จะมีสิ่งใหม่ๆเข้ามาหมุนเวียนอยู่เรื่อยๆ
อาหารและการแต่งกาย
อาหารในยุค Y1M นั้น อาจจะเป็นอาหารที่มีธาตุสารอาหารที่สำคัญเป็นส่วนประกอบมากที่สุด มีกากอาหารที่ไม่จำเป็นผสมอยู่เป็นจำนวนน้อย เช่นเนื้อสัตว์ต่างๆจะถูกเพาะเลี้ยงขึ้นมาเป็นเนื้อเยื่อในขนาดที่เหมาะสม โดยใช้ต้นแบบมาจากสัตว์ 36 ชนิต 290 สายพันธุ์ ได้ก้อนเนื้อใว้ประกอบอาหารทั้งหมด 1220 รสชาติ และกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนเครื่องแต่งกายที่วางขายกันส่วนใหญ่จะเป็นสีขาว เมื่อท่านตัดสินใจเลือกซื้อเสื้อผ้าชิ้นนั้นแล้ว ท่านจะสามารถเลือกสีได้โดยระบบเมนูบนผ้าสัมผัส และสามารถเปลี่ยนสีสัน ออกแบบลวดลายไหม่ๆได้ตลอดเวลา
พลังงานนิรันดร์
ในยุค Y1M พลังงานส่วนใหญ่ได้มาจากแหล่งผลิดพลังงานฟรีที่กระจายอยู่ตามดาวเคราะห์ดวงต่างๆ เพื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับประชาชนในดาวของตน โรงไฟฟ้าบางแห่งบนดาวเคราะห์ที่ยังไม่เจริญนักจะใช้พลังงานแสงจากดาวฤกษ์ (ดวงอาทิตย์) ที่อยู่ใกล้ที่สุดในการผลิตกระแสไฟฟ้า ส่วนดาวเคราะห์ที่มีความต้องการในการใช้ไฟฟ้าสูง มักจะใช้โรงไฟฟ้าพลังงานแม่เหล็ก โรงไฟฟ้าชนิดนี้จะใช้แม่เหล็กชนิดพิเศษซึ้งมีเพียงขั้วเดียว มาประกอบกันเป็นวงจรเพื่อทำการขับเคลื่อนตัวผลิตกระแสไฟฟ้าขนาดใหญ่ และกระจายกระแสไฟฟ้าไปตามพื้นผิวถนนจนถึงเมืองใหญ่ๆต่อไป
คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี
ในยุค Y1M คอมพิวเตอร์อาจจะไม่มีตัวตนที่สามารถจับต้องได้ การแสดงผลหน้าต่างต่างๆอาจสามารถแสดงในอากาศและลอยติดตามท่านไปได้ทุกที่ แต่อาจจะต้องสวมคอนแทคเลนส์ชนิดพิเศษเพื่อที่ท่านจะสามารถมองเห็นมันเพียงคนเดียวในส่วนของท่าน หรือแชร์หน้าต่างนั้นให้กับผู้ที่สวมคอนแทคเลนส์ท่านอื่นๆ เพื่อให้ได้รับชมไปพร้อมๆกันกับท่านด้วย อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในยุคนี้จะมีขนาดที่เล็กมาก โดยใช้มาตราส่วนในการผลิตลึกเข้าไปจนถึงระดับเฟมโต ทำให้อุปกรณ์บางชนิด สามารถฝังเข้าไปในร่างกายมนุษย์ อย่างเช่นชิพประจำตัวประชาชน
การติดต่อสื่อสาร
ผู้คนในยุค Y1M อาจจะสามารถติดต่อสื่อสารกันได้เพียงแค่เอ่ยรหัสคู่สนทนา แล้วคู่สนทนาจะปรากฏขึ้นมาตรงหน้า ในรูปแบบหน้าต่างสองมิติหรือหุ่นสามมิติก็มีในตัวเลือก ซื้งแน่นอน ท่านต้องสวมคอนแทคเลนส์ชนิดพิเศษจากข้อมูลข้างต้น พร้อมด้วยชุดกระดุมหูฟัง เพื่อจะสามารถใช้งานในส่วนนี้ได้ เรื่องระบบสัญญาณที่ใช้กันในยุคนั้น จะใช้เป็นคลื่นอากาศที่มีขนาดเซลล์เล็กเป็นพิเศษ สามารถแทรกซึมและเดินทางหักเหไปได้ทุกที่ภายในดาวเคราะห์ ส่วนสัญญาณที่ใช้ส่งข้อมูลระหว่างดาวเคราะห์ ยังใช้สัญญาณแสงเคริฟที่ใช้กันมายาวนานกว่าหนึ่งแสนปี
การคมนาคมขนส่ง
การเดินทางในยุค Y1M ภายในประเทศ (ภายในดาวเคราะห์) เห็นได้ชัดว่าจะใช้การเดินทางโดยท่อสูญญากาศที่ถูกพัฒนาต่อยอดมาจากระบบราง วิ่งได้ทั้งบนทางยกระดับและอุโมงค์ใต้ดินเฉกเช่นปัจจุบัน สามารถเดินทางรอบดาวเคราะห์ด้วยความเร็วสูงได้ในระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมง ส่วนอากาศยานส่วนใหญ่ จะใช้เดินทางระหว่างประเทศ (ระหว่างดาวเคราะห์) เพื่อขนส่งมนุษย์และสินค้าด้วยความเร็วสูง ในการเดินทางภายในเมืองใหญ่ ท่านสามารถใช้บริการยานพาหนะสาธารณะหรือยานพาหนะส่วนตัวพลังงานไฟฟ้าซึ้งสามารถวิ่งได้บนถนนเรืองแสงที่มีการปล่อยกระแสไฟฟ้าบนผิวถนน ถนนชนิดนี้มีอยู่บนดาวเคราะห์เพียง 820 ดวงเท่านั้น
การท่องเที่ยว
สถานที่ท่องเที่ยวในยุค Y1M ส่วนใหญ่จะเป็นสิ่งก่อสร้างล้ำสมัยที่มนุษย์ในยุคนั้นสร้างขึ้นบนดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างไกลออกไป อาจจะมีซากโบราณสถานหลงเหลืออยู่บ้าง กระจัดกระจายอยู่ตามดาวเคราะห์ต่างๆ จึงถือได้ว่าซากเหล่านั้นเป็นอารยธรรมที่เกิดขึ้นภายหลังยุคของพวกเราทุกท่านด้วยซ้ำ แพคเกจทัวร์ดาวเคราะห์บริวาร (ดวงจันทร์) อาจจะเป็นเรื่องที่ธรรมดาสุดๆ ท่านอาจจะพบแพคเกจทัวร์พาชมดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างไกลออกไป ซึ้งมันเป็นบริวารของดาวฤกษ์ถึงสามดวงในกาแล็กซี่อันไกลโพ้น หรือเจอแพคเกจทัวร์ย้อนอดีตรำลึกถึงอารยธรรมมนุษย์ยุค Y2K ตามหน้าเว็บทั่วไปก็เป็นได้
กีฬาและการแพทย์
Y1M ได้มีการจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนครั้งที่ 249,527 โดยคาดว่าในกีฬาโอลิมปิกครั้งนี้ ได้มีการกำหนดการแข่งขันใน 196 ชนิดกีฬา รวมทั้งหมด 1170 ประเภทรุ่น มีนักกีฬาราว 150,400 คน จาก 310 ประเทศ โดยกีฬากว่าครึ้งหนึ่งจะเป็นก็ฬาที่เน้นการใช้ความคิดมากกว่าการใช้แรงกำลัง ส่วนการแพทย์ในยุคนี้ได้มีการชลอความก้าวหน้าเอาใว้ เพื่อลดปัญหาเรื่องประชากรสูงอายุที่มีจำนวนมากกว่าครึ้ง หลังจากที่ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลานานจนล้ำหน้าไปเป็นอย่างมาก อายุเฉลี่ยของประชากรทั้งหมดนั้น อยู่ที่ประมาก 120 ปี
นี่เป็นแค่บางส่วนที่พอจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพได้อย่างชัดเจน ผมเชื่อว่าวิวัฒนาการบางอย่างที่ได้กล่าวถึงข้างต้น อาจจะเป็นสิ่งที่พัฒนาสำเร็จแล้วในปัจจุบัน แต่มันถูกผู้ไดครอบครองอยู่นั้น ผมก็ไม่อาจล่วงรู้ได้ ดั่งเช่นมหาพีระมิดคูฟูซึ้งถูกก่อสร้างมาเมื่อ 4,600 ปีล่วงมาแล้ว แต่สิ่งนั้นยังครองตำแหน่ง สิ่งก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในโลกจวบจนถึงปัจจุบัน แล้วในปัจจุบัน จะไม่มีสิ่งที่ล้ำอนาคตซ่อนอยู่หรือ
ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้อ่านมาจนถึงจุดนี้ หากท่านเห็นควรที่จะให้ทำการแก้ไขหรือเพิ่มเติมในจุดใด ผมยินดีรับฟังครับ