เทศกาลการจัดงานวิวาห์ของแต่ละโรงแรมในช่วงต้นปีได้เริ่มขึ้นแล้ว มีหลายโรงแรมที่น่าสนใจเลยทีเดียว ได้รับเชิญให้ไปร่วมงาน Wedding Showcase ที่โรงแรม The Okura Prestige Bangkok เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม โรงแรมนี้ถือว่าเป็นน้องใหม่ สารภาพว่าดิฉันเองก็ยังไม่เคยย่างกรายเข้าไปใช้บริการโรงแรมนี้เลยค่ะ จะมีก็เคยไปใช้บริการร้านค้าในอาคาร โรงแรมเพิ่งเปิดมาได้เพียง 2 ปีเท่านั้น “Okura” เป็นชื่อเครือโรงแรมสัญชาติญี่ปุ่นที่ดำเนินกิจการอยู่ในหลายประเทศ จัดให้อยู่ในระดับ 5 ดาว เว้นเพียงแค่ 2 แห่งในทวีปเอเชียเท่านั้นที่ยกระดับให้มากกว่า 5 ดาว ขีดเส้นใต้คำว่า “Prestige” เอาไว้เลยค่ะ 2 แห่งที่ว่านี้คือที่ประเทศไทย และที่ไต้หวัน ค้นหาข้อมูล เห็นรูปในส่วนของห้องจัดเลี้ยง ห้องอาหารต่างๆ และห้องพักแล้ว การตกแต่งทันสมัยมาก เอาแค่สถานที่ตั้งของโรงแรมที่อยู่ในตึกรูปทรงแปลกตา “ตึกปาร์คเวนเจอร์ส (Park Ventures)” อยู่ตรงแยกเพลินจิตตัดถนนวิทยุ หรือง่ายๆ เยื้องๆ กับเซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ (Central Embrassy)
ก่อนอื่นต้องขออธิบายเพื่อความเข้าใจก่อนว่า ที่ตั้งของโรงแรม จริงๆ ตั้งอยู่ที่ชั้น 24 ขึ้นไป ลูกค้าที่จะมาใช้บริการห้องพัก ห้องอาหาร สปา และอื่นๆ ต้องกดลิฟต์ขึ้นมาที่ชั้น 24 ก็จะพบกับส่วนต้อนรับหลัก (Main Lobby) ยกเว้นห้องจัดเลี้ยงและห้องโซระ (ห้อง Grand Ballroom & Sora Room) จะอยู่ที่ชั้น 3
จอดรถชั้นใต้ดินแล้วเดินขึ้นบันไดมาจะเจอกับร้านค้าเช่าของตึก เช่น ร้าน Boots, ร้าน 7-11 เป็นต้น ให้เลี้ยวซ้าย จะเห็นทางเดินเล็กๆ ผ่านประตูกระจกที่มีลิฟต์เพื่อขึ้นไปส่วนของสำนักงาน ให้เดินผ่านไปประตูกระจกอีกบาน เดินออกไป
เลี้ยวขวาจะเจอร้านดอกไม้ของโรงแรม ตรงไปจะเจอเคานเตอร์ต้อนรับซึ่งไม่ใช่ส่วนต้อนรับหลัก ถ้าหากท่านใดมีคนขับรถมาส่ง ก็จอดลงตรงประตูนี้ได้ ประตูทางเข้านี้ถือเป็นทางเข้าหลักของโรงแรม ซึ่งอยู่ด้านข้างของอาคารปาร์คเวนเจอร์ส มีพนักงานอำนวยความสะดวก (Concierge) ไว้คอยบริการ เดินขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้น 3 ก็จะถึงห้องแกรนด์บอลรูม และห้องโซระ
พอโผล่ขึ้นมาจากบันไดเลื่อนที่ชั้น 3 ทีมงานทำฉากถ่ายรูปเป็นป้ายของโรงแรมประดับด้วยดอกกล้วยไม้ สวยงามมาก ด้านซ้ายมือเป็นโต๊ะลงทะเบียนสำหรับผู้ที่มาชมงาน จากฉากถ่ายรูปจุดนี้มองเลยไปทางขวาจะเห็นประตูทางเข้าห้องจัดเลี้ยงโซระ (Sora Room) แต่หากเลี้ยวขวาเลย ก็จะเป็นโถงต้อนรับ (Foyer) และจะเห็นทางเดินเข้าห้องจัดเลี้ยง (Grand Ballroom)
ตรงโถงต้อนรับมีเสาตั้งอยู่ 2 ต้น ระยะห่างของเสากว้างพอสมควร ค้นหาข้อมูลแล้วก็พบว่าบางคู่จะจัดฉากถ่ายรูปแต่งงานตรงจุดนี้ โดยหันหน้าเข้าประตูห้องจัดเลี้ยง เสาต้นแรกจะอยู่เกือบจะตรงกับทางเข้าหลักของห้องจัดเลี้ยง อีกต้นจะถัดไปเกือบถึงประตูทางเข้าห้องจัดเลี้ยงด้านใน ซึ่งประตูนี้จะใกล้กับทางเข้าห้องน้ำ นับว่าช่วยลดความวุ่นวายในการเดินเข้าเดินออกของแขก เพราะหากแขกต้องการออกไปห้องน้ำ จะได้ไม่เดินผ่านจุดหน้างาน ห้องน้ำที่นี่ไม่ใหญ่มากนัก ห้องน้ำของสุภาพสตรีมีให้ใช้บริการอยู่ประมาณ 6 ห้องเห็นจะได้ ค่อนข้างน้อยไปหน่อยสำหรับห้องจัดเลี้ยงขนาดนี้
โถงต้อนรับมีพื้นที่ไม่ใหญ่มาก ค่อนข้างเล็กเลยทีเดียว และในวันนี้บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของสปอนเซอร์ชุดแต่งงาน จากร้าน Aunchalee Boutique
จุดเด่นของห้องจัดเลี้ยงของ The Okura Prestige Bangkok อยู่ตรงนี้ค่ะ คือปกติแล้วห้องจัดเลี้ยงทั่วไปจะเป็นประตูบานใหญ่ หรืออาจจะเป็นประตู 2 ชั้น จากประตูแรกถึงประตูที่ 2 จะไม่ห่างกันมาก ประมาณสัก 1-2 เมตร เพื่อเข้าห้องจัดเลี้ยง แต่ที่นี่จัดให้เป็นโถงทางเดินความยาวประมาณสัก 5-6 เมตร กรณีที่จะใช้ทางเดินนี้เป็นทางเดินเพื่อเปิดตัวคู่บ่าวสาวให้ออกมาดูยิ่งใหญ่อลังการสมกับเป็นพระเอกนางเอกของงาน สามารถสร้างลูกเล่น ตกแต่งดอกไม้ได้อย่างสบายๆ เพราะมีพื้นที่มากพอ

**โถงทางเดิน**

**เทคโนโลยี Sky Loop ของ In Wedding by XtremePlus**
อย่างงานในวันนี้ ได้สปอนเซอร์จาก In Wedding by XtremePlus มาแสดงเทคโนโลยี Sky Loop ยิงขึ้นไปบนเพดานตามทางเดินเข้าห้องแกรนด์บอลรูม เทคโนโลยี Sky Loop คือ การฉายภาพกราฟฟิกแบบเคลื่อนไหว หรือ Motion Graphic ไปที่เพดาน ผนัง พื้น หรือวัตถุ โดยภาพกราฟฟิกดังกล่าวสามารถออกแบบให้เข้ากับธีมงานของเจ้าของงาน นอกจากนี้ In Wedding by XtremePlus ยังนำบริการ Surface G คือโต๊ะลงทะเบียนดิจิตอลมาแสดงให้ชมด้านหน้าห้องจัดเลี้ยงอีกด้วย

โต๊ะลงทะเบียนดิจิตอล Surface G โดย In Wedding by XtremePlus
เข้ามาชมห้องแกรนด์บอลรูมกันเลยค่ะ ห้องเป็นลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้า พอเข้าประตูหลักที่อธิบายไว้เมื่อสักครู่ เวทีจะอยู่ทางซ้ายมือ บนเวทีตกแต่งในสไตล์ “Great Gatsby” จุดเด่นของห้องนี้อยู่ตรงเพดานสูงระดับ 9 เมตร ทำให้ห้องดูกว้างและโอ่อ่า สิ่งที่ดิฉันชอบมากและดูต่างจากที่อื่น คือการตกแต่งห้อง เป็นสีโทนน้ำตาล ดำ ทอง การจัดไฟและฉากหลังของเวที และไฟที่ติดบนเพดานดูทันสมัย ไม่ใช่โคมระย้า หรือเป็นโคมแชนเดอร์เลียร์ทรงกลมอันใหญ่เบ้งอยู่กลางห้อง
ที่แปลกคือ ตอนที่ถ่ายรูปเวที ในตำแหน่งด้านหน้าตรง ถ่ายกี่รูปๆ ก็เหมือนเวทีลอยออกมา ขอบด้านข้างเป็นสีดำ เหมือนเป็นกรอบ ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วผนังด้านหลังเป็นสีน้ำตาล เข้าใจว่าคงเป็นเพราะการจัดไฟ แบบนี้เวลาถ่ายรูปบนเวทีรูปของคู่บ่าวสาวคงจะโดดเด่นไม่น้อย ส่วนฉากหลังของเวทีทำได้เก๋ดี คือเหมือนเอาไม้ไผ่แผ่นใหญ่ๆ มาไขว้กันไปไขว้กันมาให้เป็นงานจักสาน ไม่ใช่เป็นผ้าม่านแบบเดิมๆ ที่เคยเห็นโรงแรมอื่นๆ ทั่วไป ดูคลิปแต่งงานของคู่แต่งงานคู่หนึ่งที่จัดงานแต่งงานที่นี่ ก็ใช้ผนังนี้เป็นฉากหลังบนเวทีเลย
งานวันนี้ทางโรงแรมจัดอาหารให้ลูกค้าได้ชิมกัน แต่น่าเสียดาย ดิฉันมัวแต่นั่งเม้าธ์กับคนรู้จัก ก็เลยได้ชิมแค่ขนม พนักงานน่ารักมากค่ะ มีเดินมาถามไถ่ว่ากำลังจะเก็บอาหารหนักแล้ว ไม่ทราบว่าจะรับอะไรไหม ทางโรงแรมจัดขนมได้ดูน่ากินมาก เน้นสีชมพู เห็นแล้วทานไม่ลง มันน่ารักเกิ๊น ส่วนเค้กที่จัดแสดงในงานเป็นเค้กตัวอย่างฝีมือของเชฟเซบาสเตียน ฮูแกแวร์ฟ
อาหารของโรงแรมมีบริการทั้งแบบค็อกเทล บุฟเฟต์นานาชาติ และโต๊ะจีน แต่ละแบบจะมีให้เลือก 3 เมนู
ราคาเมนูค็อกเทลอยู่ระหว่าง 1,050++ ถึง 1,400++ บาท/ท่าน รับขั้นต่ำ 300 คน
เมนูบุฟเฟต์นานาชาติจะอยู่ระหว่าง 1,400++ ถึง 1,950++ บาท/ท่าน รับขั้นต่ำ 170 คน และ
เมนูโต๊ะจีนอยู่ระหว่าง 16,500++ ถึง 22,000++ บาท/โต๊ะ รับขั้นต่ำ 150 คน หรือ 15 โต๊ะ
ห้องจัดเลี้ยง ประเมินด้วยสายตาน่าจะรองรับได้ประมาณ 250-300 คนกรณีจัดแบบค็อกเทล ส่วนถ้าเป็นบุฟเฟต์กับโต๊ะจีน น่าจะรองรับได้ราวๆ 200 คนหรือ 20 โต๊ะ ถ้ามีแขกมากกว่านี้สามารถเปิดห้องโซระ (Sora Room) เพิ่มได้ ห้องโซระเป็นห้องที่ติดกับห้องแกรนด์บอลรูมไปทางด้านหลังของห้อง ลักษณะของห้องเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า เพดานสูงเช่นกัน แต่การตกแต่งจะเรียบง่ายกว่าหน่อย น่าจะรองรับแขกได้อีกสัก 80 – 100 ท่านสำหรับค็อกเทล สำหรับงานขนาดเล็กๆ เช่นพิธีหมั้น พิธีรดน้ำ ฯลฯ ก็สามารถเปิดใช้ห้องนี้ได้ ทั้งนี้การใช้บริการห้องทั้ง 2 ห้องต้องเข้าเงื่อนไขของโรงแรมดังนี้คือ
สำหรับช่วงเวลางานเลี้ยงกลางคืน (รวมค่าบริการและภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว)
ค่าใช้จ่ายขั้นต่ำที่ 400,000 บาท สำหรับห้องแกรนด์บอลรูม
ค่าใช้จ่ายขั้นต่ำที่ 500,000 บาท สำหรับห้องแกรนด์บอลรูมกับห้องโซระ

**ห้องโซระ (Sora Room)**
ราคาในแพ็คเกจจะรวมเครื่องดื่ม, ช่อดอกไม้เจ้าสาว, ดอกไม้ตกแต่งที่โต๊ะหรือไลน์อาหาร และบนเวที, จอภาพ, เค้ก ฯลฯ ที่เหมือนโรงแรมทั่วไป ยกเว้นฉากถ่ายรูปหน้างาน ซึ่งจะต้องคุยรายละเอียดกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดเลี้ยงก่อน ถึงรูปแบบและงบประมาณ ทั้งนี้สามารถใช้บริการดอกไม้ข้างนอกได้ค่ะ แต่จะมีค่าอำนวยความสะดวกที่ 40,000 บาทถ้วน
+++พาไปชม Wedding Showcase 2014 โรงแรม The Okura Prestige (รูปเยอะ)+++
ก่อนอื่นต้องขออธิบายเพื่อความเข้าใจก่อนว่า ที่ตั้งของโรงแรม จริงๆ ตั้งอยู่ที่ชั้น 24 ขึ้นไป ลูกค้าที่จะมาใช้บริการห้องพัก ห้องอาหาร สปา และอื่นๆ ต้องกดลิฟต์ขึ้นมาที่ชั้น 24 ก็จะพบกับส่วนต้อนรับหลัก (Main Lobby) ยกเว้นห้องจัดเลี้ยงและห้องโซระ (ห้อง Grand Ballroom & Sora Room) จะอยู่ที่ชั้น 3
จอดรถชั้นใต้ดินแล้วเดินขึ้นบันไดมาจะเจอกับร้านค้าเช่าของตึก เช่น ร้าน Boots, ร้าน 7-11 เป็นต้น ให้เลี้ยวซ้าย จะเห็นทางเดินเล็กๆ ผ่านประตูกระจกที่มีลิฟต์เพื่อขึ้นไปส่วนของสำนักงาน ให้เดินผ่านไปประตูกระจกอีกบาน เดินออกไป
เลี้ยวขวาจะเจอร้านดอกไม้ของโรงแรม ตรงไปจะเจอเคานเตอร์ต้อนรับซึ่งไม่ใช่ส่วนต้อนรับหลัก ถ้าหากท่านใดมีคนขับรถมาส่ง ก็จอดลงตรงประตูนี้ได้ ประตูทางเข้านี้ถือเป็นทางเข้าหลักของโรงแรม ซึ่งอยู่ด้านข้างของอาคารปาร์คเวนเจอร์ส มีพนักงานอำนวยความสะดวก (Concierge) ไว้คอยบริการ เดินขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้น 3 ก็จะถึงห้องแกรนด์บอลรูม และห้องโซระ
พอโผล่ขึ้นมาจากบันไดเลื่อนที่ชั้น 3 ทีมงานทำฉากถ่ายรูปเป็นป้ายของโรงแรมประดับด้วยดอกกล้วยไม้ สวยงามมาก ด้านซ้ายมือเป็นโต๊ะลงทะเบียนสำหรับผู้ที่มาชมงาน จากฉากถ่ายรูปจุดนี้มองเลยไปทางขวาจะเห็นประตูทางเข้าห้องจัดเลี้ยงโซระ (Sora Room) แต่หากเลี้ยวขวาเลย ก็จะเป็นโถงต้อนรับ (Foyer) และจะเห็นทางเดินเข้าห้องจัดเลี้ยง (Grand Ballroom)
ตรงโถงต้อนรับมีเสาตั้งอยู่ 2 ต้น ระยะห่างของเสากว้างพอสมควร ค้นหาข้อมูลแล้วก็พบว่าบางคู่จะจัดฉากถ่ายรูปแต่งงานตรงจุดนี้ โดยหันหน้าเข้าประตูห้องจัดเลี้ยง เสาต้นแรกจะอยู่เกือบจะตรงกับทางเข้าหลักของห้องจัดเลี้ยง อีกต้นจะถัดไปเกือบถึงประตูทางเข้าห้องจัดเลี้ยงด้านใน ซึ่งประตูนี้จะใกล้กับทางเข้าห้องน้ำ นับว่าช่วยลดความวุ่นวายในการเดินเข้าเดินออกของแขก เพราะหากแขกต้องการออกไปห้องน้ำ จะได้ไม่เดินผ่านจุดหน้างาน ห้องน้ำที่นี่ไม่ใหญ่มากนัก ห้องน้ำของสุภาพสตรีมีให้ใช้บริการอยู่ประมาณ 6 ห้องเห็นจะได้ ค่อนข้างน้อยไปหน่อยสำหรับห้องจัดเลี้ยงขนาดนี้
โถงต้อนรับมีพื้นที่ไม่ใหญ่มาก ค่อนข้างเล็กเลยทีเดียว และในวันนี้บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของสปอนเซอร์ชุดแต่งงาน จากร้าน Aunchalee Boutique
จุดเด่นของห้องจัดเลี้ยงของ The Okura Prestige Bangkok อยู่ตรงนี้ค่ะ คือปกติแล้วห้องจัดเลี้ยงทั่วไปจะเป็นประตูบานใหญ่ หรืออาจจะเป็นประตู 2 ชั้น จากประตูแรกถึงประตูที่ 2 จะไม่ห่างกันมาก ประมาณสัก 1-2 เมตร เพื่อเข้าห้องจัดเลี้ยง แต่ที่นี่จัดให้เป็นโถงทางเดินความยาวประมาณสัก 5-6 เมตร กรณีที่จะใช้ทางเดินนี้เป็นทางเดินเพื่อเปิดตัวคู่บ่าวสาวให้ออกมาดูยิ่งใหญ่อลังการสมกับเป็นพระเอกนางเอกของงาน สามารถสร้างลูกเล่น ตกแต่งดอกไม้ได้อย่างสบายๆ เพราะมีพื้นที่มากพอ
**โถงทางเดิน**
**เทคโนโลยี Sky Loop ของ In Wedding by XtremePlus**
อย่างงานในวันนี้ ได้สปอนเซอร์จาก In Wedding by XtremePlus มาแสดงเทคโนโลยี Sky Loop ยิงขึ้นไปบนเพดานตามทางเดินเข้าห้องแกรนด์บอลรูม เทคโนโลยี Sky Loop คือ การฉายภาพกราฟฟิกแบบเคลื่อนไหว หรือ Motion Graphic ไปที่เพดาน ผนัง พื้น หรือวัตถุ โดยภาพกราฟฟิกดังกล่าวสามารถออกแบบให้เข้ากับธีมงานของเจ้าของงาน นอกจากนี้ In Wedding by XtremePlus ยังนำบริการ Surface G คือโต๊ะลงทะเบียนดิจิตอลมาแสดงให้ชมด้านหน้าห้องจัดเลี้ยงอีกด้วย
โต๊ะลงทะเบียนดิจิตอล Surface G โดย In Wedding by XtremePlus
เข้ามาชมห้องแกรนด์บอลรูมกันเลยค่ะ ห้องเป็นลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้า พอเข้าประตูหลักที่อธิบายไว้เมื่อสักครู่ เวทีจะอยู่ทางซ้ายมือ บนเวทีตกแต่งในสไตล์ “Great Gatsby” จุดเด่นของห้องนี้อยู่ตรงเพดานสูงระดับ 9 เมตร ทำให้ห้องดูกว้างและโอ่อ่า สิ่งที่ดิฉันชอบมากและดูต่างจากที่อื่น คือการตกแต่งห้อง เป็นสีโทนน้ำตาล ดำ ทอง การจัดไฟและฉากหลังของเวที และไฟที่ติดบนเพดานดูทันสมัย ไม่ใช่โคมระย้า หรือเป็นโคมแชนเดอร์เลียร์ทรงกลมอันใหญ่เบ้งอยู่กลางห้อง
ที่แปลกคือ ตอนที่ถ่ายรูปเวที ในตำแหน่งด้านหน้าตรง ถ่ายกี่รูปๆ ก็เหมือนเวทีลอยออกมา ขอบด้านข้างเป็นสีดำ เหมือนเป็นกรอบ ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วผนังด้านหลังเป็นสีน้ำตาล เข้าใจว่าคงเป็นเพราะการจัดไฟ แบบนี้เวลาถ่ายรูปบนเวทีรูปของคู่บ่าวสาวคงจะโดดเด่นไม่น้อย ส่วนฉากหลังของเวทีทำได้เก๋ดี คือเหมือนเอาไม้ไผ่แผ่นใหญ่ๆ มาไขว้กันไปไขว้กันมาให้เป็นงานจักสาน ไม่ใช่เป็นผ้าม่านแบบเดิมๆ ที่เคยเห็นโรงแรมอื่นๆ ทั่วไป ดูคลิปแต่งงานของคู่แต่งงานคู่หนึ่งที่จัดงานแต่งงานที่นี่ ก็ใช้ผนังนี้เป็นฉากหลังบนเวทีเลย
งานวันนี้ทางโรงแรมจัดอาหารให้ลูกค้าได้ชิมกัน แต่น่าเสียดาย ดิฉันมัวแต่นั่งเม้าธ์กับคนรู้จัก ก็เลยได้ชิมแค่ขนม พนักงานน่ารักมากค่ะ มีเดินมาถามไถ่ว่ากำลังจะเก็บอาหารหนักแล้ว ไม่ทราบว่าจะรับอะไรไหม ทางโรงแรมจัดขนมได้ดูน่ากินมาก เน้นสีชมพู เห็นแล้วทานไม่ลง มันน่ารักเกิ๊น ส่วนเค้กที่จัดแสดงในงานเป็นเค้กตัวอย่างฝีมือของเชฟเซบาสเตียน ฮูแกแวร์ฟ
อาหารของโรงแรมมีบริการทั้งแบบค็อกเทล บุฟเฟต์นานาชาติ และโต๊ะจีน แต่ละแบบจะมีให้เลือก 3 เมนู
ราคาเมนูค็อกเทลอยู่ระหว่าง 1,050++ ถึง 1,400++ บาท/ท่าน รับขั้นต่ำ 300 คน
เมนูบุฟเฟต์นานาชาติจะอยู่ระหว่าง 1,400++ ถึง 1,950++ บาท/ท่าน รับขั้นต่ำ 170 คน และ
เมนูโต๊ะจีนอยู่ระหว่าง 16,500++ ถึง 22,000++ บาท/โต๊ะ รับขั้นต่ำ 150 คน หรือ 15 โต๊ะ
ห้องจัดเลี้ยง ประเมินด้วยสายตาน่าจะรองรับได้ประมาณ 250-300 คนกรณีจัดแบบค็อกเทล ส่วนถ้าเป็นบุฟเฟต์กับโต๊ะจีน น่าจะรองรับได้ราวๆ 200 คนหรือ 20 โต๊ะ ถ้ามีแขกมากกว่านี้สามารถเปิดห้องโซระ (Sora Room) เพิ่มได้ ห้องโซระเป็นห้องที่ติดกับห้องแกรนด์บอลรูมไปทางด้านหลังของห้อง ลักษณะของห้องเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า เพดานสูงเช่นกัน แต่การตกแต่งจะเรียบง่ายกว่าหน่อย น่าจะรองรับแขกได้อีกสัก 80 – 100 ท่านสำหรับค็อกเทล สำหรับงานขนาดเล็กๆ เช่นพิธีหมั้น พิธีรดน้ำ ฯลฯ ก็สามารถเปิดใช้ห้องนี้ได้ ทั้งนี้การใช้บริการห้องทั้ง 2 ห้องต้องเข้าเงื่อนไขของโรงแรมดังนี้คือ
สำหรับช่วงเวลางานเลี้ยงกลางคืน (รวมค่าบริการและภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว)
ค่าใช้จ่ายขั้นต่ำที่ 400,000 บาท สำหรับห้องแกรนด์บอลรูม
ค่าใช้จ่ายขั้นต่ำที่ 500,000 บาท สำหรับห้องแกรนด์บอลรูมกับห้องโซระ
**ห้องโซระ (Sora Room)**
ราคาในแพ็คเกจจะรวมเครื่องดื่ม, ช่อดอกไม้เจ้าสาว, ดอกไม้ตกแต่งที่โต๊ะหรือไลน์อาหาร และบนเวที, จอภาพ, เค้ก ฯลฯ ที่เหมือนโรงแรมทั่วไป ยกเว้นฉากถ่ายรูปหน้างาน ซึ่งจะต้องคุยรายละเอียดกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดเลี้ยงก่อน ถึงรูปแบบและงบประมาณ ทั้งนี้สามารถใช้บริการดอกไม้ข้างนอกได้ค่ะ แต่จะมีค่าอำนวยความสะดวกที่ 40,000 บาทถ้วน