คือ เรื่องนี้ผมขอเล่าก่อนนะครับเป็นเรื่องตัวผมมีส่วนได้ส่วนเสียแต่เป็นเรื่องของคนที่มาขอความช่วยเหลืออีกทอดนึง
เรื่องมันมีอยู่ว่า นายเอ มีที่นาอยู่ผืนนึงแต่ได้ซื้อไว้เมื่อนานมาแล้วแต่เนื่องจากไปทำงานตจว. จึงทำให้ไม่ค่อยมีเวลามาดูแล
พอลาออกจากงานมาก็มาดูทรัพย์สินที่ตนมีก็พบว่ามีที่ดินอยู่ที่นึงจึงนำมาขายให้กับนายบี ปรากฏว่าก็มีการซื้อขายกันเสร็จเรียบร้อยแต่พอถึงเวลาจะโอน ดันโอนไม่ได้เนื่องมาจากพื้นที่ดินดังกล่าวได้ถูก นักการเมืองท้องถิ่นยึดพื้นที่ไปโดยอ้างว่าเป็นพื้นที่ป่า แต่ความจริงคือ
พื้นที่นั้นมีผลประโยชน์บางอย่างอยู่ครับซึ่งตัวผมคาดว่าถ้าทำสำเร็จเขาก็จะได้ส่วนตรงนี้ด้วย แล้วทีนี้เรื่องก็ดำเนินการไปยาวนานมากจนถึงปัจจุบันก็สามปีแล้วมีการฟ้องร้องฟ้องหน่วยงานขึ้นศาลต่างๆ มีการตรวจเช็คจนพบว่าเจ้าหน้าที่ดินมีการให้ความร่วมมือโดยเซ็นว่าพื้นที่เป็นป่าจริง แต่โฉนดที่มีอยู่แต่เดิมมีอยู่จริงและไม่ได้เป็นป่า พอเอาไปยื่นเรื่องฟ้องคือ มีพยานเป็นเจ้าของที่ดินด้านข้างทุกคนยืนยันหมดแล้ว มีผู้ใหญ่บ้านกำนันไรพวกนี้ก็ยอมรับแต่ไม่กล้าเป็นพยานทุกคนเพราะบางคนก็พูดกันตรงๆว่าไม่กล้ายืนยันให้มันอันตราย เพราะเขาก็รู้กันว่านักการเมืองคนนี้มีธุรกิจบางอย่างอยู่และค่อนข้างที่จะมีอิทธิพลผูกขาดครับ เรื่องก็ดำเนินการไปนานมากครับ 3ปีที่ผมรอ ไปยื่นเรื่องฟ้องยื่นเรื่องสำนักงานหลายที่ครับ ผู้ใหญ่หลายท่านก็เคยไปขอความช่วยเหลือมาแล้ว แต่มีเคสที่ผมจะยกมาคือ องค์กรรัฐแห่งนึงเมื่อนานมาแล้วชื่อว่าDลงท้ายด้วยIผมไม่กล้ากล่าวกลัวจะโดนฟ้องอะไรหรือเปล่า มีเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจบอกช่วยได้นะแต่ค่าดำเนินการก่อนอื่นเลย3หมื่นคือ บอกตรงๆครับนายบีกับนายเอก็ไม่มีเงินขนานนั้นทั้งคู่ครับเพราะพยายามกับเรื่องนี้มาถึงสามปีพยายามหาหน่วยงานหรือผู้ใหญ่มาหลายท่าน อัยการบ้าง ผู้ว่าบ้าง เจ้าหน้าที่ระดับสูงบ้าง จนเรื่องมันมาถึงปัจจุบันคือขณะที่กำลังฟ้องศาลอยู่นั้น คุณนักการเมืองติดต่อมาว่าจะขอยอมความแต่ให้จ่ายให้เขาด้วยประมาณ7หลัก ที่ดินนี้มีผลประโยชน์ครับ แต่คือติดต่อมาที่นายเอ เจ้าของที่เดิมครับนายเอปัจจุบันทำงานอยู่กับนายบีครับ แล้วทีนี้ นายเอก็เป็นอารมข้าราชกาลเกษียนแล้วก็ไม่มีทางจะหาเงินขนาดนั้นมาให้เขาได้ ก็เลยบอกปัดไป เล่าข้ามไปนิดนักการเมืองคนที่กล่าวถึงกำลังจะหมดวาระแล้วครับแต่ตอนที่เจ้าของกระทู้พิมพ์นี้น่าจะหมดไปแล้วน่าจะนะครับ พอไปปรึกษาทนาย ทนายก็บอกดีแล้วถ้าบอกรับไปเดี๋ยวเขาอาจจะอัดเสียงเราตอนมอบเงินหรือติดต่อแล้วไปฟ้องศาลว่าติดสินบน ครับ ทีนี้นายเอก็เลยคิดว่าน่าจะพอมีหวังเลยให้ทนายฟ้องต่อไป เรื่องดำเนินการมาข้ามปีจนถึงปัจจุบันทนายที่ฟ้องก็ติดต่อมาขอแต่ค่าเอกสารซึ่งนายเอที่ไม่ค่อยจะมีเงินสุดท้ายกก็เลยบอกว่าไม่ต้องโทรมาแล้ว นำเงินไปแต่คดีไม่คืบหน้าเลยขอครั้งละพันสองพันประมาณนี้ครับ นายเอเลยตัดสินใจอาศัยอำนาจบางอย่างที่ผมไม่กล้าที่จะกล่าวถึง แต่ดันเจ้าหน้าที่ที่ต้องผ่านด่านดันจะขอเรียกเก็บเงินก่อนอีก7หลักเพื่อจะให้เรื่องดำเนินการต่อถึงจุดนี้ไปไม่เป็น ทั้งนายเอ และนายบี รวมถึงตัวผมผู้ลุ้นมาตลอดสามปี คือผมคอยให้คำแนะนำมาเรื่อยๆครับแต่คือผมยังไม่25เลย เขาก็เลยฟังบ้างไม่ฟังบ้างสุดท้าย ที่ผมจะกล่าวและฝากถามคือ
จะมีสักที่ไหมครับที่ไม่เรียกรับเงิน พอจะมีแนะนำกันได้ไหมครับ และมั่นใจครับว่าเอกสารถูกต้องแม่นยำเพราะต้องยืนยันอีกทีเท่าที่ผมทราบคือโฉนดที่มีมาก่อนแต่เดิมยังมีอยู่กับตัวแต่เจ้าหน้าที่ที่ดินไปฮั้วกับนักการเมืองออกเป็นป่า แล้วกะให้เรื่องเงียบแล้วเก็บผลประโยชน์ไปครับ เรื่องประมาณนี้แหละครับ
ปัจจุบันผู้ว่าที่ย้ายมาใหม่ดันไปเซ็นเอกสารรับรองเรื่องว่าที่ดินนี้เป็นป่าจริงไปแล้วครับทั้งๆที่ตอนนั้นเรื่องยังฟ้องศาลอยู่ซึ่งเท่าที่ผมทราบคือไม่มีสิทธิ์เซ็นต์แต่เจ้าหน้าที่ที่ดินแอบมุบมิบให้เซ็นต์ครับ เท่าที่ถามคือเหมือนผู้ว่าไม่ได้รู้เรื่องด้วยครับพึ่งย้ายมาใหม่เซ็นต์ไปเฉยเลย
ขออภัยถ้าผมใช้คำผิดเพราะเรื่องนี้ผมพยายามปะติดปะต่อให้มันพอจะอธิบายได้ครับอาจจะมีวกไปวนมาบ้าง ท่านใดพอจะแนะนำได้กรุณาทีครับสงสารทั้งนายเอและนายบีครับ ปัจจุบันลองติดต่อกับ คสช.แต่เขาบอกให้ไปฟ้องร้องศาลเอา ซึ่งก็คงมีค่าใช้จ่ายที่บานปลายมาอีก ต้องขอรบกวนทุกท่านแนะนำทีครับ
ขอบคุณครับ
เพิ่มเติมอีกนิดครับตลอดเวลาเวลาไปติดต่อหน่วยงานที่ไหนหรือพบผู้ใหญ่จะต้องมีค่าเข้าพบเสมอครับ แต่พอเข้าใจครับเพราะผู้ใหญ่บางท่านไม่ได้มีหน้าที่ด้านนี้เราไปขอความช่วยเหลือเฉยๆครับ แต่บางคนพอรับค่าเข้าพบไปแล้วมีอำนาจไม่พอช่วยก็คืนค่าเข้าพบให้ครับ
สอบถามครับหน่วยงานรัฐใดบ้างที่จะไม่มีการเรียกค่า....
เรื่องมันมีอยู่ว่า นายเอ มีที่นาอยู่ผืนนึงแต่ได้ซื้อไว้เมื่อนานมาแล้วแต่เนื่องจากไปทำงานตจว. จึงทำให้ไม่ค่อยมีเวลามาดูแล
พอลาออกจากงานมาก็มาดูทรัพย์สินที่ตนมีก็พบว่ามีที่ดินอยู่ที่นึงจึงนำมาขายให้กับนายบี ปรากฏว่าก็มีการซื้อขายกันเสร็จเรียบร้อยแต่พอถึงเวลาจะโอน ดันโอนไม่ได้เนื่องมาจากพื้นที่ดินดังกล่าวได้ถูก นักการเมืองท้องถิ่นยึดพื้นที่ไปโดยอ้างว่าเป็นพื้นที่ป่า แต่ความจริงคือ
พื้นที่นั้นมีผลประโยชน์บางอย่างอยู่ครับซึ่งตัวผมคาดว่าถ้าทำสำเร็จเขาก็จะได้ส่วนตรงนี้ด้วย แล้วทีนี้เรื่องก็ดำเนินการไปยาวนานมากจนถึงปัจจุบันก็สามปีแล้วมีการฟ้องร้องฟ้องหน่วยงานขึ้นศาลต่างๆ มีการตรวจเช็คจนพบว่าเจ้าหน้าที่ดินมีการให้ความร่วมมือโดยเซ็นว่าพื้นที่เป็นป่าจริง แต่โฉนดที่มีอยู่แต่เดิมมีอยู่จริงและไม่ได้เป็นป่า พอเอาไปยื่นเรื่องฟ้องคือ มีพยานเป็นเจ้าของที่ดินด้านข้างทุกคนยืนยันหมดแล้ว มีผู้ใหญ่บ้านกำนันไรพวกนี้ก็ยอมรับแต่ไม่กล้าเป็นพยานทุกคนเพราะบางคนก็พูดกันตรงๆว่าไม่กล้ายืนยันให้มันอันตราย เพราะเขาก็รู้กันว่านักการเมืองคนนี้มีธุรกิจบางอย่างอยู่และค่อนข้างที่จะมีอิทธิพลผูกขาดครับ เรื่องก็ดำเนินการไปนานมากครับ 3ปีที่ผมรอ ไปยื่นเรื่องฟ้องยื่นเรื่องสำนักงานหลายที่ครับ ผู้ใหญ่หลายท่านก็เคยไปขอความช่วยเหลือมาแล้ว แต่มีเคสที่ผมจะยกมาคือ องค์กรรัฐแห่งนึงเมื่อนานมาแล้วชื่อว่าDลงท้ายด้วยIผมไม่กล้ากล่าวกลัวจะโดนฟ้องอะไรหรือเปล่า มีเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจบอกช่วยได้นะแต่ค่าดำเนินการก่อนอื่นเลย3หมื่นคือ บอกตรงๆครับนายบีกับนายเอก็ไม่มีเงินขนานนั้นทั้งคู่ครับเพราะพยายามกับเรื่องนี้มาถึงสามปีพยายามหาหน่วยงานหรือผู้ใหญ่มาหลายท่าน อัยการบ้าง ผู้ว่าบ้าง เจ้าหน้าที่ระดับสูงบ้าง จนเรื่องมันมาถึงปัจจุบันคือขณะที่กำลังฟ้องศาลอยู่นั้น คุณนักการเมืองติดต่อมาว่าจะขอยอมความแต่ให้จ่ายให้เขาด้วยประมาณ7หลัก ที่ดินนี้มีผลประโยชน์ครับ แต่คือติดต่อมาที่นายเอ เจ้าของที่เดิมครับนายเอปัจจุบันทำงานอยู่กับนายบีครับ แล้วทีนี้ นายเอก็เป็นอารมข้าราชกาลเกษียนแล้วก็ไม่มีทางจะหาเงินขนาดนั้นมาให้เขาได้ ก็เลยบอกปัดไป เล่าข้ามไปนิดนักการเมืองคนที่กล่าวถึงกำลังจะหมดวาระแล้วครับแต่ตอนที่เจ้าของกระทู้พิมพ์นี้น่าจะหมดไปแล้วน่าจะนะครับ พอไปปรึกษาทนาย ทนายก็บอกดีแล้วถ้าบอกรับไปเดี๋ยวเขาอาจจะอัดเสียงเราตอนมอบเงินหรือติดต่อแล้วไปฟ้องศาลว่าติดสินบน ครับ ทีนี้นายเอก็เลยคิดว่าน่าจะพอมีหวังเลยให้ทนายฟ้องต่อไป เรื่องดำเนินการมาข้ามปีจนถึงปัจจุบันทนายที่ฟ้องก็ติดต่อมาขอแต่ค่าเอกสารซึ่งนายเอที่ไม่ค่อยจะมีเงินสุดท้ายกก็เลยบอกว่าไม่ต้องโทรมาแล้ว นำเงินไปแต่คดีไม่คืบหน้าเลยขอครั้งละพันสองพันประมาณนี้ครับ นายเอเลยตัดสินใจอาศัยอำนาจบางอย่างที่ผมไม่กล้าที่จะกล่าวถึง แต่ดันเจ้าหน้าที่ที่ต้องผ่านด่านดันจะขอเรียกเก็บเงินก่อนอีก7หลักเพื่อจะให้เรื่องดำเนินการต่อถึงจุดนี้ไปไม่เป็น ทั้งนายเอ และนายบี รวมถึงตัวผมผู้ลุ้นมาตลอดสามปี คือผมคอยให้คำแนะนำมาเรื่อยๆครับแต่คือผมยังไม่25เลย เขาก็เลยฟังบ้างไม่ฟังบ้างสุดท้าย ที่ผมจะกล่าวและฝากถามคือ
จะมีสักที่ไหมครับที่ไม่เรียกรับเงิน พอจะมีแนะนำกันได้ไหมครับ และมั่นใจครับว่าเอกสารถูกต้องแม่นยำเพราะต้องยืนยันอีกทีเท่าที่ผมทราบคือโฉนดที่มีมาก่อนแต่เดิมยังมีอยู่กับตัวแต่เจ้าหน้าที่ที่ดินไปฮั้วกับนักการเมืองออกเป็นป่า แล้วกะให้เรื่องเงียบแล้วเก็บผลประโยชน์ไปครับ เรื่องประมาณนี้แหละครับ
ปัจจุบันผู้ว่าที่ย้ายมาใหม่ดันไปเซ็นเอกสารรับรองเรื่องว่าที่ดินนี้เป็นป่าจริงไปแล้วครับทั้งๆที่ตอนนั้นเรื่องยังฟ้องศาลอยู่ซึ่งเท่าที่ผมทราบคือไม่มีสิทธิ์เซ็นต์แต่เจ้าหน้าที่ที่ดินแอบมุบมิบให้เซ็นต์ครับ เท่าที่ถามคือเหมือนผู้ว่าไม่ได้รู้เรื่องด้วยครับพึ่งย้ายมาใหม่เซ็นต์ไปเฉยเลย
ขออภัยถ้าผมใช้คำผิดเพราะเรื่องนี้ผมพยายามปะติดปะต่อให้มันพอจะอธิบายได้ครับอาจจะมีวกไปวนมาบ้าง ท่านใดพอจะแนะนำได้กรุณาทีครับสงสารทั้งนายเอและนายบีครับ ปัจจุบันลองติดต่อกับ คสช.แต่เขาบอกให้ไปฟ้องร้องศาลเอา ซึ่งก็คงมีค่าใช้จ่ายที่บานปลายมาอีก ต้องขอรบกวนทุกท่านแนะนำทีครับ
ขอบคุณครับ
เพิ่มเติมอีกนิดครับตลอดเวลาเวลาไปติดต่อหน่วยงานที่ไหนหรือพบผู้ใหญ่จะต้องมีค่าเข้าพบเสมอครับ แต่พอเข้าใจครับเพราะผู้ใหญ่บางท่านไม่ได้มีหน้าที่ด้านนี้เราไปขอความช่วยเหลือเฉยๆครับ แต่บางคนพอรับค่าเข้าพบไปแล้วมีอำนาจไม่พอช่วยก็คืนค่าเข้าพบให้ครับ