บอกก่อนเลยว่าไม่เคยตั้งกระทู้มาก่อน อาจจะดูงงๆมึนๆชีวิตไปบ้าง
และขออภัยหากกระทู้นี้จะยาวมากเป็นพิเศษ (จะพยายามเล่าให้สั้นมากที่สุดแล้วกันค่ะ)
เรื่องที่เราจะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงทั้งหมด ไม่มีแต่งและทุกคนมีตัวตนอยู่จริง
เราต้องขอใช่นามสมมติเพื่อไม่ให้เดือดร้อนกับบุคคลที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้
ที่นำเอาเรื่องนี้มาเล่าเพราะอยากเตือนและเป็นข้อคิดให้กับความรักในวัยเรียน
อาจดูใสใส แต่พิษภัยก็มีอยู่ค่ะ อ่านแล้วอยากให้คิดตามและดำเนินชีวิตอย่างระมัดระวังค่ะ
เริ่มเลยละกัน......
ย้อนไปในวัยที่เราอยู่มัธยมปลาย ใสใส มีความรักเหมือนเด็กทั่วไป พอดีเราได้รู้จักกับพี่คนหนึ่งที่แม่แนะนำให้รู้จัก
(ขอแทนชื่อว่า พี่หนึ่งนะค่ะ) พี่หนึ่งเป็นนักกีฬาของจังหวัด ย้ายมาเพื่อมาเป็นตัวแทนนักกีฬา ตอนที่เจอครั้งแรก
บอกตรงๆว่าไม่ชอบอ่ะ แม่ก็ชอบพูดว่าเขาดีนะ นิสัยดี ยุได้ทุกวัน เราก็ฟังจนรำคาญ และต่อมาก็ได้รู้จักกัน
เขาขยันไปรับไปส่งจากโรงเรียนมาที่ทำงานของแม่ ซึ่งพี่เขาเป็นเด็กฝึกงานที่นี้ จีบอยู่หกเดือน เราเริ่มใจอ่อน
ลองคบเขาดู พี่หนึ่งดูท่าทางดีใจมาก เราก็แอบคิดนะ จะคบกันได้สักเท่าไรเชียว แต่บอกตรงๆเลยพี่หนึ่งเขาน่ารักจริงๆ
ดูแลเอาใจใส่ดีมากด้วยความเป็นเด็ก ชอบให้คนเอาใจและนิสัยก็คล้ายๆกัน เราจึงคบกันสองปี
จุดเปลี่ยนมันเริ่มขึ้นเมื่อพี่หนึ่งมากรุงเทพ.....
ปกติเราตัวติดกันมากไม่ว่าจะไปไหนมาไหน คือมีพี่หนึ่งต้องมีเราตลอด พอพี่หนึ่งต้องย้ายเข้ามาเรียนมหาลัย
เราก็คิดนะว่าห่างกันขนาดนี้จะมีปัญหาไรรึป่าว แล้วก็มีปัญหาจริงๆ เมื่อคนสองคนที่เคยเข้าใจกับไม่เข้าใจกัน
เพราะพี่หนึ่งรับน้องหนักมากในคณะที่เขาเรียน เราได้แต่รอโทรศัพท์ซึ่งน้อยมากนะที่จะโทรมา มันเริ่มเปลี่ยนไป
กลางคืนก็ไปกินเหล้ากับรุ่นพี่ ไม่งั้นไม่ได้รุ่น เราก็งง มันคืออะไรเนี้ยย?? ความที่ไม่เข้าใจ เอาแต่ใจ ความห่างมันมาแทนที่
แล้ววันหนึ่งเราก็ต้องขอห่างกับพี่หนึ่งเพราะเหตุผลที่เราไม่เข้าใจกันในหลายๆเรื่อง
แอบหวังนะว่าอาจจะกลับมาดีกันได้ ถ้าผ่านช่วงนี้ไป
ก่อนเจอดีกันก็เจอเหตุการณ์ช็อคเสียก่อน
เราโทรศัพท์ไปหาพี่หนึ่งตอนกลางวัน ตู๊ด ตู๊ด....
เรา:ฮาโหล พี่หนึ่งทำไร
ปลายสาย: โทรมาหาใคร (เสียงผู้หญิง) เขาไม่อยากคุยกับเธอแล้ว เลิกยุ่งได้แล้วนะขอร้อง ตู๊ดๆๆๆๆๆ
เอิ่มมม งง และโดนสตั้นไปห้าวิ เสียงใคร มันเป็นใครว่ะ ผิดเบอร์ไหม
โทรกลับไปอีกครั้ง พี่หนึ่งรับแล้วพูดว่า "ค่อยคุยกันที่บ้านนะ พี่จะกลับอาทิตย์นี้"
ไม่ผิดเบอร์สินะแล้วเขาเป็นใคร ทำไมกล้ามารับ คำถามเยอะแยะเลยค่ะแต่มันไม่มีคำตอบ
ช่วงเวลาที่รอมันทรมานนะ ไม่กล้าโทรไปได้แต่เล่าให้แม่ฟัง เราเครียดและโทรมมากก
เลยคิดว่าโทรไปคุยให้รู้เรื่องเลยดีกว่า
"โทรมาอีกแล้วหรอ อย่าโทรหาผัวคนอื่นได้ไหม" ประโยคนี้ผู้หญิงคนนั้นพูดออกมาเต็มปาก
น้ำตาไหลเลย นี้หรอที่เรียกว่ารักครั้งแรก เจ็บดีนะ เจ็บมากด้วย
อาทิตย์ต่อมาพี่หนึ่งกลับมาบ้าน โทรหาแม่เรา ว่าเราอยู่บ้านไหมซื้อข้าวมันไก่เจ้าโปรดมาให้
เราหลับ ปิดเครื่อง เหมือนตัดชีวิตจากวงโคจรไปละ แต่พอเจอกันมันแบบ...มันเศร้านะ
ขนาดนี้มันนานแล้วยังรู้สึกแย่อยู่เลย พี่หนึ่งเริ่มเล่าให้ฟังว่าผู้หญิงคนนั้นอยู่หอเดียวกับเขา
เจอกันบ่อยครั้ง ทักทายกันและก็เริ่มถูกใจกัน ในขณะบอกกับเราตลอดว่าไม่มีเวลาแต่...มีเวลาจีบกัน
พี่หนึ่งบอกว่าเพราะอยู่หอเดียวกันมีโอกาสใกล้ชิดเลยมีอะไรกับผู้หญิงคนนั้น เราเลยถามว่า แล้วเราละ เราอยู่ไหน?
เอาเราไปไว้ตรงไหน เพราะเราเด็กหรอ เราให้ความสุขแบบนั้นไม่ได้หรอหรือยังไง พี่หนึ่งกอดเราแล้วบอกว่า
พี่ขอโทษนะ ถ้าย้อนเวลากับไปได้พี่จะไม่ทำแบบนี้แแต่พี่ต้องรับผิดชอบกับการกระทำ
.........พอมาถึงจุดนี้ คงรู้แล้วนะค่ะว่าใครสมควรจะต้องไป พี่หนึ่งไม่ใช่ผู้ชายฉวยโอกาส เราคบกันมานาน
ไม่เคยมีเรื่องแบบนี้ เสียใจที่เราต้องเป็นคนที่เดินออกมาทั้งๆที่เรามาก่อน ทั้งๆที่คบนานกว่า หายไปหมดเลยเรื่องดีๆ
กลับมานั่งคิด คนเรามันรวดเร็วอะไรขนาดนี้เดินผ่านไปผ่านมาไม่กี่ที ได้กันแล้วหรอ ช่วงเวลาสั้นๆก็เปลี่ยนไปได้
..........................................................................................................................................................
เรื่องไม่ได้จบแบบดีนะค่ะ ผู้หญิงคนนั้นตามหึงหวงถึงขนาดวันสอบโควต้าทีมหาลัยเดียวกับพี่หนึ่ง เราหาทางไปตึกไม่เจอ
เลยลองโทรไปถามแค่นาทีเดียว เรื่องนี้ก็ผ่านมาเป็นปี ไม่คิดว่าผู้หญิงจะตามมาหาเรื่องถึงตึกที่สอบ เอาเพื่อนมาสามสี่คน
เราอยู่กับเพื่อนแค่สองคนไม่ได้คิดไรค่ะ ไม่กลัวด้วยเพราะผู้หญิงคนนั้นโทรมาถามว่าเราอยู่ไหนก็ตอบตามความจริง
มาก็มาค่ะ พอมาจริงๆได้แต่เดินผ่านไม่ตบไม่อะไรเลย ดูผู้หญิงคนนั้นคงจะไม่มีความสุขอีกนาน
หลังจากนั้นพยายามโทรมาเล่าว่ารักกันแค่ไหน บอกตรงๆเราเคยเสียใจแต่เราก็สมน้ำหน้าไปด้วย เพราะเราอยู่ของเรา
ไม่อยากยุ่งกับสองคนนี้เท่าไร ดูผู้หญิงคนนั้นคิดว่าพี่หนึ่งคงอยากกลับมา แต่มันก็สายไปแล้วละค่ะ
ขอจบเหตุการณ์ที่หนึ่งไว้ตรงนี้ และข้อคิดดีๆที่เราได้จากสองคนที่หักหลัง
"คนที่แย่งของของคนอื่นมา ต่อให้เราไม่ทำไรเขาเลย เขาก็ไม่มีความสุขหรอกเพราะปมที่ผูกไว้เองค่ะ"
เมื่อชีวิตเหมือนเสพติดความดราม่า คนอะไรจะโดนหักหลัง 6 ครั้งติด!!
และขออภัยหากกระทู้นี้จะยาวมากเป็นพิเศษ (จะพยายามเล่าให้สั้นมากที่สุดแล้วกันค่ะ)
เรื่องที่เราจะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงทั้งหมด ไม่มีแต่งและทุกคนมีตัวตนอยู่จริง
เราต้องขอใช่นามสมมติเพื่อไม่ให้เดือดร้อนกับบุคคลที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้
ที่นำเอาเรื่องนี้มาเล่าเพราะอยากเตือนและเป็นข้อคิดให้กับความรักในวัยเรียน
อาจดูใสใส แต่พิษภัยก็มีอยู่ค่ะ อ่านแล้วอยากให้คิดตามและดำเนินชีวิตอย่างระมัดระวังค่ะ
เริ่มเลยละกัน......
ย้อนไปในวัยที่เราอยู่มัธยมปลาย ใสใส มีความรักเหมือนเด็กทั่วไป พอดีเราได้รู้จักกับพี่คนหนึ่งที่แม่แนะนำให้รู้จัก
(ขอแทนชื่อว่า พี่หนึ่งนะค่ะ) พี่หนึ่งเป็นนักกีฬาของจังหวัด ย้ายมาเพื่อมาเป็นตัวแทนนักกีฬา ตอนที่เจอครั้งแรก
บอกตรงๆว่าไม่ชอบอ่ะ แม่ก็ชอบพูดว่าเขาดีนะ นิสัยดี ยุได้ทุกวัน เราก็ฟังจนรำคาญ และต่อมาก็ได้รู้จักกัน
เขาขยันไปรับไปส่งจากโรงเรียนมาที่ทำงานของแม่ ซึ่งพี่เขาเป็นเด็กฝึกงานที่นี้ จีบอยู่หกเดือน เราเริ่มใจอ่อน
ลองคบเขาดู พี่หนึ่งดูท่าทางดีใจมาก เราก็แอบคิดนะ จะคบกันได้สักเท่าไรเชียว แต่บอกตรงๆเลยพี่หนึ่งเขาน่ารักจริงๆ
ดูแลเอาใจใส่ดีมากด้วยความเป็นเด็ก ชอบให้คนเอาใจและนิสัยก็คล้ายๆกัน เราจึงคบกันสองปี
จุดเปลี่ยนมันเริ่มขึ้นเมื่อพี่หนึ่งมากรุงเทพ.....
ปกติเราตัวติดกันมากไม่ว่าจะไปไหนมาไหน คือมีพี่หนึ่งต้องมีเราตลอด พอพี่หนึ่งต้องย้ายเข้ามาเรียนมหาลัย
เราก็คิดนะว่าห่างกันขนาดนี้จะมีปัญหาไรรึป่าว แล้วก็มีปัญหาจริงๆ เมื่อคนสองคนที่เคยเข้าใจกับไม่เข้าใจกัน
เพราะพี่หนึ่งรับน้องหนักมากในคณะที่เขาเรียน เราได้แต่รอโทรศัพท์ซึ่งน้อยมากนะที่จะโทรมา มันเริ่มเปลี่ยนไป
กลางคืนก็ไปกินเหล้ากับรุ่นพี่ ไม่งั้นไม่ได้รุ่น เราก็งง มันคืออะไรเนี้ยย?? ความที่ไม่เข้าใจ เอาแต่ใจ ความห่างมันมาแทนที่
แล้ววันหนึ่งเราก็ต้องขอห่างกับพี่หนึ่งเพราะเหตุผลที่เราไม่เข้าใจกันในหลายๆเรื่อง
แอบหวังนะว่าอาจจะกลับมาดีกันได้ ถ้าผ่านช่วงนี้ไป
ก่อนเจอดีกันก็เจอเหตุการณ์ช็อคเสียก่อน
เราโทรศัพท์ไปหาพี่หนึ่งตอนกลางวัน ตู๊ด ตู๊ด....
เรา:ฮาโหล พี่หนึ่งทำไร
ปลายสาย: โทรมาหาใคร (เสียงผู้หญิง) เขาไม่อยากคุยกับเธอแล้ว เลิกยุ่งได้แล้วนะขอร้อง ตู๊ดๆๆๆๆๆ
เอิ่มมม งง และโดนสตั้นไปห้าวิ เสียงใคร มันเป็นใครว่ะ ผิดเบอร์ไหม
โทรกลับไปอีกครั้ง พี่หนึ่งรับแล้วพูดว่า "ค่อยคุยกันที่บ้านนะ พี่จะกลับอาทิตย์นี้"
ไม่ผิดเบอร์สินะแล้วเขาเป็นใคร ทำไมกล้ามารับ คำถามเยอะแยะเลยค่ะแต่มันไม่มีคำตอบ
ช่วงเวลาที่รอมันทรมานนะ ไม่กล้าโทรไปได้แต่เล่าให้แม่ฟัง เราเครียดและโทรมมากก
เลยคิดว่าโทรไปคุยให้รู้เรื่องเลยดีกว่า
"โทรมาอีกแล้วหรอ อย่าโทรหาผัวคนอื่นได้ไหม" ประโยคนี้ผู้หญิงคนนั้นพูดออกมาเต็มปาก
น้ำตาไหลเลย นี้หรอที่เรียกว่ารักครั้งแรก เจ็บดีนะ เจ็บมากด้วย
อาทิตย์ต่อมาพี่หนึ่งกลับมาบ้าน โทรหาแม่เรา ว่าเราอยู่บ้านไหมซื้อข้าวมันไก่เจ้าโปรดมาให้
เราหลับ ปิดเครื่อง เหมือนตัดชีวิตจากวงโคจรไปละ แต่พอเจอกันมันแบบ...มันเศร้านะ
ขนาดนี้มันนานแล้วยังรู้สึกแย่อยู่เลย พี่หนึ่งเริ่มเล่าให้ฟังว่าผู้หญิงคนนั้นอยู่หอเดียวกับเขา
เจอกันบ่อยครั้ง ทักทายกันและก็เริ่มถูกใจกัน ในขณะบอกกับเราตลอดว่าไม่มีเวลาแต่...มีเวลาจีบกัน
พี่หนึ่งบอกว่าเพราะอยู่หอเดียวกันมีโอกาสใกล้ชิดเลยมีอะไรกับผู้หญิงคนนั้น เราเลยถามว่า แล้วเราละ เราอยู่ไหน?
เอาเราไปไว้ตรงไหน เพราะเราเด็กหรอ เราให้ความสุขแบบนั้นไม่ได้หรอหรือยังไง พี่หนึ่งกอดเราแล้วบอกว่า
พี่ขอโทษนะ ถ้าย้อนเวลากับไปได้พี่จะไม่ทำแบบนี้แแต่พี่ต้องรับผิดชอบกับการกระทำ
.........พอมาถึงจุดนี้ คงรู้แล้วนะค่ะว่าใครสมควรจะต้องไป พี่หนึ่งไม่ใช่ผู้ชายฉวยโอกาส เราคบกันมานาน
ไม่เคยมีเรื่องแบบนี้ เสียใจที่เราต้องเป็นคนที่เดินออกมาทั้งๆที่เรามาก่อน ทั้งๆที่คบนานกว่า หายไปหมดเลยเรื่องดีๆ
กลับมานั่งคิด คนเรามันรวดเร็วอะไรขนาดนี้เดินผ่านไปผ่านมาไม่กี่ที ได้กันแล้วหรอ ช่วงเวลาสั้นๆก็เปลี่ยนไปได้
..........................................................................................................................................................
เรื่องไม่ได้จบแบบดีนะค่ะ ผู้หญิงคนนั้นตามหึงหวงถึงขนาดวันสอบโควต้าทีมหาลัยเดียวกับพี่หนึ่ง เราหาทางไปตึกไม่เจอ
เลยลองโทรไปถามแค่นาทีเดียว เรื่องนี้ก็ผ่านมาเป็นปี ไม่คิดว่าผู้หญิงจะตามมาหาเรื่องถึงตึกที่สอบ เอาเพื่อนมาสามสี่คน
เราอยู่กับเพื่อนแค่สองคนไม่ได้คิดไรค่ะ ไม่กลัวด้วยเพราะผู้หญิงคนนั้นโทรมาถามว่าเราอยู่ไหนก็ตอบตามความจริง
มาก็มาค่ะ พอมาจริงๆได้แต่เดินผ่านไม่ตบไม่อะไรเลย ดูผู้หญิงคนนั้นคงจะไม่มีความสุขอีกนาน
หลังจากนั้นพยายามโทรมาเล่าว่ารักกันแค่ไหน บอกตรงๆเราเคยเสียใจแต่เราก็สมน้ำหน้าไปด้วย เพราะเราอยู่ของเรา
ไม่อยากยุ่งกับสองคนนี้เท่าไร ดูผู้หญิงคนนั้นคิดว่าพี่หนึ่งคงอยากกลับมา แต่มันก็สายไปแล้วละค่ะ
ขอจบเหตุการณ์ที่หนึ่งไว้ตรงนี้ และข้อคิดดีๆที่เราได้จากสองคนที่หักหลัง
"คนที่แย่งของของคนอื่นมา ต่อให้เราไม่ทำไรเขาเลย เขาก็ไม่มีความสุขหรอกเพราะปมที่ผูกไว้เองค่ะ"