ควรพอ...หรือรอต่อไป?

กระทู้สนทนา
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกในพันธ์ทิพย์เลยค่ะ ตั้งใจสมัคร account มาเพื่อระบายเรื่องหนักอกโดยเฉพาะ
เพราะไม่รู้จะหันหน้าไปทางไหนดี

เรื่องมีอยู่ว่า...
ดิฉันมีแฟนอยู่คนหนึ่ง เรารู้จักกันมาสิบกว่าปี คบหาดูใจกันมาเจ็ดแปดปี เราทั้งคู่ต่างเป็นแฟนคนแรกของกันและกัน เรียกว่าเริ่มมาจากเพื่อนสนิทแล้วจึงก้าวข้ามมาถึงการเป็นแฟน ปัจจุบันอายุจะสามสิบแล้วทั้งคู่ (อายุเท่ากัน เป็นเพื่อนเรียนด้วยกันมาก่อนค่ะ) ความสัมพันธ์เปิดเผย พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายทราบมาตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมา

วันเวลาที่เคยเรียนด้วยกัน จนกระทั่งแยกย้ายกันไปต่างคนต่างทำงาน เราก็ไม่ได้อยู่ใกล้กันอีกเลย นานๆเจอกันที นานๆคุยกันที
ความรักที่มีระยะทางเป็นอุปสรรค (จริงๆก็ไม่ได้ไกลขนาดนั้น อยู่กรุงเทพฯเหมือนกัน แต่ทำงานคนละที่ ด้วยตัวงานที่ทำทำให้ต่างก็ไม่มีเวลาให้กัน) เมื่อก่อนก็เคยเชื่อว่า ไม่เป็นไร ขอให้เราเชื่อใจกันก็พอ แต่มาถึงทุกวันนี้เริ่มสงสัยแล้วว่ามันพอจริงไหม

ระยะหลังมานี้ ดิฉันรู้สึกว่าความสัมพันธ์ค่อนข้างหยุดชะงัก เรายังดีกันเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ปัญหาคือมันเหมือนเดิมเกินไป ไม่มีอะไรคืบหน้า ผู้หญิงที่อายุใกล้สามสิบแล้ว มีแฟนที่ความสัมพันธ์ระหว่างกันค่อนข้างมั่นคงในสายตาของผู้ใหญ่ ย่อมหนีไม่พ้นคำถามจากคนรอบข้างที่ว่า "เมื่อไหร่จะแต่งงาน" แรกๆก็ตอบทีเล่นทีจริงขำๆเล่นๆไป แต่หลังๆพอมันมากเข้ามันก็ชักจะกระอักกระอ่วนใจ และก็เหมือนเป็นการกวนตะกอนความคิดให้ขุ่นขึ้นมา ดิฉันเป็นผู้หญิงที่ไม่อาจหาญพอที่จะเป็นฝ่ายเริ่มถามเรื่องแผนการแต่งงาน แต่เมื่อมีคนกระตุ้นมากๆมันก็อดคิดไม่ได้ว่าเมื่อไหร่แฟนจะพูดถึงแผนการเรื่องนี้

ถึงจะไม่อยากยอมรับ แต่ผู้หญิงเราแก่เร็วนะคะ จนแล้วจนรอด ดิฉันก็เริ่มไม่แน่ใจว่าระหว่างเรามันจะมีอนาคตร่วมกันได้แน่ๆไหม ดิฉันจินตนาการอนาคตไม่ออกเลย เรียกว่าไม่เห็นภาพก็คงจะได้ ที่ผ่านมาดิฉันอาจจะเป็นคนเรียบง่าย เข้มแข็ง พึ่งพาตัวเองได้ ไม่เรียกร้องอะไร พูดง่ายแฟร์ๆ แต่ทั้งหมดที่แสดงออกนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ต้องการ เพียงแต่ไม่อยากเป็นผู้หญิงน่ารำคาญเท่านั้นเอง

ด้วยวัยที่มากขึ้น ความรับผิดชอบที่มากขึ้น กลับรู้สึกว่าความใส่ใจของอีกฝ่ายกลับไม่ได้เพิ่มตาม เมื่อก่อนเวลาป่วย เขาก็จะถามไถ่ เดี๋ยวนี้ก็ยังถามไถ่อยู่เหมือนเดิม แต่ทำไมดิฉันถึงรู้สึกว่าอีกฝ่ายควรจะทำมากกว่าถามบ้าง เช่นมาหามาเยี่ยมกันบ้าง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะดิฉันไม่เรียกร้องเอง หรือดิฉันคาดหวังมากไป หรือเขาที่ไม่ใส่ใจกันแน่

ก่อนหน้านี้ดิฉันงานยุ่งมากจนไม่มีเวลาคิดเล็กคิดน้อยเรื่องสัพเพเหระอะไร แต่ช่วงที่ผ่านมามันว่างขึ้น ทำให้ความคิดฟุ้งซ่านไปหมด ความจริงทุกๆเวลาว่างก็เป็นแบบนี้มาสักพักแล้ว เพียงแต่ครั้งนี้มันว่างนานไปหน่อยเท่านั้นเอง

อ่านมาถึงตรงนี้ หลายท่านคงมีคำถามว่าแล้วฝ่ายเขาล่ะ ไม่ได้อยู่ใกล้กันอย่างนี้ เขามีคนอื่นหรือเปล่า ดิฉันยอมรับค่ะว่าไม่เคยเข้าไปซอกแซกเรื่องส่วนตัวในเชิงนี้ของอีกฝ่าย ไม่ทราบจริงๆว่าจะมีอะไรซ่อนอยู่หรือเปล่า สิ่งเดียวที่พอจะบอกได้คือที่ผ่านมาเขาเป็นคนดี ทำอะไรอยู่ในกรอบ ขี้อายพอสมควร และสิ่งที่เขาปฏิบัติต่อเรามันสม่ำเสมอ ไม่เปลี่ยนแปลง เพียงเท่านี้เท่านั้นที่ยึดเหนี่ยวดิฉันไว้อยู่

ตอนนี้ดิฉันรู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน รู้สึกอยากให้เขามาช่วยแบ่งเบาไปบ้าง ดิฉันเหมือนติดอยู่ตรงกลาง ไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่รู้จะไปทางไหน คิดไปมากๆก็ฟุ้งซ่านเหมือนหัวข้อกระทู้ว่า "ควรพอ...หรือรอต่อไป?" ระหว่างนี้ก็มีคนอื่นพยายามเข้ามาจีบอยู่บ้าง แต่เหมือนว่าดิฉันปิดกั้นโอกาสของตัวเองโดยการยึดติดกับเขาเพียงคนเดียวมาตลอด ญาติผู้ใหญ่เองก็เริ่มรู้สึกเหมือนกันว่ามันไม่มีอะไรคืบหน้า ก็อยากให้ดิฉันถอยออกมาเริ่มใหม่กับคนใหม่ๆ ให้มองคนอื่นบ้าง เพราะเวลาที่ผ่านไปเรื่อยๆคืออายุที่ล่วงเลยไปเรื่อยๆ ผู้หญิงเรามีเวลาจำกัด ไม่เหมือนผู้ชายที่รอไปเมื่อไหร่ก็ได้

ดิฉันควรทำอย่างไรดี...เมื่อหัวใจกับสมองมันเริ่มไม่ไปด้วยกันเสียแล้ว?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่