ค่ำศุกร์ที่แล้ว ประธาน คสช.ใช้เวลา 52 นาที พูดหลายเรื่องที่เป็นปมปัญหาคาใจ...ท่านก็ยังพูดได้ดี
ในห้วงเวลาสถานการณ์พิเศษ 3 เดือน ที่กำลังเร่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้า มีหลายเรื่องที่บางฝ่ายไม่พอใจ...แต่เพื่อการแก้ปัญหาบ้านเมือง ทหารยอมรับไว้เอง ฟังแล้วทหารใจถึง พึ่งได้จริงๆ
ฟังทวนอีกครั้ง ในรอบเช้าวันเสาร์ ผบ.ทบ.พูดจบ มีเสียงเพลง...บทใหม่ “ฟ้าจะสดใส เราจะยิ้มได้ ในไม่ช้า”
หลังการยึดอำนาจ ชาวบ้านอย่างผมยังเคลือบแคลงใจ...หลายข้อ ในสถานการณ์บ้านเมืองย่ำแย่ขีดสุดท้าย...เจตนาในการเข้ามายุติปัญหา...ใช้ได้ แต่การรุกเข้าแก้ปัญหาคิวรถตู้ คิวรถแท็กซี่สุวรรณภูมิ บ่อนการพนัน ฯลฯ
งานอย่างนี้ ถ้าเป็นตำรวจ...เขาเห็นเป็นประเพณี ต้อนรับนายใหม่ ต้องเคลียร์หน้าเสื่อกันใหม่
แต่ทหาร...ไม่ใช่ตำรวจ ไม่ใช่นักการเมือง...ทุกตำแหน่งหน้าที่ที่ได้มา...ไม่มีต้นทุน
ชาวบ้านจึงหวังได้ งานนี้ไม่ใช่ไฟไหม้ฟาง จัดแถวใหม่ตรากฎกติกาใหม่ ทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันทุกอย่างจะดีไปเอง
แต่ที่ตรงใจ “พวกไม่เอาไหน” อย่างผมมาก ก็คือการเล่นเกมกระดานหก...ไม่เอาทั้งเหลืองไม่เอาทั้งแดง
พวกเหลือง...พลเอกประยุทธ์ พูดเองเต็มปาก ขอร้องฝ่ายกำนัน...
เรื่องการจัดงานหาทุน...ขอไว้ก่อน เพราะผิดคำสั่ง คสช. สุ้มเสียงแม้เข้ม แต่ก็มีวี่แววรักษาน้ำใจไมตรี
พวกแดง...โดยเฉพาะแดงหัวแถว จารุพงษ์ จักรภพ...ที่แอ็กชั่น
ตั้งเสรีไทย...ท่านก็พูดตรงๆ คดีที่มีอยู่แล้ว ถ้า (เหนื่อย) จะเข้ามามอบตัว
สู้คดี...ท่านก็พร้อมจะให้ความยุติธรรม
ช่วงทำนองเดียวกัน...ข่าวสองสามวันก่อน ถ้าคุณทักษิณจะกลับ (สู้คดีใน) ไทย ก็มาได้เลย
ตั้งแต่ทหารยึดอำนาจ แดงระดับหัวแถวยังไม่เคยถูกทหารจัดหนัก
จัดกันเบาๆ แค่เชิญไปคุย แล้วก็เชิญกลับบ้าน
เวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา...ผมไม่แน่ใจ คนที่สุดขั้วเลือกข้าง...จะมีเวลาทบทวน ความรู้สึก...โกรธ แค้น สับสน จับต้นชนปลายไม่ถูก...ได้มากน้อยแค่ไหน
ชาวพุทธสอนกันเอง กิเลส คือความรักความชัง ฯลฯ ของมนุษย์ เหมือนตะกอนที่นอนก้นในใจ เมื่อกระทบก็ฟุ้ง เมื่อนิ่ง...ไม่นาน ตะกอนนั้นก็นอนก้น จิตที่นิ่งก็ “ใส” เริ่มเห็นความจริง
ยึดดีชั่ว ถูกผิด เลือกข้าง แล้วสู้กัน...ชนะก็ฮึกเหิม แพ้ก็เศร้าเหงา เป็นวิถีสามัญของคนในโลก
แต่หากไม่เลือกข้าง...ดูกันเพลินๆไม่ลุ้นเลือกข้าง อาจจะสนุกน้อยกว่า แต่ไม่ว่าผลจะออกมาทางไหน...ก็ไม่ทุกข์
ปุจฉา เพชรยุพา วิสัชนา ทมยันตี (ณ เพชร สำนักพิมพ์ 2553) “เหมือนล้อจักรยาน เวลาเราปั่น ส่วนที่นิ่งที่สุดจะอยู่ตรงกลาง เรียกตามภาษาบาลีว่า มัชฌิมาปฏิปทา
ถ้าเธอสามารถอยู่ตรงกลางได้ เธอมองไปทางซ้าย เธอก็สามารถหัวเราะ มองขวาก็ขำ เช่นคนนี้บอกว่าจะชนะ เดี๋ยวเขาก็แพ้ คนนี้บอกว่าแพ้ แต่สักประเดี๋ยวก็ชนะ ความแน่นอน คือความไม่แน่นอน”
ใจที่อยู่กลาง...ไม่ยินดี ไม่ยินร้าย เป็นใจที่มีพลัง ทั้งยังเป็นใจที่เป็นสุขแท้จริง
นัดคุยระหว่างทหารกับสื่อ...ก่อนอาหารกลางวัน วันศุกร์ เพื่อนทีวีมีสี... บอกพลเอกอุดมเดช สีตบุตร เลขา คสช.ว่า ปรับตัวปรับใจละลายสีแล้ว
พร้อมทำหน้าที่สื่อสารช่วยบ้านเมือง ขอให้พิจารณาเปิดทีวี...ให้มีงานทำเหมือนที่เคยทำ
ทหารยังขอเวลา ขอดูท่าที...
แต่หัวอกสื่อด้วยกันอย่างผม เชื่อว่า เวลาเดือนกว่าๆ ที่ผ่านมา ผ่านช่วงเวลาความรักความชังฟุ้งกระจาย...ไปแล้ว ตะกอนนอนก้นแล้ว
เห็นคุณเห็นโทษของสงครามเลือกข้าง ที่ทั้งทำร้าย ทำลายบ้านเมืองแล้ว
พลเอกประยุทธ์ ท่านก็เพิ่งบอก เปิดวิทยุชุมชนที่ทำตามกฎกติกามา ไปแล้วหลายพันคลื่น แสดงว่าท่านเข้าใจจิตวิญญาณของคนทำสื่อ ซึ่งก็คือเสรีภาพของประชาขน
ผมก็เชื่อว่า หากทหาร “ได้ใจ” สื่อก็ได้ใจประชาชน...และเมื่อถึงเวลา ทหารทำตาม “คำสัญญา” ก็จะได้ใจคนทุกฝ่าย
ผมนึกถึงเนื้อเพลง เราจะยิ้มได้ในไม่ช้า...ผมไม่รอยิ้มเมื่อถึงวันนั้น มันนานไป ผมยิ้มได้แล้ว...ในวันนี้.
กิเลน ประลองเชิง
ค่ำศุกร์ที่แล้ว ประธาน คสช.ใช้เวลา 52 นาที พูดหลายเรื่องที่เป็นปมปัญหาคาใจ...ท่านก็ยังพูดได้ดี
ในห้วงเวลาสถานการณ์พิเศษ 3 เดือน ที่กำลังเร่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้า มีหลายเรื่องที่บางฝ่ายไม่พอใจ...แต่เพื่อการแก้ปัญหาบ้านเมือง ทหารยอมรับไว้เอง ฟังแล้วทหารใจถึง พึ่งได้จริงๆ
ฟังทวนอีกครั้ง ในรอบเช้าวันเสาร์ ผบ.ทบ.พูดจบ มีเสียงเพลง...บทใหม่ “ฟ้าจะสดใส เราจะยิ้มได้ ในไม่ช้า”
หลังการยึดอำนาจ ชาวบ้านอย่างผมยังเคลือบแคลงใจ...หลายข้อ ในสถานการณ์บ้านเมืองย่ำแย่ขีดสุดท้าย...เจตนาในการเข้ามายุติปัญหา...ใช้ได้ แต่การรุกเข้าแก้ปัญหาคิวรถตู้ คิวรถแท็กซี่สุวรรณภูมิ บ่อนการพนัน ฯลฯ
งานอย่างนี้ ถ้าเป็นตำรวจ...เขาเห็นเป็นประเพณี ต้อนรับนายใหม่ ต้องเคลียร์หน้าเสื่อกันใหม่
แต่ทหาร...ไม่ใช่ตำรวจ ไม่ใช่นักการเมือง...ทุกตำแหน่งหน้าที่ที่ได้มา...ไม่มีต้นทุน
ชาวบ้านจึงหวังได้ งานนี้ไม่ใช่ไฟไหม้ฟาง จัดแถวใหม่ตรากฎกติกาใหม่ ทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันทุกอย่างจะดีไปเอง
แต่ที่ตรงใจ “พวกไม่เอาไหน” อย่างผมมาก ก็คือการเล่นเกมกระดานหก...ไม่เอาทั้งเหลืองไม่เอาทั้งแดง
พวกเหลือง...พลเอกประยุทธ์ พูดเองเต็มปาก ขอร้องฝ่ายกำนัน...
เรื่องการจัดงานหาทุน...ขอไว้ก่อน เพราะผิดคำสั่ง คสช. สุ้มเสียงแม้เข้ม แต่ก็มีวี่แววรักษาน้ำใจไมตรี
พวกแดง...โดยเฉพาะแดงหัวแถว จารุพงษ์ จักรภพ...ที่แอ็กชั่น
ตั้งเสรีไทย...ท่านก็พูดตรงๆ คดีที่มีอยู่แล้ว ถ้า (เหนื่อย) จะเข้ามามอบตัว
สู้คดี...ท่านก็พร้อมจะให้ความยุติธรรม
ช่วงทำนองเดียวกัน...ข่าวสองสามวันก่อน ถ้าคุณทักษิณจะกลับ (สู้คดีใน) ไทย ก็มาได้เลย
ตั้งแต่ทหารยึดอำนาจ แดงระดับหัวแถวยังไม่เคยถูกทหารจัดหนัก
จัดกันเบาๆ แค่เชิญไปคุย แล้วก็เชิญกลับบ้าน
เวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา...ผมไม่แน่ใจ คนที่สุดขั้วเลือกข้าง...จะมีเวลาทบทวน ความรู้สึก...โกรธ แค้น สับสน จับต้นชนปลายไม่ถูก...ได้มากน้อยแค่ไหน
ชาวพุทธสอนกันเอง กิเลส คือความรักความชัง ฯลฯ ของมนุษย์ เหมือนตะกอนที่นอนก้นในใจ เมื่อกระทบก็ฟุ้ง เมื่อนิ่ง...ไม่นาน ตะกอนนั้นก็นอนก้น จิตที่นิ่งก็ “ใส” เริ่มเห็นความจริง
ยึดดีชั่ว ถูกผิด เลือกข้าง แล้วสู้กัน...ชนะก็ฮึกเหิม แพ้ก็เศร้าเหงา เป็นวิถีสามัญของคนในโลก
แต่หากไม่เลือกข้าง...ดูกันเพลินๆไม่ลุ้นเลือกข้าง อาจจะสนุกน้อยกว่า แต่ไม่ว่าผลจะออกมาทางไหน...ก็ไม่ทุกข์
ปุจฉา เพชรยุพา วิสัชนา ทมยันตี (ณ เพชร สำนักพิมพ์ 2553) “เหมือนล้อจักรยาน เวลาเราปั่น ส่วนที่นิ่งที่สุดจะอยู่ตรงกลาง เรียกตามภาษาบาลีว่า มัชฌิมาปฏิปทา
ถ้าเธอสามารถอยู่ตรงกลางได้ เธอมองไปทางซ้าย เธอก็สามารถหัวเราะ มองขวาก็ขำ เช่นคนนี้บอกว่าจะชนะ เดี๋ยวเขาก็แพ้ คนนี้บอกว่าแพ้ แต่สักประเดี๋ยวก็ชนะ ความแน่นอน คือความไม่แน่นอน”
ใจที่อยู่กลาง...ไม่ยินดี ไม่ยินร้าย เป็นใจที่มีพลัง ทั้งยังเป็นใจที่เป็นสุขแท้จริง
นัดคุยระหว่างทหารกับสื่อ...ก่อนอาหารกลางวัน วันศุกร์ เพื่อนทีวีมีสี... บอกพลเอกอุดมเดช สีตบุตร เลขา คสช.ว่า ปรับตัวปรับใจละลายสีแล้ว
พร้อมทำหน้าที่สื่อสารช่วยบ้านเมือง ขอให้พิจารณาเปิดทีวี...ให้มีงานทำเหมือนที่เคยทำ
ทหารยังขอเวลา ขอดูท่าที...
แต่หัวอกสื่อด้วยกันอย่างผม เชื่อว่า เวลาเดือนกว่าๆ ที่ผ่านมา ผ่านช่วงเวลาความรักความชังฟุ้งกระจาย...ไปแล้ว ตะกอนนอนก้นแล้ว
เห็นคุณเห็นโทษของสงครามเลือกข้าง ที่ทั้งทำร้าย ทำลายบ้านเมืองแล้ว
พลเอกประยุทธ์ ท่านก็เพิ่งบอก เปิดวิทยุชุมชนที่ทำตามกฎกติกามา ไปแล้วหลายพันคลื่น แสดงว่าท่านเข้าใจจิตวิญญาณของคนทำสื่อ ซึ่งก็คือเสรีภาพของประชาขน
ผมก็เชื่อว่า หากทหาร “ได้ใจ” สื่อก็ได้ใจประชาชน...และเมื่อถึงเวลา ทหารทำตาม “คำสัญญา” ก็จะได้ใจคนทุกฝ่าย
ผมนึกถึงเนื้อเพลง เราจะยิ้มได้ในไม่ช้า...ผมไม่รอยิ้มเมื่อถึงวันนั้น มันนานไป ผมยิ้มได้แล้ว...ในวันนี้.
กิเลน ประลองเชิง