ปราสาทตาควาย และเนิน 350
เมื่อคืนนี้รายงานข่าวจากช่องอมรินทร์ ทีวี ท้องฟ้าเหนือปราสาทตาควายกลายเป็นสีส้มหรือสีแดงฉาน เกิดจากการยิงปืนเข้าถล่มใส่กันไม่ยั้งบริเวณปราสาท แสงจากปลายกระบอกปืนและอาวุธนานาชนิดที่ยิงออกมารวมถึงแสงจากระเบิดทำให้ท้องฟ้ากลายเป็นสีแดงเหนือปราสาท น่ากลัวมาก
- เหตุใดการรบที่ปราสาทตาควายจึงหนักหน่วงที่สุด
เนื่องจากเขมรยึดเนิน 350 ได้ก่อนหน้านี้ รวมถึงยึดปราสาทตาควายได้ กองทัพเขมรต่อต้านสุดกำลังสมรภูมินี้แพ้ไม่ได้ จึงขนกองทัพกำลังเสริมไม่หยุดหลังแนวปราสาท การยิงมาจากแนวป้องกันปราสาทจำนวนมาก ทำให้ทหารไทยไม่สามารถรุกคืบเข้าไปได้ ถึงแม้ทหารไทยจะยิงถล่มปราสาทด้วยปืนใหญ่หรืออาวุธหนักก็ตาม ส่วนเนิน 350 แม้กองทัพไทยจะถล่มด้วยปืนใหญ่แต่ไม่สามารถทำอะไรกองทัพเขมรได้เนื่องจากทหารเขมรฝังตัวที่นี่มานานแล้วมีการขุดสนามเพลาะทำบังเกอร์หลบภัยในรูป้องกันปืนกระสุนปืนใหญ่เมื่อโดนปืนใหญ่ยิงทำลายก็ลงไปซ่อนในที่กำบังแล้วออกมายิงใหม่ บริเวณนี้จึงเต็มไปด้วยสไนเปอร์ พลซุ่มยิงและอาวุธหนักยิงลงมาสำหรับต่อต้านทหารไทย นอกจากนี้รอบเนิน 350 มีการฝังทุ่นระเบิดจำนวนมากทำให้กองทัพไทยไม่สามารถส่งทหารราบเข้าไปยึดเนิน 350 ได้เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสีย ถ้ายึดเนิน 350 ไม่ได้ ปราสาทตาควายก็ยึดไม่ได้เช่นกัน ถ้าเกิดมีการเจราหยุดยิงในช่วงนี้เราจะเสียปราสาทตาควายไปทันที เพราะทหารเขมรอยู่หลังแนวปราสาทตาควาย
ช่องอานม้า เนิน 677
เหตุใดช่องอานม้าจึงมีการรบหนักหน่วงรองมา เป็นสมรภูมิที่น่ากลัว
- เนื่องจากทหารเขมรครองพื้นที่แถบนี้มาก่อน ยึดที่ดินรุกล้ำจากของไทยไปนั่นละแล้วมาตั้งบ้านเรือนเข้ามาเรื่อย ๆ ไทยประท้วงก็ไม่ไป มีการสร้างศาล อนุเสาวรีย์พยายามรุกดินแดนไทยมาตลอดยาวนานเกิน 10 ปี กองทัพเขมร รู้ดีว่าไทยต้องการยึดช่องอานม้าคืนและเป็นศักดิ์ศรีจึงกลายเป็นศึกที่ทั้ง 2 ฝ่ายแพ้ไม่ได้เด็ดขาด ไม่งั้นจะเสียดินแดนตรงนี้ไปอีกนาน เขมรระดมกำลังและอาวุธยิงมาที่ช่องอานม้าแต่ไม่สามารถต้านทหารไทยไว้ได้ ทหารไทยได้เข้ายึดพื้นที่ได้คืน 80% แล้ว แต่ไม่สามารถยึดได้ทั้งหมดเพราะว่าเนิน 677 ซึ่งเป็นชัยภูมิได้เปรียบสูงข่มทหารเขมรระดมยิงปืนต่อต้านลงมาอย่างหนัก ต้านทานการรุกคืบของทหารไทยไว้ได้ ทหารไทยจึงเข้ายึดเนิน 677 ยังไม่ได้
ภูมะเขือ
เป็นดินแดนของไทย 100% แต่เหตุใดจึงเกิดการรบอย่างหนักตลอดทุกครั้ง และทหารไทยต้องสูญเสียชีวิตทุกครั้งที่มีการรบที่นี่
- เนื่องจากภูมะเขือเป็นจุดที่สามารถมองเขาพระวิหารได้ชัดเจนและเป็นจุดสูงข่ม ด้านล่างเป็นหน้าผาไม่มีทางขึ้นของเขมรต้องทำกระเช้าขึ้นมา ใครยึดชัยภูมินี้ได้เท่ากับว่าจะมองเขาพระวิหารและที่ราบต่ำเขมรได้และยังเป็นที่ตั้งทางทหารที่ได้เปรียบ เขมรจึงต้องทำทุกทางที่ต้องยึดภูมะเขือ ขณะเดียวกันไทยต้องรักษาภูมะเขือสุดชีวิตและสุดความสามารถเช่นกัน เนื่องจากมีทหารไทยต้องสละชีวิตเพื่อปกป้องภูมะเขือมาตลอดทุกครั้ง
เริ่มตั้งแต่ปี 2554 ก่อนเกิดสงครามไทยเขมร ทหารเขมรลอบปีนหน้าผาเข้ามาปาดคอทหารไทยเสียชีวิต จากนั้นเริ่มมีการโจมตีกัน ทหารไทยในเวลานั้นเป็นเพียงทหารเฝ้าชายแดนไม่ใช่หน่วยรบพิเศษ กองทัพเขมรจัดหน่วยรบพิเศษ 911 มายึดภูมะเขือไปได้สำเร็จ ทำให้ทหารไทยเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากในสมรภูมิแห่งนี้ หลังจากนั้นก็มีการเจรจาหยุดยิงไทยจึงไม่สามารถแก้มือกลับมายึดคืนได้ต้องเสียภูมะเขือไปตั้งแต่ปี 2554 ต่อมาเกิดสงครามไทยเขมรในเดือน กค ปี 2568 กองทัพบกไทยได้บทเรียนจากครั้งนั้นที่ทหารเขมรส่งหน่วยรบพิเศษ 911 เข้ามายึดภูมะเขือ กองทัพบกจึงได้แก้มือด้วยการส่งหน่วยรบที่ดีที่สุดของไทย หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ หน่วยพลร่มป่าหวาย รบพิเศษ ร31 และหน่วยผสมอื่น ๆ เข้ามายึดภูมะเขือกลับคืนไปได้ ทำลายฐานทหารเขมรและปักธงชาติไทย ร้องเพลงชาติไทยในปี 2568 ที่ภูมะเขือ หลังจากเสียภูมะเขือไปกองทัพเขมรจึงต้องทำทุกทางในการกลับมายึดภูมะเขือกลับไปให้ได้จึงได้ระดมยิงอย่างหนักทุกรูปแบบ แต่ชัยภูมิเขมรเสียเปรียบทหารไทยพยายามป้องกันภูมะเขือสุดชีวิตและยังป้องกันแผ่นดินไทยไว้ได้
ปราสาทตาเหมือนธม
- จริง ๆ ปราสาทนี้ไม่ได้มีอะไรเลย แต่ตอนนั้นเขมรเสียหน้าไปออกข่าวว่าไม่ได้เสียดินแดนให้ไทย แต่ความจริงเสียปราสาทให้ไทยไปแล้วในการรบ เดือน กค ปี 2568 เขมรจึงต้องการยึดคืนและกู้หน้าคืนจึงได้ระดมยิงอาวุธหนักเต็มที่เพื่อจะยึดปราสาทตามเหมือนธมกลับไป แต่ทหารไทยก็ปกป้องสุดกำลัง
ยังมีสมรภูมิอื่น ๆ อีกที่ผมไม่ได้ติดตามข่าวอย่างเพียงพอไม่ได้นำมาบอกเล่า ใครมีข้อมูลเพิ่มเติมก็ใส่ลงไปได้ เอาใจช่วยทหารไทยทุกคน
สมรภูมิการรบที่หนักหน่วงไทย เขมร มีที่ไหนบ้างมาดูกัน
เมื่อคืนนี้รายงานข่าวจากช่องอมรินทร์ ทีวี ท้องฟ้าเหนือปราสาทตาควายกลายเป็นสีส้มหรือสีแดงฉาน เกิดจากการยิงปืนเข้าถล่มใส่กันไม่ยั้งบริเวณปราสาท แสงจากปลายกระบอกปืนและอาวุธนานาชนิดที่ยิงออกมารวมถึงแสงจากระเบิดทำให้ท้องฟ้ากลายเป็นสีแดงเหนือปราสาท น่ากลัวมาก
- เหตุใดการรบที่ปราสาทตาควายจึงหนักหน่วงที่สุด
เนื่องจากเขมรยึดเนิน 350 ได้ก่อนหน้านี้ รวมถึงยึดปราสาทตาควายได้ กองทัพเขมรต่อต้านสุดกำลังสมรภูมินี้แพ้ไม่ได้ จึงขนกองทัพกำลังเสริมไม่หยุดหลังแนวปราสาท การยิงมาจากแนวป้องกันปราสาทจำนวนมาก ทำให้ทหารไทยไม่สามารถรุกคืบเข้าไปได้ ถึงแม้ทหารไทยจะยิงถล่มปราสาทด้วยปืนใหญ่หรืออาวุธหนักก็ตาม ส่วนเนิน 350 แม้กองทัพไทยจะถล่มด้วยปืนใหญ่แต่ไม่สามารถทำอะไรกองทัพเขมรได้เนื่องจากทหารเขมรฝังตัวที่นี่มานานแล้วมีการขุดสนามเพลาะทำบังเกอร์หลบภัยในรูป้องกันปืนกระสุนปืนใหญ่เมื่อโดนปืนใหญ่ยิงทำลายก็ลงไปซ่อนในที่กำบังแล้วออกมายิงใหม่ บริเวณนี้จึงเต็มไปด้วยสไนเปอร์ พลซุ่มยิงและอาวุธหนักยิงลงมาสำหรับต่อต้านทหารไทย นอกจากนี้รอบเนิน 350 มีการฝังทุ่นระเบิดจำนวนมากทำให้กองทัพไทยไม่สามารถส่งทหารราบเข้าไปยึดเนิน 350 ได้เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสีย ถ้ายึดเนิน 350 ไม่ได้ ปราสาทตาควายก็ยึดไม่ได้เช่นกัน ถ้าเกิดมีการเจราหยุดยิงในช่วงนี้เราจะเสียปราสาทตาควายไปทันที เพราะทหารเขมรอยู่หลังแนวปราสาทตาควาย
ช่องอานม้า เนิน 677
เหตุใดช่องอานม้าจึงมีการรบหนักหน่วงรองมา เป็นสมรภูมิที่น่ากลัว
- เนื่องจากทหารเขมรครองพื้นที่แถบนี้มาก่อน ยึดที่ดินรุกล้ำจากของไทยไปนั่นละแล้วมาตั้งบ้านเรือนเข้ามาเรื่อย ๆ ไทยประท้วงก็ไม่ไป มีการสร้างศาล อนุเสาวรีย์พยายามรุกดินแดนไทยมาตลอดยาวนานเกิน 10 ปี กองทัพเขมร รู้ดีว่าไทยต้องการยึดช่องอานม้าคืนและเป็นศักดิ์ศรีจึงกลายเป็นศึกที่ทั้ง 2 ฝ่ายแพ้ไม่ได้เด็ดขาด ไม่งั้นจะเสียดินแดนตรงนี้ไปอีกนาน เขมรระดมกำลังและอาวุธยิงมาที่ช่องอานม้าแต่ไม่สามารถต้านทหารไทยไว้ได้ ทหารไทยได้เข้ายึดพื้นที่ได้คืน 80% แล้ว แต่ไม่สามารถยึดได้ทั้งหมดเพราะว่าเนิน 677 ซึ่งเป็นชัยภูมิได้เปรียบสูงข่มทหารเขมรระดมยิงปืนต่อต้านลงมาอย่างหนัก ต้านทานการรุกคืบของทหารไทยไว้ได้ ทหารไทยจึงเข้ายึดเนิน 677 ยังไม่ได้
ภูมะเขือ
เป็นดินแดนของไทย 100% แต่เหตุใดจึงเกิดการรบอย่างหนักตลอดทุกครั้ง และทหารไทยต้องสูญเสียชีวิตทุกครั้งที่มีการรบที่นี่
- เนื่องจากภูมะเขือเป็นจุดที่สามารถมองเขาพระวิหารได้ชัดเจนและเป็นจุดสูงข่ม ด้านล่างเป็นหน้าผาไม่มีทางขึ้นของเขมรต้องทำกระเช้าขึ้นมา ใครยึดชัยภูมินี้ได้เท่ากับว่าจะมองเขาพระวิหารและที่ราบต่ำเขมรได้และยังเป็นที่ตั้งทางทหารที่ได้เปรียบ เขมรจึงต้องทำทุกทางที่ต้องยึดภูมะเขือ ขณะเดียวกันไทยต้องรักษาภูมะเขือสุดชีวิตและสุดความสามารถเช่นกัน เนื่องจากมีทหารไทยต้องสละชีวิตเพื่อปกป้องภูมะเขือมาตลอดทุกครั้ง
เริ่มตั้งแต่ปี 2554 ก่อนเกิดสงครามไทยเขมร ทหารเขมรลอบปีนหน้าผาเข้ามาปาดคอทหารไทยเสียชีวิต จากนั้นเริ่มมีการโจมตีกัน ทหารไทยในเวลานั้นเป็นเพียงทหารเฝ้าชายแดนไม่ใช่หน่วยรบพิเศษ กองทัพเขมรจัดหน่วยรบพิเศษ 911 มายึดภูมะเขือไปได้สำเร็จ ทำให้ทหารไทยเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากในสมรภูมิแห่งนี้ หลังจากนั้นก็มีการเจรจาหยุดยิงไทยจึงไม่สามารถแก้มือกลับมายึดคืนได้ต้องเสียภูมะเขือไปตั้งแต่ปี 2554 ต่อมาเกิดสงครามไทยเขมรในเดือน กค ปี 2568 กองทัพบกไทยได้บทเรียนจากครั้งนั้นที่ทหารเขมรส่งหน่วยรบพิเศษ 911 เข้ามายึดภูมะเขือ กองทัพบกจึงได้แก้มือด้วยการส่งหน่วยรบที่ดีที่สุดของไทย หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ หน่วยพลร่มป่าหวาย รบพิเศษ ร31 และหน่วยผสมอื่น ๆ เข้ามายึดภูมะเขือกลับคืนไปได้ ทำลายฐานทหารเขมรและปักธงชาติไทย ร้องเพลงชาติไทยในปี 2568 ที่ภูมะเขือ หลังจากเสียภูมะเขือไปกองทัพเขมรจึงต้องทำทุกทางในการกลับมายึดภูมะเขือกลับไปให้ได้จึงได้ระดมยิงอย่างหนักทุกรูปแบบ แต่ชัยภูมิเขมรเสียเปรียบทหารไทยพยายามป้องกันภูมะเขือสุดชีวิตและยังป้องกันแผ่นดินไทยไว้ได้
ปราสาทตาเหมือนธม
- จริง ๆ ปราสาทนี้ไม่ได้มีอะไรเลย แต่ตอนนั้นเขมรเสียหน้าไปออกข่าวว่าไม่ได้เสียดินแดนให้ไทย แต่ความจริงเสียปราสาทให้ไทยไปแล้วในการรบ เดือน กค ปี 2568 เขมรจึงต้องการยึดคืนและกู้หน้าคืนจึงได้ระดมยิงอาวุธหนักเต็มที่เพื่อจะยึดปราสาทตามเหมือนธมกลับไป แต่ทหารไทยก็ปกป้องสุดกำลัง
ยังมีสมรภูมิอื่น ๆ อีกที่ผมไม่ได้ติดตามข่าวอย่างเพียงพอไม่ได้นำมาบอกเล่า ใครมีข้อมูลเพิ่มเติมก็ใส่ลงไปได้ เอาใจช่วยทหารไทยทุกคน