สวัสดีค่ะเพื่อนๆห้องแป้ง จากที่อิ๊บตั้งกระทู้ทลายกรุรองพื้นไปเมื่อหลายเดือนก่อน มีหลายท่านที่หลังไมค์มาคุยกับอิ๊บว่าด้วยเรื่องใช้ไพรเมอร์ก่อนแต่งหน้าแล้ว รองพื้นก็เลือกตัวที่ฮิตหนักหนาว่าคุมมันขั้นสุดแล้ว แต่ทำไมผิวยังมันเยิ้มอยู่? ตัวอิ๊บเองก็ผิวมันเหมือนกันค่ะ ซึ่งบางทีการที่ผิวหน้ายังมันอยู่เป็นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะผิวขาดน้ำ พักผ่อนไม่เพียงพอ ฯลฯ แต่สาเหตุหลักที่อยากให้หันมามองคือ
สกินแคร์และครีมกันแดดที่ใช้ค่ะ
ในส่วนของครีมบำรุงผิว มักจะไม่เป็นปัญหาสำหรับสาวผิวมันหรอกเนอะ เพราะมักจะแบ่งแยกประเภทไว้สำหรับสาวที่มีสภาพผิวแตกต่างกันไปอยู่แล้ว สาวผิวมันสามารถเลือกใช้ตัวบำรุงที่เป็นเนื้อเซรั่ม เพราะซึมเข้าผิวได้ง่ายและไม่ทิ้งความเหนอะหนะ แต่ชีวิตประจำวันของเราต้องพบเจอกับแสงแดดกันตั้งแต่โผล่หัวออกนอกบ้าน! 555 นั่นแหละค่ะ สำหรับประชากรไทยนั้น ครีมกันแดดเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้ทุกวัน ซึ่งบางทีที่หน้าไม่หายมันซะที อาจจะเป็นเพราะกันแดดก็ได้นะ วันนี้อิ๊บเลยจะมารีวิวสั้นๆ (ถ้าเทียบกับกระทู้อื่นที่เคยตั้ง 555) เกี่ยวกับครีมกันแดดที่ได้มาลองใช้แล้วชอบ และคิดว่าเหมาะกับสาวๆทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวมันค่ะ
Weisse Brightening UV Protection SPF50PA+++ ทางแบรนด์ให้อิ๊บมาทดลองใช้ค่ะ ราคาของเจ้าหลอดนี้คือ 450 บาท เป็นขนาดพกพานะคะ (หลอดซ้าย) ราคาของขนาดจริงอยู่ที่ 1290 บาท ปริมาณ 30 กรัมค่ะ เวลาใช้เค้าบอกให้ใช้เท่าเมล็ดถั่วเขียว ทางแบรนด์เคลมว่าปริมาณขนาดพกพานี้ใช้ได้นานเป็นเดือนเลยค่ะ โดยใช้วิธีตบเบาๆให้ทั่วหน้า จากนั้นค่อยเกลี่ยค่ะ เท่านี้ก็เพียงพอ
มาดูคำเคลมกันดีกว่า เค้าเคลมว่า
“สาร Nano Calcium Carbonate” เนี่ย ทำให้กันแดดตัวนี้คุมมันได้ดีมากกก และให้ผิวสัมผัสที่เบาแต่สะท้อนแสง ก็เลยใช้คำว่า Brightening ค่ะ ประมาณว่านอกจากเป็นกันแดดแล้วนางยังทำหน้าที่เป็นเบสเมคอัพได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีสารบำรุงอื่นๆใส่มาด้วยกันอย่างอลังการบานตะไท อาทิเช่น อาบูติน วิตามินซีและอี ไลโนลีคแอซิด และกลูต้าไธโอน!!! งานกันแดดมาควบคู่กับงานบำรุงเลยค่ะ 555 ยัง ยังไม่พอ ส่วนผสมทั้งหมดเป็น Organic เน้นๆ หมายความว่าผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้ค่ะ
พอฟังคำโปรยแล้วก็อยากลองดูค่ะว่าจะทำได้อย่างที่พูดจริงหรือเปล่า อิ๊บก็เลยวัดประสิทธิภาพของเค้าด้วยการทดสอบเล็กๆ ดังต่อไปนี้ค่ะ
-
ความสว่างกระจ่างใส มาดูกันค่ะว่าเจ้าสาร Nano Calcium Carbonate เนี่ย จะทำให้ผิวดูสว่างขึ้นได้จริงหรือเปล่า โดยอิ๊บจะเทียบภาพก่อนและหลังทานะคะ
อิ๊บใช้ปริมาณเท่าที่เห็นในภาพ เท่านี้ก็เกลี่ยได้ทั่วทั้งแขนแล้วค่ะ จะเห็นได้ว่าหลังทาดูสว่างขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลย
-
การควบคุมความมัน อิ๊บทิ้งไว้ให้กันแดดซึมเข้าผิว จากนั้นใช้กระดาษซับมันของ Kose วางและกดซับเพื่อดูความมันค่ะ (กระดาษซับมันตัวนี้เป็นเนื้อกระดาษ ไม่ใช่เนื้อฟิล์ม อาจจะมองยากหน่อย ขออภัยด้วยค่ะ)
จะเห็นว่ากระดาษซับมันเมื่อนำมาส่องกับแสงจ้า แทบไม่มีความมันติดออกมาเลยค่ะ ทาแล้วซึมเข้าผิวไวมากกก
-
ความแห้งสบายผิว ไม่เหนียวเหนอะหนะ อันนี้อิ๊บใช้กระดาษชิ้นเล็กๆแปะให้ทั่วทันทีหลังทานะคะ แล้วคว่ำแขนลง ถ้าไม่เหนียวเหนอะหนะจริงๆ กระดาษที่เหลืออยู่บนแขนต้องน้อยชิ้นค่ะ
- และสุดท้าย
ความติดทนนาน และกันน้ำ เนื่องจากทางแบรนด์เคลมมาว่าทาครั้งเดียวพอ ไม่ต้องซ้ำระหว่างวัน ฉะนั้นคุณสมบัติติดทนนานเป็นเรื่องสำคัญค่ะ เลยเอาน้ำล้างและลูบๆดู ปรากฏว่าไม่หลุด แต่พอขัดแรงๆ ก็ค่อยๆหลุดออกมาดังภาพค่ะ ไม่ใช่ขี้ไคลนะ มันคือคราบครีมกันแดดที่หลุด 555 ถือว่าทนใช้ได้ทีเดียว
เอาล่ะ ทดสอบนั่นนี่กันมามากมาย ได้เวลาให้สรุปแล้วค่ะ
อิ๊บทดลองใช้เจ้าตัวนี้คู่กันกับรองพื้น Tom Ford ซึ่งเป็นรองพื้นที่ไม่เป็นมิตรกับชะนีหน้ามัน และไม่ใช้ไพรเมอร์หรือเบสใดๆก่อนแต่งหน้าเลย เพราะกันแดดตัวนี้เคลมว่าทำหน้าที่เป็นเบส ช่วยให้หน้าสว่างกระจ่างใสขึ้นอยู่แล้ว ปรากฏว่าแต่งหน้าตั้งแต่ 9 โมง เพิ่งมาซับมันตอนบ่าย 3 (ผิวอิ๊บผสมค่อนมัน อาจจะมันช้าหน่อย แต่เพื่อนๆที่ผิวมันมากๆ ก็อาจจะมันไวกว่านี้ค่ะ) ส่วนเรื่องเนื้อสัมผัสก็ซึมไวดีค่ะ เหมาะสำหรับวันเร่งรีบ ไม่ต้องรอให้กันแดดซึมเข้าผิว ทาปุ๊บซึมปั๊บ สามารถแต่งหน้าต่อได้ทันที
ส่วนเรื่องสารบำรุงที่ใส่มา อิ๊บว่าของแบบนี้ขึ้นอยู่กับสกินแคร์ที่ใช้มากกว่าค่ะ ถ้าใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทไวท์เทนนิ่งควบคู่กัน ก็คงเห็นผลได้ดีขึ้น แต่ตัวอิ๊บเอง ไม่ได้ใช้ไวท์เทนนิ่งใดๆ และยังใช้ได้ไม่นานพอ เลยเฉยๆ ไม่มีความเห็นในเรื่องนี้จ้า
เรื่องของ
ประสิทธิภาพในการกันแดดก็ทำได้ดีค่ะ ปกติอิ๊บจะใช้แต่กันแดดเนื้อน้ำนม เพราะคิดว่าเหมาะกับผิวมันที่สุดแล้ว ซึมไวจริง แต่ถ้าไม่ทาซ้ำระหว่างวัน พอเจอกิจกรรมกลางแจ้งเข้าหน่อยหน้าก็คล้ำแล้ว แถมบางตัวแอลกอฮอล์เยอะมากก คุมมันดีจริง แต่หน้าแห้งกร้านเชียวค่ะ ส่วนเจ้าตัวนี้ เวลาอิ๊บใช้อิ๊บทาเพียงครั้งเดียว ตกเย็นมาหน้าก็ไม่คล้ำเลย แต่ก็ยังสามารถใช้เค้าทาทับระหว่างวันได้ค่ะ เพราะเนื้อบาง ซึมง่ายอยู่แล้ว ติหน่อยคือแพคเกจค่ะ หน้าตาดูดีจริง แต่ขวดปั๊มนี่วันแรกที่จะใช้นั่งปั๊มทั้งวันกว่าจะออก 555 ราคาที่เป็นขนาดจริงแอบสูงไปด้วย แต่หลอดนึงใช้ได้นานอยู่น้า ใช้ทีละเม็ดถั่วเขียวเดียวเท่านั้น สรุปคือชอบมากค่ะ เดี๋ยวใช้ขนาดพกพาหมดแล้วมีแนวโน้มจะได้ซื้อมาใช้เองจริงๆ 555
สุดท้ายย หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆที่ประสบปัญหาทำยังไงหน้าก็ไม่หายมัน หรือกำลังมองหาครีมกันแดดตัวใหม่ๆได้บ้างนะคะ+ป.ล. ไม่มีการแต่งภาพใดๆ และขอขอบคุณล่วงหน้าสำหรับเพื่อนๆที่เข้ามาเยี่ยมชมรีวิวนี้นะคะ สวัสดีค่ะ
[SR] Review Weisse (ไวเซ่) กันแดดสำหรับสาวหน้ามันค่ะ :D
ในส่วนของครีมบำรุงผิว มักจะไม่เป็นปัญหาสำหรับสาวผิวมันหรอกเนอะ เพราะมักจะแบ่งแยกประเภทไว้สำหรับสาวที่มีสภาพผิวแตกต่างกันไปอยู่แล้ว สาวผิวมันสามารถเลือกใช้ตัวบำรุงที่เป็นเนื้อเซรั่ม เพราะซึมเข้าผิวได้ง่ายและไม่ทิ้งความเหนอะหนะ แต่ชีวิตประจำวันของเราต้องพบเจอกับแสงแดดกันตั้งแต่โผล่หัวออกนอกบ้าน! 555 นั่นแหละค่ะ สำหรับประชากรไทยนั้น ครีมกันแดดเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้ทุกวัน ซึ่งบางทีที่หน้าไม่หายมันซะที อาจจะเป็นเพราะกันแดดก็ได้นะ วันนี้อิ๊บเลยจะมารีวิวสั้นๆ (ถ้าเทียบกับกระทู้อื่นที่เคยตั้ง 555) เกี่ยวกับครีมกันแดดที่ได้มาลองใช้แล้วชอบ และคิดว่าเหมาะกับสาวๆทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวมันค่ะ
Weisse Brightening UV Protection SPF50PA+++ ทางแบรนด์ให้อิ๊บมาทดลองใช้ค่ะ ราคาของเจ้าหลอดนี้คือ 450 บาท เป็นขนาดพกพานะคะ (หลอดซ้าย) ราคาของขนาดจริงอยู่ที่ 1290 บาท ปริมาณ 30 กรัมค่ะ เวลาใช้เค้าบอกให้ใช้เท่าเมล็ดถั่วเขียว ทางแบรนด์เคลมว่าปริมาณขนาดพกพานี้ใช้ได้นานเป็นเดือนเลยค่ะ โดยใช้วิธีตบเบาๆให้ทั่วหน้า จากนั้นค่อยเกลี่ยค่ะ เท่านี้ก็เพียงพอ
มาดูคำเคลมกันดีกว่า เค้าเคลมว่า “สาร Nano Calcium Carbonate” เนี่ย ทำให้กันแดดตัวนี้คุมมันได้ดีมากกก และให้ผิวสัมผัสที่เบาแต่สะท้อนแสง ก็เลยใช้คำว่า Brightening ค่ะ ประมาณว่านอกจากเป็นกันแดดแล้วนางยังทำหน้าที่เป็นเบสเมคอัพได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีสารบำรุงอื่นๆใส่มาด้วยกันอย่างอลังการบานตะไท อาทิเช่น อาบูติน วิตามินซีและอี ไลโนลีคแอซิด และกลูต้าไธโอน!!! งานกันแดดมาควบคู่กับงานบำรุงเลยค่ะ 555 ยัง ยังไม่พอ ส่วนผสมทั้งหมดเป็น Organic เน้นๆ หมายความว่าผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้ค่ะ
พอฟังคำโปรยแล้วก็อยากลองดูค่ะว่าจะทำได้อย่างที่พูดจริงหรือเปล่า อิ๊บก็เลยวัดประสิทธิภาพของเค้าด้วยการทดสอบเล็กๆ ดังต่อไปนี้ค่ะ
- ความสว่างกระจ่างใส มาดูกันค่ะว่าเจ้าสาร Nano Calcium Carbonate เนี่ย จะทำให้ผิวดูสว่างขึ้นได้จริงหรือเปล่า โดยอิ๊บจะเทียบภาพก่อนและหลังทานะคะ
อิ๊บใช้ปริมาณเท่าที่เห็นในภาพ เท่านี้ก็เกลี่ยได้ทั่วทั้งแขนแล้วค่ะ จะเห็นได้ว่าหลังทาดูสว่างขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลย
- การควบคุมความมัน อิ๊บทิ้งไว้ให้กันแดดซึมเข้าผิว จากนั้นใช้กระดาษซับมันของ Kose วางและกดซับเพื่อดูความมันค่ะ (กระดาษซับมันตัวนี้เป็นเนื้อกระดาษ ไม่ใช่เนื้อฟิล์ม อาจจะมองยากหน่อย ขออภัยด้วยค่ะ)
จะเห็นว่ากระดาษซับมันเมื่อนำมาส่องกับแสงจ้า แทบไม่มีความมันติดออกมาเลยค่ะ ทาแล้วซึมเข้าผิวไวมากกก
- ความแห้งสบายผิว ไม่เหนียวเหนอะหนะ อันนี้อิ๊บใช้กระดาษชิ้นเล็กๆแปะให้ทั่วทันทีหลังทานะคะ แล้วคว่ำแขนลง ถ้าไม่เหนียวเหนอะหนะจริงๆ กระดาษที่เหลืออยู่บนแขนต้องน้อยชิ้นค่ะ
- และสุดท้าย ความติดทนนาน และกันน้ำ เนื่องจากทางแบรนด์เคลมมาว่าทาครั้งเดียวพอ ไม่ต้องซ้ำระหว่างวัน ฉะนั้นคุณสมบัติติดทนนานเป็นเรื่องสำคัญค่ะ เลยเอาน้ำล้างและลูบๆดู ปรากฏว่าไม่หลุด แต่พอขัดแรงๆ ก็ค่อยๆหลุดออกมาดังภาพค่ะ ไม่ใช่ขี้ไคลนะ มันคือคราบครีมกันแดดที่หลุด 555 ถือว่าทนใช้ได้ทีเดียว
เอาล่ะ ทดสอบนั่นนี่กันมามากมาย ได้เวลาให้สรุปแล้วค่ะ
อิ๊บทดลองใช้เจ้าตัวนี้คู่กันกับรองพื้น Tom Ford ซึ่งเป็นรองพื้นที่ไม่เป็นมิตรกับชะนีหน้ามัน และไม่ใช้ไพรเมอร์หรือเบสใดๆก่อนแต่งหน้าเลย เพราะกันแดดตัวนี้เคลมว่าทำหน้าที่เป็นเบส ช่วยให้หน้าสว่างกระจ่างใสขึ้นอยู่แล้ว ปรากฏว่าแต่งหน้าตั้งแต่ 9 โมง เพิ่งมาซับมันตอนบ่าย 3 (ผิวอิ๊บผสมค่อนมัน อาจจะมันช้าหน่อย แต่เพื่อนๆที่ผิวมันมากๆ ก็อาจจะมันไวกว่านี้ค่ะ) ส่วนเรื่องเนื้อสัมผัสก็ซึมไวดีค่ะ เหมาะสำหรับวันเร่งรีบ ไม่ต้องรอให้กันแดดซึมเข้าผิว ทาปุ๊บซึมปั๊บ สามารถแต่งหน้าต่อได้ทันที
ส่วนเรื่องสารบำรุงที่ใส่มา อิ๊บว่าของแบบนี้ขึ้นอยู่กับสกินแคร์ที่ใช้มากกว่าค่ะ ถ้าใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทไวท์เทนนิ่งควบคู่กัน ก็คงเห็นผลได้ดีขึ้น แต่ตัวอิ๊บเอง ไม่ได้ใช้ไวท์เทนนิ่งใดๆ และยังใช้ได้ไม่นานพอ เลยเฉยๆ ไม่มีความเห็นในเรื่องนี้จ้า
เรื่องของประสิทธิภาพในการกันแดดก็ทำได้ดีค่ะ ปกติอิ๊บจะใช้แต่กันแดดเนื้อน้ำนม เพราะคิดว่าเหมาะกับผิวมันที่สุดแล้ว ซึมไวจริง แต่ถ้าไม่ทาซ้ำระหว่างวัน พอเจอกิจกรรมกลางแจ้งเข้าหน่อยหน้าก็คล้ำแล้ว แถมบางตัวแอลกอฮอล์เยอะมากก คุมมันดีจริง แต่หน้าแห้งกร้านเชียวค่ะ ส่วนเจ้าตัวนี้ เวลาอิ๊บใช้อิ๊บทาเพียงครั้งเดียว ตกเย็นมาหน้าก็ไม่คล้ำเลย แต่ก็ยังสามารถใช้เค้าทาทับระหว่างวันได้ค่ะ เพราะเนื้อบาง ซึมง่ายอยู่แล้ว ติหน่อยคือแพคเกจค่ะ หน้าตาดูดีจริง แต่ขวดปั๊มนี่วันแรกที่จะใช้นั่งปั๊มทั้งวันกว่าจะออก 555 ราคาที่เป็นขนาดจริงแอบสูงไปด้วย แต่หลอดนึงใช้ได้นานอยู่น้า ใช้ทีละเม็ดถั่วเขียวเดียวเท่านั้น สรุปคือชอบมากค่ะ เดี๋ยวใช้ขนาดพกพาหมดแล้วมีแนวโน้มจะได้ซื้อมาใช้เองจริงๆ 555
สุดท้ายย หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆที่ประสบปัญหาทำยังไงหน้าก็ไม่หายมัน หรือกำลังมองหาครีมกันแดดตัวใหม่ๆได้บ้างนะคะ+ป.ล. ไม่มีการแต่งภาพใดๆ และขอขอบคุณล่วงหน้าสำหรับเพื่อนๆที่เข้ามาเยี่ยมชมรีวิวนี้นะคะ สวัสดีค่ะ