ถึงวันนี้ คุณสุเทพ คงตระหนักแล้วนะคะว่า
บ้านเมืองเราเปลี่ยนไปค่ะ
“บ้านเมือง” ประกอบด้วยประชาชนทุกคนที่อาศัยในประเทศนี้
เปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันเล่า?
ก็ตั้งแต่รัฐบาลเสียงข้างมากเด็ดขาดลุแก่อำนาจ ด้วยลำพอง
คิดแบบเดิมๆในกรอบกติกาเดิมๆ จึงวางแผนดำเนินการตามนั้น
ไม่คาดคิดว่า
“บ้านเมือง ” เริ่มเปลี่ยนไป ไม่เหมือนเดิม
ประชาชนไทยที่ได้ชื่อว่าอดทนอดกลั้น
“เริ่มไม่อดทน”
ในท้ายที่สุด กว่าจะรู้ตัว…รัฐบาลที่มีเสียงในสภาฯเด็ดขาดแบบพรรคเดียว
ก็ต้องจบชีวิตไป
มาถึงคุณสุเทพในวันนี้…น่าเสียดายนะคะ
ที่ไม่สำเหนียกถึง
“การเปลี่ยนแปลง” ที่ได้เกิดขึ้นแล้ว
การเปลี่ยนแปลงที่นับวันจะมีอัตราเร่งที่สูงขึ้น เร็วขึ้นเรื่อยๆค่ะ
คุณสุเทพยังจมอยู่ในวังวนเดิมๆ…อันตรายมากนะคะ
สำคัญที่สุดคือ คุณสุเทพ ต้องไม่หลงประเด็นค่ะ
โปรดอย่างหลงตนว่า ได้เคยเป็นแกนนำมวลมหาประชาชน
สามารถควบคุมมวลชนจำนวนมหาศาล สามารถสั่งการได้
อันนั้นเป็นอดีต และ “จบ” แล้วค่ะ จบแบบ “ปิดฉาก”
สมบูรณ์แบบโดยไม่มี “ภาคต่อไป” โดยมูลเหตุจูงใจอันเดิมที่นำพามวลชนออกมา
“ปิดฉากแบบสมบูรณ์” ด้วยฝีมือของทั้ง คุณสุเทพ และ คุณยิ่งลักษณ์
ประชาชนมีวันนี้ได้ เพราะนักการเมืองทั้งสองค่ะ
สำหรับประเทศไทยและประชาชนไทยแล้ว
น่าจะถือได้ว่า การกระทำของคุณทั้งสองอยู่ภายใต้
“Destructive Creation Theory” ก็ว่าได้นะ
ความสุดโต่งของคุณทั้งสองคน (ที่กล้าสุดโต่งเพราะลำพองในมวลชนสนับสนุน)
ได้นำพาให้เกิดการรัฐประหาร ที่หยุดระบอบประชาธิปไตยทันที
แต่จากปฏิบัติการที่เป็นผลเสีย….กลับให้ผลพวงที่น่ายินดีน่าพอใจตามมา ถือว่าเป็น
"Nice surprise"
การสามารถหยุดวงจรอำนาจเก่าๆ ที่อยู่คู่กับการเมืองไทย
“วงจรอำนาจเก่าๆ” ที่ไม่หมายถึงพรรคการเมืองใด พรรคการเมืองหนึ่ง
แต่หมายรวมถึงทุกพรรคการเมือง ที่ต้องร่วมกันรับผิด
ที่ทำความล้มเหลวให้กับระบบการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมไทยโดยเฉพาะ
มายาวนาน…จนสังคมป่วยหนัก!
บัดนี้ประชาชนเริ่มมีความหวัง หลังการยึดอำนาจเพื่อเปลี่ยนถ่ายระบบ
ไปสู่การ
“ปฏิรูปประเทศ” ตามที่ทุกฝ่ายเรียกร้อง
พุดก็พูดเถอะค่ะ…ทหารยุคนี้ทันยุค ทันสมัยจริงๆ
พิสูจน์จากการสร้าง
“นวัตกรรม” ที่ทำให้วงการตื่นตะลึง งงงันไปทั่วโลก
เริ่มตั้งแต่ปฏิบัติการยึดอำนาจ ที่สามารถกระทำให้ลุล่วงเพียง 3 นาที
ด้วยคำพูด
“งั้นผมยึดอำนาจ” … เท่านี้ก็เบ็ดเสร็จเด็ดขาด
ต่อมาการบริการหลังการขาย…เอ๊ยไม่ใช่ค่ะ ขอโทดค่ะ อิอิ
การปฏิบัติการแก้ไขเยียวยาหลังยึดอำนาจ ก็รวดเร็วทรงประสิทธิภาพ
ข้อสำคัญคือ ถูกจุด ตรงประเด็นปัญหา
(นี่คือการทำการบ้านมาก่อน
ตาม Plan B โดยทหารน่าจะใช้ช่วงเวลาที่บ้านเมืองถูกใช้เป็นตัวประกัน
ของทั้งคุณสุเทพและคุณยิ่งลักษณ์ ในระหว่างการต่อสู้เพื่อช่วงชิงอำนาจบริหาร)
จึงไม่ต้องแปลกใจ ที่ผลสำรวจแสดงคะแนนความพึงพอใจในผลงานที่สูงมากหลังการทำรัฐประหาร 1 เดือน
คุณสุเทพ แทนที่จะเรียนรู้และเข้าใจใน “ความต้องการ” ของประชาชนส่วนใหญ่
กลับ “บ้องตื้น” ผิดวิสัย
ได้กระทำการที่ “นักการเมืองไร้ค่า” ได้กระทำเป็นนิจ
เป็นการกระทำที่ “วีรบุรุษ” ไม่มีวันจะทำ
ในวันนี้ คุณสุเทพคงตระหนักถึง
“ความจริงวันนี้” แล้วนะคะ
ไม่ต้องกล่าวอะไรมากมาย คุณสุเทพคง
“รู้แจ้งแก่ใจ” แล้ว
ถึงผลจากการ
“บ้องตื้น” ที่ได้จัดไป
ดังนั้น วิธีแก้ไข
“ความผิดพลาด” มีเพียงอย่างเดียวค่ะ
คุณสุเทพกลับบ้านที่สุราษฎร์ธานีค่ะ อยู่แบบ “กบจำศีล”
หรือไปทำประโยชน์ช่วยหลวงปู่พุทธอิสระปลูกป่า ตามที่ท่านแนะนำก็ได้ค่ะ
คุณสุเทพไม่สามารถ “ตระบัดสัตย์” ที่ประกาศไว้เป็นสัญญาประชาคมได้ค่ะ
ถือสัจจะ เป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้ คุณสุเทพอ้างผลงานได้นะคะ
ว่า…
บ้านเมืองที่เปลี่ยนไปตามที่ประชาชนต้องการนั้น…
“สุเทพ เทือกสุบรรณ” คือผู้จุดประกายสำคัญด้วยผู้หนึ่ง
ด้วยความปรารถนาดี
โพ้นฟ้า 29 มิ.ย. 2557
<><> จดหมายน้อยถึง คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ <><>
บ้านเมืองเราเปลี่ยนไปค่ะ
“บ้านเมือง” ประกอบด้วยประชาชนทุกคนที่อาศัยในประเทศนี้
เปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันเล่า?
ก็ตั้งแต่รัฐบาลเสียงข้างมากเด็ดขาดลุแก่อำนาจ ด้วยลำพอง
คิดแบบเดิมๆในกรอบกติกาเดิมๆ จึงวางแผนดำเนินการตามนั้น
ไม่คาดคิดว่า“บ้านเมือง ” เริ่มเปลี่ยนไป ไม่เหมือนเดิม
ประชาชนไทยที่ได้ชื่อว่าอดทนอดกลั้น “เริ่มไม่อดทน”
ในท้ายที่สุด กว่าจะรู้ตัว…รัฐบาลที่มีเสียงในสภาฯเด็ดขาดแบบพรรคเดียว
ก็ต้องจบชีวิตไป
มาถึงคุณสุเทพในวันนี้…น่าเสียดายนะคะ
ที่ไม่สำเหนียกถึง “การเปลี่ยนแปลง” ที่ได้เกิดขึ้นแล้ว
การเปลี่ยนแปลงที่นับวันจะมีอัตราเร่งที่สูงขึ้น เร็วขึ้นเรื่อยๆค่ะ
คุณสุเทพยังจมอยู่ในวังวนเดิมๆ…อันตรายมากนะคะ
สำคัญที่สุดคือ คุณสุเทพ ต้องไม่หลงประเด็นค่ะ
โปรดอย่างหลงตนว่า ได้เคยเป็นแกนนำมวลมหาประชาชน
สามารถควบคุมมวลชนจำนวนมหาศาล สามารถสั่งการได้
อันนั้นเป็นอดีต และ “จบ” แล้วค่ะ จบแบบ “ปิดฉาก”
สมบูรณ์แบบโดยไม่มี “ภาคต่อไป” โดยมูลเหตุจูงใจอันเดิมที่นำพามวลชนออกมา
“ปิดฉากแบบสมบูรณ์” ด้วยฝีมือของทั้ง คุณสุเทพ และ คุณยิ่งลักษณ์
ประชาชนมีวันนี้ได้ เพราะนักการเมืองทั้งสองค่ะ
สำหรับประเทศไทยและประชาชนไทยแล้ว
น่าจะถือได้ว่า การกระทำของคุณทั้งสองอยู่ภายใต้
“Destructive Creation Theory” ก็ว่าได้นะ
ความสุดโต่งของคุณทั้งสองคน (ที่กล้าสุดโต่งเพราะลำพองในมวลชนสนับสนุน)
ได้นำพาให้เกิดการรัฐประหาร ที่หยุดระบอบประชาธิปไตยทันที
แต่จากปฏิบัติการที่เป็นผลเสีย….กลับให้ผลพวงที่น่ายินดีน่าพอใจตามมา ถือว่าเป็น "Nice surprise"
การสามารถหยุดวงจรอำนาจเก่าๆ ที่อยู่คู่กับการเมืองไทย
“วงจรอำนาจเก่าๆ” ที่ไม่หมายถึงพรรคการเมืองใด พรรคการเมืองหนึ่ง
แต่หมายรวมถึงทุกพรรคการเมือง ที่ต้องร่วมกันรับผิด
ที่ทำความล้มเหลวให้กับระบบการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมไทยโดยเฉพาะ
มายาวนาน…จนสังคมป่วยหนัก!
บัดนี้ประชาชนเริ่มมีความหวัง หลังการยึดอำนาจเพื่อเปลี่ยนถ่ายระบบ
ไปสู่การ “ปฏิรูปประเทศ” ตามที่ทุกฝ่ายเรียกร้อง
พุดก็พูดเถอะค่ะ…ทหารยุคนี้ทันยุค ทันสมัยจริงๆ
พิสูจน์จากการสร้าง “นวัตกรรม” ที่ทำให้วงการตื่นตะลึง งงงันไปทั่วโลก
เริ่มตั้งแต่ปฏิบัติการยึดอำนาจ ที่สามารถกระทำให้ลุล่วงเพียง 3 นาที
ด้วยคำพูด “งั้นผมยึดอำนาจ” … เท่านี้ก็เบ็ดเสร็จเด็ดขาด
ต่อมาการบริการหลังการขาย…เอ๊ยไม่ใช่ค่ะ ขอโทดค่ะ อิอิ
การปฏิบัติการแก้ไขเยียวยาหลังยึดอำนาจ ก็รวดเร็วทรงประสิทธิภาพ
ข้อสำคัญคือ ถูกจุด ตรงประเด็นปัญหา
(นี่คือการทำการบ้านมาก่อน ตาม Plan B โดยทหารน่าจะใช้ช่วงเวลาที่บ้านเมืองถูกใช้เป็นตัวประกัน
ของทั้งคุณสุเทพและคุณยิ่งลักษณ์ ในระหว่างการต่อสู้เพื่อช่วงชิงอำนาจบริหาร)
จึงไม่ต้องแปลกใจ ที่ผลสำรวจแสดงคะแนนความพึงพอใจในผลงานที่สูงมากหลังการทำรัฐประหาร 1 เดือน
คุณสุเทพ แทนที่จะเรียนรู้และเข้าใจใน “ความต้องการ” ของประชาชนส่วนใหญ่
กลับ “บ้องตื้น” ผิดวิสัย
ได้กระทำการที่ “นักการเมืองไร้ค่า” ได้กระทำเป็นนิจ
เป็นการกระทำที่ “วีรบุรุษ” ไม่มีวันจะทำ
ในวันนี้ คุณสุเทพคงตระหนักถึง “ความจริงวันนี้” แล้วนะคะ
ไม่ต้องกล่าวอะไรมากมาย คุณสุเทพคง “รู้แจ้งแก่ใจ” แล้ว
ถึงผลจากการ “บ้องตื้น” ที่ได้จัดไป
ดังนั้น วิธีแก้ไข “ความผิดพลาด” มีเพียงอย่างเดียวค่ะ
คุณสุเทพกลับบ้านที่สุราษฎร์ธานีค่ะ อยู่แบบ “กบจำศีล”
หรือไปทำประโยชน์ช่วยหลวงปู่พุทธอิสระปลูกป่า ตามที่ท่านแนะนำก็ได้ค่ะ
คุณสุเทพไม่สามารถ “ตระบัดสัตย์” ที่ประกาศไว้เป็นสัญญาประชาคมได้ค่ะ
ถือสัจจะ เป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้ คุณสุเทพอ้างผลงานได้นะคะ
ว่า…
บ้านเมืองที่เปลี่ยนไปตามที่ประชาชนต้องการนั้น…
“สุเทพ เทือกสุบรรณ” คือผู้จุดประกายสำคัญด้วยผู้หนึ่ง
ด้วยความปรารถนาดี
โพ้นฟ้า 29 มิ.ย. 2557