สุดท้ายก็คงหนีไม่พ้น ต้องกลับมาสู่วังวนเก่า
ไม่ได้ปรามาส แต่ผมคิดว่ามันคงไม่ต่างจากการยึดอํานาจ ในครั้งที่ผ่านๆมา
พล.เอก ประยุทธ์ ท่านไม่มีวันเข้าใจการเมือง จากมุมมองของผู้นํากองทัพ ในตอนนี้หรอกฮะ
( ก็ไม่ต่างกับที่คนไทยบางกลุ่มชอบตอบโต้ฝรั่งว่า เขาไม่เข้าใจวัฒนธรรมการเมืองของเรา)
ด้วยแต่ละแวดวง ก็มีทั้งวัฒนธรรม มีทั้งปัจจัยแวดล้อม ที่แตกต่างกันไป
คนในวัฒนธรรมหนึ่ง จะเข้ามาแก้ปัญหาให้กับคนอีกวัฒนธรรมหนึ่ง แล้วจะแก้ได้อย่างไรกันฮะ
เหมือนที่กองทัพ ไม่เคยเชื่อในเรื่องอุดมการณ์ของมนุษย์
เพราะวัฒนธรรมในกองทัพ คือการปลูกฝัง ให้ปฏิบัติตามคําสั่งผู้บังคับบัญชา
ซึ่งมันคนละขั้วกับระบบประชาธิปไตย อย่างสิ้นเชิงเลยฮะ
การที่จะเข้ามาแก้ปัญหา จะอาศัย แค่เจตนาดี หรือความรักชาติอย่างเดียวคงไม่พอ
พล.เอก ประยุทธ์...ฮะ ท่านต้องมาสัมผัสการเมืองด้วยตัวเองถึงจะรู้ ถึงจะเข้าใจ สัจธรรมการเมืองอย่างแท้จริง
หากคนซื้อไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ซื้อ
แม้จะพิถีพิถัน มีเจตนา ความตั้งใจดีเอย่างไร สุดท้ายก็จะต้องมีปัญหาในทางปฏิบัติตามมาอย่างแน่นอนเลยฮะ
ง่ายที่สุด.....ก็ลองถามรุ่นพี่ของท่าน ที่ชื่อ พล.เอก สินธิ ดูสิฮะ
หลังเกษียณแล้ว มาลงเล่นการเมือง ความรู้สึก หรือ ทัศนคติที่มีต่อการเมือง
มันเหมือนหรือต่างกัน กับก่อนหน้าที่นํากองทัพออกมายึดอํานาจ อย่างไร
จากก่อนหน้าที่เคยขึงขัง มองนักการเมืองเป็นพวกชั่วร้ายที่ต้องกําจัด แล้วเหตุผลอะไร
ตอนนี้ พล.เอก สินธิ ถึงกลับมีท่าทีเปลี่ยนไป
ผมว่าจุดยืน พล.เอก สินธิ ไม่ได้เปลี่ยนไปจากวันที่ยึดอํานาจหรอกฮะ
เพียงแต่เมื่อมาสัมผัสการเมืองด้วยตัวเอง ทําให้ได้เรียนรู้ และเข้าใจวิถีทางการเมืองมากขึ้น
ท่าน พล.เอก ประยุทธ์ ควรศึกษาธรรมขาติของการเมืองให้เข้าใจถึงแก่นแท้ก่อนนะฮะ แล้วค่อยจัดการกับปัญหา
อย่าไปหลงกับคํายุยงปลุกปั่นของพวกความคิดสุดโต่ง ไม่งั้นปัญหามันก็จะวนกลับมาที่เก่าอีก
อย่าเอาวิธีคิดของนักวิชาการ นักการทหาร มาใช้กับนักการเมืองเลยน่ะฮะ (..ข้อร้อง )
ก็อย่างที่บอก ทั้งวัฒนธรรม ทั้งปัจจัยแวดล้อม มันต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ไม่ว่าท่านจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร
เมื่อถึงเวลาหนึ่ง นักการเมือง ก็ต้องปรับตัวเข้าสู่โหมดธรรมชาติของนักการเมืองอยู่วันยังคํ่า
จะให้อยู่แบบฝืนธรรมชาตินักการเมือง มันคงเป็นไปไม่ได้
เพราะที่สุดแล้ว นักการเมืองก็ต้องกลับไปหาประชาชน
ไม่ใช่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ แล้วรอเลื่อนขั้นแบบข้าราชการ หรือ พวกรัฐวิสาหกิจ
มีตัวอย่างมาเยอะแล้วฮะ คนประเภทที่ด่านักการเมืองเลวยังโง้นยังงี้ พอเข้ามาสัมผัสการเมืองด้วยตัวเอง
มันกลับเลวยิ่งกว่า คนที่ตัวเองเคยด่าเสียอีก
....... ด้วยความหวังดีฮะ
-----------------
OK. น่ะ ท่านผู้นํา
ผมเชื่อว่า ที่สุดแล้ว ..... ท่านผู้นํา คงไม่มีวันทําสําเร็จ
ไม่ได้ปรามาส แต่ผมคิดว่ามันคงไม่ต่างจากการยึดอํานาจ ในครั้งที่ผ่านๆมา
พล.เอก ประยุทธ์ ท่านไม่มีวันเข้าใจการเมือง จากมุมมองของผู้นํากองทัพ ในตอนนี้หรอกฮะ
( ก็ไม่ต่างกับที่คนไทยบางกลุ่มชอบตอบโต้ฝรั่งว่า เขาไม่เข้าใจวัฒนธรรมการเมืองของเรา)
ด้วยแต่ละแวดวง ก็มีทั้งวัฒนธรรม มีทั้งปัจจัยแวดล้อม ที่แตกต่างกันไป
คนในวัฒนธรรมหนึ่ง จะเข้ามาแก้ปัญหาให้กับคนอีกวัฒนธรรมหนึ่ง แล้วจะแก้ได้อย่างไรกันฮะ
เหมือนที่กองทัพ ไม่เคยเชื่อในเรื่องอุดมการณ์ของมนุษย์
เพราะวัฒนธรรมในกองทัพ คือการปลูกฝัง ให้ปฏิบัติตามคําสั่งผู้บังคับบัญชา
ซึ่งมันคนละขั้วกับระบบประชาธิปไตย อย่างสิ้นเชิงเลยฮะ
การที่จะเข้ามาแก้ปัญหา จะอาศัย แค่เจตนาดี หรือความรักชาติอย่างเดียวคงไม่พอ
พล.เอก ประยุทธ์...ฮะ ท่านต้องมาสัมผัสการเมืองด้วยตัวเองถึงจะรู้ ถึงจะเข้าใจ สัจธรรมการเมืองอย่างแท้จริง
หากคนซื้อไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ซื้อ
แม้จะพิถีพิถัน มีเจตนา ความตั้งใจดีเอย่างไร สุดท้ายก็จะต้องมีปัญหาในทางปฏิบัติตามมาอย่างแน่นอนเลยฮะ
ง่ายที่สุด.....ก็ลองถามรุ่นพี่ของท่าน ที่ชื่อ พล.เอก สินธิ ดูสิฮะ
หลังเกษียณแล้ว มาลงเล่นการเมือง ความรู้สึก หรือ ทัศนคติที่มีต่อการเมือง
มันเหมือนหรือต่างกัน กับก่อนหน้าที่นํากองทัพออกมายึดอํานาจ อย่างไร
จากก่อนหน้าที่เคยขึงขัง มองนักการเมืองเป็นพวกชั่วร้ายที่ต้องกําจัด แล้วเหตุผลอะไร
ตอนนี้ พล.เอก สินธิ ถึงกลับมีท่าทีเปลี่ยนไป
ผมว่าจุดยืน พล.เอก สินธิ ไม่ได้เปลี่ยนไปจากวันที่ยึดอํานาจหรอกฮะ
เพียงแต่เมื่อมาสัมผัสการเมืองด้วยตัวเอง ทําให้ได้เรียนรู้ และเข้าใจวิถีทางการเมืองมากขึ้น
ท่าน พล.เอก ประยุทธ์ ควรศึกษาธรรมขาติของการเมืองให้เข้าใจถึงแก่นแท้ก่อนนะฮะ แล้วค่อยจัดการกับปัญหา
อย่าไปหลงกับคํายุยงปลุกปั่นของพวกความคิดสุดโต่ง ไม่งั้นปัญหามันก็จะวนกลับมาที่เก่าอีก
อย่าเอาวิธีคิดของนักวิชาการ นักการทหาร มาใช้กับนักการเมืองเลยน่ะฮะ (..ข้อร้อง )
ก็อย่างที่บอก ทั้งวัฒนธรรม ทั้งปัจจัยแวดล้อม มันต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ไม่ว่าท่านจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร
เมื่อถึงเวลาหนึ่ง นักการเมือง ก็ต้องปรับตัวเข้าสู่โหมดธรรมชาติของนักการเมืองอยู่วันยังคํ่า
จะให้อยู่แบบฝืนธรรมชาตินักการเมือง มันคงเป็นไปไม่ได้
เพราะที่สุดแล้ว นักการเมืองก็ต้องกลับไปหาประชาชน
ไม่ใช่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ แล้วรอเลื่อนขั้นแบบข้าราชการ หรือ พวกรัฐวิสาหกิจ
มีตัวอย่างมาเยอะแล้วฮะ คนประเภทที่ด่านักการเมืองเลวยังโง้นยังงี้ พอเข้ามาสัมผัสการเมืองด้วยตัวเอง
มันกลับเลวยิ่งกว่า คนที่ตัวเองเคยด่าเสียอีก
....... ด้วยความหวังดีฮะ
-----------------
OK. น่ะ ท่านผู้นํา