สืบเนื่องจากที่ผมได้อ่านบทความของคุณสุขุมจากลิงค์นี้ครับ
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1403754554
ถึงแม้มันจะเป็นบทความที่เน้นการคืนความสุขให้กับประชาชนก็ตาม แต่ในบทความมีหลายจุดที่ไม่สมบูรณ์ครับคุณสุขุม และก็มีหลายจุดที่ทำให้บทความนี้ดูไปคล้ายกับการเขียนขึ้น เพื่อที่จะแสดงการยอมรับในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
อย่างเช่นที่คุณสุขุมพูดว่า ที่ผ่านมาใครเอา “ความสุข”ไปหมด ก็คงไม่ต้องอธิบายให้ยึดยาวนั้น ผมคิดว่านี่คือความไม่สมบูรณ์ของบทความนี้อย่างยิ่งเลยครับ
คุณสุขุมครับ เรื่องอย่างนี้สิครับที่คุณสุขุมจะต้องอธิบายให้ยึดยาว ไม่ว่าในฐานะของ รศ.ดร. ไม่ว่าในฐานะครูบาอาจารย์ ไม่ว่าในฐานะนักวิชาการ หรือไม่ว่าจะเป็นในฐานะของเจ้าพ่อโพล คุณสุขุมจะต้องวิเคราะห์หาต้นตอแห่งปัญหา เพื่อที่จะบอกให้สังคมได้รับรู้ ไม่ใช่โยนความผิดไปให้ฝ่ายการเมืองอย่างมักง่ายนะครับ
คุณสุขุมครับ ตราบใดที่ต้นตอแห่งปัญหาไม่ได้รับการขจัด ปัญหาจะไม่มีวันหมดไป ความสุขของประชาชนจะไม่มีทางได้กลับคืนมาอย่างยั่งยืนเด็ดขาด การคืนความสุขของ คสช.จึงเป็นเพียงการคืนความสุขชั่วคราวเท่านั้น แล้วความขัดแย้งก็จะเกิดขึ้นมาอีกในวันข้างหน้า
คุณสุขุมครับ ปัญหาความขัดแย้งของประเทศ ไม่ใช่เกิดเพราะนักการเมืองแย่งชิงอำนาจกันนะครับ แต่เป็นการแย่งชิงอำนาจระหว่างฝ่ายที่สูญเสียอำนาจ กับ ฝ่ายที่ได้รับมอบอำนาจจากประชาชนต่างหากครับ
แต่ถ้าการแย่งชิงอำนาจเป็นไปตามกฎกติกาที่ผ่านประชามติมาแล้ว ความวุ่นวายก็จะไม่มี ดังนั้นความวุ่นวายที่เกิดขึ้น จึงเกิดจากการไม่เคารพกติกาต่างหากครับ เรื่องอย่างนี้คุณสุขุมไม่พูดไม่ได้นะครับ
จะไปเหมารวมพรรคการเมืองที่มาอย่างถูกต้องชอบธรรม กับ พรรคการเมืองที่ต้องการอำนาจโดยไม่สนใจกับเสียงส่วนใหญ่ มาเป็นการสร้างความขัดแย้งของพรรคการเมืองทั้งสองฝ่ายคงไม่ได้ เพราะแม้นมีการยอมรับกติกา ปล่อยให้ประชาธิปไตยเดินไปตามครรลองของมัน ประเทศไม่มีทางวุ่นวายหรอกครับคุณสุขุม
คุณสุขุมครับ สำหรับความสุขที่ถูกปล้นชิงไปนั้น คุณสุขุมต้องเจาะลึกลงไปในปัญหา ใครกันที่ปล้นชิงไป ระหว่างรัฐบาลที่มาอย่างถูกต้อง กับ อีกฝ่ายที่จะใช้กำลังในการล้มล้างด้วยการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญไปเสียเกือบทุกเรื่อง เรื่องอย่างนี้ต้องชี้ให้ชัดนะครับคุณสุขุม ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นเยี่ยงอย่างให้สังคมสืบทอดกันต่อไป
สำหรับความสุขที่เหือดหายไปนั้น มันก็เป็นเพราะการบังคับกฎหมายไม่ได้ต่างหากครับ มันเป็นเพราะหลายฝ่ายไม่ทำตามหน้าที่ต่างหากครับ มันเป็นเพราะข้าราชการเลือกข้างต่างหากครับ ดังนั้นเราจึงได้เห็น คสช.คืนความสุขให้กับประชาชนได้อย่างง่ายดาย เพียงใช้อำนาจทางกฎหมายเข้าจัดการ พอเห็นความแตกต่างหรือยังครับคุณสุขุม
คุณสุขุมพูดถึงผลสำรวจความสุขของประชาชนในช่วงเดือนกว่าที่ผ่านมา แน่นอนครับ ไม่จำเป็นต้องสำรวจ ใครๆก็รู้เองได้ครับ เพราะม็อบมีเส้นไม่สามารถก่อความเดือดร้อนได้อีกต่อไป ม็อบไร้เส้นไม่ต้องออกมาชุมนุมต่อต้านม็อบมีเส้น ความสงบสุขย่อมเป็นที่ต้องการของคนไทยทั้งชาติ
แต่ที่คุณสุขุมอาจลืมไป เรื่องผลสำรวจที่ผ่านมา รัฐบาลก็ได้รับความนิยมจากประชาชนมากกว่าฝ่ายค้านมากมายนัก และที่เคลื่อนไหวเพื่อล้มล้างความนิยมของประชาชนก็คงปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า มันมาจากฝ่ายค้านและแนวร่วมทั้งสิ้น อย่างนี้แล้วคุณสุขุมละเสียที่จะกล่าวถึงหรือครับ
ที่น่าผิดหวังก็คือ คุณสุขุมใช้คำว่า “นักการเมืองตื่นขึ้นมาอย่างเต็มตัว”ก็ไม่รู้ว่าความสงบสุขจะคงอยู่เช่นเดิมหรือไม่? นี่หรือครับคือคำพูดของคุณสุขุม นักวิชาการ เจ้าพ่อโพลของประเทศ?
คุณสุขุมครับ ต้นเหตุมันไม่ใช่อยู่ที่นักการเมืองเพียงฝ่ายเดียวนะครับ สาเหตุที่เรายังไม่มีนักการเมืองที่มีคุณภาพเพียงพอ ไม่ใช่เพราะประชาชนส่วนใหญ่โง่ ไม่ใช่ประชาชนส่วนใหญ่เห็นแก่เงินอย่างที่หลายฝ่ายพยายามกล่าวหา เพื่อหาความชอบธรรมให้กับตัวเอง
แต่ต้นเหตุของปัญหาก็คือ ประชาชนยังไม่เคยมีอำนาจเป็นของตัวเองอย่างแท้จริงต่างหากครับ ต้นเหตุก็เพราะการถูกตัดตอนประชาธิปไตย ต้นเหตุมาจากเราไม่เคยปล่อยให้ประชาชนได้เรียนรู้กับอำนาจของตัวเอง และต้นเหตุมันเป็นเพราะประชาธิปไตยไม่มีโอกาสเดินไปตามครรลองของมันได้อย่างเต็มที่ เพื่อที่จะพัฒนาให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบต่างหากครับ
เราลองย้อนดูประเทศอื่นบ้างสิครับ คุณสุขุมเชื่อหรือครับ ประเทศที่พัฒนาแล้วทั้งหลาย นักการเมืองจะไม่มีการใช้อำนาจโดยมิชอบ นักการเมืองจะไม่มีการคอรัปชั่น มันไม่ใช่เลยครับ เพียงแต่เมื่อถูกตรวจสอบพบ พวกเขาต้องลาออก ด้วยคำพูดหรูๆ นั่นคือ จิตสำนึกทางการเมือง แต่ความจริงแล้ว พวกเขารู้ดีครับว่า อำนาจของประชาชนจะทำให้พวกเขาไม่มีที่ยืนบนถนนกลางเมืองต่างหากครับ
คุณสุขุมครับ จริงอยู่ครับ ตอนนี้เราได้ความสุขกลับคืนมาส่วนหนึ่ง แต่ถ้าคุณสุขุมยังคิดว่า นักการเมืองตื่นขึ้นมา อาจทำให้ความสุขของเราถูกปล้นชิงไปอีก นี่เป็นความคิดที่เห็นแก่ความสุขเฉพาะหน้า เพียงแต่คุณสุขุมอย่าลืมนะครับ ประเทศไทยจะไม่ทางมีความสุขได้อย่างยั่งยืน ถ้าประชาคมโลกต่างไม่คบค้าด้วย
สุดท้ายก็ได้แต่หวังว่า บทความของคุณสุขุมเป็นการเขียนขึ้นด้วยเจตนาบริสุทธิ์ ไม่ใช่หวังยศตำแหน่งเช่นเดียวกับนักการเมืองทั้งหลาย เพราะนั่นจะยิ่งทำให้ผมผิดหวังในตัวอาจารย์มากยิ่งขึ้นนะครับ
ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ครับ ผมรู้สึกผิดหวังในตัวคุณอย่างมากเลยครับ
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1403754554
ถึงแม้มันจะเป็นบทความที่เน้นการคืนความสุขให้กับประชาชนก็ตาม แต่ในบทความมีหลายจุดที่ไม่สมบูรณ์ครับคุณสุขุม และก็มีหลายจุดที่ทำให้บทความนี้ดูไปคล้ายกับการเขียนขึ้น เพื่อที่จะแสดงการยอมรับในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
อย่างเช่นที่คุณสุขุมพูดว่า ที่ผ่านมาใครเอา “ความสุข”ไปหมด ก็คงไม่ต้องอธิบายให้ยึดยาวนั้น ผมคิดว่านี่คือความไม่สมบูรณ์ของบทความนี้อย่างยิ่งเลยครับ
คุณสุขุมครับ เรื่องอย่างนี้สิครับที่คุณสุขุมจะต้องอธิบายให้ยึดยาว ไม่ว่าในฐานะของ รศ.ดร. ไม่ว่าในฐานะครูบาอาจารย์ ไม่ว่าในฐานะนักวิชาการ หรือไม่ว่าจะเป็นในฐานะของเจ้าพ่อโพล คุณสุขุมจะต้องวิเคราะห์หาต้นตอแห่งปัญหา เพื่อที่จะบอกให้สังคมได้รับรู้ ไม่ใช่โยนความผิดไปให้ฝ่ายการเมืองอย่างมักง่ายนะครับ
คุณสุขุมครับ ตราบใดที่ต้นตอแห่งปัญหาไม่ได้รับการขจัด ปัญหาจะไม่มีวันหมดไป ความสุขของประชาชนจะไม่มีทางได้กลับคืนมาอย่างยั่งยืนเด็ดขาด การคืนความสุขของ คสช.จึงเป็นเพียงการคืนความสุขชั่วคราวเท่านั้น แล้วความขัดแย้งก็จะเกิดขึ้นมาอีกในวันข้างหน้า
คุณสุขุมครับ ปัญหาความขัดแย้งของประเทศ ไม่ใช่เกิดเพราะนักการเมืองแย่งชิงอำนาจกันนะครับ แต่เป็นการแย่งชิงอำนาจระหว่างฝ่ายที่สูญเสียอำนาจ กับ ฝ่ายที่ได้รับมอบอำนาจจากประชาชนต่างหากครับ
แต่ถ้าการแย่งชิงอำนาจเป็นไปตามกฎกติกาที่ผ่านประชามติมาแล้ว ความวุ่นวายก็จะไม่มี ดังนั้นความวุ่นวายที่เกิดขึ้น จึงเกิดจากการไม่เคารพกติกาต่างหากครับ เรื่องอย่างนี้คุณสุขุมไม่พูดไม่ได้นะครับ
จะไปเหมารวมพรรคการเมืองที่มาอย่างถูกต้องชอบธรรม กับ พรรคการเมืองที่ต้องการอำนาจโดยไม่สนใจกับเสียงส่วนใหญ่ มาเป็นการสร้างความขัดแย้งของพรรคการเมืองทั้งสองฝ่ายคงไม่ได้ เพราะแม้นมีการยอมรับกติกา ปล่อยให้ประชาธิปไตยเดินไปตามครรลองของมัน ประเทศไม่มีทางวุ่นวายหรอกครับคุณสุขุม
คุณสุขุมครับ สำหรับความสุขที่ถูกปล้นชิงไปนั้น คุณสุขุมต้องเจาะลึกลงไปในปัญหา ใครกันที่ปล้นชิงไป ระหว่างรัฐบาลที่มาอย่างถูกต้อง กับ อีกฝ่ายที่จะใช้กำลังในการล้มล้างด้วยการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญไปเสียเกือบทุกเรื่อง เรื่องอย่างนี้ต้องชี้ให้ชัดนะครับคุณสุขุม ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นเยี่ยงอย่างให้สังคมสืบทอดกันต่อไป
สำหรับความสุขที่เหือดหายไปนั้น มันก็เป็นเพราะการบังคับกฎหมายไม่ได้ต่างหากครับ มันเป็นเพราะหลายฝ่ายไม่ทำตามหน้าที่ต่างหากครับ มันเป็นเพราะข้าราชการเลือกข้างต่างหากครับ ดังนั้นเราจึงได้เห็น คสช.คืนความสุขให้กับประชาชนได้อย่างง่ายดาย เพียงใช้อำนาจทางกฎหมายเข้าจัดการ พอเห็นความแตกต่างหรือยังครับคุณสุขุม
คุณสุขุมพูดถึงผลสำรวจความสุขของประชาชนในช่วงเดือนกว่าที่ผ่านมา แน่นอนครับ ไม่จำเป็นต้องสำรวจ ใครๆก็รู้เองได้ครับ เพราะม็อบมีเส้นไม่สามารถก่อความเดือดร้อนได้อีกต่อไป ม็อบไร้เส้นไม่ต้องออกมาชุมนุมต่อต้านม็อบมีเส้น ความสงบสุขย่อมเป็นที่ต้องการของคนไทยทั้งชาติ
แต่ที่คุณสุขุมอาจลืมไป เรื่องผลสำรวจที่ผ่านมา รัฐบาลก็ได้รับความนิยมจากประชาชนมากกว่าฝ่ายค้านมากมายนัก และที่เคลื่อนไหวเพื่อล้มล้างความนิยมของประชาชนก็คงปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า มันมาจากฝ่ายค้านและแนวร่วมทั้งสิ้น อย่างนี้แล้วคุณสุขุมละเสียที่จะกล่าวถึงหรือครับ
ที่น่าผิดหวังก็คือ คุณสุขุมใช้คำว่า “นักการเมืองตื่นขึ้นมาอย่างเต็มตัว”ก็ไม่รู้ว่าความสงบสุขจะคงอยู่เช่นเดิมหรือไม่? นี่หรือครับคือคำพูดของคุณสุขุม นักวิชาการ เจ้าพ่อโพลของประเทศ?
คุณสุขุมครับ ต้นเหตุมันไม่ใช่อยู่ที่นักการเมืองเพียงฝ่ายเดียวนะครับ สาเหตุที่เรายังไม่มีนักการเมืองที่มีคุณภาพเพียงพอ ไม่ใช่เพราะประชาชนส่วนใหญ่โง่ ไม่ใช่ประชาชนส่วนใหญ่เห็นแก่เงินอย่างที่หลายฝ่ายพยายามกล่าวหา เพื่อหาความชอบธรรมให้กับตัวเอง
แต่ต้นเหตุของปัญหาก็คือ ประชาชนยังไม่เคยมีอำนาจเป็นของตัวเองอย่างแท้จริงต่างหากครับ ต้นเหตุก็เพราะการถูกตัดตอนประชาธิปไตย ต้นเหตุมาจากเราไม่เคยปล่อยให้ประชาชนได้เรียนรู้กับอำนาจของตัวเอง และต้นเหตุมันเป็นเพราะประชาธิปไตยไม่มีโอกาสเดินไปตามครรลองของมันได้อย่างเต็มที่ เพื่อที่จะพัฒนาให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบต่างหากครับ
เราลองย้อนดูประเทศอื่นบ้างสิครับ คุณสุขุมเชื่อหรือครับ ประเทศที่พัฒนาแล้วทั้งหลาย นักการเมืองจะไม่มีการใช้อำนาจโดยมิชอบ นักการเมืองจะไม่มีการคอรัปชั่น มันไม่ใช่เลยครับ เพียงแต่เมื่อถูกตรวจสอบพบ พวกเขาต้องลาออก ด้วยคำพูดหรูๆ นั่นคือ จิตสำนึกทางการเมือง แต่ความจริงแล้ว พวกเขารู้ดีครับว่า อำนาจของประชาชนจะทำให้พวกเขาไม่มีที่ยืนบนถนนกลางเมืองต่างหากครับ
คุณสุขุมครับ จริงอยู่ครับ ตอนนี้เราได้ความสุขกลับคืนมาส่วนหนึ่ง แต่ถ้าคุณสุขุมยังคิดว่า นักการเมืองตื่นขึ้นมา อาจทำให้ความสุขของเราถูกปล้นชิงไปอีก นี่เป็นความคิดที่เห็นแก่ความสุขเฉพาะหน้า เพียงแต่คุณสุขุมอย่าลืมนะครับ ประเทศไทยจะไม่ทางมีความสุขได้อย่างยั่งยืน ถ้าประชาคมโลกต่างไม่คบค้าด้วย
สุดท้ายก็ได้แต่หวังว่า บทความของคุณสุขุมเป็นการเขียนขึ้นด้วยเจตนาบริสุทธิ์ ไม่ใช่หวังยศตำแหน่งเช่นเดียวกับนักการเมืองทั้งหลาย เพราะนั่นจะยิ่งทำให้ผมผิดหวังในตัวอาจารย์มากยิ่งขึ้นนะครับ