โดยรวมอัลบั้มนี้ยังมีความเป็น Coldplay อยู่ในสัดส่วนที่พอดี เพลงอาจจะไม่เนิบนาบแบบชุดแรกๆ (จริงๆก็ไม่เนิบมาตั้งกะอัลบั้มก่อนๆละ) บวกกับมีพวก String เครื่องสายบวกเข้ามาค่อนข้างมาก ทำให้เพลงฟังค่อนข้างอลังการทีเดียว คอนเซ๊ปของอัลบั้มก็ไม่เลวทีเดียวคือ a haunting, ambient teardrop สมชื่อ Ghost Stories ซึ่งเป็นอัลบั้มที่ 6 หลังจากห่างหายไปนานกว่า 3 ปี
อัลบั้มเปิดตัวมาด้วยเพลง Always in my head ที่เหมาะเป็นเพลงแรกของอัลบั้มมากๆ งานดนตรีฟังดูอลังการด้วยเสียงประสานในตอนต้นกับจังหวะเพลงที่เนิบๆไม่ช้าไม่เร็ว เนื้อหาของเพลงค่อนข้างเรียบง่าย คือการพร่ำพรรณาของชายคนนึงที่อกหักต่อผู้หญิงที่เค้ารัก และการเริ่มต้นของการพร่ำเพร้อพรรณาก็ได้เปิดฉากขึ้นด้วยเพลงนี้นั่นเองครับ
เพลงที่สองกับ Magic เพลงโปรโมทของอัลบั้ม ที่เป็นร็อคสไตลล์ Coldplay ที่เรียบง่าย น้อยๆแต่เก็บ Detail และการร้องที่ค่อนข้างแปลก มีการเอื้อนแปลกๆ แต่เพราะดี เนื้อหาก็พูดถึงความสัมพันธ์ในอดีตที่จบสิ้นไปแล้ว แต่เมื่อมองกลับไปก็เป็นเหมือนเวทมนต์ เหมือนการแสดงโชว์มายากลบนเวที ซึ่งก็ถูกนำเสนอในรูปแบบ MV โดยมี จางซียี่ มาแสดงเป็นนางเอกด้วย
เพลงที่สาม Ink เป็นเพลงที่ส่วนตัวชอบที่สุดในอัลบั้มนี้ ด้วยความที่ฟังสบายแฝงเนื้อหาเวิ่นเว้อประมาณว่า ความรักที่จบไปแล้วเหมือน รอยสัก เหมือนหมึกที่ติดอยู่และไม่สามารถลบออกไปจากชีวิตได้ง่ายๆ ด้วยลายกีต้าที่ฟังสบายทำให้ส่วนตัวชอบเพลงนี้มากครับ
เพลงต่อมา True Love ยังคงเป็นเพลงที่พร่ำพรรณาถึงความรักที่จากไป มาถึงจุดนี้จะพอเข้าใจเลยว่า อัลบั้มนี้มันเป็นการถ่ายทอดอารมณ์ของ Chis Martin นักร้องของวงที่ต้องเลิกรากับภรรยา Gwyneth Paltrow ไปเมื่อไม่นานมานี้หลังจากคบกันมานานมาก พร้อมกับกล่าวว่าเป็นความผิดของตัวเขาเอง เพลงนี้ยังเป็นเพลงโปรดของเจ้าตัวอีกด้วย พอรู้ถึงเบื้องหลังแล้วยิ่งทำให้เพลงนี้ยิ่งเศร้าเข้าไปใหญ่ กับประโยคที่ว่า Tell me you love me. If you don´t, then lie. Lie to me
Midnight ซิงเกิ้ลแรกสุดของอัลบั้มนี้ที่ปล่อยออกมา ด้วยสไตลล์ที่ค่อนข้างแตกต่างกับการ Distort เสียงร้องของ Chis Martin เรียกว่าเป็นเพลงลองเชิงสำหรับอัลบั้มนี้เลยดีกว่า
ต่อเนื่องมาจาก Midnight กับ Another's Arms ที่เป็นเหมือนการต่อยอดมาจาก Midnight คือเสียงร้องที่มีการดัดแปลง มีการ Distort ประกอบกับเสียงคอรัสหญิงหลอนๆอยู่ด้านหลัง กล่าวว่าเพลงนี้คือเป็นอารมณ์เบื้องลึกของผู้เล่า ที่เมื่อคนรักจากไป ก็รำลึกถึงความหลังครั้งที่ยังเคยมีกันอยู่
Oceans เป็นเพลงที่คิดว่า ได้อารมณ์เพลงของ Coldplay ชุดเก่าๆที่สุด ด้วยสไตลล์ของดนตรีและกีต้า ที่จะเนิบๆเป็นสไตลล์เฉพาะตัว เพลงนี้จะฟังสบายขึ้นมานิดนึงหลังจากที่หลอนๆติดกันมาหลายเพลง เหมาะกับชื่อเพลง Oceans ตอนช่วงท้ายของเพลงจะเป็นการลากยาวของเครื่องดนตรีที่คล้ายกับเสียงสะท้อนของแสงที่กระทบกับคลื่นทะเล มีเสียงคลื่นทะเลแทรกเข้ามาเป็นระยะๆตลอดเวลาประมาณ นาทีกว่าๆเกือบ 2 นาทีได้
หลังจากคลื่นลมสงบ เสียงเปียโนก็ดังกระหึ่มขึ้น กับเพลง A Sky Full of Stars แบบต่อเนื่อง เป็นเพลงที่ได้อีกอารมณ์ เรียกว่ากระชากอารมณ์กันเลยกับเพลงนี้ ที่เปป็นเพลงแบบ Upbeat ฟังสนุกแบบอยากลุกขึ้นมาเต้นเลยทีเดียว หลังจากที่เศร้าหดหู่กันมากว่าครึ่งค่อนอัลบั้ม
Fly on (O) เพลงที่เหมือนเป็นเพลงจบของอัลบั้ม ด้วยเสียงเปียโน เหมือนเป็นการปิดม่านของหนังหรือเรื่องราวความรัก เนื้อหาเปรียบเทียบความรักเหมือนฝูงนกที่บินผ่านมาและผ่านไปอยู่เบื้องบนท้องฟ้า เป็นเพลงที่เนื้อหาเศร้าเชิงเปรียบเทียบ แต่เหมือนเป็นการปลงชีวิตหรือความรักมากกว่า ตอนจบของเพลงยังใช้เสียงประสานแบบเดียวกับตอนขึ้นต้นเพลง Always In My Head อีกด้วย เป็นเหมือนการปิดฉากอัลบั้มและวนเวียนไปให้ฟังใหม่ เปรียบเหมือนเรื่องราวความรักที่เวียนว่ายวนเวียนซ้ำๆไม่มีวันจบ
(Deluxe Edition จะมีเพลง All Your Friends กับเพลง Ghost Story และ O Part 2 เพิ่มเข้ามาด้วย แต่ส่วนตัวคิดว่าถ้าจบด้วยเพลงนี้จะลงตัวสุดๆแล้วล่ะครับ)
สรุป ผมว่าอัลบั้มนี้เป็นอีกอัลบั้มคุณภาพเลยทีเดียวนะ ทุกเพลงเรียกว่าโดดเด่นในตัวเอง แถมเรื่องราวก็เป็นการถ่ายทอดความรู้สึกของตัว Chris Martin หลังจากเลิกรามันเลยยิ่งอินมั้ง เนื้อหาเพลงส่วนใหญ่อาจจะดูพร่ำเพร้อพรรณาแต่ความหลังที่ไม่สมหวังไปบ้าง แต่ดนตรีคุณภาพจริงๆ แถม Sound ก็สุดยอดมาก เป็นอัลบั้มแนะนำในช่วงเวลานี้เลยทีเดียวครับ
Coldplay: Ghost Stories ★★★★★ เลยครับ
[CR] รีวิว Ghost Stories อัลบั้มล่าสุดของ Coldplay ครับ
อัลบั้มเปิดตัวมาด้วยเพลง Always in my head ที่เหมาะเป็นเพลงแรกของอัลบั้มมากๆ งานดนตรีฟังดูอลังการด้วยเสียงประสานในตอนต้นกับจังหวะเพลงที่เนิบๆไม่ช้าไม่เร็ว เนื้อหาของเพลงค่อนข้างเรียบง่าย คือการพร่ำพรรณาของชายคนนึงที่อกหักต่อผู้หญิงที่เค้ารัก และการเริ่มต้นของการพร่ำเพร้อพรรณาก็ได้เปิดฉากขึ้นด้วยเพลงนี้นั่นเองครับ
เพลงที่สองกับ Magic เพลงโปรโมทของอัลบั้ม ที่เป็นร็อคสไตลล์ Coldplay ที่เรียบง่าย น้อยๆแต่เก็บ Detail และการร้องที่ค่อนข้างแปลก มีการเอื้อนแปลกๆ แต่เพราะดี เนื้อหาก็พูดถึงความสัมพันธ์ในอดีตที่จบสิ้นไปแล้ว แต่เมื่อมองกลับไปก็เป็นเหมือนเวทมนต์ เหมือนการแสดงโชว์มายากลบนเวที ซึ่งก็ถูกนำเสนอในรูปแบบ MV โดยมี จางซียี่ มาแสดงเป็นนางเอกด้วย
เพลงที่สาม Ink เป็นเพลงที่ส่วนตัวชอบที่สุดในอัลบั้มนี้ ด้วยความที่ฟังสบายแฝงเนื้อหาเวิ่นเว้อประมาณว่า ความรักที่จบไปแล้วเหมือน รอยสัก เหมือนหมึกที่ติดอยู่และไม่สามารถลบออกไปจากชีวิตได้ง่ายๆ ด้วยลายกีต้าที่ฟังสบายทำให้ส่วนตัวชอบเพลงนี้มากครับ
เพลงต่อมา True Love ยังคงเป็นเพลงที่พร่ำพรรณาถึงความรักที่จากไป มาถึงจุดนี้จะพอเข้าใจเลยว่า อัลบั้มนี้มันเป็นการถ่ายทอดอารมณ์ของ Chis Martin นักร้องของวงที่ต้องเลิกรากับภรรยา Gwyneth Paltrow ไปเมื่อไม่นานมานี้หลังจากคบกันมานานมาก พร้อมกับกล่าวว่าเป็นความผิดของตัวเขาเอง เพลงนี้ยังเป็นเพลงโปรดของเจ้าตัวอีกด้วย พอรู้ถึงเบื้องหลังแล้วยิ่งทำให้เพลงนี้ยิ่งเศร้าเข้าไปใหญ่ กับประโยคที่ว่า Tell me you love me. If you don´t, then lie. Lie to me
Midnight ซิงเกิ้ลแรกสุดของอัลบั้มนี้ที่ปล่อยออกมา ด้วยสไตลล์ที่ค่อนข้างแตกต่างกับการ Distort เสียงร้องของ Chis Martin เรียกว่าเป็นเพลงลองเชิงสำหรับอัลบั้มนี้เลยดีกว่า
ต่อเนื่องมาจาก Midnight กับ Another's Arms ที่เป็นเหมือนการต่อยอดมาจาก Midnight คือเสียงร้องที่มีการดัดแปลง มีการ Distort ประกอบกับเสียงคอรัสหญิงหลอนๆอยู่ด้านหลัง กล่าวว่าเพลงนี้คือเป็นอารมณ์เบื้องลึกของผู้เล่า ที่เมื่อคนรักจากไป ก็รำลึกถึงความหลังครั้งที่ยังเคยมีกันอยู่
Oceans เป็นเพลงที่คิดว่า ได้อารมณ์เพลงของ Coldplay ชุดเก่าๆที่สุด ด้วยสไตลล์ของดนตรีและกีต้า ที่จะเนิบๆเป็นสไตลล์เฉพาะตัว เพลงนี้จะฟังสบายขึ้นมานิดนึงหลังจากที่หลอนๆติดกันมาหลายเพลง เหมาะกับชื่อเพลง Oceans ตอนช่วงท้ายของเพลงจะเป็นการลากยาวของเครื่องดนตรีที่คล้ายกับเสียงสะท้อนของแสงที่กระทบกับคลื่นทะเล มีเสียงคลื่นทะเลแทรกเข้ามาเป็นระยะๆตลอดเวลาประมาณ นาทีกว่าๆเกือบ 2 นาทีได้
หลังจากคลื่นลมสงบ เสียงเปียโนก็ดังกระหึ่มขึ้น กับเพลง A Sky Full of Stars แบบต่อเนื่อง เป็นเพลงที่ได้อีกอารมณ์ เรียกว่ากระชากอารมณ์กันเลยกับเพลงนี้ ที่เปป็นเพลงแบบ Upbeat ฟังสนุกแบบอยากลุกขึ้นมาเต้นเลยทีเดียว หลังจากที่เศร้าหดหู่กันมากว่าครึ่งค่อนอัลบั้ม
Fly on (O) เพลงที่เหมือนเป็นเพลงจบของอัลบั้ม ด้วยเสียงเปียโน เหมือนเป็นการปิดม่านของหนังหรือเรื่องราวความรัก เนื้อหาเปรียบเทียบความรักเหมือนฝูงนกที่บินผ่านมาและผ่านไปอยู่เบื้องบนท้องฟ้า เป็นเพลงที่เนื้อหาเศร้าเชิงเปรียบเทียบ แต่เหมือนเป็นการปลงชีวิตหรือความรักมากกว่า ตอนจบของเพลงยังใช้เสียงประสานแบบเดียวกับตอนขึ้นต้นเพลง Always In My Head อีกด้วย เป็นเหมือนการปิดฉากอัลบั้มและวนเวียนไปให้ฟังใหม่ เปรียบเหมือนเรื่องราวความรักที่เวียนว่ายวนเวียนซ้ำๆไม่มีวันจบ
(Deluxe Edition จะมีเพลง All Your Friends กับเพลง Ghost Story และ O Part 2 เพิ่มเข้ามาด้วย แต่ส่วนตัวคิดว่าถ้าจบด้วยเพลงนี้จะลงตัวสุดๆแล้วล่ะครับ)
สรุป ผมว่าอัลบั้มนี้เป็นอีกอัลบั้มคุณภาพเลยทีเดียวนะ ทุกเพลงเรียกว่าโดดเด่นในตัวเอง แถมเรื่องราวก็เป็นการถ่ายทอดความรู้สึกของตัว Chris Martin หลังจากเลิกรามันเลยยิ่งอินมั้ง เนื้อหาเพลงส่วนใหญ่อาจจะดูพร่ำเพร้อพรรณาแต่ความหลังที่ไม่สมหวังไปบ้าง แต่ดนตรีคุณภาพจริงๆ แถม Sound ก็สุดยอดมาก เป็นอัลบั้มแนะนำในช่วงเวลานี้เลยทีเดียวครับ
Coldplay: Ghost Stories ★★★★★ เลยครับ