เตือนภัยผู้หญิง ระวังถูกแอบดูในห้องน้ำร้านอาหาร

กระทู้สนทนา
เตือนภัยผู้หญิง ระวังถูกแอบดูในห้องน้ำร้านอาหาร

    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา คือวันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน 2557 ครับ คิดอยู่หลายวันเลยทีเดียว กว่าจะโพสต์ ก็ครบ 1สัปดาห์พอดี ในที่สุดก็ตัดสินใจได้ว่า ปล่อยไว้ไม่ได้ละ ไม่รู้จะมีอีกกี่คนที่จะโดนอีก เข้าเรื่องเลยละกัน คือเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ลูกชาย ไปแข่งกีฬาบาสเกตบอลโรงเรียน ที่อยู่ในสังกัด สพฐ. จัดการแข่งขันที่โรงเรียนสตรีวิทยา 2  หลังจากเลิกงาน ก็ได้ขับรถไปรับลูกที่โรงเรียนสตรีวิทยา 2  โดยได้แวะรับลูกคนเล็ก แถวประชานิเวนศ์ก่อน หลังจากนั้นก็เดินทางไปรับลูกคนโตที่สตรีวิทยา 2  กว่าจะถึงก็ 6 โมงครึ่ง เนื่องจากเส้น เกษตร รถติดมาก หลังจากรับลูกแล้ว ก็ถึงเวลาอาหารเย็นละ ซึ่งตอนแรก จะหาร้านอาหารแถวๆ เกษตร-นวมินทร์ นี่ละ ร้านอาหารเยอะดี  แต่หาร้านนั่งชิวๆ ยากเนื่องจากมีเด็กๆมาด้วย ก็เลยลงความเห็นกันว่า ไปหาร้านใกล้ๆ บ้านที่เด็กๆก็นั่งได้ ก็เลยจบลงที่ร้านอาหารที่คุ้นเคยที่กำลังจะกล่าวถึงต่อไปนี้  ลืมบอกไป บ้านผมอยู่ในถนนสามัคคี ครับ
           ร้านอาหารร้านนี้ ขายอาหารจำพวกสเต็กครับ ซึ่งร้านนี้เป็นร้านที่มาทานอาหารกลางวันกันบ่อยๆ ใน วันหยุด เสาร์ อาทิตย์  เพราะรสชาติอาหาร อร่อย ราคาไม่แพงมากนัก  และใกล้บ้าน  หลังจากฝ่าแดนนรก รถติด เส้นเกษตร-นวมินทร์ ก็มาถึงจุดหมายปลายทางประมาณ 1 ทุ่มครึ่ง ร้านนี้จะมีให้เลือกนั่งทั้งแบบ Out Door กับ inDoor ห้องแอร์  เราเลือกที่จะนั่งข้างนอก พอได้โต๊ะนั่งแล้ว ภรรยา ก็ขอเข้าห้องน้ำก่อน โดยพาลูกชายคนเล็ก ไปเป็นเพื่อนด้วย (ลูกคนเล็ก 8 ขวบ คนโต 13 ขวบ) ส่วนผมกับลูกชายคนโตนั่งรอที่โต๊ะเพื่อรอสั่งอาหาร พอนั่งได้ซักพัก  ภรรยา ก็เดินหน้าตาตื่นออกมา บอกว่า เค้าเห็นเหมือนมีคน ชะโงก ข้ามมาดู จากฝั่งกำแพงด้านบนของห้องน้ำชาย  ผมได้ยินดังนั้น ก็รีบเดินไปดูที่ห้องน้ำทันทีพร้อมกับภรรยา ซึ่งภรรยาก็ได้พาไปชี้จุดเกิดเหตุ ผมได้เดินเข้าไปดูที่ห้องน้ำหญิง ห้องที่ภรรยาเข้า โดยกำแพงห้องน้ำหญิงและชายติดกัน ด้านบนของกำแพงเปิดโล่งไม่มีอะไรปิด          
           หลังจากดูห้องน้ำหญิงจนเป็นที่พอใจแล้ว ก็ถึงคิวห้องน้ำชายบาง ระหว่างนั้นภรรยาผมก็ไปหาเจ้าของร้าน ซักพักภรรยาก็พาผู้จัดการร้านมา เป็นหญิงลักษณะห้าวๆคล้ายทอม เพราะเจ้าของร้านไม่อยู่ มากับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง คนนี้ไม่รู้เป็นใครเพราะไม่ได้ใส่ชุดพนักงาน ผมได้เข้ามารออยู่แล้ว  โดยห้องน้ำชายจะแบ่งเป็น 2 โซน คือโซนโถปัสสาวะชาย และห้องน้ำ อีก 1 ห้อง  ในห้องน้ำว่างเปล่า ไม่มีใครใช้ห้องน้ำเลย ผมพยายามหาร่องรอยของไอโรคจิต และตรวจดูว่ามันสามารถแอบดูได้จากจุดไหน  ซึ้งจากการตรวจสอบพบว่า สามามารถดูได้โดยปีนขึ้นไปเหยียบถังพักน้ำของชักโครก จึงพยายามหาร่องรอย ในที่สุดก็พบรอยรองเท้าอยู่บนฝาถังพักน้ำชักโครก ลักษณะรอยคล้ายพื้นรองเท้านันยาง หรือไม่ก็รองเท้าแตะ ที่ย่ำน้ำมาไม่ใช่เป็นรอยโคลน เพราะห้องน้ำที่นี้ค่อนข้างแฉะ ไม่ค่อยจะสะอาดซักเท่าไร พอเจอผมก็ชี้ให้ผู้จัดการดูรอยเท้า และรอยกำแพงด้านที่ติดกับห้องน้ำหญิงก็เป็นรอยดำๆลักษณะเป็นรอยมือจับหรือเกาะเต็มไปหมด เหมือนเคยผ่านมือคนที่แอบดูมานับไม่ถ้วน
           จากนั้นผู้จัดการได้เล่าว่า ก่อนหน้านี้ ที่เค้าทำอยู่ที่ร้านนี้นั้น ช่องด้านบนของกำแพงเคยถูกปิดกั้นไว้ แต่หลังจากเค้าลาออกไป และกลับเข้ามาทำงานที่นี้ใหม่มันก็ไม่มีแล้ว  ผมก็แจ้งว่าควรจะปิดนะ มันอัตราย ผจก.ร้านก็บอกว่าจะแก้ไข  เราทั้งหมดก็ช่วยกันวิเคราะห์กันว่าน่าจะเป็นใคร แต่คงจะหาตัวคนทำคงยาก เพราะ ภรรยาไม่เห็นใบหน้า จำได้แค่ทรงผมสั้น ออกหยิก ซึ้งมันก็ไม่ชัดเจนอยู่ดี เพราะเห็นแว๊บเดียวเท่านั้น พนักงานชายในร้านทรงผมก็สั้นๆกันทั้งนั้น ส่วนตัวผมสงสังว่าน่าจะเป็นพนักงาน แต่ ผจก.ร้านบอกไม่น่าจะใช่นะ น่าจะเป็นลูกค้ามากกว่า นั้นแน่ะๆ ปัดสวะให้พ้นตัว (ผมคิดในใจนะ) ซึ้งอันนี้ก็เข้าใจเค้านะ เค้าต้องปกป้องพนักงานและชื่อเสียงของร้านไว้ก่อนอยู่แล้วล่ะแต่จะโยนอึให้ลูกค้ามันก็ไม่ถูกเช่นกัน เพราะก็ไม่มีหลักฐานอะไรที่จะบอกว่าเป็นพนักงานหรือลูกค้าที่มาทานอาหาร หลังจากนั้นเราก็แยกย้ายกัน  ผมกับภรรยา ก็เดินกลับมานั่งที่โต๊ะเพื่อมาสั่งอาหาร เพราะยังไม่ได้สั่งอาหารกันเลยลูกๆก็รอเรา พอสั่งอาหารกันเสร็จผมก็ได้ซักถาม ภรรยากับลูกคนเล็กโดยละเอียดอีกครั้ง  ภรรยาก็ยืนยันว่าเห็นแว๊บเดียว ตอนแรกเค้าก็ตกใจ ทำอะไรไม่ถูก นึกว่าผีหลอก 5555 เพราะมันเร็วมาก ไม่รู้มีอะไรมาดลใจให้เงยขึ้นมองด้านบน พอเงยหน้ามองมันก็พลุบหายพ้นขอบผนังไป เลยหันไปถามที่ลูกคนเล็ก เพราะตอนไปเป็นเพื่อนแม่ เค้าเดินไปฉี่ที่ห้องน้ำชายมา ก่อนๆที่จะเดินมายืนรอที่หน้าห้องน้ำที่แม่เข้าอยู่ ก็ถามลูกว่าเห็นใครเดินเข้าออกห้องน้ำชายไหม เค้าบอกไม่เห็นใครนะป๊ะป๋า แล้วในห้องน้ำชายละมีใครเข้าไหม เค้าบอกไม่รู้ไม่ได้สังเกตุ  จบข่าว มืดแปดด้าน หรือว่าจะเป็นผีหลอกจริงๆหว่า 5555
           รอซักพักอาหารก็มา นั่งทานได้ไม่นาน เจ้าตัวเล็กก็บอกปวดเข้าห้องน้ำ ให้ช่วยพาไปหน่อยผมก็เลยต้องพาไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งก็เป็นห้องน้ำห้องเดียวกันกับที่ไอโรดจิตใช้แอบมองนั้นแหละ(ก็มันมีห้องเดียวนี่หน่า) พอเข้าห้องน้ำ สภาพห้องน้ำเป็นดังที่บอกไว้ด้านบน จึงต้องใช้สายชำระฉีดล้างที่นั่งชักโครก กระดาษชำระก็ไม่มีให้เช็ด ก็ต้องนั่งแบบเปียกๆไปนะลูก  ระหว่างรอลูก ผมก็สังเกตุที่ฝาปิดที่พักน้ำของชักโครกที่ก่อนหน้านี้มันมีรอยเท้าของไอโรคจิตอยู่ แต่ตอนนี้มันหายไปแล้ว มันโดนน้ำล้างไปแล้ว ก็คิดไปต่างๆนาๆ ว่าพนักงานอาจจะมาทำความสะอาดห้องน้ำก็ได้ แต่เอ๊ะมันก็ยังสกปรกเหมือนเดิมนะ หรือว่าไอโรคจิตจะมาทำลายหลักฐาน ก็ว่ากันไป หลังจากลูกเสร็จกิจ ก็ต้องล้างมือ เลยพาลูกเดินไปล้างมือที่อ้างล้างมือที่ด้านหลังร้านที่ติดกับโซน Indoor ของร้านอาหาร ปรากฏว่าไม่มีสะบู่ ก็เลยพาลูกชายเดินกลับมาที่ข้างห้องน้ำชายเพื่อจะมาขอน้ำยาล้างจานมาล้างมือ  อ๋อลืมบอกไปว่า ที่ด้านหลังติดห้องน้ำชายจะเป็นที่สำหรับล้างจานของร้าน และตอนที่เข้ามาดูห้องน้ำในตอนแรกเพื่อหาตัวไอโรคจิตนั้น ก็มาเจอพนักงานชายคนหนึ่ง กำลังล้างจานอยู่ก่อนแล้ว และผมก็ถามน้องเค้าว่าเห็นใครเข้า-ออกห้องน้ำไหม น้องเค้าก็พูดไม่รู้เรื่อง เพราะน้องเป็น AEC พนักงานส่วนใหญ่ของที่นี้ก็ AEC เหมือนกัน ซึ่งตอนแรกก็สงสัยในตัวน้องคนนี้มาก แต่ดูจากหน้าตาน้องเค้าดูเรียบร้อย และรูปร่างไม่สูงนัก ไม่น่าจะปีนดูได้ เพราะระยะขอบกำแพงกับถังพักน้ำชักโครกนั้นสูงพอประมาณเลยทีเดียว
         พอเดินไปที่ล้างจานก็ยังเจอน้องคนเดิมยังคงล้างจานอยู่ ผมก็เอ่ยปากขอน้ำยาล้างจานมาล้างมือ น้องเค้าก็เดินมาบีบน้ำยาให้ผมกับลูกเพื่อล้างมือ ระหว่างนั้นผมก็เผอิญ มองเลยถัดไป ซึ่งติดกับที่ล้างจาน ก็เห็นชายวัยรุ่นกับเด็กผู้ชายอีกคนหนึ่ง นั่งอยู่หน้าบ้านพักลักษณะเหมือนช่วยกันเด็ดผักอะไรซักอย่าง ซึ่งก่อนหน้านี้นั้นผมไม่สังเกตุเห็นด้วยซ้ำว่ามีบ้านอยู่ ซึ่งน่าจะเป็นบ้านพักพนักงาน รูปร่างลักษณะชายวัยรุ่นจะผอมเพลียว สวมกางเกงยีน ไม่ใส่เสื้อ ผมหยิกสั้น ลักษณะคล้ายที่ภรรยาบอกมา ซึ่งก็ได้แต่เพียงสงสัยเท่านั้น และที่น่าสนใจอีกอย่างคือ ห้องน้ำที่มีไว้บริการลูกค้านั้น น่าจะ(ย้ำนะครับน่าจะ)เป็นห้องน้ำที่ใช้ร่วมกับพนักงานด้วยหรือเปล่า อันนี้เป็นเพียงการตั้งข้อสังเกตุเท่านั้นครับ เพราะในบริเวณนั้นก็ไม่เห็นว่าจะมีห้องน้ำอื่นอีก เพราะร้านนี้ลักษณะเป็นบ้าน 2 ชั้น แล้วมาเปิดเป็นร้านอาหาร พื้นที่ก็ไม่ได้กว้างมาก ก็ได้แต่เก็บความสงสัยเดินกลับไปที่โต๊ะเพื่อทานข้าวต่อ และเล่าให้ภรรยาฟัง หลังจากทานข้าวกันเสร็จก็เช็คบิลเพื่อกลับบ้าน พร้อมกับเก็บความสงสัยและไม่สบายใจในเรื่องที่เกิดขึ้นกลับบ้านไปด้วย เรานะไม่เท่าไร ภรรยาเรานี่ซิน่าสงสารมาก ไม่มีกะจิตกะใจจะกินข้าวเลย เธอเป็นกังวล ต่างๆนาๆ  เราก็ได้แต่ปลอบใจเธอให้หายกังวล  อย่างที่ว่า “ไม่โดนกะตัวไม่รู้หรอก”  เล่ามาซะยืดยาวเลย เรื่องทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริงไม่อิงละครช่องใดๆน่ะครับ
            ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะเป็นอุทาหรณ์เตือนใจ และเป็นประโยชน์ ให้กับหลายๆท่านโดยเฉพาะสตรีเพศ (ปัจจุบันผู้ชายอย่างเราๆก็ต้องระวังตัวด้วยเช่นกัน) จะได้ระมัดระวังตัวกันไม่ตกเป็นเหยื่อพวกมารสังคมอีก ท่องไว้นะครับ "อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจห้องน้ำ" ในร้านอาหารหรือแม้แต่ห้างฯต่างๆ

                                      ขอบคุณทุกท่านที่อุตส่าห์อ่านจนจบ ขอบคุณครับ  พาพันขอบคุณ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่