19 มิถุนายน 2557 DTAC.ปกรณ์ เริ่มส่งสัญญาณพิเศษ!! ถ้าลูกค้า HAPPY ไม่ย้ายระบบมาอยู่ DTAC 2100 จะไม่ได้รับสิทธิพิเศษเช่น PROMOTION เสริม "สโนว์ไวต์"
ประเด็นหลัก
ด้านนายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาดบริษัทเดียวกัน เปิดเผยว่า ปัจจุบันคู่แข่งหันไปทำโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าโพสต์เพด (รายเดือน) เป็นหลัก อาจเพราะต้องการดึงลูกค้า และตอบสนองเทรนด์การใช้งานสมาร์ทโฟน ไม่ค่อยเน้นตลาดแบบพรีเพด (เติมเงิน) ดีแทคจึงจัดแพ็กเกจใหม่ให้ลูกค้าพรีเพดภายใต้แบรนด์ "แฮปปี้" มีทางเลือกมากขึ้น เรียกว่า "สโนว์ไวต์" มี 7 รูปแบบให้เลือก คิดค่าใช้จ่ายเป็นรายวัน วันละ 7 บาท แต่ใช้บริการต่าง ๆ ได้ไม่จำกัด เช่น ใช้เฟซบุ๊ก และแอปพลิเคชั่น "ไลน์" ไม่จำกัด, เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตระหว่างตี 5-5 โมงเย็น ไม่จำกัด และโทร.หาเบอร์คนพิเศษ 1 หมายเลขได้ในราคา 1 บาท/ชม. เป็นต้น
"แบรนด์แฮปปี้ติดตลาดอยู่ได้ เพราะมีสีสันบริการ มีแพ็กเกจให้เลือกหลากหลายจึงต้องพัฒนาโปรโมชั่นใหม่ ๆ ต่อเนื่อง เน้นทั้งการโทร.และการใช้อินเทอร์เน็ต นอกจากนี้การตั้งชื่อโปรโมชั่นยังเป็นอีกจุดเด่นที่ดึงดูดผู้ใช้บริการเช่นกัน"
สำหรับแพ็กเกจ "สโนว์ไวต์" สามารถเปิดใช้ได้ทุกซิมของ "แฮปปี้" แต่ต้องย้ายมาอยู่บนระบบไตรเน็ตก่อน และด้วยความที่เป็นโปรโมชั่นรายวัน ผู้ใช้งานจึงปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลาย อาจใช้โปรโมชั่นละวัน หรือวันเดียวหลายโปรโมชั่นก็ได้
______________________________________
ดีแทค"สโนว์ไวต์"ปลุกพรีเพด ดันไตรเน็ตโฟนเจาะทุกอำเภอ
"ดีแทค" เร่งขยาย "ไตรเน็ตพาร์ตเนอร์" ปูพรมเฮาส์แบรนด์บุกทั่วประเทศ ตั้งเป้าเข็นยอดขายทะลุ 1.5 ล้านเครื่องในสิ้นปี พร้อมเสริมทัพงานบริการลูกค้าเต็มพิกัด ทั้งหวนปลุกตลาด "พรีเพด" รอบใหม่ด้วยแพ็กเกจ "สโนว์ไวต์" คิดค่าบริการวันละ 7 บาท เลือกใช้บริการยอดนิยมได้ 7 แบบ ครบทั้ง "โทร.-เฟซบุ๊ก-ไลน์-ท่องเน็ต"
นายชัยยศ จิรบวรกุล เป็นรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มลูกค้า บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ในปีที่ผ่านมา "ไตรเน็ตโฟน" สมาร์ทโฟนเฮาส์แบรนด์ที่ดีแทคจ้างผลิตและขายคู่กับดาต้าแพ็กเกจ รวมถึงคอนเทนต์ต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นการใช้ 3G และ 4G มียอดขายแล้วราว 1 ล้านเครื่อง แต่ปีนี้น่าจะถึง 1.5 ล้านเครื่อง เพราะรุกหนักด้วยราคาและเพิ่มช่องทางขายโดยเฉพาะในระดับอำเภอมากขึ้น เช่น มี "ไตรเน็ต พาร์ตเนอร์" ส่วนใหญ่เป็นตู้ขายโทรศัพท์มือถือในท้องถิ่น คาดว่าจะมีถึง 500 รายทั่วประเทศ
"มีทีมเซลส์วิ่งขายไตรเน็ตโฟนเพิ่มขึ้น ปีนี้ไม่เน้นออกรุ่นใหม่หลายรุ่นผสมกัน แต่จะโฟกัสเป็นรุ่น ๆ และสลับกันออกมาในตลาดมากขึ้น แบ่งเป็นซีรีส์เหมือนรถยนต์ที่มีซีรีส์ 3 แล้วก็มี 4 และ 5 เป็นต้น การที่เราลงมาสั่งผลิตมือถือเองก็เพื่อให้ได้เครื่องที่ตอบโจทย์การใช้งาน ของลูกค้าในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย เพื่อขยายการให้บริการออกไปให้ทั่วถึงที่สุด"
ปัจจุบันมีไตรเน็ตโฟนวางตลาดอยู่แล้วหลายรุ่น ได้แก่ Joey Jumo 3.5 ราคา 1,990 บาท, Lion 5.0 HD ราคา 5,590 บาท เป็นต้น
สำหรับการแข่งขันในครึ่งปีหลัง ภาพรวมตลาดโทรศัพท์มือถือยังเน้นที่ตัวเครื่อง และดาต้าแพ็กเกจเป็นหลัก พร้อมกับการปรับปรุงบริการ การพัฒนาบุคลากร, การปรับปรุงฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ รวมถึงหน้าร้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านของดีแทคพาร์ตเนอร์ หรือศูนย์บริการของบริษัทเอง ให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น
ด้านนายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาดบริษัทเดียวกัน เปิดเผยว่า ปัจจุบันคู่แข่งหันไปทำโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าโพสต์เพด (รายเดือน) เป็นหลัก อาจเพราะต้องการดึงลูกค้า และตอบสนองเทรนด์การใช้งานสมาร์ทโฟน ไม่ค่อยเน้นตลาดแบบพรีเพด (เติมเงิน) ดีแทคจึงจัดแพ็กเกจใหม่ให้ลูกค้าพรีเพดภายใต้แบรนด์ "แฮปปี้" มีทางเลือกมากขึ้น เรียกว่า "สโนว์ไวต์" มี 7 รูปแบบให้เลือก คิดค่าใช้จ่ายเป็นรายวัน วันละ 7 บาท แต่ใช้บริการต่าง ๆ ได้ไม่จำกัด เช่น ใช้เฟซบุ๊ก และแอปพลิเคชั่น "ไลน์" ไม่จำกัด, เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตระหว่างตี 5-5 โมงเย็น ไม่จำกัด และโทร.หาเบอร์คนพิเศษ 1 หมายเลขได้ในราคา 1 บาท/ชม. เป็นต้น
"แบรนด์แฮปปี้ติดตลาดอยู่ได้ เพราะมีสีสันบริการ มีแพ็กเกจให้เลือกหลากหลายจึงต้องพัฒนาโปรโมชั่นใหม่ ๆ ต่อเนื่อง เน้นทั้งการโทร.และการใช้อินเทอร์เน็ต นอกจากนี้การตั้งชื่อโปรโมชั่นยังเป็นอีกจุดเด่นที่ดึงดูดผู้ใช้บริการเช่นกัน"
สำหรับแพ็กเกจ "สโนว์ไวต์" สามารถเปิดใช้ได้ทุกซิมของ "แฮปปี้" แต่ต้องย้ายมาอยู่บนระบบไตรเน็ตก่อน และด้วยความที่เป็นโปรโมชั่นรายวัน ผู้ใช้งานจึงปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลาย อาจใช้โปรโมชั่นละวัน หรือวันเดียวหลายโปรโมชั่นก็ได้
นายปกรณ์กล่าวต่อว่า ดีแทคยังได้พัฒนาการออกแบบโปรโมชั่น โดยนำวิธีที่เรียกว่า Conjoint Analysis หรือการทำแบบสำรวจความต้องการของผู้บริโภค โดยใช้ข้อมูลจากแบบสอบถามเพื่อนำมาคำนวณหาความต้องการของผู้ใช้บริการ รวมถึงแนวโน้มการใช้งานต่อเนื่อง ด้วยการกำหนดคะแนนในแต่ละคำถามแล้วนำมารวมคะแนนเพื่อหาผลลัพธ์ ทำให้การพัฒนาโปรโมชั่นตรงกับความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น และเป็นวิธีที่แตกต่างไปจากการใช้การสำรวจด้วยแบบสอบถามแบบเดิม
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1403161672 
DTAC.ปกรณ์ เริ่มส่งสัญญาณพิเศษ!! ถ้าลูกค้า HAPPY ไม่ย้ายระบบมาอยู่ DTAC 2100 จะไม่ได้รับสิทธิพิเศษเช่น PROMOTION เสริม
ประเด็นหลัก
ด้านนายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาดบริษัทเดียวกัน เปิดเผยว่า ปัจจุบันคู่แข่งหันไปทำโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าโพสต์เพด (รายเดือน) เป็นหลัก อาจเพราะต้องการดึงลูกค้า และตอบสนองเทรนด์การใช้งานสมาร์ทโฟน ไม่ค่อยเน้นตลาดแบบพรีเพด (เติมเงิน) ดีแทคจึงจัดแพ็กเกจใหม่ให้ลูกค้าพรีเพดภายใต้แบรนด์ "แฮปปี้" มีทางเลือกมากขึ้น เรียกว่า "สโนว์ไวต์" มี 7 รูปแบบให้เลือก คิดค่าใช้จ่ายเป็นรายวัน วันละ 7 บาท แต่ใช้บริการต่าง ๆ ได้ไม่จำกัด เช่น ใช้เฟซบุ๊ก และแอปพลิเคชั่น "ไลน์" ไม่จำกัด, เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตระหว่างตี 5-5 โมงเย็น ไม่จำกัด และโทร.หาเบอร์คนพิเศษ 1 หมายเลขได้ในราคา 1 บาท/ชม. เป็นต้น
"แบรนด์แฮปปี้ติดตลาดอยู่ได้ เพราะมีสีสันบริการ มีแพ็กเกจให้เลือกหลากหลายจึงต้องพัฒนาโปรโมชั่นใหม่ ๆ ต่อเนื่อง เน้นทั้งการโทร.และการใช้อินเทอร์เน็ต นอกจากนี้การตั้งชื่อโปรโมชั่นยังเป็นอีกจุดเด่นที่ดึงดูดผู้ใช้บริการเช่นกัน"
สำหรับแพ็กเกจ "สโนว์ไวต์" สามารถเปิดใช้ได้ทุกซิมของ "แฮปปี้" แต่ต้องย้ายมาอยู่บนระบบไตรเน็ตก่อน และด้วยความที่เป็นโปรโมชั่นรายวัน ผู้ใช้งานจึงปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลาย อาจใช้โปรโมชั่นละวัน หรือวันเดียวหลายโปรโมชั่นก็ได้
______________________________________
ดีแทค"สโนว์ไวต์"ปลุกพรีเพด ดันไตรเน็ตโฟนเจาะทุกอำเภอ
"ดีแทค" เร่งขยาย "ไตรเน็ตพาร์ตเนอร์" ปูพรมเฮาส์แบรนด์บุกทั่วประเทศ ตั้งเป้าเข็นยอดขายทะลุ 1.5 ล้านเครื่องในสิ้นปี พร้อมเสริมทัพงานบริการลูกค้าเต็มพิกัด ทั้งหวนปลุกตลาด "พรีเพด" รอบใหม่ด้วยแพ็กเกจ "สโนว์ไวต์" คิดค่าบริการวันละ 7 บาท เลือกใช้บริการยอดนิยมได้ 7 แบบ ครบทั้ง "โทร.-เฟซบุ๊ก-ไลน์-ท่องเน็ต"
นายชัยยศ จิรบวรกุล เป็นรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มลูกค้า บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ในปีที่ผ่านมา "ไตรเน็ตโฟน" สมาร์ทโฟนเฮาส์แบรนด์ที่ดีแทคจ้างผลิตและขายคู่กับดาต้าแพ็กเกจ รวมถึงคอนเทนต์ต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นการใช้ 3G และ 4G มียอดขายแล้วราว 1 ล้านเครื่อง แต่ปีนี้น่าจะถึง 1.5 ล้านเครื่อง เพราะรุกหนักด้วยราคาและเพิ่มช่องทางขายโดยเฉพาะในระดับอำเภอมากขึ้น เช่น มี "ไตรเน็ต พาร์ตเนอร์" ส่วนใหญ่เป็นตู้ขายโทรศัพท์มือถือในท้องถิ่น คาดว่าจะมีถึง 500 รายทั่วประเทศ
"มีทีมเซลส์วิ่งขายไตรเน็ตโฟนเพิ่มขึ้น ปีนี้ไม่เน้นออกรุ่นใหม่หลายรุ่นผสมกัน แต่จะโฟกัสเป็นรุ่น ๆ และสลับกันออกมาในตลาดมากขึ้น แบ่งเป็นซีรีส์เหมือนรถยนต์ที่มีซีรีส์ 3 แล้วก็มี 4 และ 5 เป็นต้น การที่เราลงมาสั่งผลิตมือถือเองก็เพื่อให้ได้เครื่องที่ตอบโจทย์การใช้งาน ของลูกค้าในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย เพื่อขยายการให้บริการออกไปให้ทั่วถึงที่สุด"
ปัจจุบันมีไตรเน็ตโฟนวางตลาดอยู่แล้วหลายรุ่น ได้แก่ Joey Jumo 3.5 ราคา 1,990 บาท, Lion 5.0 HD ราคา 5,590 บาท เป็นต้น
สำหรับการแข่งขันในครึ่งปีหลัง ภาพรวมตลาดโทรศัพท์มือถือยังเน้นที่ตัวเครื่อง และดาต้าแพ็กเกจเป็นหลัก พร้อมกับการปรับปรุงบริการ การพัฒนาบุคลากร, การปรับปรุงฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ รวมถึงหน้าร้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านของดีแทคพาร์ตเนอร์ หรือศูนย์บริการของบริษัทเอง ให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น
ด้านนายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาดบริษัทเดียวกัน เปิดเผยว่า ปัจจุบันคู่แข่งหันไปทำโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าโพสต์เพด (รายเดือน) เป็นหลัก อาจเพราะต้องการดึงลูกค้า และตอบสนองเทรนด์การใช้งานสมาร์ทโฟน ไม่ค่อยเน้นตลาดแบบพรีเพด (เติมเงิน) ดีแทคจึงจัดแพ็กเกจใหม่ให้ลูกค้าพรีเพดภายใต้แบรนด์ "แฮปปี้" มีทางเลือกมากขึ้น เรียกว่า "สโนว์ไวต์" มี 7 รูปแบบให้เลือก คิดค่าใช้จ่ายเป็นรายวัน วันละ 7 บาท แต่ใช้บริการต่าง ๆ ได้ไม่จำกัด เช่น ใช้เฟซบุ๊ก และแอปพลิเคชั่น "ไลน์" ไม่จำกัด, เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตระหว่างตี 5-5 โมงเย็น ไม่จำกัด และโทร.หาเบอร์คนพิเศษ 1 หมายเลขได้ในราคา 1 บาท/ชม. เป็นต้น
"แบรนด์แฮปปี้ติดตลาดอยู่ได้ เพราะมีสีสันบริการ มีแพ็กเกจให้เลือกหลากหลายจึงต้องพัฒนาโปรโมชั่นใหม่ ๆ ต่อเนื่อง เน้นทั้งการโทร.และการใช้อินเทอร์เน็ต นอกจากนี้การตั้งชื่อโปรโมชั่นยังเป็นอีกจุดเด่นที่ดึงดูดผู้ใช้บริการเช่นกัน"
สำหรับแพ็กเกจ "สโนว์ไวต์" สามารถเปิดใช้ได้ทุกซิมของ "แฮปปี้" แต่ต้องย้ายมาอยู่บนระบบไตรเน็ตก่อน และด้วยความที่เป็นโปรโมชั่นรายวัน ผู้ใช้งานจึงปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลาย อาจใช้โปรโมชั่นละวัน หรือวันเดียวหลายโปรโมชั่นก็ได้
นายปกรณ์กล่าวต่อว่า ดีแทคยังได้พัฒนาการออกแบบโปรโมชั่น โดยนำวิธีที่เรียกว่า Conjoint Analysis หรือการทำแบบสำรวจความต้องการของผู้บริโภค โดยใช้ข้อมูลจากแบบสอบถามเพื่อนำมาคำนวณหาความต้องการของผู้ใช้บริการ รวมถึงแนวโน้มการใช้งานต่อเนื่อง ด้วยการกำหนดคะแนนในแต่ละคำถามแล้วนำมารวมคะแนนเพื่อหาผลลัพธ์ ทำให้การพัฒนาโปรโมชั่นตรงกับความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น และเป็นวิธีที่แตกต่างไปจากการใช้การสำรวจด้วยแบบสอบถามแบบเดิม
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1403161672