เปิดตระกูลดังตุนที่ดินทั่วไทย "เจริญ" อู้ฟู่ 6.3 แสนไร่ ระทึกคลังชงเก็บภาษี

กระทู้ข่าว
เปิดโผราชาที่ดินตระกูลดัง-องค์กรใหญ่ ตะลึง "สิริวัฒนภักดี" อู้ฟู่มีแลนด์แบงก์ในพอร์ตกว่า 6.3 แสนไร่ "เจียรวนนท์" ตุน 2 แสนไร่ ธุรกิจ-กลุ่มทุนไม่น้อยหน้า "สหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม" ม้ามืด 4.4 หมื่นไร่ ฟากนักการเมือง "บรรหาร" ครองแชมป์ "เสนาะ" ตามมาติด ๆ ส่วนคลังดันเต็มที่ชง คสช.คลอดกฎหมายภาษีที่ดินใน 1 ปี ฝันปั้นรายได้เข้าท้องถิ่นปีละกว่า 9 หมื่นล้าน "นักวิชาการ-เอ็นจีโอ" หนุนกระจายถือครองที่ดินลดความเหลื่อมล้ำ



ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า การผลักดันประกาศบังคับใช้ร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ... (พร็อพเพอร์ตี้แทกซ์) ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ให้กับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แทนการบังคับใช้ พ.ร.บ.ภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. 2475 และ พ.ร.บ.ภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ. 2508 ซึ่งล้าสมัย กำลังถูกจับตามองว่าจะสำเร็จหรือไม่ หลังจากใช้ความพยายามผลักดันมากว่า 15 ปีก็ยังไม่สำเร็จ

ทั้งที่ร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ฐานจัดเก็บภาษีครอบคลุมมากขึ้น ให้ท้องถิ่นจัดเก็บภาษีเพื่อกระจายรายได้ ขณะเดียวกันมีเป้าหมายสำคัญคือลดการกักตุนที่ดินของนายทุน โดยกรณีถือครองที่ดินแต่ปล่อยรกร้างไม่ได้ทำประโยชน์ จะต้องเสียภาษีในอัตราไม่ต่ำ 0.5% ของฐานภาษี (คำนวณจากราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดิน) และกรณีที่ปล่อยให้ที่ดินรกร้างจะถูกปรับภาษีขึ้น 1 เท่าทุก 3 ปี แต่มีเพดานสูงสุดไม่เกิน 2% ของฐานภาษี หากผลักดันสำเร็จจะช่วยสร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยได้มาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลศึกษาโดยกลุ่มปฏิบัติงานท้องถิ่นไร้พรมแดน (องค์กรพัฒนาเอกชน) จากการวิจัยและเก็บข้อมูลการถือครองเอกสารสิทธิ จากสำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ กรมที่ดิน พบว่าตระกูลดัง เศรษฐี กลุ่มธุรกิจ กลุ่มทุน ถือครองที่ดินทั้งแปลงเล็กแปลงใหญ่จำนวนมาก กระจายอยู่หลายพื้นที่ทั้งกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยเฉพาะหัวเมืองหลัก เมืองท่องเที่ยว

วิธีการถือครองมีทั้งทยอยซื้อที่ดินเก็บไว้ในมือ โดยค่อย ๆ สะสมจากแปลงเล็กเป็นแปลงใหญ่ และการกว้านซื้อที่โดยอาศัยกลุ่มนายหน้าและเครือข่ายธุรกิจ ทั้งที่ดินว่างเปล่า ที่ทำการเกษตร ที่นา ฯลฯ ขณะเดียวกันจากเดิมที่มักปล่อยที่ดินที่ซื้อไว้ในพอร์ตเป็นที่รกร้างว่างเปล่า ช่วง 4-5 ปี ที่ผ่านมา กลุ่มเศรษฐกิจ ตระกูลดังแห่ลงทุนด้วยการปรับเปลี่ยนหน้าดินทำการเกษตร โดยเฉพาะยางพารา ปาล์มน้ำมัน รวมทั้งพืชสวน พืชไร่หลากหลายชนิด ฯลฯ รับยุคบูมยางพารา ปาล์มน้ำมัน และเร่งใช้ประโยชน์ที่ดินแทน หลังเริ่มมีกระแสผลักดันจัดเก็บภาษีที่ดินในอัตราก้าวหน้าสำหรับที่ดินที่ถูกปล่อยทิ้งให้รกร้างว่างเปล่า

สอดรับกับการปรับเปลี่ยนโครงสร้างกลุ่มธุรกิจ ตระกูลดัง หลายกลุ่มในช่วงที่ผ่านมา ที่มีการขยายฐานสู่ธุรกิจการเกษตร อสังหาริมทรัพย์ อาทิ กลุ่มตระกูลสิริวัฒนภักดี เจียรวนนท์ พูลวรลักษณ์ จุฬางกูร เตชะณรงค์ ภิรมย์ภักดี ฯลฯ ขณะที่ตระกูลนักการเมืองทั้งระดับชาติ ระดับท้องถิ่น ตลอดจนนักธุรกิจ นักลงทุนทั้งในส่วนกลาง ต่างจังหวัด ก็หันมารุกด้านการเกษตรรับกระแสบูมจำนวนมากเช่นเดียวกัน


อ่านข้อมูลเพิ่มเติม http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1403008576
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่