ขอคำแนะนำเรื่อง ไฟส่องอาหาร

หลอดเพื่อการอุ่นอาหารโดยตรงนั้นจะเป็นหลอด IR จะมีความร้อนออกมาจากตัวหลอดมากน่ะครับ แนะนำว่าให้เดินเข้าไปที่ร้านซิลเลอร์แล้วจะเห็นที่เค้าเตอร์บาร์ตรงที่ครัวจะส่งของออกมาให้พนักงานเสริฟเอาอาหารส่งไปตามโต้ะอาหารครับ แต่ว่า นั่นไม่ได้เหมาะกับสถานการณ์การขายสินค้าแบบที่ท่านกำลังคิดจะทำอยู่สักเท่าไหร่นัก ถ้าหากว่าจะเป็นแบบที่ท่านกำลังจะทำผมเข้าใจว่า เป็นร้านรถเข็นครับ แน่นอนว่าแสงที่ส่องจะเป็นแสงเพื่อต้องการทำให้อาหารดูสวยเป็นหลักเสียมากกว่า ส่วนความร้อนน่าจะเป็นเรื่องรอง แต่ทั้งนี้ก็แล้วแต่ความต้องการของท่านครับผม

แสงที่ร้อน คือ แสงจากหลอดไส้ ​!  
หลอดไฟประเภทที่กินไฟฟ้าสูงสุดคือ หลอดไส้นั่นเอง และ ตัวหลอดเองราคาถูกมากจริงๆเพราะ มันเป็นหลอดไฟแบบเก่าแก่ที่สุดเท่าที่โลกนี้เคยมีมาก แต่ว่ามันทำการแปลงไฟฟ้าเป็นแสงสว่างได้แย่กว่าหลอดสมัยใหม่อื่นๆ เพราะ มันมีความร้อนเปร่งออกมารอบตัวมากเอาการ เรียกว่า ท่านไม่สามารถที่จะจับหลอดไฟประเภทนี้ตอนที่มันเปิดไฟอยู่ได้เลย มันจะเผามือท่านเอาได้น่ะครับ ทั้งนี้ ถ้าหากว่าต้องการจะอุ่นอาหารหลอดพวกนี้จะต้องอยู่ระยะใกล้กับอาหารพอควรเพราะว่าความร้อนมันแพร่ออกไปรอบตัวทั้งหมด แต่ว่าอย่างว่า ยังไงมันก็ร้อนอยุ่ดี แนะนำว่าให้ลองเอามืออังดูว่าร้อนเพียงพอต่อความต้องการของท่านหรือไม่

แสงจากหลอดไส้ส่องอาหารแล้วสวยที่สุด !
หากท่านไม่ได้ขายเนื้อสด หรือว่าอาหารดิบแล้วล่ะก็ หลอดไส้นั้นเป็นหลอดที่ให้ค่าความถูกต้องของสีดีเยี่ยมมาก (่ค่าทีว่านี้เรียกว่าค่า CRI ) ระดับ  CRI  ของหลอดไส้นั้นคือ 100% มีความยาวคลื่นของช่วงแสงที่ตาเรามองเห็นครบถ้วนต่อเนื่อง ส่วนไปยังอาหารสีอะไรออกมายังไงสวยงามเหมือนกับที่คนเราอยากจะเห็นอาหารกันเลยก็ว่าได้ ไม่แนะนำให้ท่านเลือกหลอดเกลียวมาส่องอาหาร เพราะ ไม่ว่าคุณจะเลือกหลอดเกลียวยี่ห้ออะไรมาก็ตามมันจะมีการกระพริบของแสง แสงไม่ต่อเนื่องและ ทำให้อาหารสีดูแปลกเหมือนของปลอมเอามากๆ มองแล้วไม่น่าทาน มองแล้ว มองไม่ออกว่า ความมันเงาของอาหารนี้ระดับไหน น่าทานมากน้อยแค่ไหน เพราะ ส่องไปแล้ว ทุกอย่างดูเหมือนไม่อร่อยไปทั้งหมดเลยก็ว่าได้

เพราะงั้นแล้วสรุปว่า หลอดไส้ นั้นคือ หลอดที่ทำให้อาหารดูดี น่าทานมากทีสุดเท่าที่เคยมีมาแล้ว และ ผมไม่เคยเห็นแสงจากหลอดไฟประเภทอื่นๆทำให้อาหารได้น่าทานมากไปกว่านี้ครับ คำว่าหลอดไส้ของผมนั้นหมายรวมถึงหลอดฮาโลเจนด้วยน่ะครับ เพราะว่าหลักการการเกิดแสงและสภาพของเนื้อแสงเหมือนกันทุกประการแต่ว่าการส่องและทิศทางของแสงแต่ต่างกันเท่านั้นเอง และ ที่เหมือนกันอีกเรื่องก็คือหลอดพวกนี้ถูกมากแต่ว่าขาดบ่อยเอาการ ! และเปลืองไฟอีกต่างหาก แต่ว่าถ้าหากว่าคุณจะทำให้อาหารดูดีแล้ว ผมคิดว่าคุ้มค่าน่าลองมากกว่าหลอดแบบอื่นๆมากนัก

สำหรับคนที่มองหลอดไฟแอลอีดีอยู่ สำหรับการส่องอาหารรถเข็นนั้น ยังไม่แนะนำครับ เพราะ นอกจากคุณจะเลือกหลอดแอลอีดีราคาประหยัดแล้ว มันจะทำให้อาหารเมื่อกระทบแสงแอลอีดีแล้ว ดูซีดไม่น่าทานเท่าไหร่นัก เนื่องด้วยค่า CRI ต่ำ หรือแน่นอนว่าหลอดไฟพวกนี้จะไม่บอกค่าเหล่านี้อีกต่างหาก ถ้าหากว่าจะพอรับได้อาจจะเป็นหลอดที่ค่า CRI 70% เพื่อการส่องอาหาร แต่ว่าอย่างไรก็ดีค่าเหล่านี้จะไม่ได้บอกอะไรมากนัก เมื่อเอามาส่องกับอาหารเพราะ มันขึ้นกับว่าอาหารคุณเน้นแสดงสีอะไรเป็นหลัก เพราะการคำนวณค่า CRI มันคือการเทียบของสี 7 ถึง 14 เฉดสีเท่านั้น แล้วเอาประเมินว่าเหมือนกับแสงของดวงอาทิตย์มากแค่ไหน เพราะงั้น สิ่งที่ทำได้คือ เลือกหลอดแอลอีดีที่มีความนี้มากเท่าที่จะหากได้ในตลาด อาจจะเป็นค่ามากกว่า 80% เป็นต้น และลองเอามาส่องอาหารท่านดูเองว่ามันน่าทานหรือไม่อย่างไร แต่ว่าที่แน่ๆ คือ มันไม่ร้อนน่ะครับ อาจจะไม่ตอบโจทย์ของท่านก็ได้ครับ

เลือกสีที่ออกเหลืองเอาไว้ก่อนหากว่าเป็นอาหารสุก และ ไม่ได้เป็นของหวาน

เท่าที่จะแนะนำก็เท่านี้ก่อนน่ะครับ เพราะจะให้โม้เยอะกว่านี้ เหมือนว่ามันจะเกินไปสำหรับการเลือกหลอดไฟร้านรถเข็นครับผม