อยากแต่งนิยายแนวพ่อแม่กับลูกพรากจากกันแต่เด็กและพอลูกโตมาเป็นเมียน้อยพ่อและแก้แค้นกับแม่แท้ๆโดยไม่รู้ตัว แต่กลัวโดนด่า

อยากแค่งนิยายแนวๆ นี้ค่ะ
ยอมรับตัวเองเป็นคนที่พิ้นๆ เคยมีปัญหาครอบครัว ก็เลยทำให้ชีวิตมีหลายๆ แง่มุมที่น่าศึกษาและนำมาเป็นเครื่องเตือนใจให้กับตัวเองและป้องกันความผิดพลาดให้กับตัวเองได้เสมอ
ชอบแต่งนิยายเป็นงานอดิเรกค่ะ แต่แต่งแล้วบางทีก็เอาลงตามเน็ร บางทีก็ไม่เอาลง ส่วนใหญ่ที่เอาลงจะเป็นเว็บเด็กดี
ชอบแต่งนิยายแนวปัญหาครอบครัวดราม่าหนักๆ แบบลูกเป็นเกย์แล้วโดนพ่อแม่ไล่ออกจากบ้านแล้วลูกประสบความสำเร็จในชีวิตพ่อแม่กลับมาหาลูกแต่ลูกกลับไม่สน
หรือลูกที่เติบโตขึ้นมาโดยที่ไม่รู้ว่าแม่ของตัวเองเป็นเพศที่สาม พอมารู้วันหนึ่งก็ตกใจ
หรือจะเป็นนิยายแนวรักหวานซึ้งแบบกลิ่นอายดราม่า แฝงไปด้วยปัญหาครอบครัวเกือบทุกเรื่องที่เราแต่งๆ ชอบแต่งแบบเสียดสีสะท้อนสังคมค่ะ
และคอนนี้คิดพล็อตเรื่องแปลกๆ ได้อีกในหัวคือก็พล็อตเรื่องตามหัวข้อกระทู้นี่ล่ะคะ
แต่กลัวแต่งแล้วไม่มีคนอ่าน กะเอาลงในพันทิพ เพราะพล็อตเรื่องมันแปลกๆ แหวกแนว ไม่รู้คนส่วนใหญ่มองว่าแรงไปมั้ยถ้าเราใช้พล็อคเรื่องตามหัวข้อกระทู้
คิดยังไงกับพล็อคเรื่องเราตามหัวข้อกระทู้คะ น่าเกลียดมั้ย ?

จะแต่งแบบแนวๆ พ่อแม่คู่หนึ่งรวยมากมีลูกกันและลูกพรัดพรากกันตั้งแต่เด็กเพราะพ่อแอบไปมีเมียน้อยในขณะที่แม่ท้องอยู่และแม่จับได้ว่าพ่อแม่มีเมียน้อยตอนคลอดพอดี เลยส่งคนไปทำรเายเมียน้อย เมียน้อยแค้นมากเลยแอบปลอมตัวไปขโมยลูกของแม่ที่โรงพยาบาลและพาเด็กไปทิ้ง แม่กับพ่อตามหาลูกตัวเองตลอดแต่หาไม่พบ เมียน้อยเกิดพลาดโดนรถชนตาย ไม่มีใครรู้ว่สลูกแท้ๆ อยู่ไหน และเด็กพลัดหลงไปอยู่ในครอบครัวที่ไม่ดีเท่าไรแต่ก็สงสารจึงเลี้ยงมาจนโต เด็กที่โตขึ้นมาโดนพ่อแม่ที่เก็บไปเลี้ยงข่มขืนตั้งแต่เด็กๆ และโดนทุบตีสั่งให้ขายตัวเอาเงินมาเลี้ยง เด็กมีนิสัยกร้าว ทะเยอทะยานแต่เป็นคนจิตใจดีชอบช่วยเหลือคนอื่น  และเผอิญไปเจอพ่อแท้ๆ ของตัวเองมาซื้อบริการ พ่อแท้ๆ ของตัวเองถูกใจเด็กคนนี้ตั้งแต่แรกเห็นโดยไม่รู้เลยว่าเป็นลูกแท้ๆ เลี้ยงดูอย่างดี ของตัวเองที่พลัดพรากหายไป เลยได้กัน วันหนึ่งพ่ออยากเลิกกับแม่มาแต่งงานใหม่กับเด็กคนนี้ และการแก้แค้นทะเลาะกับแม่ช่วงชิงความเป็นเจ้าของและเงินทองจึงเกิดขึ้น......


( ตอนจบก็คงจบให้สวยค่ะ คลายปมทีละนิดๆ ไปจนถึงการใช้ธรรมะเข้ามาสอดแทรกให้คนให้อภัยกันส่วนใหญ่จะจบแบบเอาธรรมมะมาสอดแรกตอนท้ายเกือบทุกเรื่องที่แต่งค่ะ หรืออาจจะมีหักมุมบ้างให้ชวนตื่นเต้นหรือทิ้งข้อความกลับไปให้ผู้อ่านคิดต่อค่ะ )


ะล็อตประมาณนี้ น่าเกลียดมั้ยคะ คิดยังไงคะ อยากรู้ ?
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
นิสัยน้ำเน่า มันเต็มไปหมดแล้ว ปัญหาสังคมมันก็เยอะพออยู่แล้ว
เราก็ไม่ค่อยเข้าใจคนแต่งนิยายหรือละครเท่าไหร่ ว่าทำไมไม่รู้จักหาข้อมูล หรือทำนิยายที่มันมีสาระบ้าง
ให้ความรู้ ให้คนได้รู้จักชีวิตว่าคนเราจะประสบความสำเร็จ หรือ ด้านลึกของอาชีพใดอาชีพหนึ่งที่คนนอกไม่รู้ แบบนี้หายากมาก

เราขอยกตัวอย่างละครเกาหลีที่ดังมากในอดีต คงจะจำกันได้ เรื่องแดจังกึม
เรื่องราวของแม่ครัวคนหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องของฮ่องเต้ ว่ารบกับศัตรูจนสร้างประเทศได้อย่างไร แต่เป็นการทำอาหาร กินอย่างไรสุขภาพถึงดี
ละครลักษณะนี้หายากนะ  แล้วก็มีละครเกาหลีเรื่องหนึ่ง จำชื่อเรื่องไม่ได้แล้ว ที่ตัวละครเป็น เหมือนเกอิชา  ไม่ใช่โสเภณีโดยตรง
แต่ว่ามีหน้าที่ร่ายรำ เพื่อให้ความบันเทิงกับแขกที่มาเที่ยว  เป็นการแข่งขันกันของสองตัวเอก ที่แย่งชิงกันเป็นที่หนึ่ง ในด้านการรำ
พยายามที่จะรำให้เก่งและเป็นทุกประเภท เพื่อจะได้มีโอกาสเข้าไปถวายงาน รำให้ฮ่องเต้ดู

ละครแบบนี้ทำให้เราได้เห็นวัฒนธรรมเกาหลี ได้เห็นอาหารของเกาหลี ได้เห็นการร่ายรำโบราณของเกาหลี
ซึ่งของไทย แบบลงลึกไม่ค่อยมี ถึงมีก็ทำออกมาแล้วก็ขายไม่ออก คนไม่ดู เรียกว่า สาระยังไม่กินใจ แต่พวกชิงรักหักสวาทพวกนี้ชอบกันนัก

เราอยากดูละครที่ไม่ใช่การแย่งผัว แย่งเมีย วันๆพระเอกไม่เคยทำงาน เอาแต่ไล่ตามจีบนางเอก นางอิจฉาทำงานอะไรไม่รู้
รู้แต่ว่ามีเวลาว่างตามตื้อพระเอก ตามตบจิกนางเอก ซึ่งมันไม่สมจริงเอาซะเลย  ทั้งเรื่องอยู่แต่ในบ้าน งานการไม่ทำกันหรือไง
บางทีดูไปก็ไม่เข้าใจว่า พวกนี้รวยมาได้ยังไง  ทำไมไม่นำเสนอ เผื่อเราจะเอาเป็นแนวทาง ทำตามแล้วรวยขึ้นมาบ้าง
ไม่เคยสอนอะไรดีๆเลย นอกจากแย่งชิงผู้ชาย ชกต้อยเพื่อแย่งผู้หญิง มีแต่ความรุนแรงเต็มจอทีวี สาระดีๆหาไม่เจอ

แล้วนักเขียนรุ่นใหม่จะยังน้ำเน่าเหมือนเดิม ไม่แตกต่าง ไม่มีสาระ มีแต่ความรุนแรง ใช้อารมณ์หาเหตุผลไม่เจอ น้ำเน่าไปวันๆ
งานการไม่ต้องทำ เอาแต่แก้แค้น ชิงดีชิงเด่น หมกมุ่นอยู่กับเรื่องเพศ ตบจูบกันอยู่ได้ วันๆแย่งผู้ชาย เงินทองไม่ต้องหากันเลยหรือไง

เพลียกับนักเขียนจริงๆ  รู้จักแต่ใช้อารมณ์ แต่ไม่รู้จักหาข้อมูลดีๆมานำเสนอบ้าง  จะให้พ่อนอนกับลูกแล้วบอกว่านิยายเรื่องนี้มีสาระ
มันเป็นการนำเสนอตัวอย่างความผิดศีลธรรม เป็นการบ่งบอกว่าตัวละครไม่รู้จักคิดแยกแยะถึงความถูกต้องหรือดีเลว ใช้อารมณ์เป็นใหญ่
แล้วตบหัวเสร็จจะมาลูบหลังเสนอสาระตอนจบ ให้ข้อคิดธรรมะมันสายไปแล้ว  เหมือนป้อนยาพิษให้สังคมแล้วตอนหลังจะทำเป็นถอนพิษให้
มันสายไปแล้ว พิษมันเข้าร่างกายแล้ว ยังไงก็เป็นทำร้ายจิตใจ เป็นด้านมืดที่ไม่ควรจะเป็นตัวอย่างให้ใครดูทั้งสิ้น
ความคิดเห็นที่ 17
ขอให้ความเห็นในฐานะที่ดิฉันทำงานบรรณาธิการนะคะ

ถ้าถามว่าได้ไหม คือ เรื่องของจินตนาการมันไม่มีขีดจำกัดก็จริงอยู่ค่ะ
แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ ผลกระทบต่อผู้อ่าน
โดยเฉพาะกับผู้ที่ระบบการคิดและการตัดสินใจไม่ค่อยดี
มันนำมาซึ่งพฤติกรรมเลียนแบบ ที่คนเขียนอาจคิดไม่ถึง
เช่น เด็กผู้ชายที่เคยดูละคร เห็นพระเอกข่มขืนนางเอก กินเหล้า สูบบุหรี่
แล้วตอนจบนางเอกให้อภัย
ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการ อาจทำให้เด็กคนนั้น
เข้าใจว่า เราทำแบบนี้กับผู้หญิงที่เราอยากได้เป็นเมียได้

ในฐานะบรรณาธิการ หากต้องพิจารณาบทนวนิยายเพื่อตีพิมพ์ในนามสำนักพิมพ์
ดิฉันคงปฎิเสธนวนิยายของคุณ
ถึงแม้ว่าตอนจบจะสวยงามแค่ไหน
และหากดิฉันเป็นผู้จัดละครหรือภาพยนตร์
แม้นวนิยายของคุณ จะได้รับความนิยมในโลกออนไลน์
ดิฉันก็ไม่สามารถพิจารณานำมาทำเป็นละครได้
เพราะเรารู้สึกภัยร้ายที่จะเกิดขึ้นในสังคม

หลักในการเขียนนวนิยาย
ที่มีตัวร้ายเข้ามา ก็เพื่อต้องให้ผู้อ่านได้เรียนรู้ว่า
คนทำเรื่องผิดศีลธรรม จะไม่ได้รับการยอมรับในสังคมจนกว่าเขาจะสำนึกและเปลี่ยนแปลงตัวเอง
และการเป็นคนที่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน จะไม่เป็นที่รัก ใครๆก็รังเกียจ

ดิฉันแนะนำว่า หากคุณมีความสามารถในการสร้างความดราม่าให้กับบทนวนิยายของคุณได้มาก
ขอให้ดูเรื่อง "ดอกส้มสีทอง" ,"คุณชายพุฒิภัทร" หรือ "ทองเนื้อเก้า(เวอร์ชั่นที่คุณพงษ์พัฒน์กำกับ)" เป็นไกด์ในการเขียนของคุณนะคะ

หากคุณสนใจเรียนเรื่องการเขียนนวนิยายเพิ่มเติม
ลองดูรายะเอียดนี้แล้วลองสมัครดูนะคะ
www.nanmeebooks.com/reader/news_inside.php?newsid=1237


อ้อ อีกอย่างที่คุณบอกว่าคุณกลัวโดนด่านั้น
ดูจากพล๊อตเรื่องตามที่คุณเล่าแล้ว  ถ้าคุณจะเขียนจริงๆ คุณโดนด่าแน่นอนค่ะ
อันนี้รับรอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่