สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
Gen X และรุ่นก่อน Gen X อายุยืนขึ้น เพราะมีพิ้นฐานการออกกำลัง และได้รับอาหารค่อนข้างธรรมชาติและมีคุณภาพในวัยเด็ก รวมทั้งความเจริญทางการแพทย์ในปัจจุบันก็ช่วยให้อายุยืนขึ้น ส่วนใหญ่ทำงานอึดถึกอดทน ลุยได้จนแก่
แต่ Gen Y และ Gen Z ไม่ได้เป็นแบบนั้น คุณภาพอาหารมีสารเคมีไม่ธรรมชาติเจือปนอยู่มาก ในผักก็เต็มไปด้วยยาฆ่าแมลง โตมากับสิ่งเจือปนในอาหาร สารเร่ง สารทำสี สารกันบูด สารขัดขาวในข้าวและแป้งที่ใช้ทำอาหารและขนมต่างๆ ฯลฯ คนรุ่นใหม่ อายุย่าง 20-22 แก้มย้อยก้นหย่อน ต้นแขนต้นขาย้วยออกมา เซลลูไลท์ผิวส้มเดียรดาษ (ลองดูประกวดนางงามสมัยนี้ ทุกๆการประกวดจะมีหุ่นดีจริงๆไม่เกินสามคน ที่เหลือหุ่นห่วยขนาดแทบต้องเบือนหน้าหนี) เด็กรุ่นใหม่โตมากับโทรทัศน์ CD เกมส์ มือถือ น้อยคนจะทำสวนลงแรงขุดดิน ขนาดงานบ้านงานครัวยังไม่อยากจะช่วยพ่อแม่เลย(ส่วนใหญ่นะ ไม่ใช่ทุกคน) แต่ก็ยังมีข้อดีที่สิบปีมานี้มีกระแสการเข้าห้องยิมฟิตร่างกาย แต่ที่ทำสม่ำเสมอจริงๆก็เป็น % ที่น้อยมาก ตามร.พ. คุณจะเห็นอายุ 30 กว่าเริ่มมีทำบอลลูน บายพาส 40 กว่าขึ้นไปเนี่ย ผ่าตัดกันอย่างกับมีมหกรรม นิ่วในถุงน้ำดี กระดูกทับเส้น และอื่นๆอีกมากมาย ปัจจุบันการติด smart phone งอมแงมยิ่งถ่วงถล่มสุขภาพของคนยุคนี้ ให้มีอายุการใช้งาน(ที่มีประสิทธิภาพ)สั้นลงไปอีก
ดังนั้น ที่คุณจะให้ทำงานจนอายุ 70ขึ้นไป ไม่มีทางใช้ได้กับ Gen Y และ Gen Z
แต่ Gen Y และ Gen Z ไม่ได้เป็นแบบนั้น คุณภาพอาหารมีสารเคมีไม่ธรรมชาติเจือปนอยู่มาก ในผักก็เต็มไปด้วยยาฆ่าแมลง โตมากับสิ่งเจือปนในอาหาร สารเร่ง สารทำสี สารกันบูด สารขัดขาวในข้าวและแป้งที่ใช้ทำอาหารและขนมต่างๆ ฯลฯ คนรุ่นใหม่ อายุย่าง 20-22 แก้มย้อยก้นหย่อน ต้นแขนต้นขาย้วยออกมา เซลลูไลท์ผิวส้มเดียรดาษ (ลองดูประกวดนางงามสมัยนี้ ทุกๆการประกวดจะมีหุ่นดีจริงๆไม่เกินสามคน ที่เหลือหุ่นห่วยขนาดแทบต้องเบือนหน้าหนี) เด็กรุ่นใหม่โตมากับโทรทัศน์ CD เกมส์ มือถือ น้อยคนจะทำสวนลงแรงขุดดิน ขนาดงานบ้านงานครัวยังไม่อยากจะช่วยพ่อแม่เลย(ส่วนใหญ่นะ ไม่ใช่ทุกคน) แต่ก็ยังมีข้อดีที่สิบปีมานี้มีกระแสการเข้าห้องยิมฟิตร่างกาย แต่ที่ทำสม่ำเสมอจริงๆก็เป็น % ที่น้อยมาก ตามร.พ. คุณจะเห็นอายุ 30 กว่าเริ่มมีทำบอลลูน บายพาส 40 กว่าขึ้นไปเนี่ย ผ่าตัดกันอย่างกับมีมหกรรม นิ่วในถุงน้ำดี กระดูกทับเส้น และอื่นๆอีกมากมาย ปัจจุบันการติด smart phone งอมแงมยิ่งถ่วงถล่มสุขภาพของคนยุคนี้ ให้มีอายุการใช้งาน(ที่มีประสิทธิภาพ)สั้นลงไปอีก
ดังนั้น ที่คุณจะให้ทำงานจนอายุ 70ขึ้นไป ไม่มีทางใช้ได้กับ Gen Y และ Gen Z
แสดงความคิดเห็น
ผมว่าในอนาคต คนเราควรทำงานจนถึงอายุ 70 ครับ เพราะสังคมเราจะมีผู้สูงอายุมากขึ้น และมีญาติผู้ใหญ่ที่ต้องดูแล
ผมรู้สึกว่าคนสมัยนี้อายุยืนขึ้นมาก
ผมอาจจะเป็นคนโชคดีมาก ที่คุณตา คุณยายและย่าผม มีอายุถึง 94 และ 84 ตามลำดับ
แต่ตอนนี้ คุณอา คุณป้ารวมถึงคุณพ่อ คุณแม่ผมเริ่มเกษียณแล้วละ
ผมเริ่มเห็นอนาคตตัวเอง ที่ลำบากมากขึ้น เพราะนอกจากผมต้งดูแลพ่อแม่ตัวเองแล้ว
ผมยังมีภาระที่ต้องดูแล ญาติผู้ใหญ่ ซึ่งจากการประเมินของผม น่าจะมีอายุที่ยืนมากขึ้น
ผมรู้สึกเลยว่า คนรุ่นผม 25-40 ปี จะเกษียณเร็วไม่ได้เด็ดขาดครับ เพราะเป็นรุ่นที่ต้องดูแลคนรุ่นที่สูงขึ้นไปถึง 2 รุ่น
คือรุ่น พ่อแม่ อา ป้า และรุ่น ตา ยาย ย่า
อาจจะไม่ได้ดูแลทางตรงแค่เรื่องเงินครับ แต่รวมไปถึงการไปเยี่ยมเยือน การรักษาพยาบาล
ผมอยากบอกว่า ผมอดเป็นห่วงพี่น้องผม ที่รุ่นเดียวกันไม่ได้ครับ บางคนอายุ 30 กว่าแล้วยังไม่ทำงานเลยก็มี คือ เรียนต่อโท เอก แต่ก็ไม่ยอมที่จะจบสักที ยังต้องขอเงินที่บ้าน และดูเหมือนว่าจะขาดความกระตือรือร้นในเรื่องการทำงานและจิตสาธารณะต่อครอบครัวตัวเองครับ
ผมว่าคนรุ่นผม และคนรุ่นเด็กกว่าผม ต้องทำงานให้มากขึ้นและหนักขึ้นจริงๆ ครับ ไม่เช่นนั้น ครอบครัวคุณจะลำบาก ผมมามองดู ยิ่งคนที่ไม่มีเงิน หรือรายได้น้อย แต่มีผู้สุงอายุมาก ผมยังนึกภาพไม่ออกเลยว่าเขาจะดูแล พ่อแม่ ครอบครัวเขาอย่างไร
เพราะผู้สูงอายุสมัยนี้ อายุยืนมากครับ แต่จริงๆ ผมมองว่า บางคนที่อายุยืน ก็อยู่ได้ด้วยยา เช่น ตา ยาย ผมกินยารวมกันตกวันละ ครึ่งร้อยครับ ถ้าไม่สามารถเบิกราชการได้ คงแย่แน่ๆ ครับ และยังมีค่าใชจ่ายเรื่องคนดูแล และอื่นๆ อีก
นอกจากที่คนรุ่นผมต้องดูแลครอบครัวแล้ว เราเองยังต้องดูแลตัวเอง ผมรู้สึกเลยว่า ถ้าเราโดนให้ออกก่อน 50 คงเป็นเรื่องที่เครียดมาก เพราะคงหางานยากครับ และคงไม่มีชีวิตหลังเกษียณที่ดีแน่ๆ ครับ
อยากถามความเห็นของเพื่อนๆ ครับ มีมุมมองอย่างไร